ผู้เขียน หัวข้อ: "ยักคิ้วกระพริบตา" ฮานะ เอามาฝากจาก อกาลิโกดอทคอม ขะ  (อ่าน 25465 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 7 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ขออนุญาตค่ะคุณขาจรจัด

แวดวงใหนหรือสำนักใหน ก็ไม่พ้นขอบเขตแห่งพุทธะไปได้
สิ่งที่สำคัญที่สุด ในการศึกษาเซน ก้อแค่สมมุติว่าสำคัญที่สุด
ถึงจะมีเพียงแต่เข้าใจก็ไม่มีอะไรเลย
มีเพียงจิตหนึ่งเท่านั้น

(น้องมารน้อย)


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ขออนุโมทนาสาธุกับ คุณน้องมารน้อยคุณ ขาจรจัด ด้วยครับ
พูดอะไรที่ลึกซึ้งให้เข้าใจได้ยังไง ? งงจังเลย

เลยไปกราบมนัสการถามหลวงพ่อที่วัดข้างบ้านว่า
จิตหนึ่งคืออะไร? ครับหลวงพ่อ?
หลวงพ่อตอบว่า บ้า
เลยยิ่ง งงใหญ่ เลยครับ

(เม็ดทราย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ถูกแล้วที่ครูเว่ยหล่างกลับไม่มีวิธีอันใด แล้วต้นโพธิจะงอกได้อย่างไร พระพุทธองค์ก็ใช้วิธีนี้ในการตรัสรู้เหมือนกัน อย่าลืมสิหนทางหลุดพ้นมี"ทางเดียว"เท่านั้น พวกอริยชนทั้งหลายต่างก็เดินบนเส้นทางนี้กันถ้วนหน้า พวกเซนหากมองดูแบบผิวเผิน อาจมองดูเหมือนพวกเล่นลิ้นแต่ที่จริงของแท้ทั้งนั้น เป็นเพราะ "ความไม่ตกผลึกในธรรม" ของคุณมากกว่าถึงไม่ได้ชิมแกงรสชาดกระแสพระนิพพาน "กระแสพระนิพพาน" ก็คือกระบวนการคลายกำหนัดอย่างแท้จริง ออหลุนยังติดลูกเอาจิตไปสาละวนปรุงแต่งในธรรมอยู่ ก็เหมือนชินเชาที่คอยปรุงแต่งว่า "มีเรา มีกาย มีจิต มีความเพียรคอยหมั่นเช็ดถูกระจก แถมยังเอาจิตลงไปบัญญัติอีกว่า มันจะมีฝุ่นละอองที่ใหนลงมาจับกระจก"

ทั้งปวงก็คือจิตที่ยังปรุงแต่งในธรรมว่า "มีเรา" เรามีวิธีหลุดพ้น เรามีสติสมาธิ ปัญญาดูดีนะแต่สอบตก เป็นได้แค่กัลยาณชนผู้ที่เดินทางมาถึงประตูแห่งพระนิพพาน แต่ไม่มีปัญญาก้าวข้ามประตูเข้าไป หมดสิทธิ์เข้าถึงสภาวะของอริยชนทั้งหลาย มันเป็น "อวิชชาซ้อน" การพิจารณา กาย เวทนา จิต ธรรมล้วนแต่เป็นการปรุงแต่งทั้งสิ้น หากเข้าใจหลักที่พระพุทธองค์ตรัสว่า "ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น" ก็จะตัดลูกลังเลสงสัยออกได้ทันที ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็น "ลัทธิแว่นส่องสมาธิและปัญญาไป" เหมือนกับที่ครูฮวงโปเคยกล่าวไว้ กว่าจะดับได้กว่าจะว่างได้จะต้องเข้าไปปรุงแต่งลูบๆคลำๆก่อนทำไมว่ามันคืออะไรกับอะไรและต้องใช้วิธีอะไรเข้าไปจัดการ ฮวงโปท่านเปรียบเปรยไว้ว่า "เหมือนสุนัขที่มันเห่าแม้กระทั้งใบตองที่มันกระดิกเพราะถูกลมพัดมาเล็กน้อย" สาธุ (จาก... อสูรแก่สุชัมบดี)

