อากาศแปรปรวนทั่วโลก อเมริกาหนาวจัด น้ำแข็งขั้วโลกละลาย
อากาศหนาวจนทำให้รถเกาะด้วยน้ำแข็ง ในนิวยอร์ค
แม่น้ำ
แม่น้ำเดลาแวร์เต็มไปด้วยแผ่นน้ำแข็งบาง ในนิวเจอร์ซีย์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก worldculturepictorial.com, whatsonsanya.com
เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล์ ของอังกฤษ รายงานว่า สภาพอากาศหนาวจัดปกคลุมหลายพื้นที่ในสหรัฐฯ ทำให้ประชาชนเสียชีวิตจากความหนาวเย็นแล้ว ขณะที่น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หมีขั้วโลกดิ้นรนว่ายน้ำกว่า 10 วันเพื่อหาอาหาร และมีร่างกายผ่ายผอมลงมาก
รายงานระบุว่า ปีนี้ หลายพื้นที่ทั่วโลกมีภูมิอากาศแปรปรวนมากที่สุดตั้งแต่เคยเป็นมา โดยในสหรัฐฯ มีอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรอบ 30 ปี ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในหลายรัฐทางเหนือและทางตะวันออกของสหรัฐฯ มีอากาศหนาวจัดเนื่องจากกระแสลมจากขั้วโลกเหนือได้พัดมาปกคลุม และทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวมีสภาพอากาศหนาวเย็นผิดปกติตั้งแต่เดือน ธันวาคมปีที่แล้วเรื่อยมา จนถึงขณะนี้ หลายรัฐทางตะวันออกของสหรัฐฯ มีอากาศหนาวจัดอุณหภูมิเฉลี่ยติดลบ 45 องศาเซลเซียสแล้ว และมีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศหนาวเย็นกว่า 4 ราย รายแรก คือ เดนิส โอฮารา วัย 50 ปี ถูกพบเป็นศพแช่แข็งบนถนนแห่งหนึ่งในรัฐคอนเนคติกัต รายที่สอง คือ อลัน เคิร์ตซ วัย 49 ปี เสียชีวิตหลังจากนอนหลับในรถที่อุณหภูมิโดยรอบติดลบ และอีก 2 ราย เป็นสองพี่น้องวัย 12 และ 9 ขวบ เสียชีวิตหลังจากตกลงไปในบ่อน้ำแข็งหนาวจัด
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้แพทย์ในสหรัฐฯ ออกเตือนประชาชนให้ใส่ใจดูแลสุขภาพ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายมากขึ้น และพยายามหลีกเลี่ยงการออกไปสัมผัสความหนาวเย็นภายนอกบ้านหากไม่จำเป็น ขณะที่บรรดาคุณครูในโรงเรียนก็เตือนผู้ปกครองให้ดูแลการแต่งกายของนักเรียน เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเฝ้าระวังยวดยานพาหนะที่อาจมีน้ำแข็งเกาะปกคลุมในตอนกลางคืน ด้วย
ส่วนทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ก็ให้ข้อมูลว่า หลายพื้นที่ในสหรัฐฯ เช่น บอสตัน นิวยอร์ค ชิคาโก นิวออร์ลีน ฟิลาเดลเฟีย แอตแลนตา และไมอามี จะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติแบบนี้ไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และฤดูหนาวปีนี้ก็จะกินเวลานานกว่าทุกปี โดยอาจไปสิ้นสุดประมาณเดือนเมษายนก็เป็นได้
หิมะตกในพม่า
หิมะตกหนักทางตอนเหนือของพม่า
ทั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่สหรัฐฯ เท่านั้นที่กำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติ แต่หลายประเทศทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับความหนาวเย็นไม่ต่างกัน เช่นทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน มีอากาศหนาวเย็นที่สุดถึงติดลบ 45 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าหนาวที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ส่วนทางตอนเหนือของพม่า ก็มีหิมะตกหนักที่สุดตั้งแต่เคยเป็นมา และที่เวียดนามก็เผชิญกับภัยหนาวรุนแรงกว่าทุกปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 7 ราย และวัวควายตายไปอีกกว่า 2 หมื่นตัว
แต่ในขณะที่อุณหภูมิในหลายพื้นที่ทั่วโลกกำลังลดลงผิดปกติ บริเวณขั้วโลกกลับมีอุณหภูมิสูงขึ้น จากความร้อนของแสงอาทิตย์ ทำให้มีน้ำแข็งละลายในปริมาณมากขึ้นจนน่าตกใจ และหมีขั้วโลกก็กำลังลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากน้ำแข็งละลาย เร็วมาก ทำให้เวลาพวกมันว่ายน้ำออกจากฝั่งไปหาอาหารแล้ว ก็กลับเข้าฝั่งไม่ทันและจมน้ำตายในที่สุด อีกทั้งพวกมันยังขาดแคลนอาหาร มีน้ำหนักตัวน้อยลงกว่าเดิมมาก และล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาเรื่องราวของหมีขั้วโลกในอลาสก้า และแคนาดา ซึ่งมีอยู่กว่า 25,000 ตัว พบว่า ภาวะน้ำแข็งละลายทำให้หมีขั้วโลกต้องว่ายน้ำในระยะทางที่ไกลขึ้นเพื่อออกล่า แมวน้ำ โดยพวกมันต้องว่ายน้ำเป็นเวลากว่า 10 วัน เป็นระยะทางกว่า 680 กิโลเมตร เพื่อออกหาอาหารและกลับเข้าฝั่ง ซึ่งเมื่อว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งก็พบว่าฝั่งที่พวกมันจากมามีระยะทางไกลขึ้นมาก เพราะน้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำหมด สุดท้าย หมีขั้วโลกหลายตัวก็ต้องอดตายและจมน้ำตายไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือ หากรอดชีวิต พวกมันก็ต้องประสบปัญหาในการล่าแมวน้ำเพื่อดำรงชีวิต จนทำให้พวกมันมีร่างกายผ่ายผอมลงจนน่าตกใจ และมีภูมิต้านทานร่างกายน้อยลง อีกทั้งยังทำให้สมรรถภาพในการสืบพันธุ์ของมันด้อยลงอีกด้วย โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่า หากพวกมันยังคงอดอยาก และเผชิญกับปัญหานี้ต่อไป พวกมันก็จะลดจำนวนลงเรื่อย ๆ และสูญพันธุ์ไปในที่สุด
หมีขั้วโลก
หมีขั้วโลกกับพื้นที่น้ำแข็งเล็ก ๆ
หมีขั้วโลก
หมีขั้วโลกกำลังว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอด