ประชาสัมพันธ์ > ประชาสัมพันธ์ทางธรรม

ชมรมพระวังหน้า เพื่อพระวังหน้าและงานบุญต่างๆ

<< < (103/114) > >>

sithiphong:
สวัสดีปีใหม่
ไม่มีทุกข์ ไม่มีโศก
ไม่มีโรค ไม่มีภัย
เงินทองเหลือใช้ ร่างกายแข็งแรง
กันทุกท่าน ครับ
ด้วยรัก
Sithiphong
----------------------------------------------------------------
เพลงพระราชนิพนธ์ พรปีใหม่ - ธงไชย แมคอินไตย์ และ วิโอเลต วอเทียร์ Ost.พรจากฟ้า【Official MV】
https://www.youtube.com/watch?v=-ZoRz7bkd_Q
GDH
เผยแพร่เมื่อ 14 ธ.ค. 2016
----------------------------------------------------------------
เก่าไปใหม่มา - สุนทราภรณ์【Karaoke : คาราโอเกะ】
https://www.youtube.com/watch?v=QfU2lwmClwk
Metro Records
เผยแพร่เมื่อ 24 พ.ย. 2014
----------------------------------------------------------------
ส.ค.ส. - สุนทราภรณ์【Karaoke : คาราโอเกะ】
https://www.youtube.com/watch?v=tfjcV9RMTUI
Metro Records
เผยแพร่เมื่อ 24 พ.ย. 2014

sithiphong:
.
เนื่องในวันครูในปีนี้
.
ผมขอทำบุญด้วยการ บริจาคปัจจัยในการ #เจาะบ่อบาดาล ถวายให้แก่ #วัดบ่อเงินบ่อทอง เพื่อสงเคราะห์พระภิกษุ , สามเณร และ ญาติโยมทั้งหลายที่ได้ไปที่วัดบ่อเงินบ่อทอง  เพื่อประโยชน์กับพระพุทธศาสนา
.
และ ท่านกุ้ง ได้ร่วมทำบุญด้วยเช่นกัน
.
ขอโมทนาบุญกับท่านกุ้งด้วย  และ มาโมทนาบุญร่วมกัน ครับ
.
ผมนำโพสของวัดบ่อเงินบ่อทอง นำมาลงด้านล่างนี้  และหากท่านใดสนใจที่จะร่วมทำบุญ  ขอเชิญร่วมทำบุญได้ โดยโอนเงินเข้าบัญชีหลวงพ่อแผน ดังนี้
บัญชีเลขที่ 494-2-21276-4
ชื่อบัญชี พระขุนแผน เกิดทอง (เจ้าอาวาส)
บมจ.ธนาคารทหารไทย
.
.-------------------------------------
.
โพสโดย วัดบ่อเงิน บ่อทอง
.
16/1/64????????????ทำบุญด้วยน้ำ ชุ่มชื่น สุขกายสบายใจ ทุกทิวาราตรี (ได้เจ้าภาพไว้ แล้ว 524 กองบุญ)
.
วัดบ่อเงินบ่อทอง จ ฉะเชิงเทรา
.
????????ขอบอกบุญการบำเพ็ญบุญกุศล “บริจาคปัจจัยเจาะบ่อบาดาล”ถวายให้แก่วัด เพื่อสงเคราะห์พระภิกษุสามเณรตลอดถึงญาติโยม
.
????????ที่วัดเป็นโรงเรียนพระภิกษุ-สามเณรที่สงเคราะห์การศึกษา ต้องใช้น้ำบาดาลสูบขึ้นมาใช้ ????ใช้เป็นทั้งน้ำอาบ????และน้ำดื่ม เป็นเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ตลอดถึงญาติโยมที่อยู่ภายวัดและโยมที่มาบำเพ็ญบุญกุศล
.
????วันหนึ่งๆ ต้องใช้น้ำบาดาลที่สูบขึ้นมาเป็นหมื่นลิตรด้วยกัน
.
????????ปัจจุบันนี้บ่อบาดาลที่ใช้อยู่เป็นเวลา 10 กว่าปี มาแล้วเริ่มมีปัญหาเพราะเป็นบ่อเก่า (บ่อเก่านี้จะเอาไว้สำรอง)
.
????ทางวัดจึงมีความจำเป็น ต้องเจาะบ่อบาดาลขึ้นมาใช้ใหม่
.
????ต้องใช้งบประมาณ 120,000 บาท ทั้งค่าเจาะและเครื่องสูบน้ำ
.
????จึงขอบอกบุญมาถึงญาติโยมทั้งหลาย เพื่อร่วมบริจาคปัจจัยมากน้อยตามศรัทธา นะ จ๊ะ ????????
.
โดยตั้งเป็นกองบุญจำนวน 1,229 กองบุญๆ ละ 99 บาท เพื่อจัดสร้าง????????ได้เจ้าภาพไว้แล้ว 524 กองบุญ
.
????????????ท่านที่บริจาครับเป็นเจ้าภาพกองบุญ 10 กองขึ้นไป ทางวัดจะจารึกชื่อคุณโยมไว้เป็นอนุสรณ์ นะจ๊ะ
.
????????อานิสงส์แห่งการสร้างบ่อน้ำถวาย
.
ในพระสุตตันตปิฏก ท่านกล่าวไว้ว่า ในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี มีบุรุษท่านหนึ่งเกิดในตระกูลเศรษฐี เมื่อเขาเจริญวัยแล้ว ได้มีกุศลจิตได้ขุดบ่อน้ำแห่งหนึ่งแล้ว ได้มอบถวายบ่อน้ำนั้น แก่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี กับพระสงฆ์สาวกนั้น ????เมื่อเขาได้สิ้นชีวิตลงได้ท่องเทียวไปในเทวโลกบ้าง และมนุษยโลกบ้าง
.
ทุกๆที่ที่เขาเกิด จะมีสระโบกขรณีบ่อน้ำและน้ำดื่ม(แก่เขานั้น)
.
????และมาในสมัยพระพุทธเจ้าของเรานี้ เขาได้มาเกิดในตระกูล เมื่อเจริญวัยแล้วมีศรัทธาเลื่อมใส ????ได้ออกบวชในพระพุทธศาสนา ไม่นานก็ได้บรรจุมรรคผลเป็นพระอรหันต์ เพราะอานิสงส์แห่งการถวายบ่อน้ำนั้น
.
????????ขอเวลาบอกบุญเป็นเวลาสิ้นเดือนมกราคมนี้ นะจ๊ะ หรือถ้าได้งบตามจำนวนที่ใช้ก็จะปิดรับบริจาคก่อน จ๊ะ
.
????ขอผลานิสงส์ผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้คุณโยมทุกท่าน จงมีความร่มเย็นเป็นสุขสดชื่น เจริญด้วยพร สี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ห่างใกลจากโรคภัยไข้เจ็บ มีความร่ำรวยๆๆ ในชาติปัจจุบัน เป็นปัจจัยแห่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ เทอญ
.
