ผู้เขียน หัวข้อ: "ก้าวหน้าตลอดไป" ธรรมะอีกบทของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก  (อ่าน 1641 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด


"ก้าวหน้าตลอดไป"    ธรรมะอีกบทของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

        "อดีตเป็นเหตุ มันผ่านไปแล้ว เราแก้ไม่ได้
    แต่ว่าปัจจุบันเป็นเหตุ อนาคตเป็นผล ปัจจุบันนี้มีทางเลือก
    เมื่อเราจิตใจดี เราก็สามารถคิดดี ตั้งเจตนาถูกต้อง
    ชีวิตของเราก็จะพัฒนาไปในทางที่ดี
    เป็นไปเพื่อความสงบ เป็นไปเพื่อความสุข เป็นไปเพื่อพ้นทุกข์"

    ข้อความข้างต้นเป็นตอนหนึ่งที่อยู่ในหนังสือ "ก้าวหน้าตลอดไป" ของพระมิตซูโอะ คเวสโก ที่ได้แสดงธรรมไว้ในหลายสถานที่ ต่างเวลา ต่างวาระ แล้วนำมาเรียบเรียงจัดพิมพ์ลงในหนังสือเล่มนี้

    พระอาจารย์มิตซูโอะ ได้นำหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแผ่ อันน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านและผู้ปฏิบัติ ซึ่งพระอาจารย์ได้พูดถึงว่า พวกเราส่วนใหญ่ตั้งแต่เกิดมาก็ต้องการมีความสุขกันทั้งนั้น แต่ความสุขของเรานี้ค่อนข้างหายาก มันเป็นความจริง

    ท่านมองว่า ทุกวันนี้ที่กำลังปัญหามากที่สุดของสังคมคือ โรคเครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ โรคทางจิต และโรคทางจิตนี้อีก 10 ปีข้างหน้าคนจะเป็นกันมากที่สุด เพราะฉะนั้นเราต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท อีกทั้งปัญหาที่เราไม่ปรารถนาก็เกิดขึ้นมากมายในชีวิต แม้คนคนนั้นจะมีใจบริสุทธิ์ทำความดีมามากขนาดไหนก็ตาม

     อย่างไรก็ตาม ขอให้เรายึดและทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นดีที่สุด เพราะพุทธองค์ได้ชี้ ชั่ว-ดี-ผิด-ถูก ให้เรารู้ทาง เมื่อเรามีปัญหาหนักขนาดไหน ถ้าเราเข้าใจตัวเองได้ก็มีความสุข สุขภาพใจดี และสามารถพ้นทุกข์ได้ ขอให้ท่านได้รับประโยชน์จากการอ่านและการปฏิบัติตามคำสอนของท่านอาจารย์เถิด

    ส่วนเนื้อหาหลักของหนังสือ "ก้าวหน้าตลอดไป" นั้นมี 3 ส่วนด้วยกัน คือ 1.ยาทันใจ 2.จิตใส...ใจสบาย 3.ดวงตาเห็นธรรม



    พระอาจารย์มิตซูโอะกล่าวว่า สิ่งที่เราไม่ปรารถนาก็เกิดขึ้นกับชีวิตไม่น้อย แม้ว่าใครจะมีจิตใจบริสุทธิ์ ทำความดีมามากขนาดไหนก็ตาม เราต้องพิจารณาสิ่งเหล่านี้ แม้ว่าทุกคนอยากจะมีความสุขและฝันไว้ว่า ชีวิตของเราสวยงาม เจอคู่รักที่ดี สร้างครอบครัวที่อบอุ่น ธุรกิจดี มีบ้านสวยๆ ที่ฝันไว้ว่าอยากมีชีวิตที่ดีอย่างนี้ แต่เราก็ต้องยอมรับว่า ในความเป็นจริงชีวิตก็มีปัญหากันทั้งนั้น

    แม้เราจะมีปัญหาขนาดไหน ถ้าเราเข้าใจตัวเอง เราก็มีความสุข สามารถพ้นทุกข์ ทำจิตใจให้มีความสุขได้ อย่างพระพุทธเจ้า จิตใจบริสุทธิ์ จิตใจไม่มีทุกข์อยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ที่ไม่น่าปรารถนาต่างๆ ก็เกิดขึ้น เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ก็เป็นสิ่งภายนอก

