“ คำว่าทางสายกลาง แปลว่าเราเห็นทั้งสองข้าง ...เห็นทุกข์ เห็นสุข....”
สุขก็อย่างนั้นๆ ทุกข์ก็อย่างนั้นๆ
เราไม่เข้าไปชอบหรือไปชัง...
เกลียดทุกข์ชอบสุข .....ไม่ต้องมีเลย
สุขก็คืออย่างนี้ ทุกข์ก็อย่างนี้
มันไม่เหมือนกัน แต่มันก็ไม่แตกต่าง
ดูให้ดีๆ....ทุกข์คือทนยากหน่อย ...สุขคือทนง่ายหน่อย
มันก็คือสิ่งปรุงแต่งทั้งนั้น...ใช่ของจริงที่ไหน...
สุขจริงหรือ....ไม่จริง
ทุกข์จริงหรือ....ไม่จริง
จะเห็นคว่ามไม่เที่ยง...เห็นเป็นทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้ ตั้งอยู่ไม่ได่
เห็นอนิจจัง เกิดขึ้นแล้วดับไป มี...แล้วก็หายไป
เห็นอนัตตา ไมใช่ตัวตน ไม่ควรถือว่าเป็นตัวเราของเรา
....ควรยึดไม๊ว่าเป็นตัวเราของเรา....
....ก็ของมันไม่เที่ยง แล้วจะไปยึดได้อย่างไร....
แต่ไม่ใช่ว่าเราไปเชื่อว่าอย่าไปยึดถือ...ไม่ใช่นะ
เราจะเห็นว่ามันยึดไม่ได้ เราต้องมีปัญญาของเราเอง
ไม่ใช่เชื่อพระพุทธเจ้าว่าอย่าไปยึดถือ อย่าไปถือว่าเป็นตัวเราของเรา
แล้วเราก็คิดว่ามันไม่ใช่ตัวเราของเรา....นั่นไม่ใช่
....เราต้องเห็นของเราเอง เห็นอย่างที่พระพุทธเจ้าเห็น...
....ก็มันยึดไม่ได้ เราก็จะมองเห็นว่ามันยึดไม่ได้บังคับบัญชาไม่ได้....
....เวลาทุกข์ ขอให้มันทุกข์อย่างนั้นสิ...อย่าให้มันดับได้ไม๊...ก็ไม่ได้....
....สุขก็เหมือนกัน เหมือนกันอย่างนี้....ผลสุดท้ายก็ดับไม่มีเหลือ....
ไม่อะไรในโลกนี้ ที่จะตั้งอยู่ทั้งภายนอกและภายใน เหมือนกันหมด
สังขารปรุงแต่งทั้งนั้นเลย....
“....แต่ตัวแท้ ตัวจริง เค้าไม่มีรูป ไม่มีร่าง แม้แต่เงา...ก็ไม่มี....”
....หลวงพ่อสมบูรณ์....
โดย: ตามรอย ท่านพุทธทาส