บริจาคได้ที่ ธนาคารทหารไทย 494-2-21276-4 ชื่อบัญชี พระขุนแผน เกิดทอง (เจ้าอาวาส)
.
ที่มา เพจ. วัดบ่อเงิน บ่อทอง
.
.
.----------------------------.
.
.
#กรวดน้ำตามสไตล์Sithiphong
.
วันนี้ข้าพเจ้า (,สามีหรือภรรยา) และครอบครัว ได้ทำบุญการเจาะบ่อบาดาลที่วัดบ่อเงินบ่อทอง
ขออาราธนาพระบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ , คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกๆพระองค์ ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์  ,ทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ,องค์ผู้อธิษฐานจิตพระพิมพ์ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ทุกพระองค์ ,เทวดาผู้รักษา  , เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้า,พระกรุวัดพระแก้วและวัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่ ทุกท่าน , พระบารมีพระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ , พระบารมีกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท  ,พระบารมีกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระบารมีพระสยามเทวาธิราช ,พระยาพิชัยดาบหัก , เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา พระเพลิง พระพาย แม่พระโพสพ ,  แม่นางกวัก, พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน , พระพิรุณ , พยายมราช , นายนิริยบาลทุกๆท่าน , ยมทูตทุกๆท่าน , ท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำตั้งแต่มนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล และเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา ขอให้มาอนุโมทนาและเป็นพยานบุญในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ
.
ขออาราธนา  บิดา , มารดา , ผู้มีพระคุณ , ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ , ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า , เจ้ากรรมนายเวร , ปู่ , ย่า , ตา , ยาย , เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ , แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน,  พระภูมิ-เจ้าที่ ที่บ้านข้าพเจ้า , พระภูมิ-เจ้าที่ ที่บ้านคุณพ่อ-คุณแม่ข้าพเจ้า พระภูมิ-เจ้าที่ บ้านที่ข้าพเจ้าเคยอยู่ทุกๆที่ ,พระภูมิ-เจ้าที่ ที่ทำงานของข้าพเจ้าทุกๆแห่ง ขอให้มาอนุโมทนาในบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำในครั้งนี้ด้วยเทอญ
.
.
อิมินาปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้า, สามีหรือภรรยา และครอบครัว ได้ ได้ทำบุญการเจาะบ่อบาดาลที่วัดบ่อเงินบ่อทอง ขอน้อมถวายบุญกุศลแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งหมด ,พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ,พระมหาโพธิสัตว์และพระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์
.
ขอถวายบุญกุศลแด่บิดา มารดา ,องค์ผู้อธิษฐานจิตพระพิมพ์ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ทุกพระองค์ , เทวดาผู้รักษา  , เจ้าของและผู้สร้างพระพิมพ์หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร-พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าทุกท่าน-พระพิมพ์ของวังหน้า,พระกรุวัดพระแก้วและวัตถุมงคลหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทุกประเภทที่ข้าพเจ้ามีอยู่  ,ตัวข้าพเจ้าและทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน , ผู้มีพระคุณ , ญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ , ญาติสี่สกุลเจ็ดชั่วโคตรของข้าพเจ้า , เจ้ากรรมนายเวร , ปู่ , ย่า , ตา , ยาย , เทวดาประจำตัวข้าพเจ้า ,เทวดาประจำองค์พระพิมพ์ทุกองค์ ,พระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ ,กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท,กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ,พระสยามเทวาธิราช ,พระยาพิชัยดาบหัก
.
ขอถวายบุญกุศลแด่พระภูมิ-เจ้าที่ ที่บ้านข้าพเจ้า , พระภูมิ-เจ้าที่ ที่บ้านคุณพ่อ-คุณแม่ข้าพเจ้า พระภูมิ-เจ้าที่ บ้านที่ข้าพเจ้าเคยอยู่ทุกๆที่ ,พระภูมิ-เจ้าที่ ที่ทำงานของข้าพเจ้าทุกๆแห่ง ,แม่ย่านางรถของข้าพเจ้า,ผู้ที่เสียสละให้กับแผ่นดินไทยทุกท่าน , เจ้ากรุงพาลี , แม่พระธรณี , แม่พระคงคา , พระเพลิง , พระพาย , แม่พระโพสพ ,  แม่นางกวัก ,พระมหาฤาษีและพระฤาษีทุกๆตน , พระพิรุณ , พยายมราช , นายนิริยบาลทุกๆท่าน , ยมทูตทุกๆท่าน ,ท้าวจตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุด พรหมาเบื้องต่ำ   และเทพยดาทั้งหลายตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา 
.
ขออุทิศส่วนบุญกุศล ให้กับเพื่อนสนิทมิตรสหายทั้งหลาย  เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่  ตั้งแต่อเวจีขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาลอนันตะจักรวาล ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป
.
ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าน้อมถวาย  ,ถวายและอุทิศไปให้นี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบันและอนาคตเบื้องหน้าอันใกล้นี้ด้วยเทอญ ฯ
.
ข้าพเจ้าขอพระเมตตาองค์พระแม่ธรณี  ได้โปรดนำบุญที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายทุกๆพระองค์  ,น้อมถวายทุกๆองค์  ,ถวายบุญให้กับทุกๆท่าน และอุทิศบุญให้กับทุกๆท่าน  ไปถึงทุกๆพระองค์ , ทุกๆองค์ และทุกๆท่าน  ตามที่ข้าพเจ้าได้น้อมถวายทุกๆพระองค์  ,น้อมถวายทุกๆองค์  ,ถวายบุญให้กับทุกๆท่าน และอุทิศบุญให้กับทุกๆท่าน  ตามที่ข้าพเจ้าได้บอกไปในเบื้องต้นด้วยเทอญ
.
ข้าพเจ้าขอพระเมตตาองค์พระแม่ธรณี  ได้โปรดนำบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ ไปถวายพระแม่ธรณีทั่วโลก และ ขอพระเมตตาพระแม่ธรณีทั่วโลก ถวายบุญแก่องค์เทพเทวาทั่วโลก ด้วยเทอญ
.
ด้วยเดชะบุญแห่งข้าพเจ้าน้อมถวาย  ,ถวายและอุทิศนี้ไปให้ทุกๆพระองค์  ,ทุกๆองค์  ,ทุกๆท่านตามที่ข้าพเจ้าได้มีเจตนาในการน้อมถวายบุญแด่ทุกๆพระองค์ , ทุกๆองค์ และทุกๆท่านข้างต้นนี้ ข้าพเจ้าขออธิษฐานว่า ขอความคล่องตัวจงมีแก่ตัวข้าพเจ้า ความไม่มีโรคภัยไข้เจ็บจงอย่าเกิดกับตัวข้าพเจ้า ความไม่มีอื่นๆอย่าได้เกิดกับข้าพเจ้า จนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
.
พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจโยโหนตุ
.
.
.
.
.
