ขอโทษให้บ่อยขึ้น เพื่อชีวิตคู่ยืนยาว
ขอโทษค่ะที่รัก (Teen, Kids & Family)
โดย สราญดี
การขอโทษก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำลงไป แม้ไม่มีเจตนาก็ตาม
เรามาเล่นเกมภาษากันหน่อยดีกว่าค่ะ คำไหนที่เราอ่านออกเขียนได้แต่พูดยาก คนทั่วโลกเป็นคล้าย ๆ กัน เฉลยเลยดีกว่ามี 2 คำ "ขอโทษ" กับ "ขอบคุณ" คำแรกพูดยากเพราะมันเสียศักดิ์ศรี คำหลังพูดยากเพราะเราใกล้ชิดกันจนลืมใช้ไปเลยไงคะ
สามี ภรรยาที่มีความผูกพันสนิทสนมอย่างลึกซึ้งน่าอิจฉา จากคนอื่นกลายเป็นคนกันเอง ถ้าความกันเองมีมากจนล้ำเส้นอีกฝ่ายหนึ่งบ่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดเป็นความเคยชิน เราจะทำตัวตามสบายเต็มที่เมื่ออยู่กับคนที่สนิทมาก ๆ และจะรู้สึกว่าการขอบคุณหรือขอโทษเป็นเรื่องของมารยาท ไม่จำเป็นต้องใช้กับคนใกล้ตัว กลายเป็นว่าพูดไปก็กระดากปากเปล่า ๆ
อย่าคิดว่าจะขอบคุณทำไมเรื่องขี้ผง ทำไปเถอะแล้วจะดีเองขอบอก เพราะการเอ่ยปากพูดหรือแสดงให้เขารู้ว่า เราขอบคุณในสิ่งดีๆที่เขาทำให้เราไม่ว่าจะมาในรูปสิ่งของ หรือการที่เขาดีกับเรา จะทำให้เขารู้สึกว่าเราเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาทำ ซึ่งจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม
คราวนี้ก็มาถึงการขอโทษตามชื่อเรื่องของเราดีกว่าค่ะ อยู่ด้วยกันร้อยวันพันปีไม่เคยได้พูดคำนี้ออกจากปากเลยเพราะเรามักจะคิดว่า ทะเลาะกันโกรธกันเดี๋ยวก็หายไปเอง อย่าลืมนะว่ามันไม่หายไปทุกเรื่องนะคะ
คำ ว่าขอโทษเนี่ยสำคัญขนาดนั้นจริง ๆ หรือ ความสัมพันธ์ของสองเราจะดื่มด่ำหรือดิ่งเหวด้วยคำสองคำนี้ใช่ไหม อยากรู้ลองฟังเรื่องราวชีวิตของ Beverly Engel ดูนะคะ
ตอน อายุ 35 ปี เธอตัดสินใจแน่วแน่ว่าต่อไปนี้จะตัดแม่ตัดลูกกับแม่โดยเด็ดขาด ไม่พูดไม่พบหน้ากันอีกเลยในชีวิตนี้ เพราะสะสมความเจ็บช้ำมานานแล้วว่า แม่ทำร้ายจิตใจต่าง ๆ นานา ความจริงทำเงียบ ๆ ก็แรงอยู่แล้ว เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจเจ้าตัว เธอยังเขียนหนังสือ Divorcing a Parent เล่าประสบการณ์ให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอบ้าง แล้วในหนังสือยังมีข้อแนะนำคนอื่น ๆ ด้วยว่าจะตัดขาดจากพ่อแม่ตัวเองอย่างไร เห็นชื่อหนังสือแล้วรู้สึกว่าเกรี้ยวกราดจริง ๆ ไม่รู้ว่าต้องเอาหนังสือแช่น้ำเย็นก่อนอ่านด้วยหรือเปล่า (ถ้าประสบชะตากรรมเดียวกับเธอ อย่าพยายามไปหามาอ่านเลยค่ะ แผ่เมตตาง่ายและดีต่อสุขภาพจิตกว่ากันเยอะ)
อยู่มาวันหนึ่ง แม่ของเธอก็โทรศัพท์มาพูดว่า "แม่ขอโทษ" เธอ บอกว่าพอได้ยินคำนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คั่งค้างอยู่ในใจทั้งความเจ็บแค้น ความโกรธ หรือความเกลียดแม่มลายหายไปในทันที เธอรู้ว่าแม่ต้องใช้ความกล้าหาญมากที่จะพูดคำ ๆ นี้ ออกมาอย่างจริงใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่ไม่เคยขอโทษเลย เธอบอกว่าชีวิตไม่ใช่นิยาย แม่เธอก็ยังเป็นแม่คนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นแม่ดีเด่นไปใน ชั่วพริบตา แต่คำขอโทษของแม่ช่วยรักษาแผลใจ ประสานรอยร้าวในความสัมพันธ์ของแม่กับลูก และเปลี่ยนแปลงชีวิตของ Beverly ไปโดยสิ้นเชิง
