ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมเพื่องาน-งานเพื่อธรรม  (อ่าน 1295 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ธรรมเพื่องาน-งานเพื่อธรรม
« เมื่อ: เมษายน 14, 2012, 07:11:51 am »
ธรรมเพื่องาน-งานเพื่อธรรม

ธรรมเพื่องาน-งานเพื่อธรรม

หน้าต่างศาสนา
พระมหาขวัญชัย กิตติเมธี สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ


การทำงานเป็นการใช้ชีวิตแบบหนึ่งที่เต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรคให้ต้องแก้ไขอยู่ตลอดเวลา บางปัญหาในการทำงานก็แก้ได้ด้วยตนเอง บางปัญหาต้องอาศัยความร่วมมือกับคนอื่นจึงแก้ได้ หรือบางปัญหาก็ต้องรีบเร่งให้ทันเวลาที่กำหนด แต่ทุกปัญหาล้วนสร้างประสบการณ์ทางธรรมะในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี

เราเคยสังเกตกันบ้างไหมว่า เราทุกคนล้วนมีวิธีการทำงานที่เปลี่ยนไปตามประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างถ้าวัดขนาดจากปริมาณเรี่ยวแรงกับความคิดที่ทุ่มเทลงไปแต่ละงานจะมีความแตกต่างกันเสมอตามอายุงานที่เพิ่มมากขึ้น

ยิ่งคนที่มีประสบการณ์อย่างผู้บริหารก็จะรู้ว่าต้องจัดวางตัวเองอย่างไรให้พอดีกับงานที่ทำ และสังเกตผู้บริหารส่วนใหญ่เวลาจะทำอะไรสักอย่างเขาเหล่านั้นจะต้องคิดวิเคราะห์งานนั้นอย่างละเอียด เมื่อเทียบกับการใช้แรงกายที่น้อยมาก เพราะการคิด เป็นการป้องกันความผิดพลาดได้ดีที่สุด

แต่หากผู้บริหารคิดน้อย อาศัยเพียงทุ่มเทแรงมากๆ เข้าไว้ เขาเหนื่อยมากก็จริง แต่ผลที่ได้อาจน้อย เมื่อเทียบกับเรี่ยวแรงที่ทุ่มเทลงไป

ด้วยจังหวะ เวลา และโอกาส เป็นสิ่งที่เราสั่งสมไว้ตลอดการทำงาน ยิ่งตำแหน่งสูงเท่าไร บางครั้งการทำน้อยได้มาก บางทีทำมากได้น้อย เหมือนคนเราที่อายุมากขึ้น

เหตุผลในการทำอะไรสักอย่างจะมากตามไปด้วยหรืออาจมาจากเรี่ยวแรงที่ลดน้อยลง แต่สติปัญญามากขึ้น จำต้องหวังผลที่ดีที่สุดสำหรับการลงแรงไปแต่ละครั้งนั่นเอง นี่คือธรรมะที่ได้จากการทำงานเจริญก้าวหน้าขึ้น

มีเรื่องเด็กคนหนึ่งที่ชอบคิดเวลาทำอะไร เขาจึงมักจะมีเหตุผลแจกแจงรายละเอียดก่อนจะเริ่มทำทุกครั้ง อย่างเวลาแม่สั่งให้กวาดถูบ้าน เขาก็จะนั่งคิดวิธีการกวาดที่ใช้แรงน้อยสุด แต่กวาดได้สะอาดสุด จนแม่ต้องลงมาทำเองพร้อมบ่นว่า 'ทำไมช้าอย่างนี้ แล้วจะทันกินอะไร'

เขาก็จะบอกเหตุผลว่า 'ก็พระมาสอนที่โรงเรียนบอกว่า เวลาจะทำอะไรให้เราคิดเยอะๆ ใช้ปัญญามากๆ จะได้ใช้แรงน้อยลงแต่ได้ประโยชน์มากขึ้น และข้อผิดพลาดน้อยลงไปด้วย'

อีกวันหนึ่งแม่ใช้ให้หยิบของ แต่เขาหาไม่เจอ แม่จึงบ่นขึ้น 'แม่ใช้ให้ไปหยิบอะไร ทำไมไม่เคยหาเจอสักอย่างเลยอยากรู้จริงๆ' 'ก็ผมกำลังมัวแต่ดูนิ้วนะซิครับ' เด็กชายตอบแบบใช้ความคิด 'นิ้วใคร' แม่ถามต่อ

'ก็นิ้วมือแม่นะซิครับว่าชี้ไปทางไหนผมจะได้เดินไปถูก เลยลืมฟังว่าแม่สั่งให้ไปเอาอะไร' เด็กน้อยตอบ แม่ได้แต่ส่ายหน้า 'แล้วอย่างนี้พระอาจารย์ท่านไม่สอนมาบ้างหรือไงว่าเวลาทำอะไรให้ฟังให้ละเอียดด้วยนะ'

'สอนครับ แต่ท่านสอนว่าหากใครใช้คนอื่นให้ทำอะไรแล้วเขาทำไม่ได้ ก็อย่าโทษคนอื่นเลย จงโทษตัวเองว่าเราสั่งไม่ดีต่างหาก' แม่ถึงกับส่ายหน้ากับวิธีคิดของเจ้าลูกคนนี้ เพราะไม่ว่าพระสอนอะไรกลายเป็นข้ออ้างได้ทุกครั้งไป

'ช่างคิดแก้ตัวได้เก่งจริงๆ เป็นนักคิดนะดีแล้ว แต่อย่าคิดอย่างเดียว ต้องทำด้วย จึงจะรู้ว่าที่คิดนั้นนะผิดหรือถูก' แม่แนะนำ

-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOVEUwTURRMU5RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdOQzB4TkE9PQ==-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)