ผู้เขียน หัวข้อ: ปลงธรรมสังเวช หลวงพ่อชา  (อ่าน 1824 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
ปลงธรรมสังเวช หลวงพ่อชา
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 06:16:13 pm »




ปลงธรรมสังเวช
หลวงพ่อชา

      ระหว่างที่ได้เฝ้าดูแลรักษาพยาบาลโยมบิดาที่ป่วยหนัก กระทั่งถึงแก่กรรมนั้น หลวงพ่อได้พิจารณาถึงธาตุกรรมฐาน พิจารณาดูอาการที่สังขารทั้งมวลเกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมสลายไป เกิดความสังเวชใจว่า อันชีวิตย่อมสิ้นสุดลงแค่นี้หรือ จะยากดีมีจน ก็พากันดิ้นรนไปหาความตาย ซึ่งเป็นปลายทางของชีวิต ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นคุณสมบัติสากลที่ทุกคนจะต้องเผชิญ จะยอมรับหรือไม่ ก็ไม่เห็นหนีพ้นสักราย

      เมื่องานเผาศพโยมบิดาเสร็จสิ้นลงไปแล้ว หลวงพ่อก็เดินทางกลับสำนักวัดบ้านหนองหลักเพื่อศึกษาเล่าเรียนต่อ แต่บางวันบางโอกาสเมื่อได้ระลึกถึงภาพโยมบิดาที่นอนป่วยร่างซูบผอมอ่อนเพลีย นึกถึงคำสั่งของโยมบิดาและนึกถึงภาพที่ท่านสิ้นใจไปต่อหน้า ยิ่งทำให้เกิดความสลดสังเวชใจ ความรู้สึกเหล่านี้ปรากฏขึ้นเป็นระยะ ๆ ทำให้ท่านมั่นใจและปักใจแน่วแน่ว่า ชีวิตนี้จะต้องอุทิศให้กับการประพฤติปฏิบัติ เพื่อพาตัวเองให้พ้นทุกข์ในชาตินี้ให้ได้ จนถึงกับตั้งสัตย์อธิฐานกับตัวเองว่า

                       

      “เอาละ ชาตินี้เราจะมอบกายอันนี้ ใจอันนี้ ให้มันตายไปชาติหนึ่ง จะทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกประการเลย จะทำให้มันรู้จักในชาตินี้ ถ้าไม่รู้จักก็ลำบากอีก จะปล่อยวางมันเสียทุกอย่าง จะพยายามทำ ถึงแม้ว่ามันจะทุกข์ มันจะลำบากขนาดไหน ก็ต้องทำชีวิตในชาตินี้ให้เหมือนวันหนึ่งกับคืนหนึ่งเท่านั้น ทิ้งมัน จะทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า จะทำตามธรรมะให้มันรู้ ทำไมมันยุ่งยากนัก วัฏสงสารนี้...”

      ปีนั้น ท่านได้เริ่มแปลหนังสือธรรมบท อันเป็นหลักสูตรเปรียญ ๓ ในสมัยนั้นด้วย และได้เริ่มฝึกสมาธิ แต่เริ่มต้นก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก ดังนี้หลวงพ่อปรารภกับลูกศิษย์ว่า

    “ภาวนาปีแรกไม่ได้อะไร มีแต่ภาวนาอยากของกินวุ่นวายไปหมด แย่มากเหลือเกิน บางครั้งนั่งอยู่เหมือนได้กินกล้วยจริง ๆ รู้สึกเหมือนหักกล้วยเข้าปากอยู่อย่างนั้น มันเป็นของมันเอง เหล่านี้มีแต่เรื่องการปฏิบัติทั้งนั้น แต่ว่าอย่าไปกลัวมัน มันเป็นมาหลายภพหลายชาติแล้ว เราได้มาฝึกมาหัด ทุกอย่างแสนยากแสนลำบาก”

      คืนวันหนึ่ง ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ นั้น โยมแม่พิมพ์ได้ฝันไปว่า ฟันหลุดออกมา ๒ ซี่ รู้สึกเสียใจและเสียดายมาก แต่ทันใดนั้นมีคนมาบอกว่า “ไม่เป็นไรฟันธรรมดาหลุดออกก็ช่างมัน จะเอาฟันทองคำมาใส่ให้ใหม่” เมื่อรู้สึกตัวขึ้น ก็มีความสงสัยในความฝันนั้น อยู่ต่อมาปรากฏว่ามีต้นโพธิ์เกิดขึ้นข้างหลังปักราวบันไดบ้าน ต้นโพธิ์นั้นเจริญเติบโตเร็วผิดสังเกตุ ด้วยความแปลกใจระคนกับความดีใจและความสงสัย จึงได้เล่าให้ท่านพระครูฯ ที่วัดฟัง

     ท่านพระครูฯ ได้บอกโยมแม่พิมพ์ว่า “นับเป็นบุญของโยมที่มีต้นไม้ชนิดนี้มาเกิดขึ้น เป็นต้นไม้พันธุ์เดียวกับที่พระพุทธองค์อาศัยนั่งตรัสรู้ แต่ต้นโพธิ์ไม่ควรอยู่ที่บ้าน จะไม่เหมาะสม ควรนำไปปลูกไว้ที่วัด อันเป็นที่สักการะบูชาจะเหมาะสมกว่า”

    โยมแม่พิมพ์จึงสั่งให้ลูกชายคนเล็ก คือ นายบรรพต ช่วงโชติ กับชาวบ้าน นำต้นโพธิ์ไปปลูกไว้ที่วัดใหม่ทองสว่าง



-http://portal.in.th/i-dhamma/pages/10180/
Pics by : Google
อกาลิโกโฮม * สุขใจดอทคอม
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2013, 08:04:02 am โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ดอกโศก

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • *
  • กระทู้: 862
  • พลังกัลยาณมิตร 595
    • rklinnamhom
    • ดูรายละเอียด
Re: ปลงธรรมสังเวช หลวงพ่อชา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 07:44:05 am »
อนุโมทนา สาธุ ค่ะพี่แป๋ม

ชีวิตเรานี้มีแค่ชั่ววันหนึ่ง คืนหนึ่งเท่านั้น
เราเกิดและตายทุกวัน...แต่ไม่เคยได้สติ..

 :13: