ผู้เขียน หัวข้อ: ความสุขทางธรรม ( เจ้าของงานเขียน Best Seller ถ้ารู้ ..(กู) ..ทำไปนาน )  (อ่าน 1806 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


99.99 เปอร์เซ็นต์ของคนที่หันมาศึกษาธรรมะมักจะอกหัก รักคุด สูญเสียคนที่รัก อยากพ้นทุกข์ แต่ไม่จะรู้ทำอย่างไร  จึงเป็นจังหวะของชีวิตให้คนเปิดประตูเข้ามาเรียนรู้ธรรมะมากขึ้น

   ณัฐพบธรรม  ธนันท์เมธาภรณ์  เจ้าของงานเขียน Best Seller  ถ้ารู้ ..(กู) ..ทำไปนานแล้วเป็นคนหนึ่ง ที่หันมาศึกษาธรรมะ เล่าว่า เป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องพุทธศาสนา ทำบุญปีละครั้ง หรือเวลาที่รู้สึกว่าโชคไม่ดี  ส่วนอะไรที่ไม่ผิดกฎหมายหรือว่าผิดแล้วไม่มีคนรู้  ถ้าช่วยให้ชีวิตตนเองประสบความสำเร็จก็ทำทุกอย่าง เรียกว่า เป็นคนไกลศาสนาและมองว่าเป็นเรื่องงมงาย

  จนกระทั่งวันหนึ่งได้ศึกษาธรรมะจากหนังสือพระไตรปิฎก พบว่า หลักธรรมจากพระไตรปิฎกไขข้อสงสัยทั้งหมดได้อย่างมีเหตุผล วิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมะ เพราะอธิบายสิ่งที่มองเห็นเป็นรูปธรรม ซึ่งเกิดขึ้นในธรรมชาติได้

แต่ธรรมะอธิบายได้ลึกกว่า  เกี่ยวกับนามธรรมที่มองไม่เห็น สัมผัสจับต้องไม่ได้แต่วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายได้ เพราะธรรมะเข้าถึงส่วนนี้

     ไม่ว่าจะเป็นกฎแห่งกรรม หรือเรื่องนามธรรมอื่นๆ สามารถอธิบายด้วยเหตุและผลตามหลักธรรมได้  ผมจึงมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในธรรมะมากขึ้น และอยากให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสธรรมะในพุทธศาสนา”

ปูพื้นฐานตั้งแต่เด็ก

  หลายคนอาจรู้สึกว่า ธรรมะเป็นเรื่องที่จะเข้าใจยาก  แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปอย่างนั้น เพราะ ณัฐพบธรรม  บอกว่า  ธรรมะไม่ได้ยาก  คนส่วนใหญ่ให้เวลากับความรู้ทางโลกตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรีมากกว่า 10 ปี แต่ทางธรรมะให้เวลามากแค่ไหน

  “การที่คนคิดว่ายากเพราะไม่ศึกษา อย่างวิชาตรีโกณมิติ ผมรู้สึกว่ามันยากมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็เรียนได้ ถามว่าทำไมเรียนได้ เพราะมันต้องเรียนจึงพร้อมที่จะเรียนรู้และทำมันจนได้ เรื่องของธรรมะก็เช่นเดียวกัน”

  ณัฐพบธรรม แนะว่า  ควรปูพื้นฐานเด็กตั้งแต่ชั้นประถมในเรื่องการทำบุญละบาปที ละนิดทีละหน่อย  เช่นนำเรื่องที่พระพุทธเจ้าสอนการใช้ชีวิต  เช่น สมชีวิตา หรือที่เรารู้จักกันคือคำว่า พอเพียง หลักการในพระไตรปิฎกสอนให้ใช้อย่างพอเพียง ถ้ามีเงินเยอะ ใช้เยอะได้ แต่ถ้ามีเงินน้อย ก็ใช้น้อยตามลำดับที่ตัวเองมี ไม่ใช่ว่าคนมีเงินเยอะต้องใช้น้อย ก็ไม่ถูกจะเป็นกลายเป็นว่า สิ่งที่สร้างมาไม่ได้ใช้อะไร ถ้าไม่เบียดเบียนตนเองและคนอื่น ไม่ได้ห้ามใช้ของหรู

    “ถ้าสอนกันตั้งแต่เล็ก ความเข้าใจหลายๆ อย่างก็จะมีมากขึ้น  ผมเชื่อว่า หากสะสมมาเรื่อยๆ การที่จะศึกษาให้มันลึกซึ้งขึ้น ไม่ใช่เรื่องยาก  ดีกว่าสอนแค่ท่องจำพุทธประวัติ วันสำคัญ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไรต่อชีวิต แถมยังน่าเบื่อ”

