คลังธรรมปัญญา > ระบาย พรรณาด้วย ฉันทลักษณ์ กาพย์กลอน (อิสระ)

กลอนดอกสร้อย "รำพึงในป่าช้า"

<< < (2/3) > >>

ฐิตา:



16
Th' Applause of list'ning Senates to command,
The Threats of Pain and Ruin to despise,
To scatter Plenty o'er a smiling Land,
And read their Hist'ry in a Nation's Eyes.
๑๖.
คุณเอ๋ยคุณเหลือ
ผู้เอื้อเฟื้อเกื้อชาติซึ่งอาจหาญ
แน่วนับถือซื่อสัตย์ต่อรัฐบาล
ไม่เห็นการส่วนตัวไม่กลัวตาย
แสวงชอบกอบคุณอุดหนุนชาติ
กษัตริย์ศาสน์แม้ชีวิตปลิดวาย
ไว้ปวัตน์แก่ชาติญาตินิกาย
ได้อ่านภายหลังลือระบือ เอย.




17
Their lot forbad: nor circumscrib'd alone
Their growing Virtues, but their Crimes confin'd;
Forbade to wade through Slaughter to a Throne,
And shut the Gates of Mercy on Mankind.
๑๗.
ชาวเอ๋ยชาวนา
วาสนากั้นไว้ไม่วิตถาร
ไม่ชั่วล้นดีล้นพ้นประมาณ
สองประการนี้แหละขวางทางครรไล
คือไม่ลุยเลือนั่งบรรลังก์ราช
นำพินาศนรชนพ้นนิสัย
แต่ปิดทางกรุณาอันพาไป
ยังคุณใหญ่ยิ่งเลิศประเสริฐ เอย.




18
The struggling Pangs of conscious Truth to hide,
To quench the Blushes of ingenuous Shame,
Or heap the Shrine of Luxury and Pride
With Incense kindled at the Muse's Flame.
๑๘.
มักเอ๋ยมักใหญ่
ก่นแต่ใฝ่ฝันฟุ้งตามมุ่งหมาย
อำพรางความจริงใจไม่แพร่งพราย
ไม่ควรอายก็ต้องอายหมายปิดบัง
มุ่งแต่โปรยเครื่องปรุงจรุงกลิ่น
คือความฟูมฟายสินลิ้นโอหัง
ลงในเพลิงเกียรติศักดิ์ประจักษ์ดัง
เปลวเพลิงปลั่งหอมกลบตลบ เอย.

ฐิตา:


19
For from the madding Crowd's ignoble Strife,
Their sober Wishes never learn'd to stray:
Along the cool sequester'd Vale of Life
They kept the noiseless Tenor of their Way.
๑๙.
ห่างเอ๋ยห่างไกล
ห่างจากพวกมักใหญ่ฝักใฝ่หา
แต่สิ่งซึ่งเหลวไหลใส่อาตมา
ความมักน้อยชาวนาไม่น้อมไป
เพื่อนรักษาความสราญฐานวิเวก
ร่มเชื้อเฉกหุบเขาลำเนาไศล
สันโดษดับฟุ้งซ่านทะยานใจ
ตามวิสัยชาวนาเย็นกว่า เอย.



                       
20
Yet ev'n these Bones from Insult to protect
Some frail Memorial still erected nigh,
With uncouth Rhymes and shapeless Sculpture deck'd,
Implores the passing Tribute of a Sigh.
๒๐.
ศพเอ๋ยศพไพร่
ไม่มีใครขึ้นชื่อระบือขาน
ไม่เกรงใครนินทาว่าประจาน
ไม่มีการจารึกบันทึกคุณ
ถึงบางทีมีบ้างเป็นอย่างเลิศ
ก็ไม่ฉูดฉาดเชิดประเสริฐสุนทร์
พอเตือนใจได้บ้างในทางบุญ
เป็นเครื่องหนุนนำเหตุสังเวช เอย.




21
Their Name, their Years, spelt by th'unletter'd Muse,
The place of Fame and Elegy supply:
And many a holy Text around she strews,
That teach the rustic Moralist to dye.
๒๑.
ศพเอ๋ยศพสูง
เป็นเครื่องจูงจิตให้เลื่อมใสศานต์
จารึกคำสำนวนชวนสักการ
ผิดกับฐานชาวนาคนสามัญ
ซึ่งอย่างดีก็มีกวีเถื่อน
จารึกชื่อปีเดือนวันดับขันธ์
อุทิศสิ่งซึ่งสร้างตามทางธรรม์
ของผู้นั้นผู้นี้แก่ผี เอย.

ฐิตา:



22
For who to dumb Forgetfulness a Prey,
This pleasing anxious Being e'er resigned,
Left the warm Precincts of the cheerful Day,
Nor cast one longing ling'ring Look behind?
๒๒.
ห่วงเอ๋ยห่วงอะไร
ไม่ยิ่งใหญ่เท่าห่วงดวงชีวิต
แม้คนลืมสิ่งใดได้สนิท
ก็ยังคิดขึ้นได้เมื่อใกล้ตาย
ใครจะยอมละทิ้งซึ่งสิ่งสุข
เคยเป็นทุกข์ห่วงใยเสียได้ง่าย
ใครจะยอมละแดนแสนสบาย
โดยไม่ชายตาใฝ่อาลัย เอย.