แล้วเธอก็เขียนหนังสืออีกเล่ม ชื่อ The Power of Apology เพราะเวลานี้เธอเป็นคนที่รู้ซึ้งถึงอานุภาพของการขออภัยคนอื่นที่สุดคนหนึ่ง ไปเรียบร้อย ส่วนเล่มแรกไม่มีรายงานว่าเธอต้องไปกวาดคืนจากแผง หรือกลายเป็นว่าขายดีทั้งสองเล่มไปก็เกินคาดคะเน
หวังว่าเราคงไม่ได้ทำให้คนที่เรารักต้องรู้สึกเจ็บแค้นฝังลึกอย่างคุณ Beverly นะคะ เอ๊ะ หรือที่คุณกำลังหนาว ๆร้อน ๆ อยู่นี่ก็เพราะอาจจะทำอะไรผิดแล้วละเลยการขอโทษไปหรือเปล่า
ทำไมการขอโทษถึงยากนักหนาสำหรับเรา ก็มีหลาย ๆ อย่างปนกันน่ะนะคะ ทั้งไม่อยากเป็นผู้แพ้ กลัวเสียหน้า เสียเชิง กลัวเสียอำนาจหรือการยอมรับนับถือ และกลัวการยอมรับว่าตัวเราเองเป็นฝ่ายผิด ซึ่งความกลัวจำพวกนี้เป็นเรื่องที่เราเข้าใจผิดไปเอง การขอโทษสิคะคือความกล้าหาญและมีศักดิ์ศรี เมื่อขอโทษคนที่เรารัก เขาก็จะอภัยให้ไงคะ คนที่เราขอโทษก็จะรู้สึกดีกับเรามากขึ้น แล้วถามตัวเองดูหน่อยว่าเราเป็นคนธรรมดาทำผิดบ้างจะเป็นไร เวลาคุณเจอคนประเภทข้าถูกอยู่คนเดียว แล้วรู้สึกว่าเขามีเสน่ห์น่าอยู่ใกล้ หรือเข้าวงไหนวงแตกฮือ
ถ้าการขอโทษไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราอีกต่อไป หมายความว่าเรายอมตัวเองว่าไม่ใช่คนที่ถูกต้องเสมอและเป็นคนที่มีข้อบกพร่อง อยู่ในตัวบ้างเหมือนคนอื่น ๆ แล้วเรายังเป็นคนที่ยอมรับว่าตัวเองไม่ได้รู้อะไรดีไปทุกอย่าง ไม่ได้ถูกอยู่ตลอดเวลา เราจะรู้ ไม่รู้ หรือไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คนที่เรารักเจ็บช้ำน้ำใจหรอกค่ะ แต่ถ้าเมื่อใดที่เราทำผิดหรือพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด ใครจะรู้ว่าเขาจะสะสมตะกอนไว้ทีละเล็กทีละน้อยหรือเปล่า ขอโทษกันเถอะ เพื่อช่วยให้เขารู้สึกสบายใจขึ้น
เวลาเราสองคนทะเลาะกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ประจำวัน เพราะฉะนั้นมันก็เลยไม่สำคัญว่าใครจะเป็นฝ่ายเริ่มหรือเป็นคนผิด การขอโทษเขาก่อนช่วยให้คืนดีกันง่ายกว่า ไม่โกรธกันนาน ๆ และรักกันมากขึ้น ทำไมต้องขอโทษในเมื่อไม่ใช่ความผิดของเราเลยแม้แต่น้อย เราไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ แต่เราใส่ใจในความรู้สึกของคนอื่น ถ้าการกระทำมีผลกระทบกระเทือนต่อเขา การขอโทษก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำลงไป แม้ไม่มีเจตนาก็ตาม
เราอาจจะสรรหาวิธีขอโทษกันหลายแบบ ชวนพูดก่อน ให้ลูกช่วยง้อ ทำตลกกลบเกลื่อน หรือซื้อของขวัญให้ ฯลฯ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ซีเรียสจริงจัง อย่าใช้ทางอ้อมค่ะ การเอ่ยปากขอโทษอย่างตรงไปตรงมา แสดงถึงความรู้สึกสำนึกเสียใจจริง ๆ และความจริงใจนี่ละจะเป็นตัวช่วยให้ความโกรธในใจเขาหายไปหมดไม่เหลืออะไรไว้ ค้างคาอีกต่อไป
ถ้าพร้อมขอโทษเมื่อ ไหร่ เราก็ต้องพร้อมจะรับฟังความรู้สึกของเขา ปล่อยให้เขาพูดออกมา ถึงเราไม่อยากฟังความผิดของตัวเองเท่าไหร่นัก ก็ต้องทำใจน้อมรับความผิด แล้วขอโทษ เขาก็พร้อมจะให้อภัยเราเช่นกัน
ขอโทษกันให้บ่อยขึ้นอีกนิด เพื่อให้ชีวิตรักยืนยาวไงคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Teen, Kids & Family
http://women.kapook.com/view20960.html