    ข้อแนะนำในการเสพธรรมะ  คือ ควรเลือกอ่านหนังสือธรรมะที่ตรงกับจริตของตนเองจะเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ละคนไม่เหมือนกัน  บางคนชอบอ่านหนังสือธรรมะแบบสบายๆ ง่ายๆ อ่านแล้วสบายใจ ไม่ต้องเน้นเนื้อหาอะไรมากมาย แต่บางคนอ่านแบบนั้นแล้วไม่ชอบรู้สึกว่า  มันตอบคำถามไม่ได้ คนกลุ่มนี้ต้องการหนังสือธรรมะที่มีเนื้อหาชัดเจนที่สามารถอธิบายเหตุและผล ได้ เช่น กฎแห่งธรรม

แค่ศรัทธายังไม่พอ 

 ในความคิดของเขา มองว่า สิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรรู้สิ่งแรกคือเรื่องธรรมะ เพื่อเป็นแนวทางการใช้ชีวิตพ่อแม่ทุกคนน่าจะศึกษาว่า บุญบาปคืออะไรแล้วปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่างแก่ลูก สิ่งสำคัญในการศึกษาธรรมะ  "ศรัทธา" เพียงอย่างเดียวไม่พอต้อง “ปฏิบัติ” ด้วยมิเช่นนั้นเป็นการสัมผัสธรรมะแบบผิวเผิน

  “พูดง่ายๆคือถ้าคนเราศรัทธา แต่ยังทำบาป บุญไม่ค่อยทำ ก็แทบไม่มีผลอะไรต่อชีวิตถ้ายังทำบาปอยู่เรื่อยๆ ก็ต้องตกนรก กฎแห่งกรรม “ไม่ใช่” กฎแห่งการศรัทธา  มันต้องเป็นกฎที่มาจากการกระทำของเราอย่างน้อยรักษาศีล 5 ได้ถือเป็นทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว”

          ณัฐพบธรรม  เผยให้ฟังว่า หลังจากได้เข้าถึงธรรมะ ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่เขาสัมผัสได้คือ มีความสุขมากขึ้น "ผมไม่รู้ว่า สุขมากขึ้นหรือทุกข์น้อยลงแต่เอาเป็นว่า เมื่อเราทำมาหากินด้วยวิธีสุจริต ไม่เบียดเบียนคนอื่น สมมติมีเงิน 100,000 บาทเท่ากัน ในอดีตกับปัจจุบันที่ได้มันมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันคือรู้สึกว่า เงินก้อนนี้เป็นเงินบริสุทธิ์ไม่เบียดเบียนใครในการทำมาหากิน"

          ส่วนความเชื่อเรื่องการทำบุญล้างบาปนั้น   ณัฐพบธรรม  อธิบายว่า  เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการทำบุญ ไม่สามารถมาช่วยล้างบาปได้ บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป มันเป็นคนละส่วนกัน ไม่สามารถนำมาละลาย หรือหักล้างกันจนหายไปหมดได้ ยกเว้น ในเวลาที่บุญแสดงผลด้วย บาปก็แสดงผลด้วย ผลที่ออกมาถึงหักล้างกันได้

      บุญและบาปล้างกันได้ชีวิตก็จะมีแค่แบบใดแบบหนึ่งคือถ้าไม่ดีอย่างเดียวก็จะชั่วอย่างเดียวหรือแย่อย่างเดียว    ถ้าคนทำบุญมามากกว่าชีวิตที่เหลือแต่บุญชีวิตก็มีแต่ความสุข  แต่ถ้าคนทำบาปมามากกว่าชีวิตก็จะเหลือแต่บาป ชีวิตก็มีแต่ความทุกข์ แต่ชีวิตคนส่วนใหญ่ มีทุกข์กับสุขสลับกันขึ้นอยู่กับว่าอย่างไหนจะมากกว่ากัน หรือบุญและบาปอย่างไหนจะแสดงผลก่อนกัน 

            “คนทำบุญมามากก็จะสุขเยอะหน่อย  คนทำบาปมามากจะทุกข์มากหน่อย  ฉะนั้นทุกคน ควรทำดีละบาปแค่นี้ชีวิตก็จะมีความสุข ทั้งในปัจจุบันและอนาคตยิ่งถ้าคนในสังคมทำแบบนี้ สังคมก็เป็นสุขมากขึ้น”

http://bit.ly/pPMJ2O
" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
ขอบคุณครับพี่มด :13:
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~