23
On some fond Breast the parting Soul relies,
Some pious Drops the closing Eye requires;
Ev'n from the Tomb the Voice of Nature cries,
Ev'n in our Ashes live their wonted Fires.
๒๓.
ดวงเอ๋ยดวงจิต
ลืมสนิทกิจการงานทั้งหลาย
ย่อมละชีพเคยสุขสนุกสบาย
เคยเสียดายเคยวิตกเคยปกครอง
ละทิ้งถิ่นที่สำราญเบิกบานจิต
ซึ่งเคยคิดใฝ่เฝ้าเป็นเจ้าของ
หมดวิตกหมดเสียดายหมดหมายปอง
ไม่ผินหลังเหลียวมองด้วยซ้ำ เอย.




24
For thee, who mindful of th'unhonoured Dead
Dost in these lines their artless Tale relate;
If chance, by lonely Contemplation led,
Some kindred Spirit shall inquire thy Fate,
๒๔.
ดวงเอ๋ยดวงวิญญาณ
เมื่อยามลาญละพรากไปจากขันธ์
ปองแต่ให้ญาติมิตรสนิทกัน
คล่าวน้ำตาต่างบรรณาการไป
ธรรมดาพาคะนึงไปถึงหลุม
หรือที่ชุมเพลิงเผาเฝ้าร้องไห้
คิดถึงกาลก่อนเก่ายิ่งเศร้าใจ
ตามวิสัยธรรมดาเกิดมา เอย.


ฐิตา:




25
Haply some hoary-headed Swain may say,
Oft have we seen him at the Peep of Dawn
Brushing with hasty Steps the Dews away
To meet the Sun upon the upland Lawn.
๒๕.
ท่านเอ๋ยท่านสุภาพ
ผู้ใคร่ทราบสนใจศพไร้ศักดิ์
รู้เรื่องราวจากป้ายจดลายลักษณ์
บางทีจักรำพึงคิดถึงตน
มาม้วยมรณ์นอนคู้อยู่อย่างนี้
คงจะมีผู้สังเกตในเหตุผล
ปลงสังเวชวาบเสียวเหี่ยวกมล
เหมือนกับตนท่านบ้างกระมัง เอย.



26
There at the Foot of yonder nodding Beech
That wreathes its old fantastic Roots so high,
His listless Length at Noontide wou'd he stretch,
And pore upon the Brook that babbles by.
๒๖.
บางเอ๋ยบางที
อาจจะมีผู้เฒ่าเล่าขยาย
รำพันความเป็นไปเมื่อใกล้ตาย
จนตราบวายชีวาตม์อนาถใจ
อนิจจา! เห็นเขาเมื่อเช้าตรู่
ออกจากหมู่บ้านเดินสู่เนินใหญ่
ฝ่าน้ำค้างกลางนามุ่งคลาไคล
ผิงแดดในยามเช้าหน้าหนาว เอย.



27
Hard by yon Wood, now smiling as in Scorn,
Mutt'ring his wayward Fancies he wou'd rove,
Now drooping, woeful wan, like one forlorn,
Or craz'd with Care, or cross'd in hopeless Love.
๒๗.
ต้นเอ๋ยต้นกร่าง
อยู่ที่ข้างเนินใหญ่พุ่มใบหนา
มีรากเขินเผินพ้นพสุธา
กลางวันเขาเคยมาผ่อนอารมณ์
นอนเหยียดหยัดดัดกายภายใต้ต้น
ฟังคำรนวารีมี่ขรม
กระแสชลไหลเชี่ยวเป็นเกลียวกลม
เขาเคยชมลำธารสำราญ เอย.


ฐิตา:



   28
   One Morn I miss'd him on the custom'd Hill,
   Along the Heath, and near his fav'rite Tree;
   Another came; nor yet beside the Rill,
   Nor up the Lawn, nor at the Wood was he.
   ๒๘.
   ป่าเอ๋ยป่าละเมาะ
   ยังอยู่เยาะเย้ยให้ถัดไปนั่น
   เขาเดินมาป่านี้ไม่กี่วัน
   ปากรำพันจิตรำพึงคะนึงใน
   บัดเดี๋ยวดูสลดระทดจิต
   เหมือนสิ้นคิดขัดหาที่อาศัย
   หรือคล้ายคนทุกข์ถมระทมใจ
   หรือคู่รักร้างไม่อาลัย เอย.


                         
   29
   The next with Dirges due in sad Array
   Slow thro' the Church-way Path we saw him born.
   Approach and read (for thou can'st read) the Lay,
   Grav'd on the Stone beneath yon aged Thorn.
   ๒๙.
   ต่อเอ๋ยต่อมา
   ณ เวลาวันใหม่มิได้เห็น
   ทั้งกลางนากลางเนินเผอิญเป็น
   ใต้ต้นกร่างว่างเว้นเช่นเมื่อวาน
   เห็นคนหนึ่งเดินไปใจว่าเขา
   แต่ไม่เข้ากลางนามาสถาน
   ที่เขาเคยพักผ่อนแต่ก่อนกาล
   ทั้งไม่ผ่านป่าเล่าผิดเขา เอย.



   30
   There scatter'd oft, the earliest of the Year,
   By Hands unseen, are Show'rs of Violets found:
   The Red-breast loves to bill and warble there,
   And little Footsteps lightly print the Ground.
   ๓๐.
   ถัดเอ๋ยถัดมา
   เห็นเขาพาศพไปใจสลด
   เสียงประโคมครื้นครั่นน่ารันทด
   ญาติทั้งหมดตามมาโศกาลัย
   ทำการศพตบแต่งที่ระลึก
   มีบันทึกถ้อยคำประจำไว้
   อยู่ที่ดงหนามนั้นถัดนั่นไป
   ความอย่างไรเชิญท่านไปอ่าน เอย.


นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version