คลายวิถีทุกข์ด้วยธรรมะ > ธรรมะเสวนา

สอบถามครับ

(1/5) > >>

ต๊ะติ้งโหน่ง:
:02: :02: :02:

ที่คุณตาแปดคิวเอาพระสูตรมาลง สองหัวขัอนี้ทำต๊ะงงจังครับ




 พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า ข้าแต่มหาราช ถึงพระองค์จะทรงชนะสงคราม ตั้งร้อยครั้งตั้งพันครั้ง แม้ตั้งแสนครั้ง
ก็ยังชื่อว่า ชนะไม่เด็ดขาด อยู่นั่นเอง เพราะยังเอาชนะกิเลสทั้งหลายไม่ได้ แต่ข้าพระองค์ ข่มกิเลสในภายในไว้ได้
เอาชนะกิเลสทั้งหลายได้.


“ ผู้ที่ชนะหมู่มนุษย์ในสงคราม ถึงหนึ่งล้านคน ยังสู้ผู้ที่ชนะตน
เพียงผู้เดียวไม่ได้ ผู้นั้นเป็นจอมทัพสูงสุด โดยแท้ ” ดังนี้.....

การข่ม เหมือนกับศิลาทับหญ้าหรือเปล่าครับ ?
แล้ว ตนที่เป็นผู้ข่มกิเลส  จะเอาชนะยังไงครับ?

ดอกโศก:
ถามใครคะ?

^_^

ซุปเปอร์เบื๊อก:

--- อ้างจาก: ดอกโศก ที่ กันยายน 04, 2011, 10:29:25 pm ---ถามใครคะ?

^_^

--- End quote ---

 :22: อ่าว คุณครูพี่บัวคะ คนถามต้องชี้ตัวจำเลย เอ๊ย คนตอบด้วยเหรอคะ ?


อิอิ ถ้าพี่บัวไม่ได้มาตอบงั้นเบื๊อกขอเจือกตอบเองน๊าคะ ~


ต๊ะถาม : การข่ม เหมือนกับศิลาทับหญ้าหรือเปล่าครับ ?

เบื๊อกตอบ : เหมือนค่ะ ^^

เพราะว่าการข่มกิเลสไม่ได้ทำลายอวิชชาอันเป็นรากเหง้าของกิเลสทั้งปวงให้ดับลง
การข่มเพียงแต่สะกดกลั้นกิเลสเอาไว้เท่านั้น แต่พอถูกบีบคั้นมากๆ เข้าก็จะตบะแตก สติแตก ควบคุมจิตใจไม่ได้
ดูตัวอย่างได้จากคนใกล้ๆ ตัวที่ปกติปากหวานไม่ค่อยเอาเรื่องใครแต่พอสติแตกขึ้นมาก็ด่าไฟแล็บเลย อิอิ

การข่มจึงเหมือนกับศิลาทับหญ้าอย่างนี้แหละ
เพราะศิลามันเป็นของไม่เที่ยง พอศิลาแตกหญ้ามันก็ยังชอนไชออกมาได้

เช่นเดียวกันกับการละวางแบบที่ลุงแปดมาอธิบายว่าวางแล้วก็ถืออีก ซึ่งนั่นไม่ใช่การวางที่แท้จริง
การวางที่แท้จริงนั้นต้องทำลายความยึดมั่นถือมั่นในทวิธรรมลงได้ด้วย ^^

ต๊ะถาม : แล้ว ตนที่เป็นผู้ข่มกิเลส  จะเอาชนะยังไงครับ?

เบื๊อกตอบ : เอาชนะตนได้ด้วยการยอม ยอ-ออ-มอ ยอม ค่ะ ^^
เมื่อมีความหลงว่าเป็นตัวตนของตนจึงเห็นความแตกต่างในตนและคนอื่น
นิสัยของตนนี่มันจะหลงตัวเองมาก ถ้าใครตำหนิมันจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย
แต่ถ้ามีใครชมว่า ดีอย่างนั้น เก่งอย่างนี้ มันจะกระหยิ่มยิ้มย่องเชียวล่ะ

ตัวตนมันหลงตัวเองอย่างนี้ อะไรดีๆ ละก้อมันยอมรับได้หน้าชื่นตาบานเลยแหละ
ถึงแม้ลึกๆ ตัวเองมันจะรู้ตัวอยู่ว่าไม่ได้ดีอย่างที่เขาชมจริงๆ ก็เหอะ แต่เรื่องอะไรมันจะเผยไต๋ให้เสียภูมิล่ะ อิอิ

