ผู้เขียน หัวข้อ: กล่องข้าวที่หายไป ^^จากใจของใครบางคน  (อ่าน 1538 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ rain....

  • ศรัทธาในสิ่งที่ค้นหา มั่นคงในสิ่งที่เป็น แบ่งปันในสิ่งที่ค้นพบ
  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 994
  • พลังกัลยาณมิตร 379
  • สุขลึกๆในความเหงา แม้จะโดดเดี่ยวแต่ไม่เคยเดียวดาย
    • ดูรายละเอียด
 :13: :13: :13: :13:
กล่องข้าวที่หายไป
 :19: :19: :19: :19:
ผมพลันรู้ตัวขึ้นมาทันทีว่า “กล่องข้าวสีฟ้า”
ที่เคยคิดว่ามันหายไปแล้วนั้น
แท้จริงมันไม่ได้หายไหนเลย...

----------------------------------------------------

ผมนำ “กล่องข้าว” ไปกินที่โรงเรียนครั้งแรกตอน ม.1
เหตุผลสำคัญจริงๆก็คือทำตามเพื่อน

ในชั้นเรียนนั้นมีเพื่อนนำอาหารมากินตอนพักเที่ยงกันกว่าครึ่งห้อง

ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง มีทั้งที่ใส่ปิ่นโต ใส่กล่อง และบางคนใส่ห่อมาก็มี
เมื่อถึงเวลาพักก็เอามาแลกเปลี่ยนแบ่งปันกันกิน

ถามเพื่อนว่าทำไมเอาข้าวมากิน
ส่วนใหญ่บอกว่าซื้อกินเองแพง ไม่มีเงินพอ

บางคนบอกว่าอาหารที่โรงอาหารไม่อร่อย กินของแม่อร่อยกว่า
เลยนำอาหารที่บ้านมาเอง และบางคนเห็นเพื่อนกินข้าวกล่องกันเยอะๆ
ดูแล้วสนุกดี ...

แถมบางคนก็เป็นเพื่อนสนิท ไม่อยากจะแยกกัน
ก็เลยเอามากินเป็นเพื่อนด้วย
ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มหลังนี้

ที่บ้านมีปิ่นโตอยู่แล้ว แต่ผมไม่สะดวกกับการหิ้วปิ่นโต เพราะบ้านอยู่ต่างอำเภอ
ขณะที่โรงเรียนอยู่ในตัวจังหวัด ถ้าต้องหิ้วปิ่นโต และโหนรถสองแถวด้วยคงลำบาก

แม่จึงซื้อกล่องข้าวอันใหม่ให้จำได้ว่าเป็นกล่องสีฟ้า
ข้างในนอกจากมีพื้นที่ใส่ข้าวแล้วยังแบ่งเป็นช่องเล็กๆ ใส่อาหารได้ถึง 3 ช่อง
สำหรับบางคน การห่อข้าวเป็นความสะดวกและเรียบง่าย

แต่กับผมไม่ใช่เพราะที่บ้านปกติ จะซื้ออาหารสำเร็จมาทาน
เนื่องจากแม่ผมไม่ค่อยแข็งแรง
ไม่สบายด้วยโรคมากมายรุมเร้า
ทั้งโรคหัวใจ โรคความดัน โรคอ้วน และไขมันในเส้นเลือดสูง

แต่ผมไม่อยากจะซื้อแกงถุงสำเร็จรูปเพราะธรรมเนียมของการกินข้าวกล่องที่โรงเรียน
คือต้องเป็นอาหารที่ทำมาจากบ้าน มีการชื่นชมและอวดฝีมือของแม่ๆกัน
ถ้าซื้อแกงไปก็เสียฟอร์ม

เมื่อผมบอกแม่ว่าอยากได้อาหารที่แม่ทำเองไปอวดให้เพื่อนเห็นฝีมือบ้าง
ท่านก็ยิ้มรับคำ
จากนั้นทุกเช้าแม่จะต้องฝืนสังขารลุกขึ้นมาหุงข้าวเตรียมอาหารให้

ปัญหาต่อมาคือ...
ตอนเด็กๆ ผมไม่กินผัก และไม่กินพวกไข่ต้ม ไข่เจียว แม่จึงต้องทอดไก่ ทอดเนื้อ
หรือทำแกงต่างๆ ให้ ซื่งต้องใช้เวลาและขั้นตอนต่างๆ นานพอสมควร...

แต่กระนั้น...
ทุกเช้า “กล่องข้าวสีฟ้า” ของผม ก็ถูกเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยเสมอ

...............................................

