แสงธรรมนำใจ > ศิษย์โง่ไปเรียนเซ็น
ฮยากุโจและหมาป่า "เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
แปดคิว:
:46: :46: :45:
ฐิตา:
ฉันขอถามท่านอีกครั้งที่นี่ “ ถ้าคำตอบไม่ผิด แต่ละครั้ง
เขาจะกลายเป็นอะไร?”
ไขปริศนา คำวิจารณ์ของท่านมูมอน
ท่านมูมอนวิจารณ์ “ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล”
ทำไมถึงต้องกลายเป็นหมาป่า ?
“ไม่ละเลยกฎ” ทำไมถึงคืนจากร่างของหมาป่า ?
ถ้าเธอมีดวงตาที่เห็นแจ้งแทงตลอดเรื่องนี้
เธอจะรู้ว่า ประธานสงฆ์องค์ก่อนของวัดนี้มีชีวิตที่เปี่ยมสุข
แม้ในร่างหมาห้าร้อยปี
ด้วยคำวิจารณ์ยืดยาว ท่านมูมอน
สรุปความหมายของโกอานด้วยสองส่วน
ท่านฉลาดอย่างเด่นชัดในเรื่องจับหัวใจของเรื่องเพื่อลูกศิษย์
ประเด็นแรก ทำไมประธานสงฆ์องค์ก่อนจึงกลายเป็นหมาป่า เมื่อตอบว่า บุคคลผู้ตรัสรู้แล้วไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล แล้วจึงถามเพื่อตรวจสอบ “ทำไมท่านคืนร่างจากหมาป่าเมื่อตอบว่า บุคคลผู้ตรัสรู้แล้วไม่ละเลยกฎ?” กล่าวกันแต่โบราณว่า แก่นของเซนอยู่ที่คำถามว่า “ทำไม?” ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ฉันขอถาม โดยแท้จริงแล้ว ไม่มี ตกอยู่ภายใต้ ไม่มีกลับคืนร่าง จากจุดยืนนี้ อะไรที่กลับคืนจากร่างของหมาป่า ? และเป็นอะไรที่มีชีวิตอย่างหมาป่า ? เราต้องสืบสวนที่จุดนี้ให้ละเอียดยิบ ท่านมูมอนถามเราให้กวาดอุปสรรคต่างๆทิ้งให้หมด เช่นกลายร่างเป้นหมาป่า กลับคืนจากร่างของหมาป่า ฉันขอยกบทร้อยกรองของอาจารย์แต่โบราณอีกครั้ง เนื่องจากมันอาจชี้แนะแนวการศึกษาของเธอได้
ไม่ตกอยู่ภายใต้กฎแห่งเหตุและผล”
และท่านก็กลายร่างเป็นหมาป่า ความผิดแรก
“ไม่ละเลยกฎแห่งเหตุและผล”
และท่านก็กลับร่างจากหมาป่า ความผิดที่สอง
มูมอนพูดว่า “ถ้าเธอมีดวงตา” คือดวงตาแห่งธรรมะที่เห็นโดยพื้นฐานว่า พระพุทธเจ้าและสรรพสัตว์เป็นหนึ่งเดียวกัน ความบริสุทธิ์และความเศร้าหมองเป็นหนึ่งเดียวกัน จากจุดยืนที่สมบูรณ์ ทวิลักษณ์ต่างๆถูกข้ามไป นี่คือดวงตาที่สาม ถ้าเธอมีดวงตานี้คือดวงตาแห่งการตรัสรู้ เธอจะรู้ว่า ห้าร้อยชาติที่ประธานสงฆ์องค์ก่อนเป็นหมาป่า ก็มีความสุขดี เมื่อชายชราเป้นชายชราอย่างเต็มที่ ชีวิตก็มีความสุขและบรรลุถึงสุขคติ เมื่อหมาป่าอยู่เหนือ “ตกอยู่ภายใต้ และกลับคืนร่าง”และเป็นหมาป่าอย่างเต็มที่ ชีวิตก็มีความสุขและบรรลุถึงสุขคติ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ห้าร้อยชาติ แต่ความสุขนิรันดรทุกอายุและทุกที่จะเกิดขึ้น ไม่ต้องกล่าวมากไป คำวิจารณ์ของท่านมูมอน ตอบคำถามของโอบากุอย่างดียิ่ง
“หากแต่ละครั้งท่านเกิดตอบไม่ผิด ท่านจะเป็นอย่างไร?”
ไขปริศนา บทร้อยกรองของท่านมูมอน
ไม่อยู่ภายใต้, ไม่ละเลย คู่และคี่ อยู่ที่ลูกเต๋าเดียวกัน
ไม่ละเลย, ไม่อยู่ภายใต้ นับร้อยพันความเสียใจ
มูมอนสรุปคำวิจารณ์ไว้ในบทร้อยกรองนี้อีกครั้ง
จากจุดยืนของเซน ทั้ง “ไม่อยู่ภายใต้”, “ไม่ละเลย” เป็นเพียง “มัน” (แก่นแท้แห่งเซน ไม่ว่า”มัน”จะอยู่ที่ไหน เมื่อไร “มัน”ย่อมเป็นกฎแห่งเหตุและผลในตัวมัน ไม่มีสิ่งใดอยู่นอกเหนือไปจากสิ่งนี้ คู่และคี่อยู่ในลูกเต๋าลูกเดียวกัน หรือเป็นสองหน้าของเหรียญเดียวกัน แต่ หากพูดว่าเป็นหนึ่งเดียวหรือเป็นความเหมือนเดิม คนอาจยึดติดกับคำนี้ อาจจะพูดว่า ไม่ละเลย,หรือ ไม่อยู่ภายใต้ มันก็เป็นความเสียใจนับร้อยนับพัน๕
ฉันขอถามเธอท้ายนี้ว่า มันเป็นชีวิตชนิดไหน ที่มีนับร้อยพันความเสียใจ? อยากจะบอกว่า แก่นของโกอานนี้อยู่ที่บรรทัดสุดท้าย (ของย่อหน้าที่ผ่านมา-ผู้แปล) หัวใจของชีวิตทีเปี่ยมสุขห้าร้อยชาติซ่อนอยู่ตรงนี้
เริ่มแปล วันศุกร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
แปลเสร็จ วันอาทิตย์ที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
[๑] ชาวต่างชาติในที่นี้หมายถึง ท่านโพธิธรรม เพราะท่านเป็นชาวอินเดีย
[๒] เอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียว สหภาพ ความหลากหลาย
[๓] สังเกตว่า ใช้คำว่า “เขา” กับเสือ หมายถึงคนที่ปรีชาสามารถ ขนาดควรให้สมญาว่า เป็นเสือ
[๔] สมภาพ ความเหมือน
[๕] หากยังยึดติดกับ ไม่ละเลย หรือ ไม่อยู่ภายใต้ ก็ต้องประสบทุกข์อีกนับร้อยนับพันครั้ง
ฐิตา:
"เซ็น" วิถีแห่งการรู้แจ้ง
๑ ด่านที่ไร้ประตู
๒ พระพุทธองค์ทรงชูดอกบัว
๓ พบบุรุษแห่งมรรคระหว่างทาง(เล่ม ๒)
๔ ซุยกันเรียกตนเอง
๕ ฮยากุโจและหมาป่า
๖ โจชูเห็นธรรมชาติที่แท้ของสองอนาคาริก
ที่มา : http://www.dhamma4u.com/index.php/section-blog/63-zen/594-2009-12-08-10-24-17.html?start=4
Pics by : Google
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ
แก้วจ๋าหน้าร้อน:
:13: อนุโมทนาครับ ขอบคุณครับพี่แป๋ม
ฐิตา:
ด่านที่ไร้ประตู ลำดับการแปล ๑
ชื่อเรื่อง :เซนโจะแยกร่าง
โกอาน
โกโสะถามพระรูปหนึ่ง “ เซนโจะและวิญญาณของเธอแยกจากกัน อันไหนเป็นของจริง ?”
