แสงธรรมนำใจ > ศิษย์โง่ไปเรียนเซ็น
"ยักคิ้วกระพริบตา" ฮานะ เอามาฝากจาก อกาลิโกดอทคอม ขะ
ฐิตา:
ขนาดเอาสูตรที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เองออกมานำเสนอเพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้เกิดขึ้นกับทุกๆฝ่ายที่ปรารถนาทางหลุดพ้นไม่ได้มีเจตนาคะคานให้เสียรูปกระบวนแต่อย่างใด ปานนั้น"ก็โดนจนเลือดสาด"มันส์ดี คุณพูดอย่างกับว่าพระองค์ก็ไม่ถึงคงคงไม่เข้าใจคำว่า"ธรรมชาติแห่งความไม่หวนกลับไปบัญญัติ"
*เซน....เล่นลิ้น....พึ่งกระจ่างในวันนี้เอง
.............
เล่นลิ้นๆๆ
อะไร ๆ ก็เล่นลิ้นเอ่ ......ส่งสัญญาณแปลกๆ
ว๊าวพูดอะไร น่าอายชมัด พี่สุชัมบดี
ใครจะมีลิ้นเซนไม่เคยมีลิ้นหรอกค่ะชาวโลกต่างเข้าใจผิดๆ
ปากหุบเงียบ ลิ้นหายไป ตั้งแต่ยังไม่เกิดด้วยซ้ำนะคะ
และหนูก็ไม่มีอะไรเลย ไม่มีกอไผ่ ไม่มีหน่อไม้ ไม่มีข้าวเหนียว ไม่มีปลาร้า ไม่มีพหูสูตรอิๆ
มีแต่น้ำลายไหล เพราะ หิว ค่ะ
สำหรับ ใจที่ไม่ใช่หนู
ที่มีต่อพี่ๆทุกคน ไม่ได้ป่วน ไม่ได้แย้ง ไม่ได้ขัดใครเลย สักครั้งเดียว
เป็นความเข้าใจผิดนะค่ะที่จะเห็นว่าเช่นนั้น เพราะว่า ว่ามันไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เป็นของกันและกัน
มาถึงตอนนี้ หลายๆท่านก็จะพอเข้าใจเซน ได้มากขึ้น
แต่หนู ไม่ใช่เซน ไม่ไช่ดูจิต ไม่ได้อยู่บนมรรคาใดๆอยู่แต่บ้าน
ป๊ะคือท่านวิมลเกียรติม๊ะ คือ ท่านปารมิตาอาจารย์คือท่านสังฆปรินายก
อจ.ที่ปรึกษาคือพระองค์เจ้ากฤษณะ
หลังจากเปิดเทอมแล้ว คงไม่ได้มาโพสต์บ่อยๆนะค่ะขออนุญาตล่วงหน้า นะค๊ะ ๆ
การนำเสนอ คุณสุชัมบดี จะเสนอแบบใหน ก็เป็นธรรมชาติของคุณสุชัมบดี
เช่นกันพระพุทธองค์ จะนำเสนอ เช่นไร ก็เป็นธรรมชาติ ของพระพุทธองค์
คณาจารย์ ก็เสนอ แบบธรรมชาติของคณาจารย์
สังฆปรินายกก็เสนอสอนแบบธรรมชาติของสังฆปรินายก
นี่คือธรรมชาติของผู้อยู่ยังในธรรมชาติ
พระพุทธองค์ เข้าใจธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง จากการตรัสรู้
เพราะกระบวนการคลายกำหนัดของพุทธองค์ จากอดีต จนถึง เมื่อตรัสรู้
เป็นไปอย่างเนิบนาบใช้กระบวนการนี้ มากกว่า สี่อสงไขยแสนกัปป์
ตรัสสอนกระบวนการนี้ วิธีตางๆตั้งแต่ต้นกระบวนการ จนบำเพ็ญมากหลาย
จนกระทั่งสุดท้ายจึงตรัสรู้จากนั้นก็เข้าสู่ศูนยตนิพพาน
พระอรหันต์ เห็นกระบวนการทั้งหมดในคำสอนจึงตรัสรู้อรหันต์ผล
ในวันที่ฟังธรรม จากนั้นก็เข้าศูนยตนิพพานเช่นกัน
พระสังฆปรินายก เห็นกระบวนการทั้งหมด จึงย่นย่อ กระบวนการทั้งหมด
เหลือในวันสุดท้ายแล้วเข้าศูนยตนิพพานเช่นกัน แต่ต่างกันที่
ปล่อยสังขารที่ยังไม่ตายล่องลอยไปตามกระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติ
ดังนั้น เฉพาะสังฆปรินายกเท่านั้นที่รับมอบพระจีวรอัฐบริขารจากพระพุทธองค์
เพราะกระบวนการย่อยสลายย่นย่อที่สุด
ใช้จิตเดิมแท้ ย่นย่อทำลายทุกสิ่งทุกอย่างด้วยจิตเดิมแท้เอง
