แสงธรรมนำใจ > หยาดฝนแห่งธรรม

ทางลัดสู่หายนะข้อคิดที่น่าคิดอยากให้อ่านแล้วคิดตาม

(1/2) > >>

時々होशདང一རພຊຍ๛:


มีประโยชน์มาก ๆ  :20:

มีข่าวเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งจากเกาหลีใต้เมื่อต้นปีนี้
หากจะมีใครสนใจก็เพราะเป็นเรื่องแปลก นั่นคือ
ข่าวหญิงชราผู้หนึ่งสอบใบขับขี่มาแล้วถึง ๗๗๑ ครั้ง แต่ไม่เคยสอบได้เลย
ตัวเลขดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างปี ๒๕๔๘จนถึงต้นปีนี้เท่านั้น
แสดงว่าคุณยายเข้าสอบเฉลี่ย ๒ วันครั้งเลยทีเดียว
แม้จะสอบตกทุกครั้ง แต่ก็ไม่ละความพยายาม
ผ่านมาแล้วหลายเดือนจนถึงปัจจุบัน ไม่ทราบว่าคุณยายสอบได้แล้วหรือยัง
แต่ก็เป็นไปได้ว่าคุณยายอาจสอบตกอีกนับสิบครั้งแล้วก็ได้
เจ้าหน้าที่จราจรที่คุมการสอบทั้งเห็นใจทั้งชื่นชมคุณยาย
ถึงกับเอ่ยปากว่าหากคุณยายสอบได้เขาจะทำโล่เกียรติคุณให้เลย

ข่าวนี้มองให้ดีนับว่าน่าสนใจมาก
เพราะไม่ได้บอกถึงความอุตสาหะอย่างยิ่งยวดของคุณยายเท่านั้น
แต่ยังสะท้อนสังคมเกาหลีใต้ในบางแง่ได้อย่างชัดเจนมาก
เช่น ความเคร่งครัดและเข้มงวดในกฎเกณฑ์และกติกา
แม้เจ้าหน้าที่จราจรจะเห็นใจคุณยายเพียงใด
ก็ไม่ยอมอะลุ้มอล่วยหรือโอนอ่อนให้ง่าย ๆ ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก
คุณยายซึ่งคงมีปัญหาบางอย่างในการขับขี่ จึงไม่เคยสอบผ่านเลยสักครั้ง
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็คงมีความซื่อตรงชนิดที่เงินซื้อไม่ได้ด้วย
เพราะหากเป็นที่เมืองไทย ลูกหลานของคุณยาย
หรือเพื่อน ๆ ของลูกหลานที่เห็นใจคุณยาย คงหาทางวิ่งเต้น
หรือ {ยัด}เงินให้เจ้าหน้าที่ที่คุมการสอบไปแล้ว
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ยากเลย ใช้เงินไม่ถึงพันบาทก็สำเร็จแล้ว
ไม่จำต้องที่คุณยายต้องมาเหนื่อยยากขนาดนี้
สอบตกอย่างมากแค่ ๕ - ๖ ครั้ง ก็ได้ใบขับขี่สมใจแล้ว

時々होशདང一རພຊຍ๛:



น่าคิดต่อไปว่าไม่ใช่แต่เจ้าหน้าที่เกาหลีเท่านั้นที่ซื่อตรง
และต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์
คนเกาหลีก็ดูเหมือนจะซื่อตรงด้วย
หรืออย่างน้อยก็เห็นว่าที่เจ้าหน้าที่ทำกับคุณยายนั้นถูกต้องแล้ว
ไม่เช่นนั้นก็คงกดดันเจ้าหน้าที่ทั้งทางตรงและทางอ้อม
หรือผ่านผู้บังคับบัญชาจนเจ้าหน้าที่ต้องยอมปล่อยให้คุณยายสอบผ่าน
แต่ฟังจากคำพูดของเจ้าหน้าที่ เขาไม่มีทีท่าว่ารู้สึกถูกกดดันเลย
ถ้าเป็นที่เมืองไทย แค่ทำให้คุณยายสอบตกถึง ๕๐ ครั้งก็มากพอแล้ว
ที่เจ้าหน้าที่จะถูกผู้คน{มิใช่แค่ญาติพี่น้องเท่านั้นแต่อาจรวมถึงสื่อมวลชนด้วย}
รุมประณามว่าไร้เมตตาต่อคนแก่ แค่ใบขับขี่ใบเดียว จะเอาอะไรกันนักกันหนา

