วันนี้..ของผู้หญิงที่เคยโดนเผา
ภาพของผู้หญิงที่ถูกพันธนาการด้วยผ้าพันแผลทั้งใบหน้าและลำตัว ปรากฏให้เห็นบนหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อปลายปี 2551 เพราะเธอโดนเผาทั้งเป็น!!
หลังเกิดเหตุได้ไม่นาน เราพบเธอที่โรงพยาบาลด้วยสภาพที่ทุกข์ที่สุด
ผ่านไปหลายปีแล้วซิ...
วันนี้เรามีโอกาสได้เจอเธออีกครั้ง ใบหน้าไม่มีน้ำตาเอ่อนอง แต่กลับเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส
นางสาวหัสยา เพ็ชรหิน "นาง" วัย 21 ปี เธอแต่งกายสดใสแล้วคุยกับเราด้วยความสุข
"วันนี้ไม่มีน้ำตาแล้วคะ" เธอบอก
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงไม่อยากให้เธอย้อนเล่าเรื่องราวในอดีต แต่วันนี้นางพร้อมที่จะเล่าเรื่องราวอันเลวร้ายอีกครั้ง
"นางคงเป็นคนโชคร้ายในความรัก แฟนซึ่งคบกันมา 2 ปี เป็นคนขี้หึงมาก คุยกับใครไม่ได้แม้กระทั่งผู้หญิง เวลาเห็นคุยกับใครจะโกรธ จะลงมือทำร้ายทุบตี เอามีดไล่ฟันก็มี เขาหึงจนเราทนไม่ไหว สุดท้ายต้องบอกเลิก"
ทันทีที่หญิงสาวบอกเลิก ชายคนนั้นกลับโกรธจัด โกรธจนลงมือเผาทั้งเป็น
"วันนั้นวันที่ 6 พฤศจิกายน 2551 เรากลับมาจากทำงาน เขามาที่ห้องขอเคลียร์ นางชวนเขาไปคุยกันที่หน้าห้องของนาง แต่เขากลับลากไปห้องเขาแล้วถามว่า ชอบคนอื่นเหรอ นางตอบว่าไม่ได้ชอบใคร เขาไม่เชื่อลงมือตบและเหวี่ยงตัวนางฟาดกับกำแพง แล้วราดน้ำมันใส่หน้าอกและจุดไฟเผาก่อนวิ่งหนีออกจากห้องไป"
เธอร้องสุดเสียงให้คนช่วย แต่ไฟลามอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่บั้นเอวขึ้นไปถึงหน้าอก หลัง แขน และใบหน้า เธอพยายามกระเสือกกระสนวิ่งเข้าห้องน้ำ เอาน้ำราดตัวจนไฟดับ
แล้วเธอก็สลบไป นางนอนห้องไอซียูโดยไม่รู้สึกตัวเกือบครึ่งเดือน
วันแรก...ที่นางรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมาในสภาพที่มีผ้าพันไว้ตั้งแต่ศีรษะลงไปถึงบั้นเอว นางนอนนิ่งเพราะรู้ชะตากรรม ความร้อนของไฟทำลายลึกลงไปถึงผิวหนังชั้นใน ตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ หน้าอก และหลัง แขนทั้ง 2 ข้างแนบติดกับลำตัวเพราะความร้อนของไฟทำให้เนื้อหลอมเข้ารวมกัน
รักษาตัวอยู่เดือนกว่า อาการดีขึ้นตามลำดับ เธอทำใจดีสู้เสือเดินไปในห้องน้ำเพื่อดูสภาพของตนเอง
"รับตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะหน้าตาที่เสียโฉม ปากเบี้ยว พอเห็นรูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้ ทำใจไม่ได้จริงๆ แผลเต็มตัวไปหมด"
เธอคร่ำครวญร้องไห้เสียใจจนคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่พระคุณของพ่อแม่ก็เรียก "สติ" ลูกสาวกลับมาได้
"ตอนนั้นรู้สึกบาปมาก ทำไม่ดีกับพ่อแม่สารพัด อารมณ์ไม่ดีก็ว่าท่าน โกรธท่าน แต่ท่านไม่เคยปริปากบ่นเลย ท่านทำให้สำนึกได้ และอยากทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนให้ท่านมีความสุข"
พอตั้งสติได้ ชีวิตของหญิงสาวคนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
"ตอนนี้เหรอ สบายมาก ไปไหนมาไหนปกติ ไปกรุงเทพฯ คนเดียว หาหมอคนเดียว หรือแม้แต่ใส่เสื้อผ้า อยากแต่งยังไงก็ใส่อย่างนั้น กางเกงขาสั้นก็ใส่แม้จะขาลายก็ตาม ถึงจะมีคนเคยบอกว่านางหน้าเหมือนผี แต่ไม่คิดมากช่างเขา ทุกอย่างในชีวิตเราจะดีหรือไม่ดีไม่ได้อยู่ที่ใคร แต่อยู่ที่ตัวเรา"
ทุกวันนี้ นางทำงานเป็นแม่บ้านให้กับญาติที่ จ.นครราชสีมา รอยไหม้ตามใบหน้าเนื้อตัวค่อยๆ ดีขึ้น แม้จะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม หากเธอก็พอใจ
"ชีวิตของนางดีขึ้นเรื่อยๆ ทำงานมีเงินส่งไปให้พ่อแม่ใช้ และช่วยส่งพี่ชายเรียนจนจบปริญญาตรีได้ด้วย"
ตอนนี้นางกำลังมุ่งมั่นเรียน กศน. ให้จบชั้นมัธยมปีที่ 6 มีความฝันอยากเปิดร้านอาหารอีสานของตัวเอง
"พอกลับมาคิด นางไม่เสียใจที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เพราะชีวิตทุกวันนี้ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ เมื่อก่อนตอนมีแฟนไม่มีความสุขเลย ถูกกระทำทุบตีเสมอ แต่เป็นอย่างนี้เรามีความสุข มีพ่อแม่ มีพี่ชายที่รักเรามาก แค่นี้นางก็ดีใจมากแล้ว" ผู้หญิงใจสู้บอก
"สิ่งที่เกิดขึ้นมันสอนให้เราต้องมีสติเพื่อต่อสู้กับความทุกข์ยากในชีวิต อยู่บนโลกนี้ต้องอดทนเข้มแข็ง ฝ่าฟันไปให้ได้ แล้ววันข้างหน้าจะดีขึ้นเอง" เธอกล่าวทิ้งท้าย
เพราะหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ในปี 2554 น.ส.หัสยา เพ็ชรหิน ได้เข้ารับรางวัลสตรีดีเด่นด้านการปกป้องสิทธิตนเอง เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี 2554 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ด้วย
ผลของการเผาผู้หญิงทั้งเป็น
หลังจากที่ผู้ชายคนดังกล่าวลงมือเผาทั้งเป็น นางสาวหัสยา เพ็ชรหิน อย่างเลือดเย็น จากนั้นเพียง 2 วันเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ ซึ่งเขารับสารภาพหมดเปลือกว่าตั้งใจทำจริงเพราะฝ่ายหญิงไม่ยอมคืนดีด้วย ศาลตัดสินให้ฝ่ายชายจำคุก 17 ปี
หน้า 25,มติชนรายวัน ฉบับวันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2554
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1306296324&grpid=01&catid=&subcatid=.