คำวิจารณ์ของมูมอน
ถ้าคุณรู้แจ้งถึงโกอานบทนี้ คุณจะรู้ว่าการออกจากเครื่องหุ้มกายอันหนึ่งแล้วก็หาอันใหม่มันก็เหมือนกับนักท่องเที่ยวชอบพักชั่วคราวตามโรงแรม ถ้าคุณยังไม่รู้แจ้ง ก็อย่ารีบร้อนอย่างคนตาบอด เมื่อธาตุทั้งสี่เสื่อมสลายอย่างฉับพลัน คุณจะเป็นเหมือนปูถูกโยนใส่น้ำร้อน ดิ้นรนด้วยแขนทั้งเจ็ดและขาทั้งแปด อย่าพูดว่าฉันไม่เคยเตือนคุณ
บทร้อยกรองของมูมอน
ความเหมือนอยู่นี่ ดวงจันทร์กลางหมู่เมฆ
ความต่างอย่างนี้ ขุนเขาและหุบเหว
ช่างน่าอัศจรรย์ น่าชมเสียจริง
นี่เป็นหนึ่งเดียวหรือ เป็นคู่
ไขปริศนา โกอาน
โกอานนี้ดูเหมือนธรรมดาๆ ในสมัยก่อนโกอานนี้ถูกใช้เป็น นันโตะโกอาน อาจารย์ โฮเอนต่อมาชื่อว่า อาจารย์โกโสะเพราะพักที่ภูเขานี้ ท่านบวชเป็นภิกษุเมื่ออายุ ๓๕ ปี เริ่มต้นด้วยการศึกษาปริยัติธรรมจนกลายเป็นปราชญ์ท่านหนึ่ง วันหนึ่งท่านอ่านตำราพบข้อความว่า “พระโพธิสัตว์เมื่อมองด้วยสายตาแห่งความรู้แจ้ง การปฏิบัติและหลักปริยัติถูกหลอมรวมกัน ปรากฏการณ์และแก่นแท้เป็นหนึ่งเดียวกัน และอัตวิสัยและภววิสัยก็ไม่ได้แยกกัน" ปราชญ์นอกศาสนาค้านว่า “ถ้าอัตวิสัยและภววิสัยไม่ได้แยกจากกัน จะพิสูจน์ความจริงกันอย่างไร”” แต่อาจารย์เกนโจะพูดว่า “เหมือนกับคนดื่มน้ำย่อมรู้ว่าน้ำเย็นหรือร้อนด้วยตัวเขาเอง”
อาจารย์โฮเอนพูดว่า “ฉันรู้ว่าน้ำร้อนหรือเย็น แต่ฉันไม่รู้ว่า “รู้ด้วยตนเอง” เป็นอย่างไร ” ท่านถามอาจารย์ แต่อาจารย์ไม่สามารถให้เข้ากระจ่างแจ้งแก่ท่านได้กลับพูดกับท่านว่า หากท่านต้องการคำตอบ ให้ลงไปทางใต้และถามอาจารย์เซน” ด้วยความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยว ท่านเดินทางพบอาจารย์เซนมากมาย ขณะที่ท่านศึกษาอยู่กับอาจารย์ฮะกุน ชูตัน มีพระองค์หนึ่งถามท่านอาจารย์แต่กลับถูกดุอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้กลายเป็นแรงบันดาลใจอย่างใหญ่หลวง ท่านจึงต้องการรู้ความจริงด้วยตนเอง ต่อมาท่านได้ยินโกอานว่า “มีพระเซนมากมายจากภูเขาโร ทั้งหมดล้วนรู้แจ้งแล้ว ถ้าเธอถามเขาจะตอบอย่างดียิ่ง หากถามโกอาน เขาจะตอบอย่างชัดเจน ถ้าให้เขาเขียนคำอธิบายเพราะๆ เขาก็เขียนได้อย่างดี แต่เขาก็ยังจับฉวย “มัน” ไม่ได้” คำไขปริศนานี้ทำความสงสัยอย่างใหญ่หลวงแก่โฮเอน ภายหลังศึกษาโกอานนี้อย่างหนักเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดท่านก็รู้แจ้งอย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้นยังขจัดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเซนจนหมดสิ้น ต่อมาภายหลัง ชื่อเสียงของท่านก็ค่อยๆขจรขยายไปในวงการเซน
เป็นเวลากว่าสี่สิบปีที่ท่านสอนศิษย์อย่างกระตือรือร้น วันหนึ่งท่านได้ประกาศลากลางที่ประชุม กลับกุฏิสรงน้ำปลงผมอย่างประณีตบรรจง วันรุ่งขึ้นก็มรณภาพโดยอาการสงบในปี พ.ศ.๑๑๐๔ ขณะนั้นท่านมีอายุกว่า ๘๐ ปี อาจารย์ เอนโกผู้รวบรวมโกอาน เฮกิกันโรกุ(บันทึกหินสีฟ้า)เป็นหนึ่งในศิษย์หลายท่านของท่าน
