ผู้เขียน หัวข้อ: มัทวะ  (อ่าน 2062 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ 時々होशདང一རພຊຍ๛

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1011
  • พลังกัลยาณมิตร 1119
  • แสงทองส่องฟ้าคือชีวิต
    • ดูรายละเอียด
มัทวะ
« เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2010, 10:30:32 am »



มัททวะเป็นไฉน คือ อ่อนโยน ความละมุนละไม ความไม่แข็ง ความไม่กระด้าง

ความเจียมใจ อันใด นี้เรียกว่า มัททวะ

บุคคลชื่อว่าเจียมใจเพราะอรรถว่ามีใจเจียมด้วยไม่มีมานะภาวะแห่งบุคคลผู้

เจียมใจชื่อว่าความเจียมใจ



เป็นชีวิตประจำวันที่ต้องอาศัยการสังเกตุจริง ๆ มิฉะนั้นก็ไม่สามารถที่รู้จัก

สภาพธรรมในขณะที่สภาพธรรมนั้น ๆ ปรากฏ

สำหรับการที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรมทุกคนก็คงจะทราบแน่ว่าไม่ใช่การอบรมเจริญ

ปัญญาเพียงชาติเดียว 2 ชาติ 3 ชาติและในแต่ละชาติก็สั้นมากการที่บุคคลใดเกิดมา

ในชาตินี้จะมีชื่อเสียงมีสกุลมีมิตรสหายมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นถ้าพิจารณาแล้ว

ก็จะเห็นได้ว่าขณะที่เป็นอกุศลมากกว่าขณะที่เป็นกุศลถ้าชาตินี้หมดไปคือ.............................

ผ่านไปซึ่งก็จะต้องหมดไปแน่นอนผ่านไปโดยไม่มีสี่งใดเหลือในความเป็นบุคคลนี้อีก

และเมื่อเกิดชาติหน้าสามารถจะระลึกได้อาจจะรู้สึกเสียดายว่า

ชาตินี้ทำกุศลน้อยไปหรือว่าเสียเวลากับสี่งที่ไม่มีสาระมากไป

แต่ขณะนี้ กำลังเป็นชาตินี้อยู่แต่ทั้ง ๆ รู้ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะกิเลส

หรือว่าหมดกิเลสได้

ถ้ากล่าวถึงกิเสที่มากมายที่สะสมมามากในอดีตอนันตชาติก็เป็นของที่แน่นอนค่ะ

ที่จะเห็นชัดว่าช่างละยากเพราะว่าสะสมมามากแต่ลองคิดถึงกิเลสเพียงขณะเดียว

ไม่ต้องคิดถึงกิเลสมาก ๆ ที่สะสมมที่จะดับเป็นสมุทเฉทขอให้เป็นเพียงกิเลส

ขณะหนึ่งขณะใดที่จะละในขณะนั้นละได้ไหมลองคิดดูนะคะกำลังสนุกละสิคะ

กิเลสในขณะนั้นเพียงขณะเดียวไม่ต้องคิดถึงถึงขณะที่สะสมมามากมายเพียงแต่

ละขณะ ๆ ที่่นึกจะละกิเลสในขณะที่มีกิเลสอยู่ยังละไม่ได้เพราะฉะนั้นตามความเป็น

จริงแล้วเมื่อกิเลสมีมากยี่งกว่าเพียงขณะเดียว ๆ การที่จะละกิเลสจึงเป็นเรื่องที่จะ

ต้องอบรมเจริญปัญญาอีกนานทีเดียว



ข้อธรรมคำสอนของอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มูลนิธิบ้านธรรมมะ บุคโล ธนบุรี

ธรรมะน่าคิดพิจารณาวันนี้

ผู้แสวงหาที่ไม่ฉลาดในธรรมย่อมไม่เห็นแจ้งนิพพานที่อยู่ในตัว - สนฺติเก น วิชานนฺติ มฺคคา

ธมฺมสฺส อโกวิทา(ปัคคัยหสูตร ๑๘/๑๔๒)


ธรรมะประจำวันที่ 23/07/2010

การพิจารณานามรูปที่หยาบและละเอียด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2022, 12:43:24 pm โดย 時々होशདང一རພຊຍ๛ »
ชิเน กทริยํ ทาเนน


ออฟไลน์ (〃ˆ ∇ ˆ〃)

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นไม้เล็กพริ้วไหวดั่งสายลม
  • *
  • กระทู้: 328
  • พลังกัลยาณมิตร 199
    • ดูรายละเอียด
Re: มัทวะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2010, 10:42:01 am »
อนุโมทนาสาธุค่ะ เพลงเย็นดีจัง

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: มัทวะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2010, 04:05:10 pm »
 :13: อนุโมทนาครับ
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: มัทวะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 04:19:39 am »

 :13: :19: :13:

         :43:

ออฟไลน์ rain....

  • ศรัทธาในสิ่งที่ค้นหา มั่นคงในสิ่งที่เป็น แบ่งปันในสิ่งที่ค้นพบ
  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 994
  • พลังกัลยาณมิตร 379
  • สุขลึกๆในความเหงา แม้จะโดดเดี่ยวแต่ไม่เคยเดียวดาย
    • ดูรายละเอียด
Re: มัทวะ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 24, 2010, 08:59:51 pm »
 :07:อนุโมทนา  วันทามิ

...........................................
"ข้าพเจ้า ขอถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่อุบัติขึ้นมาในโลก  ทุกๆพระองค์
พร้อมทั้งพระธรรม และ พระสงฆ์
ว่าเป็น  สรณะ  ที่พึ่งตลอดชีวิต"