...แต่แล้วกินข้าวกล่องอยู่ได้ไม่นานนักผลก็ล้มเลิกโครงการนี้
เพราะรู้สึกอึดอัดกับคำถามและสายตาของคนรอบข้างเพราะเริ่มเป็นวัยรุ่น
จึงอายที่จะถูกมองว่าเป็นเด็กที่ห่อข้าวมากินเพราะความยากจน...

เมื่อกลับมาบอกยอกเลิกที่บ้าน โดยบอกเหตุผลว่าอายเพื่อนนั้น
แทนที่แม่จะโล่งใจเพราะไม่ต้องเหนี่อยอีก ท่านกลับอึ้งไปครู่หนึ่ง
แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา และจากวันนั้นมา...

ผมก็ไม่สนใจอีกว่าแม่จะเก็บกล่องข้าวสีฟ้าไว้ที่ไหน

...แม่ตายตอนผมเรียน ม.6 ไม่ทันอยู่จนเห็นผมเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
ทำงาน และมีครอบครัว ตามที่ท่านอยากจะเห็น

เราย้ายบ้านอีกหลายครั้ง
ทั้งข้าวของและคนในครอบครัวเริ่มกระจัดกระจายพลัดพรากกันไป ?

ไม่ใช่แต่เพียงกล่องข้าวใบนั้นหรอกที่หายไป...
ความทรงจำหลายอย่างก็สลายสูญ...
ขณะที่ชีวิตของผมก็ต้องดำเนินต่อไป

.....................................

...สองสามเดือนมานี้
ผมเริ่มทดลองที่นำอาหารจากบ้านใส่กล่องไปทานทำงานตอนพักเที่ยง แล้วก็ได้พบว่า

นอกจากจะได้ทานอาหารแนวสุขภาพที่เราควบคุมได้เต็มที่เพราะทำเองแล้ว
ยังสามารถช่วยประหยัดเงินได้มาก ซึ่งภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ค่อนข้างมีความจำเป็น

น่าแปลกที่การนำข้าวกล่องมากินครั้งนี้ผมไม่อายสายตาคนรอบข้างอีก...

หลังผ่านวันเวลาของชีวิต ผมเรียนรู้ว่า ถ้ากระทำในสิ่งที่มีเหตุผลพอ
ก็ไม่ต้องเกรงว่าใครจะหมิ่นหยาม...

ความหวั่นไหวมักจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราเริ่มดูถูกตัวเองต่างหาก

........................................................

เช้าวันนี้ ผมมองดูภรรยาจัดเตรียมอาหารใส่กล่อง
แค่ผัดผักบุ้งไฟแดงและปลาทูนึ่งสองตัวก็คงพออิ่มสำหรับมื้อเที่ยง

ร่างเล็กๆนั้นเคลื่อนไหวไปทั่วทั้งบริเวณครัวอย่างกระฉับกระเฉง
ทั้งๆที่เธอเองก็เพิ่งฟื้นไข้มาไม่นานนัก...

.........
...

ผมพลันหวนนึกถึงแม่ วูบขึ้นมา
เห็นภาพหญิงอ้วนวัยกลางคน ซ้อนทับอยู่กับภาพหญิงสาวร่างเล็กเบื้องหน้า...

แล้วน้ำใสในดวงตาผมก็ท้นเอ่อออกมา...
มองกล่องข้าวสีขาวเบื้องหน้า...

ผมพลันรู้ตัวขึ้นมาทันทีว่า
“กล่องข้าวสีฟ้า”
ที่เคยคิดว่ามันหายไปแล้วนั้น
แท้จริงมันไม่ได้หายไหนเลย...

เพียงแต่ผมค้นหามันพบ.....ช้าไปหน่อยเท่านั้นเอง....

..................................
.................................


--------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ คุณสุวรรณา ชัยพรแก้วมากครับ ที่ส่งเรื่องดีๆมาให้เราได้อ่านกัน...
และขอขอบคุณโพสจากบ้านใส่ใจ  http://www.carefor.org/content/view/163/151/

...........................................
"ข้าพเจ้า ขอถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่อุบัติขึ้นมาในโลก  ทุกๆพระองค์
พร้อมทั้งพระธรรม และ พระสงฆ์
ว่าเป็น  สรณะ  ที่พึ่งตลอดชีวิต" 
 

ออฟไลน์ ดอกโศก

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 862
  • พลังกัลยาณมิตร 595
    • rklinnamhom
    • ดูรายละเอียด
Re: กล่องข้าวที่หายไป ^^จากใจของใครบางคน
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 01:19:53 pm »
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่แสนน่าประทับใจค่ะ ^^
 
:13: