ผู้เขียน หัวข้อ: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)  (อ่าน 42521 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด






หากเหนื่นัก.. ก็พักหน่..
แล้ว.. ค่อยไป ! ()





สัมผัสจินต์ สัมผัสใจ




เจ้าเกิดพ้นแผ่นน้ำ     กมุทเอย
จึงเบ่งบานเมื่อเชย     แดดเช้า
หากรูปย่อมล่วงเลย    ตามโลก
คืออนิจจังถามเจ้า      ตระหนักรู้บ้างไหม





ที่นี่บ้านเกิดข้า                  ข้ายัง
แหละข้ามีความหวัง             เปี่ยมล้น
ท่วมเหงื่อเกรอะเกลือกรัง       กลัวรึ? ไม่เลย
จะถากถางทางด้น              สู่ด้าวแผ่นดินสวรรค์





ถามดาวเดือนเพื่อนพ้อง      เพลินไหม
ยลโลกจากมุมไกล             สุดฟ้า
ดินแห้งเหือดน้ำใจ              ฤๅห่วง
แสงส่องเพียงสาดหล้า          แสร้งว่าหวังดี ๚



By : CrazyHOrse


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 25, 2014, 03:23:31 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:23:25 am »


ฉันเหนื่อยเหลือเกิน..
บนทางเดิน..ที่ไม่มีใครห่วงหา
ฉันล้มลง..จนไม่อยากลุกขึ้นมา
หนทางข้างหน้า..แสนมืดมน

ฉันเหนื่อยเหลือเกิน...
ฉันยิ่งเดิน..เหมือนยิ่งไกล
ทางข้างหน้า..แม้อุปสรรค์มากมาย
แต่ก็พร้อมจะทน..กับเส้นทางที่เลือกเดิน.

กระบี่ มังกรเหิรฟ้า
4 ธันวาคม 56

*******************



ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก
แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน
และอาจเป็นเช่นนี้ชั่วชีวัน
เมื่อรักอันแจ่มกระจ่างเลือนร้างไกล

บทสุดท้ายของนิยายรัก - เฉลิม รงคผลิน

**
**

บทสุดท้ายของนิยายรัก (๔)
เฉลิมศักดิ์ ศิลาพร

จริงหรือนี่ที่ว่ารักเราจักร้าว
นึกแล้วหนาวเหน็บนักแก้วรักเอ๋ย
รสสัมผัสอ่อนละมุนที่คุ้นเคย
ไยจึงเผยรสร้างจืดจางกัน

เราเคยร่วมใจฝันว่าวันหนึ่ง
เราจะถึงวันที่งามเหมือนความฝัน
ฟ้าสีทอง ดอกไม้บาน ธารพระจันทร์
และรักอันคงค่าสถาพร

ฉันเฝ้ารอคอยวันที่ฝันไว้
รอด้วยรักด้วยใจไม่ถ่ายถอน
แต่นี่สร้อยสายสวาทมาขาดตอน
เธอกล้ารอนลงด้วยมือเธอหรือไร

เมื่อเธอสิ้นเสน่หามาสนอง
รักที่ปองมอดหมดความสดใส
แผลรักร้ายบ่อนทั่วเนื้อหัวใจ
จะต้องปวดร้าวไปถึงไหนกัน

ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก
แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน
และอาจเป็นเช่นนี้ชั่วชีวัน
เมื่อรักอันแจ่มกระจ่างกลับร้างไกล

นิยายรักยืดยาวของเรานั้น
คงไร้วันสดชื่นขึ้นบทใหม่
หมดความหมายที่จะรอกันต่อไป
เพราะเปลวไฟรักดับลงกับตา

เฉลิมศักดิ์ ศิลาพร ปัจจุบัน เปลี่ยนนามสกุลเป็น เฉลิมศักดิ์ รงคผลิน
แต่ชื่อจริงก็ไม่โด่งดังเท่า
ชื่อในนามปากกา "หยก บูรพา" เจ้าของนิยาย "อยู่กับก๋ง" นั่นเอง

Yim sri :http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=187258.0;wap2
คัดสรรบทกวีนิพนธ์ของนักกลอนระดับชาติ มาให้อ่านกัน



