ผู้เขียนได้รับรายงานย่อ ของข้อมูลที่ได้จากโครงการวิจัย วิญญาณร่วมสากลจาก มหาวิทยาลัยปรินซ์ตันทางอี - เมล เมื่อไม่กี่วันก่อน (ต้นเดือนตุลาคม) ผู้ส่งต้องการให้ผู้เขียน ส่งข้อมูลย่อที่ว่านี้ต่อไป ให้เพื่อนฝูงคนรู้จัก
ที่อาจสนใจทางอี-เมล แต่ผู้เขียนคิดว่า หากนำมาเขียนเป็นบทความลง ในคอลัมน์ประจำที่นี่ อาจสามารถเผยแพร่ข้อมูล ได้กว้างขวางกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้อ่านที่ต้องการทราบ รายละเอียดของโครงการวิจัย ในเรื่องนี้ที่ทำที่มหาวิทยาลัยปรินซ์ตัน (Global Consciousness Project) อาจเปิดเข้าไปดูได้ในอินเทอร์เน็ต ช่อง http.//noosphere.princeton.edu/homepage.html ก็ได้
รายงานการวิจัยครั้งนี้ เป็นข้อพิสูจน์ในทางอ้อมที่อาจให้ ข้อมูลสมมุติฐานทางทฤษฎีวิทยาศาสตร์ในด้านของประสบการณ์ที่เกิดจาก จิตร่วมสากลของกลุ่มชนจำนวนมาก - ที่มีต่อข่าวหรือข้อมูลของเหตุการณ์ที่ ยิ่งใหญ่ระดับโลก ที่ทำให้มนุษย์โดยรวมให้ความสนใจอย่างพร้อมเพรียง กันในทันทีทันใด เช่น วินาศภัยระดับโลก เป็นต้นว่าแผ่นดินไหวที่มีคน ตายมากๆ หรือในอีกด้านหนึ่ง ข่าวของการรับรางวัลออสการ์หรือการแข่ง ขันฟุตบอลโลก และสำหรับที่เป็นเนื้อหาของบทความนี้ คือกรณีการก่อ การร้ายที่ตึกองค์การการค้าโลก ที่แสดง หรือสนองตอบผ่านสนามแห่งจิต ไร้สำนึกของจักวาลซึ่งเชื่อว่าเป็นสนามแควนตัน (field of consciousness or quantum field) ที่รับรู้และบันทึกเอาไว้โดยเครื่องมือ บันทึกเหตุการณ์ (REG or Random Event Generators) เครื่องมือระดับ ละเอียดที่มหาวิทยาลัยปรินซ์ตันร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิทยา ศาสตร์อื่นๆ นำไปติดตั้งไว้ในที่ต่างๆ ทั่วโลกรวม 38 แห่ง ผลของการ วิจัยให้ข้อมูลเป็นบวกอย่างชัดเจนแบบเดียวกัน และเหมือนๆ กันจาก เครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่มีความละเอียดสูง (REG) นี้ทุกๆ เครื่องที่ติดตั้ง ไว้ในทุกที่ โดยไม่ยกเว้นแม้แต่รายเดียว
หลักการของการทำงานของเครื่องมือบันทึกประสบการณ์ ของการรับรู้ข้อมูลผ่านสนามจิตร่วมของโลกหรือของจักรวาลนี้ เป็นเครื่อง มือที่สนองตอบต่อการกระตุ้นของคลื่นอิเล็กตรอน (micrelectronic pulse) และบันทึกเป็นข้อมูลทางสถิติแบบเดียวกับการโยนหัวโยนก้อยเหรียญ แล้วหาผลเฉลี่ยในทางสถิติ นั่นคือหลักการที่บอกว่า หากเราโยนเหรียญให้ ตกลงมาบนพื้น เหรียญอาจออกเป็นหัวก็ได้เป็นก้อยก็ได้แล้วแต่โชคหรือ ความบังเอิญให้เป็นไป แต่หากว่าเราโยนเหรียญเร็วๆ ให้ได้จำนวนมาก จริงๆ เช่น หลายแสนครั้งหรือเป็นล้านครั้ง ผลที่ได้จะให้ค่าเฉลี่ยความเป็น หัวหรือเป็นก้อยในจำนวนที่ใกล้คียงกันมากแทบว่าจะเป็นครึ่งต่อครึ่ง ดังข้อเท็จจริงที่เป็นทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่านาฬิกาเคมี - ปฏิกิริยา เบลูซอฟ-ซบาตินสกี (Belousov-Zbatinski’ s reaction) โดยที่เครื่องมือนี้ จะทำหน้าที่เหมือนกับการโยนเหรียญได้มากครั้งต่อรอบ (หัว-ก้อย หรือบวก-ลบ หรือหนึ่ง-ศูนย์) ในที่นี้โยนได้มากกว่า 400 ครั้งต่อรอบต่อ วินาทีติดต่อกันหลายพันรอบแล้ว รวมแล้วนับเป็นหลายล้านครั้ง การ “โยนเหรียญ” โดยเครื่องมือที่ละเอียดยิ่งที่ว่านี้ จริงๆ แล้วเป็นการรับ ข้อมูลจากสัญญาณที่มีลักษณะเป็นคลื่นเสียง (white noise) เช่นเดียวกับ คลื่นของอิเล็กตรอนที่กล่าวข้างต้น แต่ในกรณีนี้เกิดจากพลังงานจิตใน สนามข้อมูลสากลหรือสนามแห่งจิตร่วมของคนจำนวนมากที่สนองตอบออก มาพร้อมๆ กัน
ต่อไปคือใจความย่อของข้อมูลของอี-เมล ที่ผู้เขียนได้รับมา - เพื่อให้เผยแพร่ต่อที่มีดังนี้
เรารู้ - และทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ใหม่ก็บอกให้เรารู้ - ว่าจิตของเราไม่ได้ตั้งอยู่ในร่างกายหรือในสมองของเรา แท้ที่จริงแล้วเรา สามารถรู้ได้ถึงความใกล้ชิดของเรา หรือความผูกพันประหนึ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน ของเรากับโลกที่แสนจะน่าพิศวงที่อยู่รอบๆ ตัวเรา และแท้ที่จริงแล้วเรารับรู้ถึง ความรักความห่วงใยของผู้ที่เรารักและรักเรา - ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลจากกันสัก เพียงไหน - ในขณะเดียวกัน แท้จริงแล้ว - ด้วยความคิดและจิตใจ - เราสามารถจะท่องไปได้ไกลถึงดวงดาวอย่างแทบฉับพลันทันทีทันใด
และผลงานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ว่าด้วยประสบการณ์เหนือ ธรรมชาติ ที่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยฟิสิกส์แห่งยุคใหม่ ล้วนชี้บ่งว่า เราและ สรรพสิ่งในโลกในจักรวาลล้วนเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน - ความรู้สึกนึกคิดที่โพล่งขึ้น มาเองจากส่วนลึกของจิตใจ หรือความตั้งใจที่ออกมาอย่างฉับพลันทันที - ผ่านมิติแยกต่างที่ขวางกั้น - ที่ยังผลให้ปรากฏหรือรับรู้เป็นรูปธรรมทางกายภาพ อันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติธรรมดาๆ ที่มนุษยชาติรับรู้ประสบกันมาแต่เนิ่น นานนั้น คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจริง มันเป็นที่ตัวเราเองต่างหาก - ด้วยความรู้วิทยาศาสตร์กายภาพที่เราคิดว่าจริงทั้งหมด ทำให้เราไม่ยอมรับรู้ ความจริงนั้น ทั้งๆ ที่วิทยาศาสตร์ครึ่งทางที่ว่านั้นไม่สามารถอธิบายอะไรที่ เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติได้เลยแม้แต่น้อย ที่ทำได้เพียงทำเป็นไม่ได้ยิน หลบหนีประเด็นเข้าไปอยู่ใต้คำพูดของคำว่างมงาย โดยไม่มีปัญญาที่จะขยาย ต่อให้ชัดเจนว่างมงายตรงไหน อย่างไร หรือว่าจะพยายามนำเสนอความเป็น จริงที่ถูกต้องมาอธิบายประกอบหรือทดแทน