หมายเหตุ ในข้อ ข้าพเจ้าขอพระเมตตาองค์พระแม่ธรณี  ได้โปรดนำบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ ไปถวายพระแม่ธรณีทั่วโลก และ ขอพระเมตตาพระแม่ธรณีทั่วโลก ถวายบุญแก่องค์เทพเทวาทั่วโลก ด้วยเทอญ    ให้เรามีเจตนาในการถวายบุญ แด่ พระแม่ธรณีทั่วโลก และ องค์เทพเทวาทั่วโลก ครับ
.

sithiphong:
.

ปาเจราจริยาโหนติ คุณุตตรานุสาสกา
ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพาคณาจารย์
ผู้กอรปประโยชน์ศึกษา
ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา
แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์
ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา
ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสาเร็จทุกประการ อายุยืนนาน
อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี
แก่ชาติและประเทศไทยเทอญฯ
ปัญญาวุฒิกเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหัง
.
ขอกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์ท่านเป็นครูผู้สอนธรรมะที่เป็นหลักการในการดำรงชีวิตและสอนหนทางในการดับทุกข์ที่ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
.
ขอกราบหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (คณะพระธรรมทูต คณะโสณะ-อุตระ) ที่พระองค์ท่านเป็นคณะพระธรรมทูตคณะแรกที่มายังสุวรรณภูมิ และได้มีเมตตานำหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแพร่ในสุวรรณภูมิ เป็นครูให้พระสงฆ์ , คนไทยและคนในสุวรรณภูมิได้รู้จักและปฏิบัติติตามหลักธรรมะ
.
ขอกราบสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี , หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ , พระสงฆ์กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ และ พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติติชอบทุกรูป ที่พระองค์ท่านได้นำหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนให้กับคนไทย และคนที่มีนับถือในศาสนาพุทธ
.
ขอกราบหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ที่มีพระเมตตามาให้โดยตลอด
.
ขอกราบพระอาจารย์ณริชธันร์ และ พระอาจารย์นิล ที่มีเมตตามาให้โดยตลอด
.
ขอกราบ คุณพ่อ คุณแม่ ที่เป็นครูคนแรกในชีวิต
.
ขอกราบครูบาอาจารย์ทุกท่าน ที่ได้อดทน  และมีเมตตาในการนำองค์ความรู้ให้กับลูกศิษย์  เพื่อลูกศิษย์ทั้งหลายจะได้นำความรู้ไปดำรงตนในทางที่ดี
.
ขอเพิ่มเติม  ขอขอบคุณในมิตรภาพของกัลยาณมิตรที่ดี  ที่ยังคงช่วยเหลือเกื้อกูลกันและร่วมในการทำบุญในวาระงานบุญต่างๆ ครับ
.
.
.******************************.
.
.
บทสวดไหว้ครู
.
(ผู้นาสวด)
ปาเจราจริยาโหนติ คุณุตตรานุสาสกา
.
สวดทานองสรภัญญะ
.
สวดพร้อมกัน
ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพาคณาจารย์
ผู้กอรปประโยชน์ศึกษา
ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา
แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์
ด้วยใจนิยมบูชา
ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา
ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
ศึกษาสาเร็จทุกประการ อายุยืนนาน
อยู่ในศีลธรรมอันดี
ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี
แก่ชาติและประเทศไทยเทอญฯ
.
(ผู้นาสวด) ปัญญาวุฒิกเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหัง
.
ความหมาย
.
ปาเจราจริยาโหนติ คุณุตตรานุสาสกา  แปลว่า ครูอาจารย์เป็นผู้ทรงคุณอันประเสริฐยิ่ง เป็นผู้พร่าสอนศิลปวิทยากร
.
ปัญญาวุฒิกเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหัง  แปลว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมเหล่านั้น ผู้ให้โอวาท ผู้ทาให้ปัญญาเจริญ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้ครู อาจารย์เหล่านั้น ด้วยความเคารพ
.
.
.
เพลงพระคุณที่สาม
ครูบาอาจารย์ ที่ท่านประทานความรู้มาให้
อบรมจิตใจ ให้รู้ผิดชอบ ชั่วดี
ก่อนจะนอนสวดมนต์อ้อนวอนทุกที
ขอกุศลบุญบารมีส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น
ครูมีบุญคุณจะต้องเทิดทูลเอาไว้เหนือเกล้า
ท่านสั่งสอนเรา อบรมให้เราไม่เว้น
ท่านอุทิศ ไม่คิดถึงความยากเย็น
สอนให้รู้จัดเจน เฝ้าแนะ เฝ้าเน้น มิได้อาพราง
* พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส
แต่ว่าใครหนอใคร เปรียบเปรยครูไว้ว่าเป็นเรือจ้าง
ถ้าหากจะคิด ยิ่งคิดยิ่งเห็นว่าผิดทาง
มีใครไหนบ้างแนะนาแนวทางอย่างครู
บุญเคยทามาตั้งแต่ปางใด เรายกให้ท่าน
ตั้งใจกราบกราน เคารพคุณท่าน กตัญญู
โรคและภัย อย่ามาแผ้วพานคุณครู
ขอกุศลผลบุญค้าชู ให้ครูมีสุขชั่วนิรันดร...
ร้องซ้า * ให้ครูมีสุขชั่วนิรันดร...
.
ที่มา sites.google
.
คำไหว้ครู-ปาเจราจริยาโหนติ
https://www.youtube.com/watch?v=s83ntWreSfs&feature=emb_logo
โพสโดย
TumNongSaNoa - ทำนองเสนาะ
26 ก.ย. 2011
.
ปาเจรา จะริยา โหนติ คุณุตะรา นุสาสะกา
ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์ ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา อบรมจริยา แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
ข้าขอเคารพอภิวันท์ ระลึกคุณอนันต์ ด้วยใจนิยมบูชา ขอเดชกตเวทิตา อีกวิริยะพา ปัญญาให้เกิดแตกฉาน ศึกษาสำเร็จทุกประการ อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ชาติและประเทศไทยเทอญ ปัญญาวุฒิ กะเรเตเต ทินโนวาเท นะมามิหัง
.
ที่มา เรื่องของคน ๕ แผ่นดิน ท่านผู้หญิงดุษฏี มาลากุล
.
.
.
ปาเจรา จริยาโหนติ l บทไหว้ครู Sub ENG l คำกล่าวไหว้ครู l คาราโอเกะ ข้าขอประณตน้อมสักการ บูรพคณาจารย์
https://www.youtube.com/watch?v=ddu7nMYSwZQ
โพสโดย
รู้ชีวิต กําหนดชีวิต
9 ส.ค. 2018
.
ที่มาของคลิป
mv คาราโอเกะ เพลงรางวัลของครู
https://www.youtube.com/watch?v=lgjBJ5gkAS4
บุญวิชญ์ สัมนา
เผยแพร่เมื่อ 4 ก.ค. 2013
.