*********************




ไยมาดปรารถนาผ้าตาดทอง
ละรุ่งเรืองรองแห่งวัยเยาว์
ดอกไม้ผลิบานในยามเช้า
ย่อมเฉาร่วงหล่นพ้นเพรียกคืน





แปลจาก 金縷衣 (ผ้าตาดทอง) โดย
杜秋娘 ตู้ชิวเหนียง กวีหญิงยุคราชวงศ์ถัง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 19, 2016, 04:44:30 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:32:54 am »


Music is moonlight in the gloomy night of life.
~Jean Paul Richter

ชีวันฉันเศร้าเปล่าเปลี่ยว         แลเหลียวผู้ใดไร้เห็น
เดียวดายใกล้ค่ำลำเค็ญ          เหมือนดังหลบเร้นเป็นมา
มีเพียงแสงส่องผ่องศรี           แห่งทิพย์ดนตรีเวหา
ลำนำแห่งฝันจันทรา              ช่วยชุบชีวาด้วยมนตร์





โดย : เทาชมพู





abdelkader dahdah Shared publicly  -  Jul 31, 2013




คืนนี้ จันทร์คงเหนื่อยจึงเร้นหลบ
เมฆเทากลบดวงดาวไม่แย้มหา
สายลมนิ่งไม่ติงไหว..ตามเวลา
เจ้าใบไม้คงล้าอ่อน สะท้อนใจ
เมื่อเจ้าเหนื่อยก็ขอให้เจ้าพัก
นอนซบตักความฝันอันคว้าไหว
บ่าตรงนี้พร้อมโอบกอดปลอบหัวใจ
ล้าจากไหนไม่สำคัญ...แค่หันมา ^^
.
.
# ผู้หญิง ของกาลเวลา
****************************

ถ า ม ถึ ง เ ธ อ...ค น ดี
.
ป่านนี้เธอ อยู่ไหน ในโลกกว้าง
อยู่ท่ามกลาง ฟางซบ กลบดินแห้ง
บนผืนนา หน้าร้อน โรยอ่อนแรง
เฝ้ามองแสง สุดท้าย หรุบพ่ายลา
.
หรือนั่งเพลิน ภาพพิมพ์ ริมธารใส
สูดกลิ่นหอม กล่อมไพร ดอกไม้ป่า
รอแต้มแต่ง แสงเดือน ดาริกา
คอยสบตา หิ่งห้อย พร้อยรำพัน
.
หรืออยู่กลาง เรือกสวน พรวนดินผัก
เฝ้าบอกรัก ผลไม้ ในความฝัน
รักเหมือนที่ คนดีรัก ดาวดวงจันทร์
หรือนั่งกลั่น ฝันร้อย สร้อยกวี
.
เพราะที่ถาม ความคึดถึง คะนึงหา
สุดขอบฟ้า ก็ตราตรึง มาถึงนี่
จึงรำพัน กลั่นถ้อย ร้อยวลี
มาถามถึง คนดี พี่ห่วงใยฯ
.
.
# จุฬา ละคร
***************************

มาทะเล...
มานอนฟังคลื่นเห่...กล่อมโขดหิน
มานิ่งฟังเสียงลมเอื่อย...เรื่อยริน
มาอาบกินความหวัง...ครั้งวันวาน

มานั่งมองเกลียวคลื่น...ซัดคืนฝั่ง
มาทบทวนความหลัง...ครั้งเคยหวาน
มาทวงคืนบางวัน...อันเบิกบาน
มาฟังการขับขาน...ของกรวดทราย

มารำลึกเรื่องราว...ของคราวก่อน
มาเก็บบางฉากตอน...ก่อนจางหาย
มาตอกย้ำบางคำนึง...ซึ่งเริ่มคลาย
มาชะล้างความเดียวดาย...กับคลื่นลม

มาถามทวงคำสัญญา...วันลาจาก
มากวาดซากความทรงจำ...ที่ทับถม
มาให้ฟ้าโอบอุ้ม...เมฆหุ้มห่ม
มาเททิ้งความขื่นขม...ให้จมทะเล
.
.
# ชนากานต์ เหลียงพานิช

ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าทำไม
กี่รอยเท้า...ที่ก้าวย่ำ
ไปเก็บความทรงจำ...ที่หล่นหาย
กี่เรื่องราวดารดาษ...เต็มหาดทราย
ของผู้คนมากมาย...ที่ผ่านมา
ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าทำไม
บางครั้งรอยทราย...ก็เหว่ว้า
คลื่นไม่ซัดพัดคำ...จำนรรจา
เหมือนทะเลนิทรา...ชั่วตาปี
บางคนผ่านมา...เผื่อผ่านไป
แล้วก็ทิ้งบางใคร...ไว้ที่นี่
เมื่อตะวันจุมพิตน้ำ...อย่างยามนี้
ก็คิดถึงเธอคนดี...แทบขาดใจ
แม้จะกลับมาที่นี่...อีกกี่ครั้ง
ภาพความหลังริมเล...ก็เห่ไหว
เหมือนมีเงาพร่าหม่น...ของคนไกล
จารึกคำร่ำลาไว้...ในรอยทราย
.
.
# ชนากานต์ เหลียงพานิช


>> F/B Happy Little Eyes ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ในอัลบั้ม
: • ภาพวาด • บทกวี .. ดี๊ดี • จาก กวีเฟซบุ๊ค (เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ) ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 13, 2015, 01:26:56 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:34:48 am »





The days of wine and roses
Laugh and run away like a child at play
Through the meadow land toward a closing door
A door marked "nevermore" that wasn't there before.

The lonely night discloses
Just a passing breeze filled with memories
Of the golden smile that introduced me to
The days of wine and roses and you.


ผู้แต่ง Johnny Mercer
เพลงประกอบยอดเยี่ยม รางวัลตุ๊กตาทอง ประจำปี 1962





ทิวาราตรีกาล.............หอมหวานปานเปรียบเมรัย
กุหลาบซาบซ่านใจ........เริงรื่นใดไหนเทียมทัน
คืนวันผันผ่านพ้น.........เสื่อมคลายมนต์สรวงสวรรค์

ประตูปิดสนิทพลัน.............ไม่มีวันหันกลับมา
ราตรีนี้ว่างเปล่า..........ยะเยียบเศร้าเหงาอุรา
ลมพริ้มยิ้มแก้วตา........พัดผ่านมาเพียงฝันไป
 

แปลโดย เทาชมพู





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 25, 2014, 03:32:04 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:36:45 am »



Poems Serenity




When the serenity of the mind and the purity
of the heart work together,
nothing can stand against their immediate success.

~

Do you want happiness? 
Then ask your mind to love sincerity. 
Do you want happiness? 
Then ask your mind to love simplicity.
Do you want happiness? 
Then ask your mind to love serenity.
Do you want happiness? 
Then ask your mind to love purity.

~

Every day I pray to God   
To turn my mind into a serenity-flower, 
My heart into a purity-flower 
And my life into a simplicity-flower.

~

Happiness means
The serenity 
Of the mind.

~


Where is Heaven,   
If not in the serenity of the mind, 
Purity of the heart 
And simplicity of the life?


ของ : Sri Chinmoy




หากจักแสวงหา.................  ลุแดนฟ้าสุราลัย
ก็ย่อมจักพบใน.................... กระจ่างใสกลางดวงมาน
ที่ผ่องผุดพิสุทธิ์ศรี................... ณ ฤดีรื่นสราญ
และชีวันอันยาวนาน................... ก้าวล่วงผ่านอย่างติดดิน





แปลโดย เทาชมพู



http://www.srichinmoypoetry.com/poems_quote/poems_serenity
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 29, 2013, 03:32:32 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:38:48 am »


Some people..

..come into our lives and quickly go.
Some stay for awhile
And leave footprints on our hearts ...
And we are never, ever the same.

Author Unknown




บางคนผ่านเข้ามาแล้วลาจาก
บางคนฝากรอยรำลึกให้นึกถึง
แนบประทับกับชีวาอย่างตราตรึง
ชีวิตจึงแปรผัน....แต่นั้นมา


แปลโดย เทาชมพู

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2015, 09:17:15 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:40:24 am »





LIFE IN A LOVE

Escape me?

    Never--

    Beloved!

