ผู้เขียน หัวข้อ: บุคคลเป็นผู้โลเล ๑ ว่าด้วย การหละหลวมในธรรม  (อ่าน 1207 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด




พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต ติกัณฑกีวรรคที่ ๕

๑. ทัตวาอวชานาติสูตร
             [๑๔๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๕ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก
๕ จำพวกเป็นไฉน
คือ บุคคลให้แล้วย่อมดูหมิ่น ๑ บุคคลย่อมดูหมิ่นเพราะอยู่ร่วมกัน ๑
บุคคลเป็นผู้เชื่อง่าย ๑ บุคคลเป็นผู้โลเล ๑ บุคคลเป็นผู้เขลาหลงงมงาย ๑ ฯ

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลให้แล้วย่อมดูหมิ่นอย่างไร บุคคลในโลกนี้
ให้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารแก่บุคคล เขาย่อม
คิดอย่างนี้ว่า เราให้ ผู้นี้รับ ดังนี้ ให้แล้วย่อมดูหมิ่นบุคคลนั้น ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บุคคลให้แล้วย่อมดูหมิ่นอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลย่อม
ดูหมิ่นเพราะอยู่ร่วมกันอย่างไร บุคคลในโลกนี้ อยู่ร่วมกับบุคคลสองสามปี

ย่อมดูหมิ่นผู้นั้นเพราะอยู่ร่วมกัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลย่อมดูหมิ่นเพราะอยู่
ร่วมกันอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้เชื่อง่ายอย่างไร บุคคลบางคน
ในโลกนี้ เมื่อเขากล่าวคุณหรือโทษของผู้อื่น ย่อมน้อมใจเชื่อโดยเร็วพลัน ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้เชื่อง่ายอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้
โลเลอย่างไร บุคคลบางคนในโลก เป็นผู้มีศรัทธาเล็กน้อย มีความภักดีเล็กน้อย

มีความรักเล็กน้อย มีความเลื่อมใสเล็กน้อย ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้
โลเลอย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลผู้เขลาหลงงมงายอย่างไร บุคคลบาง
คนในโลกนี้ ย่อมไม่รู้กุศลธรรมและอกุศลธรรม ย่อมไม่รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มี
โทษ ย่อมไม่รู้ธรรมที่เลวและประณีต ย่อมไม่รู้ธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้เขลาหลงงมงายอย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล
๕ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ

                                                         จบสูตรที่ ๑

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต ติกัณฑกีวรรคที่ ๕




ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์
หมวดที่ ๖
ว่าด้วย การหละหลวมในธรรม

-------------
ผู้โลเล
ภิกษุ ท.! มูลเหตุแปดอย่างนี้เล่า ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมเสียสำหรับ
ภิกษุ ผู้ยังไม่จบกิจแห่งการปฏิบัติเพื่อลุถึงนิพพาน.
มูลเหตุแปดอย่างอะไรกันเล่า ?    แปดอย่างคือ :-

(๑) ความเป็นผู้พอใจในการทำงานก่อสร้าง,
(๒) ความเป็นผู้พอใจในการคุย,
(๓) ความเป็นผู้พอใจในการนอน,
(๔) ความเป็นผู้พอใจในการจับกลุ่มคลุกคลีกัน,
(๕) ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย.
(๖) ความเป็นผู้ไม่รู้ประมาณในการกิน,
(๗) ความเป็นผู้พอใจในการกระทำ...
.....เพื่อเกิดสัมผัสสนุกสบายทางกาย,
(๘) ความเป็นผู้พอในในการขยายกิจให้โยกโย้โอ้เอ้ เนิ่นช้า.


ภิกษุ ท.! มูลเหตุแปดอย่างนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมเสีย
สำหรับภิกษุผู้ยังไม่จบกิจ
แห่งการปฏิบัติเพื่อลุถึงนิพพาน.
_____________________________________
บาลี พระพุทธภาษิต อฏฺฐก. อํ. ๒๓/๓๔๓/๑๘๓.

       
http://www.pobbuddha.com/tripitaka/upload/files/2010/index.html

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 07, 2013, 12:16:47 pm โดย ฐิตา »