ผู้เขียน หัวข้อ: วิกฤติแผ่นดินไหว  (อ่าน 2470 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานไตรสรณะสุจิปุลิ
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด
วิกฤติแผ่นดินไหว
« เมื่อ: มีนาคม 21, 2011, 09:52:55 pm »
เวลานี้ทั่วโลกเริ่มตระหนักกับพิษภัยของธรรมชาติที่มนุษย์ ไม่สามารถจะเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด เพราะอุทาหรณ์จาก แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 9 ริกเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ซัดบ้านเรือนและชีวิตประชาชนสูญเสียเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาไม่กี่นาที  เป็นที่ประจักษ์ว่า  จากนี้ไปภัยจากธรรมชาติจะกลายเป็นภัยพิบัติของมนุษยชาติที่สำคัญอีกปัจจัยหนึ่ง

จะว่าไปแล้วญี่ปุ่นเองมีการป้องกันและเตรียมรับมือเหตุการณ์ แผ่นดินไหวดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ก็หนีไม่พ้นความสูญเสียอยู่ดี ผลพวงที่ตามมาก็คืออาฟเตอร์ช็อกอีกหลายครั้งแม้จะมีความรุนแรงน้อยกว่าครั้งแรก แต่ก็เป็นที่หวาดวิตกว่า ประเทศญี่ปุ่นไม่ปลอดภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอีกต่อไป

ยังไม่รวม สารกัมมันตภาพรังสี และ ความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะตามมา เบื้องต้นธนาคารกลางญี่ปุ่นพยายามอัดฉีดเม็ดเงินเป็นจำนวนล้านล้านเยนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นครั้งที่สอง แต่ดูเหมือนจะไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ทุกอย่างยังอยู่ในความหวาดวิตกและไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

ทุกประเทศเกือบจะทั่วโลกมีความตื่นตัวในสองเรื่องด้วยกันคือการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และเหตุการณ์แผ่นดินไหว จะเกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ ประเทศไหนจะตกเป็นเหยื่อของธรรมชาติเป็นประเทศต่อไป
ประเทศไทยก็ใช่จะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญทางด้านแผ่นดินไหว ยอมรับว่าประเทศไทยเองก็ ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนของเปลือกโลก ถึง 13 จุดด้วยกัน จากเหนือสุดคือ จ.เชียงราย ไปจนถึงภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.กระบี่ เพียงแต่รอยเลื่อนบริเวณดังกล่าวไม่มีปรากฏการณ์ที่จะขยับเขยื้อนอย่างรุนแรงหรือเกิดขึ้นบ่อย  บางรอยเลื่อนอาจจะเกิด  90  ปีครั้ง  บางรอยเลื่อนเป็นร้อยปีหรือพันปี

ที่ผ่านมาแม้จะมี เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศไทย มาบ้างแล้วก็ไม่ถึงกับเป็นอันตราย แค่รับรู้และรู้สึกได้เท่านั้น ขนาดใกล้เคียง 5.9 ริกเตอร์ก็เคยเกิดขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า   การเกิดแผ่นดินไหวแต่ละครั้ง   จะส่งคลื่นสั่นสะเทือน เป็นความถี่ขนาดสูง ขนาดกลางและขนาดต่ำ ความถี่สูงจะมีผลต่ออาคารเตี้ยๆ ความถี่ต่ำจะมีผลกับอาคารสูงและความถี่ต่ำจะกระจายได้ไกลเป็นร้อยหรือถึงพันกิโลเมตร

ข้อสำคัญก็คือการก่อสร้าง อาคารสูงโดยเฉพาะใน กทม. ไม่มีการกำหนดให้สามารถรับกับความสั่นสะเทือนได้มากน้อยขนาดไหน อย่าลืมว่าแผ่นดินใน กทม.เป็นแผ่นดินอ่อน จึงเป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงได้มากกว่าในต่างจังหวัด

เราควรตื่นตัวในเรื่องเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน

เป็นคำถามที่น่าจะนำมาทบทวนมากกว่า นายกฯ หรือ รมต.คนไหนได้คะแนนไว้วางใจไม่ไว้วางใจมากน้อยกว่ากัน   เป็นเรื่องไร้สาระ   เพราะทุกวันนี้   นักการเมืองก็ไม่ได้มีอะไรเป็นสาระอยู่แล้ว.

 

หมัดเหล็ก

http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/157383
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...