    While I am I, and you are you,
    So long as the world contains us both,
    Me the loving and you the loth,
    While the one eludes, must the other pursue.

    My life is a fault at last, I fear:
    It seems too much like a fate, indeed!
    Though I do my best I shall scarce succeed.

  But what if I fail of my purpose here?
  It is but to keep the nerves at strain,
  To dry one's eyes and laugh at a fall,

  And, baffled, get up and begin again, - -
  So the chace takes up one's life, that's all.

  While, look but once from your farthest bound
  At me so deep in the dust and dark,

  No sooner the old hope goes to ground
  Than a new one, straight to the self-same mark,

  I shape me--

  Ever

  Removed!


(R. Browning)


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:41:49 am »





"ชีวิตเริงรื่นในคลื่นรัก"

"คิดจะหลีกหนีจากข้า ฤ?
อย่าเลย
สุดที่รัก
เมื่อข้ายังเป็นข้า และเจ้ายังเป็นเจ้า

ตราบเท่าที่เราทั้งสองยังเริงรื่นในพิภพนี้
ข้าคือผู้หยิบยื่นซึ่งความรัก แม้เจ้าจักเมินหน้าหนี
เมื่อคนหนึ่งนี้หลบหลีกซ่อนเร้น อีกคนต้อง
ตามติดประชิดตัว

ข้ายอมรับว่า ชีวิตนี้หาได้ไร้ราคีรอยตำหนิ
แม้จักทำดีที่สุด แต่มิอาจประสบความสำเร็จได้ตลอด
ยามที่มิสามารถเอื้อมไขว่คว้าให้ได้สิ่งที่มุ่งหมาย

ข้าจะมีเพียงความรุ่มร้อนทนทุกข์ใจชั่วขณะ
ซับหยาดน้ำตาที่ร่วงริน แล้วหัวเราะให้กับการพลาดล้ม
แลผิดหวัง
แค่รำพัน พร้อมที่จะลุกยืน และเริ่มใหม่อีกครา

เพราะสิ่งที่เกิดเป็นเพียง
โชคชะตาเล่นตลกผกผันกับชีวิต..เท่านั้นเอง
หากเจ้าเหลียวมองสักครั้ง แม้สายตาจะเย็นชา

แลดูข้าพลาดล้มคลุกธุลี อีกจมปลักในความมืด
เจ้าจะแลเห็น ในทันทีที่ความหวังเก่าของข้า
จางเลือนลางหาย

พลันเกิดความคิดฝัน
มุ่งหวังใหม่ ย้อนกลับทับซ้อนรอยเดิม

ข้าคือผู้กำหนดชะตาตัวข้าเอง !
ความหวังความรักคราก่อน

ไม่เหลือให้ค้างคาใจ !"



       


คุณนวล ผู้แปล
ติหลาอรสา ผู้นำมาแบ่งปัน


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:44:01 am »



คิดหนีจากข้าฤ   อย่าหวัง เลยนา
ตราบเจ้าและข้ายัง     ไป่สิ้น
ข้ารัก หากเจ้าชัง      คิดหลีก ข้าเฮย
จะฉีกโลกเป็นชิ้น      จับเจ้ามาครอง

แม้นหากว่าสุดท้าย     จะจมถลำ
คงเป็นเพราะชะตากรรม  แน่แท้
เททุ่มสุดแรงทำ       ยังพลาด
เจ้าคิดว่าผู้แพ้    อย่างข้าจะทำไฉน?


กล้ำกลืนความคั่งแค้น   ลงคอ
ปาดหยาดน้ำตาคลอ    หัวร่อร้าย
ประกาศก้องจะขอ     ยืนใหม่
ไล่ล่าเจ้าให้ได้  เริ่มต้นอีกหน


หากแต่ว่า.. เมื่อข้า   หม่นหมอง..
เจ้าจะหันมามอง       สักครั้ง..
ข้าจะข่มใจปอง..        ณ บัด นั้นนา..
สงบจิตเลิกคิดรั้ง   ชั่วฟ้าดินสลาย...