เพลงพระคุณที่สาม แด่คุณครูทุกๆท่าน
https://www.youtube.com/watch?v=7Izwbh2fLn4
ROONG168
เผยแพร่เมื่อ 15 ม.ค. 2015
เพลงพระคุณที่สามนี้ เป็นผลงานการประพันธ์คำร้อง ทำนอง โดย "ครูสุเทพ โชคสกุล"
ซึ่งเป็นท่านเดียวกับที่ได้เคยฝากผลงานไว้กับเพลง แม่พิมพ์ของชาติ
.
ครูในดวงใจ - อรวี สัจจานนท์【UNOFFICIAL Lyrics Version】
https://www.youtube.com/watch?v=HIp2lj4ROOI
SPCH Channel
เผยแพร่เมื่อ 11 มิ.ย. 2016
.

sithiphong:
.
หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
โลกุตตะโร ปัญจะมหาเถโร อะหังวันทามิ ตังสะทา
เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ
.
.
.
มีใครหลายๆคนที่รู้จักหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร (หลวงปู่เทพโลกอุดร) เป็นอย่างดี
แต่มีอีกหลายๆคนที่ไม่เคยรู้จักหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
ผมขอมาเล่าให้ฟังโดยย่อ จากประสบการณ์ตรงที่ได้รับมา
.
สมัยก่อนผมเองเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ  ชอบถึงขนาดที่ต้องพกกล้องถ่ายรูป (กล้องใหญ่ที่ใช้ฟิล์ม) มาที่ทำงานทุกวัน  และในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ที่ออกไปที่ไหนก็ตาม ก็พกกล้องไปด้วยเสมอ
.
เมื่อประมาณปี 2538  ตอนนั้นผมทำงานในสถานที่แห่งหนึ่ง  มีอยู่วันหนึ่งที่รุ่นพี่ได้รับรูปพระสงฆ์จากลูกค้า  โดยลูกค้าท่านนั้นแจ้งว่า รูปนี้คือ รูปหลวงปู่เทพโลกอุดร
.
วันนั้น  ผมจึงได้ขอถ่ายรูป จากรูปที่พี่ท่านนั้นได้รับมา
ตอนที่ผมนำรูปขึ้นไปบนดาดฟ้า  ปรากฎว่า ฟ้าครึ้มมาก  (ตอนอยู่ในสำนักงาน ผมเองไม่ได้ดูท้องฟ้าว่า ฝนกำลังจะตกลงมา
ผมนำรูปขึ้นไปยังดาดฟ้า เพื่อที่จะถ่ายรูป โดยใช้แสงแดดช่วยในการถ่ายรูปให้ชัด แต่เมื่อขึ้นไปแล้ว ฟ้าครึ้มมาก ไม่สามารถถ่ายรูปได้เลย  ผมจึงยกมือขึ้นพนม แล้วอธิษฐานว่า หากหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรมีจริง ขอให้ฟ้าเปิด เพื่อผมจะขอถ่ายรูปหลวงปู่ฯไว้บูชา
.
หลังจากที่อธิษฐานจบ  ปรากฎว่า ฟ้าเปิด เมฆแหวกในบริเวณที่ดวงอาทิตย์อยู่  เมื่อผมเห็นดังนั้น ผมจึงได้รีบดำเนินการถ่ายรูป (ถ่ายไว้หลายรูป) จนเสร็จเรียบร้อย เมื่อผมแกะรูปออกจากผนัง  เมฆได้ขยายตัวปิดดวงอาทิตย์ทันที และเมื่อผมเก็บรูปและเดินเข้าไปในอาคาร  ฝนก็ได้ตกลงมาอย่างนัก
.
หลังจากวันนั้น ผมได้ตามหาข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร  ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเล่มไหนๆ ผมหาซื้อมาอ่านจนหมด และมีความพยายามค้นหาว่า ผมสามารถไปกราบหลวงปู่ฯได้ที่ไหนบ้าง แต่ก็ยังหาข้อมูลที่คิดว่า "ใช่" ไม่ได้เลย
.
ต่อมาเมื่อปี 2548  น้องชายผม ได้ชวนผมไปหา ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร โดยบอกผมว่า ท่านอาจารย์ประถม ท่านเก่งในเรื่องของพระกรุวัดพระแก้ว ผมจึงตอบตกลง และไปหาท่านอาจารย์ประถมฯ  เมื่อไปพบท่านอาจารย์ประถมฯแล้ว ผมจึงได้ขออนุญาตท่านว่า ผมจะกลับมาหาท่านใหม่
.
ต่อมาผมก็ได้ไปหาท่านอาจารย์ประถมฯ อีก ท่านจึงได้ให้หนังสือประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร มาให้ท่าน และผมจึงได้เริ่มศึกษาในเรื่องประวัติของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ เรื่องพระวังหน้า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และเรียนรู้พระวังหน้า (ในช่วงแรกๆ ท่านได้นำพระวังหน้าของท่านมาให้ผมได้เห็น ได้ศึกษา ต่อมาผมจึงได้ไปหาพระวังหน้า แล้วนำมาให้ท่านช่วยสอนให้ ส่วนสถานที่ที่ผมไปหาพระวังหน้าที่ผมได้มาจากใคร ผมขอปิดไว้เป็นความลับ )
.
เมื่อผมได้พบกับท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร  ผมจึงได้เรียนรู้ในเรื่องที่ถูกต้อง เรื่องประวัติหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ พระวังหน้า  ส่วนข้อมูลอื่นที่เคยได้อ่านมาจากในหนังสือที่เคยได้ซื้อมาก่อนหน้า(ที่จะได้พบกับอาจารย์ประถมฯ) ผมก็ไม่ได้นำมาใช้ในการเผยแพร่ประวัติของหลวงปู่ฯและพระวังหน้า อีกเลย
.
ต่อมาเมื่อประมาณเดือน มกราคม 2550 ผมเองได้รับการยืนยันในเรื่องที่เกี่ยวกับการสร้างพระวังหน้า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ อัศจรรย์ และ มหัศจรรย์ สำหรับตัวผมเอง  โดยท่านผู้ให้สร้างก็คือ กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ท่านมาหาผม ณ สถานที่แห่งหนึ่ง  ท่านมาในรูปของ พระภิกษุ  ท่านมายืนยันในเจตนาที่ท่านให้สร้างพระวังหน้าขึ้น (เรื่องนี้ผมเคยเล่าไปแล้ว)
.
ความรู้เดิมที่ผมเคยได้รับทราบมา เวลาที่กราบไหว้หลวงปู่ฯ จะใช้คำไหว้ ดังนี้
โลกุตตะโร จะมหาเถโร อะหังวันทามิ ตังสะทา
เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ
.
แต่ท่านอาจารย์ประถมฯ ท่านบอกผมว่า หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ท่านไม่ได้มาองค์เดียว แต่ท่านมาเป็นคณะ นั่นก็คือ คณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตระ ที่เป็นคณะพระธรรมทูตที่มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิเป็นคณะแรก และแกนหลักของคณะโสณะอุตระ มีพระภิกษูสงฆ์ 5 รูป  ดังนั้น เวลาที่กราบไหว้หลวงปู่ฯ  ให้กราบหลวงปู่ฯที่เป็นแกนหลักทั้ง 5 รูป จะดีที่สุด
.