สรุป..................ก็คือข่าวแบบนี้ไม่มีวันเกิดขึ้นในเมืองไทยยุคนี้ได้อย่างแน่นอน
ไม่ใช่เพราะว่าเมืองไทยไม่มีเจ้าหน้าที่แบบนั้น
หากยังเป็นเพราะคนที่จะเพียรสอบร่วมพันครั้งอย่างคุณยาย ก็ไม่มีด้วยเช่นกัน
พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าคนไทยไร้ความอุตสาหะ
แต่เป็นเพราะเรารู้ดีว่าเรื่องแบบนี้ไม่จำต้องเพียรพยายามถึงขนาดนั้นก็ได้
ใคร ๆ ก็รู้ว่ามี{ทางลัด}ที่ง่ายและเร็วกว่านั้น
นั่นคือ จ่ายเงินเป็นสินน้ำใจ หรือยื่นนามบัตรของใครบางคนให้กับเจ้าหน้าที่
หรือผู้บังคับบัญชาของเขาพร้อมกับขอให้ช่วย{ดูแล}คุณยายให้ด้วย
ถ้าไม่มีทั้งเงินและ{เส้น}ก็ยังมีอีกวิธีคือ เจรจาขอความกรุณาจากเจ้าหน้าที่

時々होशདང一རພຊຍ๛:





ที่จริงไม่ใช่แค่สอบใบขับขี่ แทบทุกเรื่องใคร ๆ ก็รู้ว่ามีทางลัด
และนิยมใช้ทางลัดทั้งนั้น ตั้งแต่เด็กเราก็รู้แล้วว่าหากจะทำการบ้านส่งครู
ก็ไม่จำเป็นต้องทำเองให้เหนื่อยยาก ก็แค่ลอกการบ้านจากเพื่อน
หรือไม่ก็ตัดแปะจากเว็บไซต์ต่าง ๆ อยากได้เกรดสูง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องขยันเรียน
แค่หาเวลาติวก่อนสอบไม่กี่วัน ใครที่ใจกล้ากว่านั้นก็แอบดูเพื่อนในห้องสอบ
หรือทุจริตด้วยวิธีซับซ้อนกว่านั้น หาไม่ก็บากหน้าไปขอเกรดครู
เดี๋ยวนี้นักเรียนมัธยมกล้าถามครูแล้วว่าครูอยากได้อะไร เขาจะหามาให้
ขอเพียงให้เกรดดี ๆ แก่เขาหากขาดเรียนเป็นนิจ
ไม่เชื่อฟังครู จนถูกครูดุด่าว่ากล่าวหรือลงโทษ แทนที่จะทำตัวให้ดี
วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายกว่านั้นก็คือ ไปฟ้องพ่อแม่เพื่อให้พ่อแม่ไปร้องเรียน
กับผู้อำนวยการหรือโทรศัพท์ไปข่มขู่ครู

จบแล้วอยากได้งานดี ๆ ก็ไม่ต้องเตรียมตัวสอบให้เหนื่อย
แค่ใช้{เส้น}ของพ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ก็พอแล้ว
ทำงานแล้วอยากได้ตำแหน่งดี ๆ ไม่ต้องขยันทำงานก็ได้
แค่หมั่นวิ่งเต้นหรือประจบประแจงเจ้านาย ก็พอ
ถ้าเป็นนักธุรกิจอยากขายของให้ได้เยอะ ๆ
ก็ไม่จำต้องพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ
แค่จ่ายเงินใต้โต๊ะเพื่อให้ได้สัมปทานหรือชนะการประมูลก็สำเร็จแล้ว

時々होशདང一རພຊຍ๛:


ถ้าอยากรวย ไม่ต้องขยันทำงานหรือหมั่นอดออมก็ได้
เพราะมีทางลัดคือ เล่นหวย เล่นหุ้น เล่นการพนัน
หนักกว่านั้นก็คือโกง คอร์รัปชั่น หรือลักขโมย
การเติบใหญ่ขยายตัวของการพนันและอาชญากรรมเกี่ยวกับทรัพย์สิน
บ่งชี้ว่าคนไทย นิยมรวยทางลัดมากขึ้น แต่สำหรับคนที่ยังเกรงกลัวกฎหมาย
ทางลัดที่นิยมกันมากก็คือไสยศาสตร์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเครื่องรางของขลัง
ดังสมัยหนึ่งใคร ๆ ก็อยากได้จตุคามรามเทพไว้บูชา
เพราะเชื่อว่าจะทำให้รวยได้ โดยไม่มีเหตุผล
แม้จตุคาม ฯ จะตกกระแสไปแล้ว แต่เครื่องรางของขลัง
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นานาชนิดก็ยังเป็นความหวังของผู้คนจำนวนมาก
ที่อยากรวยและมีโชคลาภโดยไม่ต้องขยัน