By : CrazyHOrse

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2015, 09:04:58 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: หากเหนื่อยนัก..ก็พักหน่อย.แล้วค่อยไป ! (๒)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 09, 2011, 08:45:51 am »

นกพลัดถิ่น

  ๐สรวงสรรค์เสกสร้าง                 ให้ร้างห่างถิ่น
เป็นนกผกผิน                            โผบินถิ่นไกล
จากแคว้นแดนเถื่อน                    จากเรือนอาศัย
ป่าดงพงไพร                             บินไกลสู่เมือง

 ๐ไร้ญาติขาดมิตร                       คู่คิดชิดเชื่อง
เมืองกรุงรุ่งเรือง                         แต่แห้งแล้งใจ
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า                    น้ำตาหลั่งไหล
หันหน้าหาใคร                           กลับไร้ใครแล

 ๐ปีกหักพักเจ็บ                         หนาวเหน็บเจ็บแผล
ร้าวทรวงดวงแด                        ท้อแท้ทุกข์ทน



 ๐มีใครคนหนึ่ง                         ผู้ซึ่งมาสน
เอื้อมมือลูบบน                          ปีกขนนกจร
ป้อนข้าวป้อนน้ำ                        ตรากตรำทำขอน
ให้นกน้อยนอน                         เฝ้าสอนวิชชา

 ๐ดุจน้ำทิพย์หลั่ง                      จากฝั่งฝากฟ้า
รินรดหยดมา                            สู่หล้ากันดาร
น้ำตานกไหล                            แต่ใช่ร้าวราน
ไหลจากดวงมาน                       เพราะเอมเปรมปรีด์

 ๐จึงขอตั้งสัตย์                         นับถัดบัดนี้
จักรักภักดี                               กายพลีแทนคุณ
ไม่คิดหยามยศ                         ขี้รดเรือนบุญ
ขอทดแทนคุณ                         ที่หนุนจุนเจือ ฯ


                 วิชชุมมาลาฉันท์
                 ถ้อยคำโดย หมูน้อยในกะลา
                 reurnthai.com/สัมผัสจินต์ สัมผัสใจ << < (12/65)



 
ดังนกสื่อสาร       ขับขานเรื่องควร
ให้รู้เรื่องล้วน       สิ่งควรของเรา
กตัญญูดี              มีมาก่อนเก่า
สืบทอดนานเนา  เข้าทางศีลธรรม

อีกข้อต่อเนื่อง     เรื่องจริงหนุนนำ
รู้คุณจดจำ            หาทางตอบแทน
เป็นสิ่งควรยอ      ยกย่องเหลือแสน
ให้เด่นทั่วแดน     ทุกแคว้นเล่าลือ



อดีตกาลก่อน     พระสอนให้ถือ
เฒ่าแก่ ฝึกปรือ  สืบทอดกันมา
ลูกหลานเหลนด้วย ช่วยกันรักษา
คำสอนธรรมมา  ล้วนคุณงามดี

ปัจจุบันแล้ว        โลกเราหมุนหนี
หมุนห่างสิ่งดี      นานาจิตตัง
ความเห็นต่างแปลก แหวกแนวจริงจัง
ต่างคิดขึงขัง      สิทธิเสรี..

อนาคตจ๋า          อาทรให้ที
ดูแลคนดี           พ้นภัยต่ำทราม
เพาะปลูกโพธิ   เจริญงอกงาม
ให้เหล่าลูกหลาน พบธรรมบ้างเทอญ..ฯ   


narasak sudram
กระดานดำ G+ - Feb 1, 2015



อยุธยาศิลป์เสกสร้าง     สรวงสวรรค์
วิจิตรพิพิธพรรณ        ประดับหล้า
งามประดุจเทพสรรค์     ประจงแต่ง
ลือเลื่องเรืองข้ามฟ้า     สู่ฟ้าสืบสมัยฯ

๐ อยุธยายศล่มน้ำ       จมหาย แลฤๅ
ปราสาทปรางค์เจดีย์ราย    ร่ำไห้
บุญเพรงพระคงคลาย      ขลังร่วง แล้วแฮ
ยังแต่บารมีไท้          ผ่อนให้เป็นเบา ๚ะ๛

CrazyHOrse
* http://www.reurnthai.com/index.php?topic=2061.285;wap2
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 03, 2015, 02:02:09 pm โดย ฐิตา »