(สุชัมบดี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

เก่งจริงๆคุณน้อง"มารน้อย" ขอชมจากใจจริง ขอให้หมดจดในชาตินี้เลยนะ เห็นชื่อคุณแล้วนึกถึง "นางสุชาดามารอสูร" ธิดาของเจ้าอสูรเวปจิตติ นางผู้มีปัญญาซึ่งนางได้เป็นคู่อธิษฐานของท่านท้าวสักกะ อยู่ด้วยกันที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เห็นด้วยนะที่การที่เอาจิตเข้าไปตกแต่งเป็นความผิดพลาดทั้งปวง นักภาวนายุคนี้ส่วนใหญ่ติดปรุงแต่งในธรรม เหมือนเส้นผมบังภูเขาอยากจะบอกด้วยซ้ำว่า "การพิจารณา การตั้งใจ การจงใจ การเด็ดเดี่ยวฯลฯ" ก็อย่าให้มี ถึงมีก็ไม่เที่ยง ดับในตัวมันเอง ทั้งนี้เป็นการปรับไปสู่กระบวนการ "ความหยุดโดยสมบูรณ์" ของจิตโดยแท้จริงเป็นความดับสนิทแบบไม่มีเหลือ นี่แหละคือ "จิตหนึ่งหรือจิตเดิมแท้" อีกนัยหนึ่งก็คือ "ตถตา" มันเป็นเช่นนั้นของมันเอง แต่อย่าเข้าไปแบกอีกนะว่ามันคือ ตถตา กลับคืนสู่ธรรมชาติล้วนๆ (มารน้อยช่วยติดต่อผมทางอีเมล์ด้วย อยากได้ไว้เป็นกัลยาณมิตรทางธรรมจาก....อสูรแก่สุชัมบดี)

(สุชัมบดี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

สวัสดีขอรับทุกๆท่าน
สวัสดีขอรับคุณเม็ดทราย

ยิ่งคิดยิ่งบ้า ยิ่งคิดยิ่ง งง
ฟังเฉยๆ เห็นเฉยๆ รู้เฉยๆ ได้ยินเฉยๆ ไม่สำคัญมั่นหมาย ทั้งดี หรือร้ายไม่คิดตาม ไม่ปรุงแต่งตาม ก็ไม่บ้า ไม่ งง ขอครับ

(ขาจรจัด)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 21, 2011, 04:29:13 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
จำได้ตอนอยู่อกาลิโก ไม่คิดว่า จะได้อ่านอีกครั้งครับ ขอบคุณครับพี่แป๋ม :06:
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

....................
....................
....................
....................
(หุบปากให้สนิท ไม่ต้องกล่าวอะไรเลยก็ได้ หากเข้าใจ... เซน)

(สุชัมบดี)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

ที่จริงหุบปากก็ดีขอรับ

วันนี้จะมาเล่าเรื่องจิตหนึ่งขอรับ
โน้มน้าวเป็นวิธีเหมือนกัน เพื่อให้ผู้ไม่เคยเห็นและรู้จักจิตหนึ่งได้พอเห็นชัดขึ้นขอรับ

ทิ้งความคิดเก่าๆลงก่อนทำใจว่างๆก่อนนะขอรับเปิดใจฟังสบายๆนะขอรับ

ชาวโลกขี้สงสัยกัน ก็ยังไม่เข้าใจ คิดกัน ว่ามีอะไรอย่างอื่น มีวิธีอื่นๆเป็นตุเป็นตะ
เป็นเพราะความคิด เป็นความปรุงแต่งที่ตนเองไม่เคยรู้เลย


สมมุติว่าเย็บปากให้สนิท หรือเอาปลาสเตอร์ปิดปากใว้ ปิดปากเงียบลืมตาก็ได้หลับตาก็ได้ แล้วเฝ้ามองแต่จิต นะขอรับ เหมือนการดูจิต หรือการเจริญสติ แบบความเคลื่อนใหว หรือนั่งสมาธิสมถะ หรือวิปัสสนา ทั่วๆไป

จะเห็นจิตที่คอยเปิดปากพูดคอยเปิดปากแสดงความคิดเห็น คอยเปิดปากแสดงความรู้ทั้งหมด แสดงความเห็นต่างๆ ชัดขึ้น

*******ขอให้เข้าใจอย่างหนักแน่น ก่อนอื่นว่า
สิ่งที่จิตแสดงออกมาให้เห็น ให้ปรากฎ ทั้งหมด เป็นของไม่จริงทั้งสิ้นแม้จิตที่กำลังวิปัสนากำลังปรากฎอยู่ ก็ไม่จริงทั้งสิ้นขอรับ*********

*****ไม่ว่าจิตจะโน้มน้าวอย่างไร ไม่ว่าจิตจะสวมรอยแสดงความเป็นเราอย่างไรเป็นของปลอม เป็นมายา เกิดขึ้นดับไปทั้งสิ้น บังคับไม่ได้เป็นอนัตตาทั้งสิ้น ขอรับ *******