ดีๆๆ ค่ะ จะนำเสนอตามสไตล์ตนเองหรือตามสไตล์ใครๆไม่มีอะไรที่แตกต่างกัน
จะเป็นกระบวนการอ้อยอิ่ง หรือกระบวนการย่นย่อที่สุดคือ อันเดียวกัน
กระบวนการอ้อยอิ่ง กระบวนการออโตเมติกกระบวนการย่อยสลายทางธรรมชาติ
เป็นเหมือนเกมส์ เกมส์เดียวกันมี LEVEL เท่ากัน
จะเริ่มเล่น ฝ่าด่านค่อยเป้นค่อยไปตั้งแต่ หนึ่ง จนมาถึงตอนจบสู้กับบอสส์ ก็จบ
แต่สำหรับเซนใครจะเล่นมาเท่าไร จะกี่ เลเวลข้ามไป เจอกับบอสส์ เลย ก็จบ
นี่คือข้อแตกต่าง ของพระอรหันต์และพระสังฆปรินายก
พระพุทธองค์ ทรงเล็งเห็นว่า พระอรหันต์ทั้งหมด จะถึงแก่การบรรลุ
ด้วยเงื่อนใขสุดท้ายคือต้องเจอพระพุทธองค์ จึงเสด็จไป และ เงื่อนใขสุดท้าย
คือคำสอนที่ที่ทำให้ตรัสรู้ ไม่เหมือนกันสักองค์
แต่สำหรับท่านสังฆปรินายก พระพุทธองค์เพียงบอกว่าพบไข่มุกแล้วท่านสังฆปรินายก
ก็เลยเจอเช่นกัน แต่เงื่อนใขก็คือพระพุทธองค์ต้องเป็นคนบอก
เช่นเดียวกัน
คุณสุชัมบดีหรือใครๆจะนำเสนอเช่นไรลูกศิษย์ลูกหาหรือแฟนคลับ ก็บรรลุได้เช่นกัน
แม้แต่ต่างศาสนา ก้อไม่ต่างกัน อยู่ที่เงื่อนใขสุดท้ายค่ะ
และเงื่อนใขสุดท้ายของพระพุทธองค์ ก่อนตรัสรู้ คือต้นโพธิ์
จะไปนั่งต้นอื่นก้ไม่ได้
นี่คือธรรมชาติของกระบวนการทุกกระบวนการไม่ได้ต่างกันเลย
เห็นธรรมชาติ รู้ธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ รู้จริงว่าเป็นธรรมชาติ จึงรู้แจ้งในธรรมชาติ
เมื่อธรรมชาติของการรู้แจ้งแห่งธรรมชาติปรากฎขึ้น
ผลึก ทั้งหลายทั้งปวง ก็ไม่ได้เกิดขึ้น มีแต่อันตระธาน หายไปนะค่ะ นะค่ะ
สาธุๆๆๆ ทุกท่าน
(น้องมารน้อย)
ฐิตา:
ธรรมชาติแห่งการถ่ายทอดจึงถ่ายทอด ตามธรรมชาตินั้นๆ
สักว่าถ่ายทอด
แต่จะมีใครล่ะ ที่ถ่ายทอด ในเมื่อมีแต่จิตมีแต่ธรรมชาติของกาย มีแต่ธรรมชาติของจิต
และจิตก็คือธรรมชาติ
และการถ่ายทอดจะเป็นการถ่ายทอดได้อย่างไร
ในเมื่อธรรมชาติทั้งหลายเป็นเช่นนั้นเอง
ธรรมชาติของเนิบนาบ
ธรรมชาติของย่นย่อ
ธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวง
จะละไปก่อนก็ไม่ได้ต้องปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ
บังคับบัญชาอะไรไม่ได้แม้แต่อย่างเดียวจริงๆน๊ะ
เหมือนยักคิ้ว กระพริบตา
ไม่งอนนะจ๊ะ เจ้าของกระทู้
กลับมายักคิ้วกระพริบตาอีกแล้ว
(น้องมารน้อย)
ฐิตา:
โห ๆๆๆ
ไม่มาวันเดียวเล่นกันไปหลายหน้าเลย ขอรับ
ธรรมชาติ ออโตเมติก ของร่างกาย เป็น ส่วนเล็กน้อยซะเหลือเกิน
ธรรมชาติของ จิต ก็เป็นของเล็กน้อยเสียเหลือเกิน
ธรมชาติของกลุ่ม ก็เป้นสิ่งเล็กน้อยเสียเหลือเกิน
ธรรมชาติของธรรมชาติ ก็เป็นสิ่งเล็กน้อยซะเหลือเกิน
ธรรมชาติของจิตเดิมแท้เข้าใจอย่างไม่มีอะไรห่อหุ้มและพัน
มรรคาทั้งหลายที่ดำเนินไป เป็นธรรมชาติทั้งหมด ไม่สามารถบังคับบัญชาได้แม้แต่นิดเดียว
ธรรมชาติ ของการสนทนา การติดต่อสื่อสาร
ธรรมขาติ ของการกระทำดี ทำชั่ว
ธรรมชาติ ของการบังคับ การปลดปล่อย
ธรรมชาติของเหตุ ธรรมชาติของผล
