ผู้เขียน หัวข้อ: รอยธรรมคำสอน หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป  (อ่าน 2280 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ lek

  • ต้นไม้ใหญ่ยืนหยัดมั่นคงดั่งภูผา
  • ****
  • กระทู้: 1724
  • พลังกัลยาณมิตร 687
    • ดูรายละเอียด
รอยธรรมคำสอน
หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป
วัดโพธิสมภรณ์ 
ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี

  

หลวงปู่...ขอบอกลูกหลานว่า 

นรกโลกนี้...ยังไม่เผ็ดร้อน 
เท่ากับนรกในภพหลัง 

สวรรค์ในภพนี้ ไม่สุขสงบร่มเย็น 
ไม่อุดมสมบูรณ์ไพบูลย์ 
เท่ากับสวรรค์ในภพภูมิอื่น 

...นี่คือความจริง...

 

บุญจะให้คุณ ต่อเมื่อผู้ให้ลืมไปแล้ว

 

ในทางโลกการได้มามากๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา
แต่ในทางธรรมการสละสิ่งที่มีมากๆ ให้หมดไป 
แม้แต่สิ่งละเอียดอ่อนภายในใจได้
ท่านว่า...ประเสริฐสุด

 

ถ้าในขณะที่จิตใจของเรามันยังโกรธอยู่ใจยังร้อนรนอยู่ 
ในขณะนั้นเราใช้ขันติคืออดไว้ซะก่อนอย่าเพิ่งพูด

 

ธรรมดาของชีวิต มีแล้วก็กลับไม่มีได้ 
โลกสลับกันไปมาเหมือนมืดแล้วสว่าง
อย่าเสียใจหรือดีใจกับสิ่งใดให้มากนัก

 

"การพูดมาก" แก้ปัญหาใดๆ ไม่ได้เลย
แม้กับปัญหาที่พอจะแก้ไขได้

 

คนที่ทำดีแต่ไม่ได้ดี 
เพราะเหตุผลหลายอย่าง คือ 

ทำดีไม่ถึงดี 
ทำดีเกินพอดี 
ทำดีผิดที่ทำดีเอาหน้า 
นึกว่าทำดีแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ดี 
ทำดีกับคนไม่ดี

 

คำว่า "เจริญก้าวหน้าทางธรรม"
มิใช่เจริญด้วยยศศักดิ์เหมือนทางโลก
หากหมายถึง "ใจ" ที่นิ่ง หนักแน่น มั่นคง คลายความยึดติดในโลก
หากผู้ใดยังหลงในยศศักดิ์ ก็ชื่อว่าหลงตนและหลงโลก
เพราะสิ่งนั้นเป็นของประจำโลก

 

ขอให้ลูกหลานทุกท่านได้ตั้งใจปฏิบัติจิตใจของตนให้สะอาด
ปราศจากความโลภความโกรธความหลง 
ซึ่งฝังอยู่ในดวงใจของเรามาตั้งหลายภพหลายชาติ 

มาชาตินี้เราได้เกิดเป็นมนุษย์ 
ดังนั้นจงรีบไปทำบุญทำกุศลสืบต่อไป 
เพื่อเป็นทางหากำไรของชีวิต 

เพราะชีวิตคนเรามันน้อยนัก ที่อยู่ถึงร้อยปีมันยาก

 

ดีกับเด่นอยู่คู่กัน ดีให้คุณ ส่วนเด่นให้โทษ
เราดีเขาดีด้วย เขาดีเราดีด้วย จึงดีจริง
ดีคนเดียวเรียกเด่นดัง มักเป็นภัยแก่ตัว

จงประจบคนด้วยงาน 
อย่าประจานความดีของใครให้มาเป็นความเก่งของตัว 

 

ความชั่วทุกอย่าง แม้ไม่มีใครเห็นก็ชั่ว
เพียงแต่จะชั่วเร็วหรือชั่วช้า
หากมีคนเห็นก็ชั่วเร็ว 
แต่ถ้ายังไม่มีคนเห็นก็ชั่วช้า 

 

คนดีพวกน้อย แพ้คนชั่วพวกมาก
ทำดีไม่ได้ดี เพราะยังทำไม่ถึงดี หรือทำเกินพอดี
ที่คนทำดีแล้วมักบ่นว่าไม่ได้ดี เพราะดีนั้น มีโทษ

เก่งคนเดียวเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ 
เก่งหลายคน สุขกายสุขใจ 
คนเก่งต้องมีไว้ คนดีต้องมีพร้อม

ความทุกข์ของคนประการหนึ่ง 
คือต้องการให้คนอื่นเป็นอย่างที่ตนเองคิด 
ขณะที่ตนก็เป็นอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็นไม่ได้

คนส่วนใหญ่แสวงหาทรัพย์สินสมบัติ ยศศักดิ์ บริวาร 
เพื่อสร้างความมั่นคงแก่ชีวิต กระทั่งลืมความมั่นคงของจิตใจ

เศรษฐกิจ จิตใจ ต้องเดินไปคู่กัน 

 

อย่าพูดอะไรเพียงเพราะเห็นว่าสนุกปาก 

 

ขณะพูดคุยกับใคร
พูดให้เขาฟังบ้าง หัดฟังเขาพูดบ้าง
ให้คนที่เราคุยด้วยรู้สึกว่าเขาเก่ง
มิใช่เราเก่งอยู่คนเดียว

 

กาลเวลาให้โอกาสแก่เราเสมอ 
ความผิดพลาดบางอย่างอาจเป็นโอกาสที่ดีกว่าของชีวิตได้ 
อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ

 

ความรักดูเหมือนหอมหวาน 
ความชั่วดูเหมือนเผ็ดร้อน 
ทั้งสองนี้เป็นอารมณ์
มีอำนาจเหนือเราเมื่อใด 
จะทำลายเราอย่างเจ็บปวดที่สุด

 

พายุร้ายทำอันตรายได้น้อยกว่า
วาจาส่อเสียด ยุแหย่ ใส่ร้าย นินทากัน

 

บัดนี้เรามีคุณงามความดีพอแล้วหรือยัง 
ถ้าจิตมันบอกว่ายัง 
ก็ให้พยายามสร้างวิริยะบารมีขึ้น
คือมีความพากเพียร

 

พูดพอประมาณ 
ไม่เสียงาน ไม่เสียเพื่อน 

 

ที่มา 
http://dhamatrail.blogspot.com
http://www.jaowka.com
http://guru.google.co.th/guru/thread?ti ... 0131786e5a