พระเจ้าอโศกมหาราช  ได้ทรงกระทำตติยสังคายนาพระไตรปิฎก แล้วอาราธนาพระมหาโมคคัลลีปุตตติสสเถระเป็นประธานคัดเลือกพระธรรมทูต และได้เลือกพระโสณะ พระอุตระ พระมูนิยะ พระฌาณิยะ พระภูริยะ อีกทั้งพรามณ์ , อุบาสก และอุบาสิกา รวม 38 คน เป็นคณะพระธรรมทูตมายังสุวรรณภูมิประเทศ
.
ผมจึงใช้คำไหว้หลวงปู่ ตามคำไหว้ ดังนี้
โลกุตตะโร ปัญจะมหาเถโร อะหังวันทามิ ตังสะทา
เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธ
.
หลังจากที่ผมได้พบกับท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ที่ผมเคารพท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ และ เป็นครูบาอาจาย์ ผมการันตีได้ว่า ท่านเป็นผู้ที่รู้เรื่องประวัติที่ถูกต้องของ หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ ท่านเป็นผู้ที่รู้เรื่องพระวังหน้ามากที่สุด ที่ผมการันตีได้ว่า ท่านเป็นผู้รู้อันดับ 1 ของโลกในปัจจุบันนี้ และท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว)  ทำให้ผมได้พบกับ บุคคลที่ผมนับถือเป็นครูบาอาจาย์ ที่ผมสามารถการันตีได้ว่า ท่านเป็นผู้รู้อันดับ 2 ของโลกในปัจจุบัน (ปัจจุบันท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่ขอไม่เปิดเผยชื่อ)
.
ผมได้พบกับ พระภิกษุ 2 รูป ที่ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
รูปแรก คือ พระอาจารย์ณริชธันร์ ศรีอิทธิมนต์ (ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดป่าภัทรปิยาราม ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี)  ตอนที่ผมรู้จักท่านครั้งแรก ท่านเป็นฆราวาส  แต่ต่อมาท่านได้บวชเป็นพระภิกษุ  ผมเองได้ติดตามและร่วมทำบุญในวาระงานบุญต่างๆของท่านอยู่เสมอ อีกทั้งถ้ามีโอกาส ผมเดินทางไปกราบท่านอยู่บ่อยครั้ง
.
รูปที่สอง คือ พระอาจารย์ธวัชชัย ชาครธมฺโม (หลวงพี่นิล) (ปัจจุบันท่านอยู่ที่ อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ต.พังขว้าง อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร  ตอนที่ผมรู้จักท่านครั้งแรก  ท่านไปหาผมที่บ้านท่านอาจารย์ประถมฯ  ท่านไป 2 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้เจอกับผม เนื่องจากวันที่ท่านไป  ผมไม่ได้ไปหาท่านอาจารย์ประถมฯ  แต่ท่านได้อธิษฐานขอให้ได้พบกับผม  ในครั้งที่ 3 ผมได้พบกับหลวงพี่นิล ที่บ้านท่านอาจารย์ประถมฯ  ท่านบอกว่า ให้ผมไปช่วยบอกบุญในวาระการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ  ผมจึงได้ไปช่วยท่านบอกบุญ และร่วมทำบุญ จนกระทั่งการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งจนเสร็จ
.
แต่ในระหว่างที่บอกบุญการสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง  ได้มีงานบุญอื่นๆ ที่ผมได้ช่วยท่านบอกบุญ  เช่น งานกฐินตกค้างพระราชทาน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ งานกฐินพระราชทาน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ที่เป็นงานบุญที่ใหญ่มาก โดยงานครั้งแรกเริ่มในปี 2553  จนถึงปี 2559  (และโอกาสที่ไม่สามารถหาได้อีกแล้วในชีวิต คือ ปี 2557 , 2558 และ 2559 ผมได้มีโอกาสถือผ้าไตรพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (หรือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช) ) เป็นต้น
.
ต่อมาเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2558 ผมได้ไปช่วยหลวงพี่นิล ในการสร้างอาศรมศรีชัยรัตนโคตร  ที่ปัจจุบัน ผมยังคงช่วยบอกบุญและร่วมทำบุญในวาระงานบุญต่างๆของอาศรมศรีชัยรัตนโคตร
.
อีกเรื่องที่สำคัญก็คือ  ผมได้พบกับ กัลยาณมิตรที่ดี ที่ร่วมทำบุญกันในหลายๆงานบุญ  ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอดมา และ ได้ร่วมกันเผยแพร่ประวัติที่ถูกต้องของหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ พระวังหน้า
.
ผมและกัลยาณมิตร  ได้ร่วมกันตั้งชมรมพระวังหน้าขึ้น เพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องราวที่ถูกต้องของพระวังหน้า โดยตั้งชมรมพระวังหน้าขึ้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2553
.
sithiphong
Noom Wangna
20 กุมภาพันธ์ 2564
.
#พระอุตระเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ดำ
.
#พระโสณะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ตีนโต
.
#พระมูนียะเถระเจ้า  หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เทพโลกอุดร  หรืออีกชื่อ #บรมครูมูนียะโลกอุดร หรืออีกชื่อ #หลวงปู่อิเกสาโร  หรืออีกชื่อ #หลวงปู่เดินหน  หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ในดง  หรืออีกชื่อ #หลวงปู่โพรงโพธิ์
.
#พระฌาณียะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อกบวัดเขาสาริกา #วัดเขาสาริกา ลพบุรี
.
#พระภูริยะเถระเจ้า หรืออีกชื่อ #หลวงปู่หน้าปาน หรืออีกชื่อ #หลวงพ่อโอภาสี #วัดโอภาสี กรุงเทพ
.
#หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร
.
#หลวงปู่เทพโลกอุดร
.
#คณะพระธรรมทูตคณะโสณะอุตระ
.
#หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ
.
#อาจารย์ประถมอาจสาคร
.
#ชมรมพระวังหน้า
.
#พระวังหน้า
.
ที่มาของรูป
รูปคณะพระธรรมทูต คณะโสณะอุตระ ผู้วาดคือ คุณสุกิจ เยี่ยงอร่ามกุล
รูป(วาด)หลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ผู้วาดไม่ทราบชื่อ เป็นลูกศิษย์ท่านหนึ่งของพันเอกชม สุคันธรัตน์
ขอขอบพระคุณท่านผู้วาดทั้งสองท่าน
.

sithiphong:
ควันหลงจากทริปงานบุญ 3 วัด ในวันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2564
.
ทริปงานบุญนี้ ผมได้นำคำถามที่ได้จัดเตรียมไว้ก่อนหน้า  ที่นำไปขอความรู้ในทางธรรมะ  กับ พระสงฆ์ 
ที่แต่เดิม  ผมใช้การตั้งคำถามที่นั้นเลย 
ผมจะเขียนมาเฉพาะที่ผมลงแล้วจะได้ประโยชน์กับท่านผู้อ่านเป็นสำคัญ
.