เรื่อง “เซนโจะและวิญญาณของเธอแยกจากกัน” เป็นตำนานสมัยราชวงศ์ถัง ในโกชูในจีนมีชายคนหนึ่งชื่อโชกัน เขามีลูกหญิงสองคน เนื่องจากคนแรกตายไป เขาจึงรักคนที่สองมาก และทำทุกๆอย่างเพื่อลูก เนื่องจากเธอสวยมาก หนุ่มๆหลายคนจึงอยากแต่งงานกับเธอ พ่อของเธอตกลงใจเลือกฮินเรียว และตั้งใจยกเซนโจะให้เขา เซนโจะกลับรักโอชูซึ่งเป็นหลานของโชกัน เมื่อโอชูยังเล็กอยู่วันหนึ่ง พ่อของเซนโจะพูดเล่นๆกับเขาว่า “โอชูและเซนโจะเข้ากันได้ดี เมื่อโตน่าจะแต่งงานกัน “ คำพูดนี้ทำให้เขาทั้งสองเชื่อว่าได้หมั้นกันแล้ว และเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็พบว่าเขาทั้งสองรักกัน
เซนโจะ ผู้ได้ยินโดยกะทันหันว่าพ่อหมั้นไว้กับฮินเรียว เกิดเสียใจและโศกเศร้าอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับโอชูซึ่งเมื่อรู้เรื่องก็ตัดสินใจหนีจากบ้าน เพราะเขาไม่สามารถอยู่ใกล้ๆเธอได้ เย็นวันหนึ่งเขา(โอชู)ก็จากบ้านอย่างเงียบๆไม่บอกใครแม้เซนโจะ เวลาเที่ยงคืนเขาเห็นเงาตะคุ่มๆวิ่งไปตามริมน้ำตามเรือของเขา เขาหยุดมอง และก็ดีใจอย่างที่สุด เมื่อพบว่าเป็นที่รักของเขานั่นเอง ทั้งสองกอดกันพร้อมทั้งน้ำตา เมื่อไม่สามารถกลับไปหาพ่อของเซนโจะได้ จึงหนีไปอยู่ที่โชกุและแต่งงานกัน
ห้าปีผ่านไป เซนโจะซึ่งกลายเป็นแม่ของลูกสองคน คิดถึงบ้านมาก วันหนึ่งจึงบอกกับสามี “เพราะรักเธอฉันจึงยอมมาอยู่กับเธอที่นี่ แต่ฉันไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นอย่างไรบ้าง ที่จากมาโดยพ่อแม่ไม่ยินยอม ฉันคงกกลับบ้านไม่ได้” โอชูก็คิดถึงบ้านเช่นกัน จึงพูดว่า “เรากลับโกชูและเขาขมาพ่อแม่ของเธอด้วยกัน” ทั้งสองเช่าเรือแล้วก็กลับบ้านเกิด
ทิ้งเซนโจะไว้ที่ท่าเรือ โอชูวิ่งไปที่บ้านของโชกัน ขอขมาในความผิด แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง โชกันรู้สึกพิศวง ถามโอชูว่า “เธอพูดถึงผู้หญิงคนไหน” “เซนโจะ ลูกของท่าน” โอชูตอบ โชกันกลับพูดว่า “ลูกฉันหรือ เซนโจะ ตั้งแต่เธอจากไปแล้ว เธอก็นอนป่วยอยู่บนเตียงแล้วก็พูดไม่ได้ “ โอชูเมื่อถูกถามก็พยายามอธิบาย “เซนโจะแน่ๆ เธอตามผมไปอยู่ด้วยกันที่โชกุ เธอมีลูกที่แข็งแรงสองคน ถ้าท่านไม่เชื่อก็ไปดูที่ท่าเรือ เธออยู่ที่นั่นกำลังรอผมอยู่”
โชกันรู้สึกพิศวงงงงวยอีกครั้ง ส่งคนใช้เก่าไปดู คนใช้บอกว่าจริง โชกันกลับบ้านก็พบว่าเซนโจะยังนอนอยู่บนเตียง เขาจึงเล่าเรื่องให้เซนโจะฟัง ด้วยความดีใจอย่างสุดขีด เธอลุกขึ้นจากเตียงโดยพูดอะไรไม่ออก ขณะนั้นเซนโจะซึ่งจากไปก็กลับมาด้วยเกวียน เซนโจะที่ป่วยออกจากบ้านไปพบอีกเซนโจะ ขณะที่เซนโจะจากเกวียนลงจากเกวียน ทั้งสองก็รวมเป็นคนเดียวกัน
โชกัน ผู้เป็นพ่อ จึงพูดกับเซนโจะว่า “ตั้งแต่โอชูจากหมู่บ้านนี้ไป เซนโจะไม่พูดแม้คำเดียว และปราศจากความรู้ตัวเหมือนคนเมา ขณะนี้ฉันเห็นแล้วว่า วิญญาณของเธอได้จากร่างของเธอไปแล้วไปอยู่กับโอชู” เซนโจะจึงตอบไปว่า “ฉันไม่รู้เลยว่าฉันป่วย เมื่อฉันรู้ว่าโอชูจากบ้านไปด้วยความทุกข์ ฉันก็ตามเรือของเขาไป ด้วยความรู้สึกราวกับฝันไป ฉันเองไม่แน่ใจว่า คนไหนเป็นตัวจริงของเซนโจะ คนที่อยู่กับพ่อ นอนป่วยอยู่บนเตียง หรือคนที่ตามโอชูไป”
นี่เป็นเรื่องย่อๆของ “เรื่องวิญญาณที่แยกกัน”
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version