น่าแปลกที่เราชอบอ้างว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ
แต่แก่นแท้ของพุทธศาสนาที่เน้นความเพียรและการพึ่งตนนั้น
คนไทยเป็นอันมาก{หรือส่วนใหญ่ก็ว่าได้}กลับไม่สนใจเอาเลย
จริงอยู่เราชอบทำบุญกันเป็นชีวิตจิตใจ
แต่นั่นเป็นเพราะเราเชื่อว่าถ้าสะสม{บุญ}ได้มากพอ
ก็จะบันดาลให้เรามั่งมีศรีสุขและได้รับโชคลาภ เช่น ถูกหวยหรือถูกลอตเตอรี่
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในทัศนะของชาวพุทธไทย
การทำบุญก็คือทางลัดสู่ความร่ำรวยนั่นเอง
ดังนั้นจึงขวนขวายทำบุญมากกว่าขยันทำมาหากิน

คนไทยทุกวันนี้พึ่งโชคมากกว่าพึ่งความเพียร
เพราะเราเชื่อว่าโชคจะทำให้เราได้รับความสำเร็จโดยไม่ต้องเหนื่อย
คนไทยเมื่อจะล่ำลากันจึงมักให้พรว่า{ขอให้โชคดี}
ซึ่งตรงข้ามกับคนญี่ปุ่น คำอวยพรของพ่อแม่ที่ให้แก่ลูกครูให้แก่ศิษย์
ก็คือ{ขอให้เพียรพยายาม} หรือ{อย่ายอมแพ้}
ทั้ง ๆ ที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่รู้สึกห่างไกลจากพุทธศาสนา
แต่คำอวยพรและพฤติกรรมของเขานั้น
ใกล้เคียงกับแก่นของพุทธศาสนามากกว่าคนไทยเสียอีก

時々होशདང一རພຊຍ๛:


การนิยมทางลัดของคนไทยนั้นก่อปัญหาแก่สังคมไทยในทุกด้านก็ว่าได้
อาทิ คุณภาพการศึกษาตกต่ำ สินค้าไม่ได้มาตรฐาน
แข่งสู้ตลาดโลกไม่ได้ ข้าราชการไร้ประสิทธิภาพ คอร์รัปชั่นแพร่ระบาด
อาชญากรรมเกลื่อนเมือง สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม
อุบัติเหตุจราจรเพิ่มสูงขึ้น ฯลฯ เป็นเพราะค่านิยมและพฤติกรรมดังกล่าว
การขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีมาตรฐานสูงขึ้นไม่ว่าด้านใดจึงเป็นเรื่องยากมาก
อาทิ การผลักดันให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติ
รัฐบาลจะกระตุ้นให้คนไทยขยันอ่านหนังสือได้อย่างไร
ในเมื่อใคร ๆ ก็รู้ว่าไม่ต้องขยันเรียนก็สอบได้แถมได้เกรดสูงด้วย
นอกจากนั้นถึงอ่านช้าก็ดูหนังต่างประเทศได้เพราะพากย์ไทยกันทั้งนั้น
ว่ากันว่าตามต่างจังหวัดภาพยนตร์ที่ไม่พากย์ไทยแม้จะมีคำบรรยายภาษาไทย
มักจะขายตั๋วไม่ค่อยได้ แม้ในกรุงเทพ ฯ เองซีดีหรือดีวีดีหนังต่างประเทศ
ที่ไม่พากย์ไทยก็ขายได้น้อย

อย่างไรก็ตาม การนิยมทางลัดมิใช่เป็นเรื่องของค่านิยม
ทัศนคติ หรือวัฒนธรรมเท่านั้น หากยังสัมพันธ์กับบริบททางสังคมด้วย
การที่คนไทยนิยมทางลัดกันจนเป็นวิถีชีวิต
ก็เพราะระบบต่าง ๆ ในสังคมเอื้อหรือผลักดันด้วย
ขอให้ย้อนกลับไปกรณีคุณยายเกาหลีที่สอบตกถึง ๗๗๑ ครั้ง
การที่คุณยายต้องพากเพียรพยายามขนาดนั้น
เพราะระบบการสอบไม่เอื้อให้คุณยาย{หรือลูกหลานเพื่อนพ้อง}ใช้ทางลัดได้
ไม่ว่าจะยัดเงินใต้โต๊ะ ใช้เส้น หรือวิงวอนขอความกรุณา
นี้ตรงข้ามกับระบบการสอบใบขับขี่รวมทั้งระบบอื่น ๆ ของไทย
ตั้งแต่ระบบการศึกษา ระบบราชการ ไปจนถึงระบบการเมือง
ซึ่งทั้งอนุญาตทั้งเอื้อให้มีการติดสินบนและใช้เส้นได้ตั้งแต่บนลงมาข้างล่าง

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ตอบ

Go to full version