แสงธรรมนำใจ > ดอกบัวโพธิสัตว์
มธุรัตถวิลาสินี พรรณนาวงศ์พระมงคลพุทธเจ้า
ตถตา:
แก้อรรถ
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตโต ได้แก่ จากพระสรีระของพระมงคล
พุทธเจ้าพระองค์นั้น. บทว่า นิทฺธาวตี ก็คือ นิทฺธาวนฺติ พึงเห็นว่าเป็น
วจนะวิปลาส. .บทว่า รํสี ก็คือ รัศมีทั้งหลาย. บทว่า อเนกสตสหสฺสี
ก็คือ หลายแสน. บทว่า อูมี ได้แก่ ระลอกคลื่น. บทว่า คเณตุเย
แปลว่า เพื่อคำณวน คือนับ. อธิบายว่า คลื่นในมหาสมุทร ใคร ๆ ไม่อาจ
นับว่าคลื่นในมหาสมุทรมีเท่านี้ ฉันใด แม้สาวกทั้งหลายของพระผู้มีพระภาค-
เจ้าพระองค์นั้น ใครๆ ก็ไม่อาจนับได้ ที่แท้เกินที่จะนับได้ ก็ฉันนั้น. บทว่า
ยาว ได้แก่ ตลอดกาลเพียงใด. บทว่า สกิเลสมรณํ ตทา ความว่า
บุคคลเป็นไปกับด้วยกิเลสทั้งหลาย ชื่อว่าผู้เป็นไปกับด้วยกิเลส. ความตาย
ของผู้เป็นไปกับด้วยกิเลส ชื่อว่า สกิเลสมรณะ ความตายของผู้มีกิเลส.
ความตายของผู้มีกิเลสนั้นไม่มี. เขาว่า สมัยนั้น สาวกทั้งหลายในศาสนาของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น บรรลุพระอรหัตแล้ว ก็พากันปรินิพพานหมด
ผู้เป็นปุถุชนหรือเป็นพระโสดาบันเป็นต้นก็ยังไม่ทำกาลกิริยา [ตาย] อาจารย์
บางพวกกล่าวว่า สมฺโมหมารณํ ตทา ดังนี้ก็มี.
บทว่า ธมฺโมกฺกํ แปลว่า ประทีปธรรม. ไฟท่านเรียกว่า ธูมเกตุ
แต่ในที่นี้พึงเห็นว่าประทีป เพราะฉะนั้น จึงมีความว่า เหมือนประทีปส่องแสง
แล้วก็ดับไป. บทว่า มหายโส ได้แก่ พระผู้มีบริวารมาก อาจารย์บางพวก
กล่าวว่า นิพฺพุโต โส สสาวโก. บทว่า สงฺขารานํ ได้แก่ สังขตธรรม
ธรรมที่มีปัจจัย. บทว่า สภาวตฺตํ ได้แก่ สามัญลักษณะมีอนิจจลักษณะ
เป็นต้น. บทว่า สุริโย อตฺถงฺคโต ยถา ความว่า ดวงอาทิตย์ซึ่งมีรัศมี
นับพัน กำจัดกลุ่มความมืดทั้งหมด และส่องสว่างหมดทั้งโลก ยังถึงอัสดงคต
ฉันใด แม้พระมงคลพุทธเจ้าผู้เป็นดั่งดวงอาทิตย์ ผู้ทำความแย้มบานแก่เวไนย-
สัตว์ผู้เป็นดั่งดงบัว ทรงกำจัดความมืดในโลกทั้งภายในทั้งภายนอกทุกอย่าง
ทรงรุ่งเรืองด้วยพระรัศมีแห่งพระสรีระของพระองค์ ก็ถึงความดำรงอยู่ไม่ได้
ก็ฉันนั้น คาถาที่เหลือในที่ทั้งปวงง่ายทั้งนั้นแล.
จบพรรณนาวงศ์พระมงคลพุทธเจ้า
แก้วจ๋าหน้าร้อน:
:13: อนุโมทนาครับพี่แฮม ขอบพระคุณครับผม
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version