แต่ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะนักฟิสิกส์แห่งยุคใหม่ ส่วนมากที่สุดยอมรับประเด็นนี้ว่า เป็นเรื่องของสนามของความไม่มีเวลาและ ตำแหน่งแหล่งที่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสนามที่มีรูปแบบเช่นเดียวกับสนามแควนตัมที่ไร้ ที่ว่าง (quantum-non-local-field) โดยโครงการวิจัยที่ว่านี้ (global consciousness project) นำเอาความเป็นไปได้จริงทางแควนตัมนี้มาเป็นหลัก การและเหตุผลของการวิจัย นั่นคือหลักการที่คิดว่า พลังงานจิตที่เกิดจากแต่ละ บุคคลเป็นปัจเจกจากเหตุการณ์ระดับโลกหนึ่งใด - ที่เกิดอย่างฉับพลันทันทีทันใด - จะมีปฏิสัมพันธ์กันหรือรวมกันเป็นพลังงานจิตร่วมสากล พลังงานเร้นลับที่จะ ให้ปรากฏการณ์ทางโลกกายภาพที่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดแจ้งและแน่นอน
วิธีการตรวจและพิสูจน์พลังงานจิตสากลนั้น นักวิจัยได้จัดตั้ง เครือข่ายของเครื่องมือที่สามารถรับคลื่นจิต (ที่แสดงออกและแปลเป็นคลื่นเสียง (white noise) ในระดับที่ละเอียดดังกล่าวมาแล้วนั้น REG) จำนวน 38 เครื่องเอาไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วโลก เชื่อมต่อมาที่ศูนย์คอมพิวเตอร์กลางที่ ปรินซ์ตัน จริงๆ แล้วการบันทึกข้อมูลของการรวมตัวกันของพลังงานจิตร่วม สากล (global consciousness) นี้ได้กระทำกับเหตุการณ์สำคัญระดับโลกมา แล้วในหลายกรณี เช่นช่วงเวลาแรกๆ ของงานศพของเจ้าหญิงไดอานา หลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หรือชั่วโมงแรกๆ เมื่อองค์การนาโตเริ่มโจมตี ยูโกสลาเวีย และครั้งสุดท้ายคือการโจมตีตึกศูนย์การค้าโลกของผู้ก่อการร้ายที่ นิวยอร์กและที่ตึกเพนตากอนที่วอชิงตัน งานวิจัยที่กระทำก่อนหน้านี้นี้ได้เริ่ม บันทึกพลังงานมหาศาลนี้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 1998 อย่างไรก็ตาม มีแต่โครงการหลังสุดครั้งนี้ที่ให้หลักฐานอย่างชัดแจ้งที่อาจชี้บ่งถึงการดำรงอยู่ของ จิตร่วมสากลดังกล่าว
ผลที่ตรวจพบจากเครื่องบินรับพลังงานเสียง (REG) นี้ ให้รูปแบบที่ - แทนที่เป็นไปอย่างต่างคนต่างทำสะเปะสะปะ ที่เรียกว่าโชคหรือ ความบังเอิญ - แต่ผลกลับเป็นไปในรูปแบบเดียวกันและพร้อมๆ กัน และเกิด กับเครื่องมือทุกเครื่อง ตลอดช่วงเวลาของการตรวจวัดที่สอดคล้องกับช่วงเวลาที่ เหตุการณ์ก่อการร้ายได้เกิดขึ้น - วินาทีต่อวินาที - ที่นิวยอร์ก ในวันที่ 11 กันยายน 2001 ตั้งแต่ 08.45 น. กับเมื่อ 18 นาทีต่อมา และที่ 09.40 น. ที่วอชิงตัน ทั้งหมดให้รูปแบบและลักษณะที่นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำวิจัยได้ระบุเป็น ทางการว่า “ชัดแจ้งล้ำลึกและแน่นอนแบบเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ (unmistakable, uneguivocal and profound response)”
รายงานจากอี-เมลให้ข้อมูลที่บันทึกโดยเครื่องรับคลื่นเสียงที่เชื่อว่า เป็นผลต่ออีกทีของคลื่นจิตของปัจเจกบุคคลที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ร่วมกัน จนกลายเป็นกระแสคลื่นจิตร่วมสากลของโลก เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงและ ตรวจวัดได้จริงที่บันทึกได้โดยเครื่องมือทุกเครื่อง ซึ่งข้อมูลที่ตรวจจับได้เหล่า นี้ ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์กายภาพไม่สามารถอธิบายได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้อาจอธิบายได้ด้วยฟิสิกส์แห่งยุคใหม่โดยตั้งเป็นสมมุติฐานว่า ทั้งหมดอาจเป็นผลของความสัมพันธ์ระหว่างคลื่นเสียงที่เป็นพลังงานไฟฟ้าที่ ผลิตขึ้นมาโดยเครื่องมือ (REG) กับคลื่นพลังงานที่เกิดจากจิตใจของมนุษย์ใน สภาวะจิตที่เข้มข้นที่กระทำที่จุดโฟกัสเดียวกัน ซึ่งว่าไปแล้วนั่นเป็นคำ อธิบายเป็นข้อสันนิษฐานของความเป็นไปได้เพียงประการเดียวเท่านั้น