    ทุกวันนี้คนไทยก็เป็นโรคซึมเศร้า 3 ล้านคน นอกจากนี้ก็ยังมีโรคเครียด นอนไม่หลับ หรือไม่สบายใจ ถ้าเราไม่ตั้งใจหาวิธีแก้ปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่ง ปล่อยปัญหาไปตามกระแสอย่างทุกวันนี้ ก็จะหาความสุขยากหรือหาความสุขไม่ได้ รวยมากขนาดไหน ยศ ตำแหน่งสูงๆ เรียนจบปริญญาตรี โท เอก มีครอบครัว สิ่งที่เราพอใจ สิ่งที่เราตั้งเป้าหมายอาจบรรลุเป้าหมายได้สมปรารถนา ในทางโลกภายนอก พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ใจเป็นประธาน ใจเป็นหัวหน้าของชีวิต เมื่อจิตใจไม่ดีแล้ว จะรวยขนาดไหน มียศ ตำแหน่งสูงขนาดไหน อยู่กับคนที่เรารักชอบ ดีขนาดไหน ถ้าใจเราไม่ดี เสียใจ ใจเสีย ก็หาความสุขไม่ได้

    "เรามักจะไม่เข้าใจเรื่องจิตใจ การทำงานของจิตใจ พอใจ ไม่พอใจ ความพอใจก็ดี ไม่พอใจก็ดี สิ่งเหล่านี้เป็นปฏิกูลทางจิตใจ เมื่อเราเป็นหนุ่มสาว ความรักเป็นเรื่องสำคัญ อารมณ์รักก็เป็นปฏิกูลทางจิตใจเหมือนกัน" พระอาจารย์กล่าว

    ในมุมของการฝึกจิตใจ พระอาจารย์สอนอีกว่า แม้เราจะถูกนินทาเล็กน้อย เพียงเขาอาจจะพูดผิดนิดเดียว เราก็เจ็บใจ ไม่ชอบคนนี้ จิตใจของเราก็ถูกย้อมด้วยความไม่ชอบ ใครที่กลัวผี แค่นึกกลัวก็อาจจะกลัวผีกันทั้งคืน คำนินทา กลัว น้อยใจ ความอิจฉา แม้แต่ความรักนี้ก็เหมือนเราเกิดความรู้สึกแล้วในจิตใจ เมื่อมีอุปาทานยึดมั่นถือมั่น ใจของเรานี้ก็เปลี่ยนไป เหมือนกับน้ำบริสุทธิ์ เราใส่ผงสีนิดหน่อยสีก็เปลี่ยน ใส่สีแดงนิดหน่อยก็เป็นสีแดง ใส่สีดำนิดหน่อยก็เป็นสีดำ จิตใจของเราก็เหมือนกัน ความรัก ความโกรธ และความหลง ก็มีลักษณะอย่างนั้น บางครั้งเราก็ไม่อยากเชื่ออย่างนั้น

    ขณะที่ในเรื่องของความรัก พระอาจารย์ให้มุมมองว่า เราพยายามคิดว่าความรักนี้สวยงาม ถ้าเป็นหนุ่มๆ สาวๆ ก็รอคอยว่าเมื่อไหร่จะเจอคนที่เรารักเข้ามา เราก็รักเขา เขาก็รักเรา รอคอย แต่ความรักก็ต้องระมัดระวังเหมือนกัน เมื่อเราติดบุหรี่ รักบุหรี่ จะติดบุหรี่ตลอด ขาดไม่ได้ ติดทั้งวัน จริงๆ แล้วบุหรี่ก็คือบุหรี่ ถ้าเราไม่รักแล้วก็ไม่มีคุณค่า อยู่บนทางเดินก็เดินเหยียบไปเฉยๆ ไม่มีคุณค่าอะไร เพราะเรารู้อยู่ว่าบุหรี่มีโทษ ความรักในลักษณะอย่างนี้เราจะเป็นทาสของมัน จะทำให้เราหน้ามืด ตาบอด ทำให้เราเป็นทุกข์

    "อย่างไรก็ตาม เมื่อเราต้องการความสุข แล้วพยายามรักษาสุขภาพใจดี พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า เราต้องรู้จักรักและเมตตาตัวเอง" พระอาจารย์กล่าว.

http://www.thaipost.net/tabloid/131111/48019

" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...