แม้นจิตจะพยายามสร้างภาพต่างๆ วิเศษอย่างไร พยายาม หลอกมาว่าเชื่อฟังคำสั่ง ยอมทำตาม ก็ไม่ใช่ เช่นจิตแบบนึงบอกว่าเงียบจิตอีกจิตยอมเงียบตาม แต่ก็พักเดียวเท่านั้น
จิตนึงทำเบื่อออกมา จิตอีกแบบทำท่าปลอบใจ จะสอนจะอธิบายก็ไม่ใช่ทั้งคู่ขอรับ

ผู้ที่ ยิ่งผ่านการฝึกฝนการฎิบัติมามาก มานาน
จิตแบบนึงบอกให้เงียบ จิตอีกแบบก็แสดงความเงียบฉี่นานๆให้หลงไปตามว่าเป็นเพราะการปฎิบัติ ก็ไม่ใช่ขอรับมีอีกจิตนึงแสดงออกมาอีกว่า การปฎิบัติสามารถบังคับจิตได้ ก็ไม่ใช่ขอรับจิตอีกแบบนึงก็สรรหาการปฎิบัติต่างๆนาๆมาหลอก ก็ไม่ใช่อีกขอรับ

แม้นจิตจะแสดงภาพพระพุทธเจ้า สรรพรังสีสวยงามขนาดใหน ก็ไม่ใช่ ขอรับ
จิตของพระโพธิสัตวสุภูติจึงไม่เห็นหรือสำคัญลักษณะใดๆ ของพระพุทธเจ้าเลย

หน้าที่ที่สำคัญที่สุดของจิตทั้งหลาย คือพยายามทุกวิถีทางที่จะให้หลง และให้ติดอยู่กับจิตให้นานที่สุด
แสดงชั่วให้หลงไม่ได้ ก็แสดงแต่สิ่งดีๆจนหลงไปอีก

คนเย็บปาก ก็ละจิตแบบ ชั่ว ไปติดจิตแบบ ดี อีกก้อถูกหลอกวันยังค่ำจะปฎิบัติอย่างไร ก็ไม่ถึงสักที
เพราะจิตจะพยายามหลอกลวงนอกจากหลอกคนที่เย็บปากแล้วจิตยังหลอกลวงกันเองอีก ขอรับ

จิตแสดงความหลอกลวงตลอดเวลา พยายามอย่างเต็มที่ให้หลงในจิตเช่นหลอกว่าจิตนี้เป็นผู้สอน จิตนี้เป็นผู้ทำตาม จิตนึงคอยเชียร์จิตนึงคอยตัดสิน จิตนึงฟันธง เป็นของปลอมทั้งนั้นขอรับ

บ้างก็หลอกว่าจิตนี้เป็นเรา อีกจิตไม่ใช่เรา จะแสดงบทหักล้างกันเองทะเลาะกันเองบ้าง เห็นดีเห็นงามกันเองบ้าง ชมกันเองบ้างจิตนี้แสดงความเห็นแจ๋วไปเลย ก็ไม่ใช่ ของไม่จริงทั้งนั้น ขอรับ

ให้ดูให้ดีๆนะขอรับจิตหลายๆแบบจะแสดงอย่างไร ทั้งกุศล หรืออกุศลต่างก็ไม่ใช่ของจริงทั้งสิ้น

*****แต่มีอย่างหนึ่งจริง อย่างหนึ่งที่ทำหน้าที่ ดูอย่างเดียว เห็นอย่างเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับจิตที่แสดงนั้นๆเลย *****

*******สิ่งนั้นจะรู้ตลอดเวลา เงียบก็รู้ จิตอ้าปากแล้วก้รู้จิตทะเลาะกันแล้วก็รู้ จิตปรองดองกันแล้วก็รู้ จิตดีใจกันก็รู้จิตแสดงอัจฉริยะก็รู้ จิตแสดงลามกโง่เง่าก็รู้ แล้วสิ่งนั้นรู้

จิตที่แสดงเหล่านั้นไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาได้แม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล จะเกิดดับและแสดงบทตามเวลาเท่านั้นจะบังคับไม่ได้เลยขอรับ

ที่จิตเหล่านั้นแสดงมาทั้งหมดเพื่อให้หลงเท่านั้น แสดงชั่วหลงไม่ได้ก็แสดงเป็นพระเอก เหมือนเล่นละครให้หลง หน้าที่ทั้งหมดของจิตเหล่านั้นทำทุกกระบวนท่าเพื่อให้หลงเท่านั้น ขอรับ