การสนทนาธรรมะกับพระอาจารย์ชนินทร์ วัดป่าถ้ำเสือ (จ.ลพบุรี)
.
เรื่องแรก การที่คนเราเกิดมาในภพชาตินี้แล้วได้มาพบกัน  เป็นเรื่องที่เราได้เคยพบกันมาก่อนในอดีตชาติ  สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ในเรื่อง อภิณหปัจจเวกขณ์ คนเรามีกรรมเป็นแดนเกิด , มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ , มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมใดไว้ต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น 
.
หมายเหตุ อภิณหปัจจเวกขณ์  อธิบายเพิ่มเติม (เพิ่มจากในส่วนที่พระอาจารย์ชนินทร์ท่านให้ธรรมะมา)
ชราธัมโมมหิ  ชะรัง อะนะติโต เรามีความแก่เป็นธรรมดา  จะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้
พะยาธิธัมโมมหิ  พะยาธิง  อะนะตีโต เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา  จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้
มะระณะธัมโมมหิ  มะระณัง  อะนะตีโต เรามีความตายเป็นธรรมดา  จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้
สัพเพหิ  เม  ปิเยหิ  มะนาเปหิ  นานาภาโว  วินาภาโว เราจักพลัดพรากจากของที่รัก ของชอบใจทั้งหลาย
กัมมัสสะโกมหิ  กัมมะทายาโท เรามีกรรมเป็นของๆตน  เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
กัมมะโยนิ   กัมมะพันธุ เรามีกรรมเป็นแดนเกิด  เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธ์
กัมมะปะฏิสะระโน   ยัง กัมมัง กะริสสามิ เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย  เราทำกรรมอันใดไว้
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา เป็นกรรมดีก็ตาม  เป็นกรรมชั่วก็ตาม
ตัสสะ  ทายาโท  ภะวิสสามิ เราจักต้องเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น
เอวัง  อัมเหหิ  อะภิณหัง  ปัจจะเวกขิตัพพัง เราทั้งหลายพึงพิจารณาเนืองๆอย่างนี้แล.
จบอธิบายเพิ่มเติมในส่วน อภิณหปัจจเวกขณ์ (เพิ่มจากในส่วนที่พระอาจารย์ชนินทร์ท่านให้ธรรมะมา)
.
ในการรู้จักกับบุคคลใดก็ตาม หากยิ่งมีคุณธรรมมากเท่าไหร่  แสดงว่า เรายิ่งมีความผูกพันธ์กับบุคคลนั้นมาก และ ต้องรู้จักกันในอดีตชาติ  ยกตัวอย่าง  เช่น ผู้ชาย กับ ผู้หญิง ที่แต่ละคนอยู่กันคนละสถานที่ ได้มาพบกัน  มาแต่งงานกัน  นั่นคือ ทั้งสองคน ต้องมีความผูกพันธ์กันมาในอดีตชาติ จึงส่งผลมาให้ได้พบกัน  เมื่อแต่งงานแล้ว มีลูก  หากมีลูกหลายๆคน   ลูกแต่ละคนก็มีนิสัยไม่เหมือนกัน  ทั้งๆที่มีพ่อแม่คนเดียวกัน  แต่เนื่องจากมนุษย์มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์  จึงต้องมาเจอกัน มาเป็นพ่อแม่พี่น้อง  ส่วนนิสัยของแต่ละคน  เป็นเรื่องของความละเอียดปราณีตในกรรมของแต่ละคนที่สร้างมาไม่เท่ากัน จึงส่งผลให้การประพฤติของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลูกบางคนช่วยพ่อแม่ตนเองอย่างเต็มที่ ลูกบางคนมาล้างผลาญพ่อแม่  การกระทำเหล่านี้ เกิดจากกรรมของแต่ละคน
.
เรื่องที่สอง  คนที่ไปด่าพ่อแม่ของคนอื่น
คนในปัจจุบันนี้ มีการผิดในเรื่องของวาจากันมาก  เหตุที่เกิดมา  มาจากจิต(ความคิด)ของตนเอง เปลี่ยนมาเป็นพฤติกรรม  จากพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆจนเป็นอุปนิสัย  จากอุปนิสัยที่ทำซ้ำๆจนเป็นสันดาน  ทุกอย่างเกิดจากความคิดทั้งนั้น 
คนที่ไปด่าพ่อแม่ของคนอื่น ในขณะที่กระทำ  กระทำด้วยจิตที่เศร้าหมอง  ตนเองก็ร้อน(อยู่ในใจ)  และคนที่กระทำเป็นคนที่จิตไม่บริสุทธิ์  อีกทั้งเป็นการกระทำพร้อมด้วย กาย วาจา ใจ  ครบองค์ประกอบในการกระทำกรรมที่จะส่งผลบริบูรณ์ในภายภาคหน้า
ส่วนคนที่ถูกด่าพ่อมแม่แล้วไม่ด่ากลับไป  เป็นคนที่มีสติมากกว่า
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า คนที่ด่าเราแล้วเราด่ากลับ เราเลวกว่าคนที่ด่าเราอีก
.
อธิบายเพิ่มเติม (เพิ่มจากในส่วนที่พระอาจารย์ชนินทร์ท่านให้ธรรมะมา)
ถ้ามีคนด่าเรา แล้วเราไม่รับคำด่า แล้วจะให้ผลเช่นไร?
ในสมัยพุทธกาลมีพราหมณ์ผู้หนึ่งที่แค้นเคืองพระพุทธองค์ เมื่อพบหน้าก็ตรงเข้าด่าทอ
พระองค์ทันที เมื่อพราหมณ์พูดจบ พระองค์ตรัสว่า
“พราหมณ์เอ๋ย ท่านมีผองเพื่อน หรือญาติมิตรหรือไม่”
“มีซิ เราไม่ใช่คนไร้ญาติขาดมิตร”พราหมณ์ตอบ
พระพุทธองค์ “แล้วท่านให้อะไรต้อนรับผู้มาเยือน”
“ก็เอานำดื่มและของกินต้องนรับ” พราหมณ์ตอบ
พระพุทธองค์ “ถ้าแขกของท่านไม่ทาน ของเหล่านั้นจะตกเป็นของใคร”
“ก็เรานะซิ” พราหมณ์ตอบ
พระพุทธองค์”เฉกเช่นเดียวกัน ท่านด่าทอเรา เราไม่รับคำด่าท่าน คำ
พูดนั้นย่อมตกเป็นของท่านเอง”
พราหมณ์สำนึกผิดว่าตนด่าผู้ไม่สมควรด่าจึงได้รับพระรัตนตรัยและทูลขอ
บวชในพระพุทธศาสนาในที่สุด
ผู้โกรธตอบคนด่า…นับว่าแย่ยิ่งกว่าคนด่าเสียอีก
ผู้ไม่โต้ตอบคนด่า…นับว่าชนะสงครามที่ชนะยากที่สุด
เพราะฉะนั้นเมื่อเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ จึงต้องรู้จักคำว่า”ให้อภัย”คิดเสีย
ว่าเขายังไม่เข้าใจและลืมไปเสีย หากเราทำเช่นนี้ได้โดยไม่ติดขัดใด ๆ
ในใจอย่างสิ้นเชิง แม้จะเจอคนที่ด่าเราก็ไม่มีความคิดโกรธแค้นใดๆผุด
ขึ้นมา เช่นนี้ จึงว่าเป็น”บุคคลผู้สูงค่าและน่าถือยิ่งนัก”
ที่มา dhamma.serichon.us
จบคำอธิบายเพิ่มเติม (เพิ่มจากในส่วนที่พระอาจารย์ชนินทร์ท่านให้ธรรมะมา)
.