ธรรมชาติแห่งของคู่ทั้งหลายทั้งปวง
ธรรมชาติส่วนตน ธรรมชาติส่วนรวม
ธรรมชาติเขา ธรรมชาติเรา
ธรรมชาติของการปฎิบัติ การไม่ปฎิบัติ
ธรรมชาติของการบรรลุ และไม่บรรลุ
ธรรมชาติอื่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไม่ว่าจะกล่าวถึง หรือคำนึงถึงอะไร
ธรรมชาติของความคิด และการดับไปของความคิด
ทั้งหมดสักว่าเป็นธรมชาติ บังคับบัญชาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
มีแต่จิตหนึ่งเท่านั้นขอรับ
(ขาจรจัด)
ฐิตา:
แต่ปัญญาทั้งหมด เอาไปทิ้งขยะ ก็หาถังขยะ มารองรับไม่พอ
แต่ปัญญา กลับรองรับได้ทั้งถังขยะ และโลกธาตุทั้งหมด
มันไม่ได้ขึ้นกับหนังสือ หรือบัญญัติใดๆ และปัญญา ก็ไขว่คว้าไม่ได้จะหาถังหาภาชนะต่างๆมารองรับก็ ไม่สามารถหาได้พอ ปํญญาของคนนั้นจึงเป็นตามภาชนะ ถังหรือกาละมัง
ปัญญาของหลวงพ่อของพี่ ใส่ได้ใน ถังขยะก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ทิ้งไปได้ก็ดีดีกว่าเก็บไว้สาธุๆๆ
(น้องมารน้อย)
------------------
ปัญญาที่อยู่ในกาละมังชามไห ยังเป็นปัญญาจากความคิดปรุงแต่งนะคะ
เมื่อทิ้งไปเสียก็จะพบกับปัญญาแห่งการรู้แจ้งเพราะพ้นแล้วจากความคิดปรุงแต่งจ๊ะ
ปัญญานี้ก็คือจิตหนึ่งนั่นเองจ๊ะ
เมื่อเห็นเป็นจิตหนึ่งแล้วมันหุบปากเงียบ เพราะพ้นไปจากสมมุติ และบัญญัติจ๊ะ
อนุโมทนาสาธุค่ะน้องมารน้อย คุณสุชัมดี คุณขาจรจัด คุณเม็ดทราย และทุกท่านค่ะ
(หนูไม่มี)
ฐิตา:
จิตหนึ่ง เป็นกาละมังใส่ปัญญา
ปัญญา เต็มกาละมังจิตหนึ่ง
แบกไม่ใหว เหมือนกันขอรับฮ่าๆ
(ขาจรจัด)
....................
ณ เวทีมวยอกาลิโกราชดำเนิน
แอนตาซิลเขาจ่ายให้ เข็มละ 500
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
*ขาจรจัดน้อย เกียรติบ้านช่อง แตก 5 เข็ม รับไป 2500 บาท
*เม็ดทราย ศิษย์วัดดอน แตก 7 เข็ม รับไป 3500 บาท
*สุชัมบดี ลูกเจ้าแม่ไทรทอง
แตก 10 เข็ม รับไป 5000 บาท
*น้องมารน้อย ลูกเจ้าพ่อกฤษณะ
(สายเทพส่งเข้าประกวดนี่เอง.........
ถึงว่า) แตก 100 เข็ม
รับไปเลย 50000 บาท (ฮา.....)
***สรุป...ธรรมคือ ธรรมชาติ
ไร้ตัวไร้ตน บริสุทธิ์ในตัวมันเอง
*ในอดีตสายเทพฮินดู เป็นคู่ปรับพระพุทธองค์มาตลอดเทพพวกนี้ยังไม่ได้ถูกพยากรณ์เลยด้วยซ้ำกระแสข่าวเรื่องพระพุทธองค์แย่งดอกบัวศรีอริยเมตไตรยชิงมาตรัสรู้ก็พวกเทพมิจฉาทิฐิพวกนี้แหละที่ปล่อยข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงพระพุทธองค์ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธองค์และศรีอริยเมตไตรยเคยเกื้อหนุนกันมาตลอด เพราะพวกนี้เป็นพวก"อกหัก"หวังจะมาเป็นพุทธะในกัปป์นี้แต่บารมีไม่ถึงเรื่องใครจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในแต่ละกัปป์มันเป็นเรื่อง"ตถตาแห่งกรรมวิสัย"ต่างหาก
*แผลแตกเข็มนี้ ท่านสุชัมบดีจะจ่ายให้.
(สุชัมบดี)
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version