จิตแบบนึง จะแสดงความคิดว่าบังคับจิตอีกจิตจะแสดงตามคำสั่งทั้งนี้เป็นการหลอกให้หลงทั้งสิ้น
คนที่หลงเพราะไม่เคยเห็นจิตหนึ่งเลยก็เลยคิดว่าบังคับได้เพราะไม่เข้าใจคำว่าอนัตตา จริง

ไม่มีใครแม้แต่คนเดียว ที่บังคับจิตได้ แม้แต่วินาทีเดียวเหมือนกันกับร่างกาย แม้การกระพริบตาก็ไม่มีใครบังคับได้แม้แต่นิดเดียวจึงดูความเป็นอัตโนมัติที่จิตทั้งหลาย แสดงออกมา อย่างเดียว ขอรับ

เพราะความเป็นอนัตตาของจิตในปรมัตถ์จริงๆ ไม่มีใครบังคับอะไรได้ แม้แต่คนเดียว
ทุกอย่างเป็นเพียงอัตโนมัติ เหมือนโปรแกรมที่รันไปเองเรื่อยๆถึงเวลาก็โหลดไฟล์แบบนึง เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา เป็นไฟล์ที่โหลดมาเองทั้งหมดเป็นอัตโนมัติ ขอรับ

เฝ้าดูไป ว่าเวลานี้ วินาทีนี้ จิตเหล่านั้น แสดงอะไรกันออกมาซึ่งจิตตัวที่แสดงกัน ให้เห็น ถึงจะแสดงสมเหตุสมผลแสดงให้จิตอีกจิตคล้อยตามกันได้ ทั้งหมดก็ไม่เคยเป็นของจริงแม้แต่นิดเดียว

*** มีอย่างเดียวเท่านั้น ที่ดู เห็น และรู้ว่าจิตอื่นๆทำอะไรกันอยู่ ไม่ได้ไปแสดง ไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง นั่งดูอยู่เฉยๆ ***

นั่นคือจิตหนึ่งขอรับ

เมื่อรู้จักจิตหนึ่งจริงๆแล้วจิตที่แสดงทั้งหมดจะหลอกอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวขอรับ
เห็นจิตเหล่านั้นบ่อยๆมากๆขึ้น จึงละหลง จิตที่แสดงทั้งหมดได้ ขอรับ
จึงไม่มีอะไรเลยขอรับ
มีแต่จิตหนึ่งเท่านั้นขอรับ

(น้องมารน้อย)

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

น้องมารน้อยพูดขอรับ แปลกดีใหมค่ะ พี่ๆ (หนูไม่ได้เป็นทอมนะ)

ขอบคุณค่ะคุณสุชมบดี
ขออภัยนะค่ะกัลยาณมิตร หาได้จากภายนอก ทางอีเมลล์ แต่พุทธะ หาได้จากจิตหนึ่งเท่านั้นค่ะ

ป๊ะ บอกว่า อย่าแซตกะใครค่ะ อันตราย อิๆ
คุยกันทางเวปนี้ก็ได้ค่ะ ขออนุญาติพี่ๆและ เวปอกาลิโกล่วงหน้านะค่ะ

(น้องมารน้อย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 08, 2011, 12:43:24 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด

การเฝ้ารู้เฝ้าดูเฝ้ามอง...และอีกหลาย"เฝ้า"....เป็นการแบกในธรรมชนิดนึง
การรู้แบบอริยะนั้นมันเหนือการ"เฝ้ารู้"ขึ้นไปอีกเพราะมันเป็น"ธรรมชาติแห่งการรู้"
ไอ้ลูกธรรมชาติที่ว่านี่มันเหนือการจงใจตั้งใจหรือเจตนาแต่มันเป็นความบริบูรณ์
ในธรรมในตัวมันเองอยู่แล้ว ธรรมครบถ้วนอยู่แล้วในความว่างความดับ
ตามภาษาบาลีคือ "มคฺค สมงฺคี" นั่นเองบางสำนักก็สอนให้แบก "ผู้รู้" (สติ)
ไม่เห็นด้วยนะ ใหนว่าธรรมคือธรรมชาติ... ธรรมชาติก็คือ ตถตา มันเป็นเช่นนั้นเอง
(เลย....อดแช็ทด้วยความว่างกับนางมารร้าย....เอ๊ย...มารน้อย...ไม่เป็นไร
เราเป็นเพื่อนกันนะแลกเปลี่ยนความรู้ จากอสูรแก่สุชัมบดี...ผมอายุ 38 เท่านั้น)

(สุชัมบดี)