การกระทำของบุคคลที่ทำนั้น จิตของผู้กระทำเก็บข้อมูลที่กระทำไว้ทั้งหมด  (เหมือนกับการบันทึกเทป)  เช่น สมัยเด็ก อาจจะเคยขโมยเงินพ่อแม่มา  พอผ่านมาหลายปี ทั้งๆที่เราเองได้ลืมไปแล้ว  แต่อยู่ดีๆก็ผุดเรื่องนั้นขึ้นมา (ทำไมไม่ลืม) เพราะจิตใต้สำนึกเก็บข้อมูลไว้หมด
เวลาก่อนตาย  หากยังไม่เป็นพระอรหันต์  จิตใต้สำนึกที่เคยบันทึกการกระทำไว้  ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว  จิตใต้สำนึกนั้นเป็นผู้ที่พาคนที่ตาย  ไปในภพภูมิตามที่ตนกระทำไว้เสมอ
.
ส่วนจิตของคนที่ยังไม่ได้ตาย  ในแต่ละช่วงขณะ  ถึงแม้ว่ายังไม่ตาย สามารถเป็นได้ทุกอย่างตามในแต่ละวัน อยู่ที่การกระทำของตนเอง
เป็นสัตว์เดรัชฉานก็ได้ เช่น พ่อข่มขืนลูก , อาจารย์ข่มขืนลูกศิษย์  เหมือนกับหมา  เมื่อหมาคลอดลูกออกมาแล้ว เลี้ยงลูกจนโต  เมื่อลูกมันโตแล้ว มันก็กลับไปผสมพันธ์กับพ่อหรือแม่ของมัน 
เป็นเปรต หรือ อสูรกายก็ได้  เช่น การมีความโลภอย่างไม่สิ้นสุด
เป็นมนุษย์ก็ได้ จิตของมนุษย์สูงกว่าจิตของสัตว์เดรัชฉาน รู้ผิดชอบชั่วดี
เป็นเทวดาก็ได้  เพราะเทวดามีหิริโอตัปปะเป็นคุณธรรมประจำตัว (หิริ คือ ความละอายแก่ใจในการทำบาป ส่วน โอตัปปะ หรือ ความเกรงกลัวต่อบาป)
เป็นพรหมก็ได้  เพราะ พรหมมีพรหมวิหาร 4 เป็นคุณธรรมประจำตัว (พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหมหรือของท่านผู้เป็นใหญ่  มี 4 ข้อคือ 1. เมตตา หมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข 2.กรุณา หมายถึง ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ 3.มุทิตา หมายถึง ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี และ 4.อุเบกขา หมายถึง การรู้จักวางเฉย
.
บุคคลเลือกว่าจะเป็นอะไรก็ตาม (ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เดรัชฉาน , เปรต , อสูรกาย , มนุษย์(คน) , เทวดา หรือพรหม)  จิตใต้สำนึกเป็นผู้ที่บันทึกข้อมูลที่กระทำไว้ทั้งหมด  ถ้าบุคคลใดที่มีความเข้าใจ ก็สามารถที่จะเตือนตนเอง ว่า อย่าเผลอให้ความไม่ดีเข้ามาในใจ  แต่อย่างไรก็ตาม  บุคคลปกติที่ไม่มีสติ และ สัมปชัญญะ  ในบางวันจิตก็แพ้ความไม่ดีได้
เมื่อจิตของเรามี สติ(ความระลึกได้ ความนึกขึ้นได้ ความไม่เผลอ ฉุกคิดขึ้นได้ การคุมจิตไว้ในกิจ) และ สัมปชัญญะ(ความระลึกรู้ตัวอยู่เสมอ, ความไม่เผลอตัว) มากพอ  ตัวเราเองสามารถชนะกิเลสได้  แต่เมื่อใดที่จิตของเราอ่อนแอ  เราแพ้กิเลสได้เช่นกัน 
ดังนั้น เราต้องระมัดระวังจิตของตนเอง  ให้จะทำอะไรก็ช่างเขา  แต่เราปฎิบัติตัวเราให้ดีขึ้น
.
เรื่องที่สาม เรื่องของการพิจารณาการขึ้นเงินเดือนและการจ่ายโบนัส ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงานราชการ , รัฐวิสาหกิจ และ บริษัทห้างร้านต่างๆ
.
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนในเรื่อง อคติ 4 (อธิบายไว้ด้านล่างของเรื่องนี้)  คนที่มีกิเลส และ ความไม่ยุติธรรม เป็นคนที่มีอคติ 4 เป็นพื้นฐาน
ผลที่ได้รับคือ คุณธรรมของตนเองไม่สูง วาสนาไม่เจริญก้าวหน้า จะเป็นอยู่ในลักษณะนี้ และเป็นมาหลายๆภพชาติแล้ว  อีกทั้งปัญญาน้อย และ มีคุณธรรมน้อย
ถ้าคนที่มีสติปัญญามาก มีคุณธรรมมาก เป็นคนที่วางจิตให้เป็นกลางได้ดี ตามงานที่เกิดขึ้นจริง โดยเป็นไปตามหลักธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
.
ส่วนผลที่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับผลจากการพิจารณาในการขึ้นเงินเดือนและการจ่ายโบนัสที่ไม่เป็นธรรม  คือ มีความน้อยใจ , ความโกรธ และ ประชด  ในเรื่องของการน้อยใจ หรือ โกรธ สามารถเกิดได้กับทุกคน แต่อย่าให้ถึงกับการประชด (อย่าขาดสติ) เพราะการประชดนั้น บางครั้งอาจจะถึงกับการฆ่าตัวตาย หรือ ไปฆ่าบุคคลที่เกี่ยวข้องได้  ในเรื่องนี้จำเป็นมากสำหรับ การมีสติและสัมปชัญญะให้มาก
.
อีกเรื่องก็คือ คนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา หรือ ผู้ใต้บังคับบัญชา  ผลของการกระทำทุกอย่าง จิตเก็บบันทึกข้อมูลไว้ทั้งหมด และ จิตเป็นผู้ที่นำพาตนเองไปตามวิบากกรรมที่ได้กระทำไว้นั่นเอง
ในเรื่องของการกระทำของบุคคล  มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
1.เคยกระทำกรรมต่อกันมาในอดีต
2.มากระทำกรรมใหม่ในปัจจุบัน
.