การจะเอาชนะตัวตนให้ได้ก็ต้องรู้จักยอมด้วยความนอบน้อมอย่างถึงที่สุด
ยอมรับว่าตัวตนของตนนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย
ยอมรับว่ามีมิจฉาทิฏฐิ ยอมรับว่าโง่ ยอมรับว่าไม่รู้อะไรเลย ฯลฯ
แค่ยอมเท่านั้นก็สามารถละวางทิฏฐิมานะตัวตนลงได้อย่างมหาศาลแล้วละ
เมื่อยอมรับได้ทุกอย่างจึงจะสามารถใช้สัมมาทิฏฐิที่ได้รับมาทำลายความหลงในตัวตนของตนลงได้ในที่สุดค่ะ ^^

 :13: :25:

ต๊ะติ้งโหน่ง:
 :02:

ศิลาทับซุนหงอคงไว้ห้าพันปี ยังออกมาอาละวาดได้
ถ้าทับไว้นานกว่านี้ชั่วกัปป์ชั่วกัลล์ ก็พอจะทำลายกิเลสได้
แต่ทับไวได้ แค่กิเลสตัวเดียว เสียเวลาเวียนว่ายโดยใช่เหตุ

จะยอมได้ก็ต้องรู้ตนก่อน  มีสัมปชัญญในตน
รู้เป้าหมายของตน

ไม่งั้นก็ยอมไม่ได้

ตนผู้ข่มกิเลส ก็ต้องรู้ตน แต่ไม่ยอมกิเลส
การจะเอาชนะกิเลสได้ อาศัยได้ทุกวิธี
จะอด จะทน จะข่ม จะกลั้น  หรือใช้ปัญญาตัดทำลายรากเหง้าของกิเลส
แล้วแต่จริตอ่า

มุนี ฤาษี คนป่าคนดอย หรือคนที่ศีกษาธรรมะตามแบบพุทธ หรือศาสนาอื่นๆ
ก็ทำได้อ่า


ซุปเปอร์เบื๊อก:

--- อ้างจาก: ต๊ะติ้งโหน่ง ที่ กันยายน 05, 2011, 01:37:01 pm --- :02:

ศิลาทับซุนหงอคงไว้ห้าพันปี ยังออกมาอาละวาดได้
ถ้าทับไว้นานกว่านี้ชั่วกัปป์ชั่วกัลล์ ก็พอจะทำลายกิเลสได้
แต่ทับไวได้ แค่กิเลสตัวเดียว เสียเวลาเวียนว่ายโดยใช่เหตุ

จะยอมได้ก็ต้องรู้ตนก่อน  มีสัมปชัญญในตน
รู้เป้าหมายของตน

ไม่งั้นก็ยอมไม่ได้

ตนผู้ข่มกิเลส ก็ต้องรู้ตน แต่ไม่ยอมกิเลส
การจะเอาชนะกิเลสได้ อาศัยได้ทุกวิธี
จะอด จะทน จะข่ม จะกลั้น  หรือใช้ปัญญาตัดทำลายรากเหง้าของกิเลส
แล้วแต่จริตอ่า

มุนี ฤาษี คนป่าคนดอย หรือคนที่ศีกษาธรรมะตามแบบพุทธ หรือศาสนาอื่นๆ
ก็ทำได้อ่า

--- End quote ---

 :22: แหะๆๆ พี่สาวเบื๊อก ยอ-ออ-มอ ยอม ค่ะ
 
กราบขอบพระคุณน้องต๊ะที่ช่วยชี้แนะให้ความกระจ่างแจ้งน๊าคะ ^^

“เห็นบัณฑิตใด ผู้มีปกติชี้ความผิดให้ ดุจผู้บอกขุมทรัพย์ให้
ซึ่งมีปกติกล่าวกำราบ ผู้มีปัญญา พึงคบบัณฑิตเช่นนั้น
เมื่อคบท่านเช่นนั้น ย่อมประเสริฐ ไม่เลวเลย”

 :13:อนุโมทนาสาธุธรรม

สาธุ สาธุ สาธุ ขอพระพุทธองค์ทรงเมตตา ... อิอิ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ตอบ

Go to full version