ข้อมูลที่ควรจะเกิดขึ้นอย่างสะเปะสะปะจากโชคหรือความ บังเอิญที่เกิดที่ตรงนั้นตรงนี้ หรือกับเครื่องมือบางเครื่อง แต่ในกรณีนี้กลับ บันทึกเป็นรูปแบบเดียวกันพร้อมๆ กันในทุกๆ เครื่องทั้ง 38 เครื่อง ที่น่าสนใจคือสัญญาณที่ได้รับนั้น มีลักษณะพิเศษเพิ่มเติมอีกสองประการคือ หนึ่ง เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นแรงมากและเกิดอย่างต่อเนื่อง กับ สอง สัญญาณที่ได้รับการบันทึกได้นั้นเกิดขึ้นทันทีทันใด หรือจะพูดได้ว่า เกิดขึ้นก่อนที่จิตใจหรือหัวใจของเราแต่ละคนจะสามารถแสดงการรับรู้หรือแปล เป็นความรู้สึกได้ด้วยซ้ำ เนื่องจากเครือข่ายของการติดตั้งเครื่องมือ (REG) นี้ ได้รับการออกแบบให้มีการติดตั้งตามรูปแบบของคลื่นสมอง (EEG - Electroencephalogram) ที่ให้รูปแบบแตกต่างกันไปในต่างสภาวการณ์ ดังนั้น คลื่นที่ได้รับการบันทึกนี้ จึงเป็นประหนึ่งคลื่นสมองของโลกหรือคลื่น สมองของดาวเคราะห์โลกที่สนองตอบต่อเหตุการณ์ระดับโลกที่เกิดในวันที่ 11 กันยายน 2001 นั่นเอง และประการหนึ่งว่าคลื่นสมองของมนุษย์แต่ละ คนที่เกิดจากความเข้มข้นหรือความสนใจตกใจแน่นิ่งจุดเดียว ได้ร่วมกัน สัมพันธ์กันให้เป็นพลังงานที่เร้นลับและรุนแรงเป็นจิตโลกหนึ่งเดียวกัน นั่นคือ บางทีช่วงเวลาสั้นๆ ของเช้าวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 นั้น จิตของ มนุษย์โลกได้ร่วมกันรวมกันกลายเป็นจิตร่วมสากลของดาวนพเคราะห์โลก หนึ่งเดียวกัน และบางทีนั่นอาจแฝงไว้ซึ่งความหมายอันลึกล้ำอย่างหนึ่งอย่าง ใด
ดีน ราดิน นักฟิสิกส์ที่ทำงานด้านปรจิตวิทยาที่ถูกขนานนาม ว่าเป็นไอน์สไตน์ในด้านของวิทยาศาสตร์ทางจิตใจสาขานั้น ได้พูดถึงข้อมูลที่ ได้รับเหล่านี้ว่า “ข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดที่ชัดแจ้งเหมือนๆ กันากเครื่องมือทุก เครื่องครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นข้อบ่งชี้หรือหลักฐานที่น่าเชื่อที่สุดเท่าที่ข้าพเจ้าได้ เคยมีประสบการณ์มา หลักฐานที่บอกว่าความตั้งใจและความคิดที่โพล่งออก มาเองอย่างทันทีทันใด - ของหมู่คนจำนวนมหาศาล (mass-mind attention/ intention) สามารถแสดงออกเป็นปรากฏการณ์ทางโลกกายภาพได้ หรืออาจให้ความหมายหรือส่งผลอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปก็ได้ บางทีอาจเป็น ไปได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ระดับโลกที่เกิดขึ้นต่อหน้า ต่อตาอันน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด”.
จาก ความทรงจำนอกมิติ ของไทยโพสต์