หมายเหตุ อคติ 4   อธิบายเพิ่มเติม (เพิ่มจากในส่วนที่พระอาจารย์ชนินทร์ท่านให้ธรรมะมา)
อคติ 4 ประการ และแนวทางการละอคติ
อคติ 4 หมายถึง วิถีในทางที่ผิดหรือการดำเนินไปในทางที่ผิด ทั้งนี้ อันเกิดจากทัศนะหรือความคิดเห็นในทางที่ผิด ซึ่งต่อมาจึงใช้คำให้เข้าใจง่ายเป็น ความลำเอียง หรือ ความไม่เที่ยงธรรม ประกอบด้วย 4 ประการ คือ
1. ฉันทาคติ คือ ความลำเอียงเพราะชอบพอ
2. โทสาคติ คือ ความลำเอียงเพราะโกรธหรือชิงชัง
3. โมหาคติ คือ ความลำเอียงเพราะหลง หรือ ความลำเอียงเพราะความเขลา
4. ภยาคติ คือ ความลำเอียงเพราะกลัว
อคติ 4 เป็นธรรมสำหรับปุถุชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่เป็นผู้นำ เป็นหัวหน้า ผู้ที่ทำหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเป็นข้าราชการ เพราะธรรมเหล่านี้ เป็นสัจจะความจริงที่มักเกิดขึ้นกับบุคคลเหล่านี้ และมีผลอย่างมากต่อการบริหารงาน ต่อการปกครอง และความสงบสุขของสังคม
ผู้นำ หัวหน้างานหรือฝ่ายปกครองที่ละเว้นจากอคติ 4 ประการนี้ได้ ย่อมทำให้ลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชาหรือประชาชนเกิดความสุข อันส่งผลต่อความเจริญของสังคม และความสงบสุขของสังคมตามมา
อคติ มาจากภาษาบาลี คำว่า
อะ หมายถึง ผิด, ไม่, ไม่ถูกต้อง, ไม่ดีงาม, ไม่สมควร
คติ หมายถึง วิถี, แนวทาง, สิ่งที่เป็นไป, การดำเนินไป, ความเป็นไป, การตอบสนอง, การแสดงออก
คติ มีความแตกต่างกับ ทัศนะ คือ
ทัศนะ หมายถึง ความเห็น, ความคิดเห็น, มุมมอง ส่วน คติ หมายถึง ดังข้างต้น ดังนั้น ทัศนคติ จึงหมายถึง การแสดงออก หรือ วิถีที่ดำเนินไปอันเกิดจากความคิดหรือความเห็น
ความหมายที่ครอบคลุมของอคติ
– วิถีในทางที่ผิด
– แนวทางที่ผิด
– สิ่งที่เป็นไปในทางที่ไม่ดีงาม
– การดำเนินไปในทางที่ผิด
– ความลำเอียง
– ความไม่เที่ยงธรรม
– ความไม่เป็นกลาง
ความหมายของอคติแต่ละประการ
1. ฉันทาคติ คือ ความลำเอียงเพราะชอบพอ
ฉันทาคติ มาจากคำว่า ฉันทะ + อคติ
ฉันทะ หมายถึง ความชอบใจ หรือ ความพอใจ
2. โทสาคติ คือ ความลำเอียงเพราะโกรธหรือชิงชัง
โทสาคติ มาจากคำว่า โทสะ + อคติ
โทสะ หมายถึง ความโกรธ
ปัจจัยที่ก่อเกิดความโกรธหรือชิงชังในคัมภีร์ปริวาร
– โกรธเพราะได้ทำแล้วซึ่งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์หรือก่อโทษแก่ตนเอง
– โกรธเพราะกำลังทำซึ่งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์หรือก่อโทษแก่ตนเอง
– โกรธเพราะคิดจะทำซึ่งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์หรือก่อโทษแก่ตนเอง
– โกรธเพราะได้ทำแล้วซึ่งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์หรือก่อโทษแก่คนที่ตนรัก
– โกรธเพราะกำลังทำซึ่งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์หรือก่อโทษแก่คนที่ตนรัก
– โกรธเพราะคิดจะทำซึ่งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์หรือก่อโทษแก่คนที่ตนรัก
– โกรธเพราะได้ทำแล้วซึ่งประโยชน์ต่อผู้ที่ตนชิงชัง
– โกรธเพราะกำลังทำซึ่งประโยชน์ต่อผู้ที่ตนชิงชัง
– โกรธเพราะคิดจะทำซึ่งประโยชน์ต่อผู้ที่ตนชิงชัง
3. โมหาคติ คือ ความลำเอียงเพราะหลง หรือ ความลำเอียงเพราะความเขลา
โมหาคติ มาจากคำว่า โมหะ + อคติ
โมหะ หมายถึง ความหลง ความลุ่มหลง
4. ภยาคติ คือ ความลำเอียงเพราะกลัว
ภยาคติ มาจากคำว่า ภยะ + อคติ
ภยะ หมายถึง ความกลัว ความหวาดหวั่น หรือ มักเรียกกลายเป็นศัพท์ว่า ภัย
แนวทางการละอคติ 4
1. ไม่คบคนพาล
2. จักกสูตร 4 ประการ
– อยู่ในประเทศอันสมควร หมายถึง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเป็นคนดี
– การคบสัตบุรุษ
– การตั้งตนไว้ชอบ คือ ยึดมั่นในการประพฤติตนให้เป็นคนดีอย่างสม่ำเสมอ
– ความเป็นผู้มีบุญที่ทำไว้ในปางก่อน คือ เชื่อถือในความดีงามที่ทำมาว่าจะเกิดกุศลกรรมที่ดีงามต่อเราในภพนี้ และภพหน้า
3. สัมมาทิฏฐิ คือ ตั้งมั่นในความเห็นชอบ
4. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ พิจารณาสภาพจิตของตนเอง
5. กุศลวิตก 3 คือ การตรึกตรองถึงสิ่งที่เป็นกุศล 3 อย่าง คือ
– การตรึกตรองที่เว้นจากกาม
– การตรึกตรองที่เว้นจากพยาบาท
– การตึกตรองที่เว้นจากการเบียดเบียน
6. สาราณียธรรม 6
7. พรหมวิหาร 4
ที่มา thaihealthlife
จบอธิบายเพิ่มเติม (เพิ่มจากในส่วนที่พระอาจารย์ชนินทร์ท่านให้ธรรมะมา)
.
รักษาธรรม ธรรมรักษา
Noom Wangna
Noom Sithiphong Wangna
ผู้เขียน ที่ได้เรียบเรียงจากการสนทนาธรรมะกับพระอาจารย์ชนินทร์ วัดป่าถ้ำเสือ จ.ลพบุรี
บทความ ไม่สงวนลิขสิทธิ์
#พระอาจารย์ชนินทร์เขมจาโร
#วัดป่าถ้ำเสือ
#ชมรมพระวังหน้า
#คณะพระวังหน้า

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version