ผู้เขียน หัวข้อ: ชัมบาลา : บทที่ ๑๗ ระบบธรรมชาติ  (อ่าน 1854 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ มดเอ๊กซ

  • ทีมงานพัฒนาข้อมูล
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7167
  • พลังกัลยาณมิตร 1518
    • ดูรายละเอียด
ชัมบาลา : บทที่ ๑๗ ระบบธรรมชาติ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2011, 03:32:27 pm »


บทที่ ๑๗ ระบบธรรมชาติ

“การใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับระบบธรรมชาติ
มิใช่การดำเนินตามกฎเกณฑ์อันตายตัวหรือประกอบภารกิจประจำวัน
ตามแบบแผนความประพฤติหรือบทบัญญัติอันแห้งแล้ง
โลกนี้มีระเบียบแบบแผน
มีพลังอำนาจและความรุ่มรวมล้ำลึก
ซึ่งอาจสอนคุณให้รู้จักดำเนินชีวิตอย่างมีศิลปะ
อย่างเต็มเปี่ยมด้วยเมตตาต่อผู้อื่น และรู้จักทะนุถนอมตัวเอง”

......หลักการของฟ้า ดิน และคนซึ่งเราได้พูดถึงในบทก่อน เป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่จะอธิบายถึงระบบธรรมชาติ มันเป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการมองดูระเบียบแบบแผนของโลกเบื้องบน เป็นโลกในอีกมิติหนึ่งซื่งมนุษย์ทุกคนล้วนมีส่วนร่วมอยู่ ในบทนี้ข้าพเจ้าใคร่จะนำเสนออีกวิะการหนึ่งในการมองดูระเบียบแบบแผนนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรีชาญาณชัมบาลาแห่งธิเบต อันเป็นแผ่นดินถิ่นเกิด ทัศนะการมองโลกอย่างนี้แบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน ซึ่งเรียกว่า ลา เนียนและลู่ หลักการทั้งสามนี้มิได้ขัดแย้งกับหลักการฟ้า ดินและคน ทว่ามีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ลา เนียนและลู่ ล้วนหยั่งรากลึกอยู่ในกฎเกณฑ์ของโลกมากยิ่งกว่า ถึงแม้ว่ามันจะโยงใยอยู่กับบัญชาของฟ้าและบทบาทของคน ลา เนียน และลู่ชี้บ่งถึงแบบแผนและแม่แบบของโลกโดยตรง มันแสดงให้เห็นว่ามนุษย์จะสามารถสานทอตนเองเข้าไปในเนื้อผ้าของความเป็นจริงพื้นฐานได้อย่างไร ดังนั้น การประยุกต์นำหลักการ ลา เนียน และลู่มาใช้ จึงเป็นหนทางที่จะปลุกพลังอำนาจของดราละหรืออำนาจวิเศษขึ้นมา

......ลา ตามตัวอักษรหมายถึง "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" หรือ "เทพยดา" แต่ในกรณีนี้ ลา หมายถึง จุดสูงสุดบนโลกมากกว่าที่จะเป็นอีกภาพหนึ่ง ภพของลานั้นก็คือ ยอดของขุนเขาหิมะ ซึ่งจะพบธารน้ำแข็งและหินเปล่าเปลือย ลาคือจุดที่สุงที่สุด เป็นจุดแรกที่แสงอาทิตย์อุทัยส่องมาสัมผัส มันคือสถานที่บนโลกซึ่งอยู่สูงขึ้นไปถึงฟ้า อยู่ในหมู่หมอกเมฆ ดังนั้น ลาจึงเป็นจุดที่ขึ้นสูงใกล้ฟ้าที่สุดเท่าที่โลกจะไปถึง

......ในทางจิตใจ ลาหมายถึงรุ่งอรุณแห่งการตื่นขึ้น มันเป็นประสบการณ์แห่งความใหม่สดและเป็นอิสระจากสิ่งหมักหมมในดวงจิตของคุณ ลา คือสิ่งที่สะท้อนถึงอาทิตย์อุทัยยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในตัวตนของคุณ มันยังหมายถึงการส่องสว่างฉายฉานความดีงามยิ่งใหญ่ออกมาในร่างกายมนุษย์ ลา หมายถึง ศีรษะโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าผากและดวงตา ดังนั้นมันจึงหมายแสดงถึงความตั้งตรงของสรีระและการแสดงออก

......ครั้นแล้วก็มาถึงเนียน ซึ่งหมายถึง "เพื่อน" เนียนเริ่มต้นขึ้นที่ไหล่เขาและหมายรวมถึงป่าดงและที่ราบด้วย ส่วนยอดเขาคือลา แต่ไหล่อันสง่างามของขุนเขาคือเนียน ในวัฒนธรรมของซามูไรญี่ปุ่น แผ่นเกราะใหญ่บนไหล่เขาชุดนักรบหมายถึงหลัการเนียน ในสายประเพณีของทหารโลกตะวันตก อินทรธนูซึ่งบ่งบอกยศบนไหล่ก็รับใช้บทบาทอันเดียวกันในร่างกายคน เนียนมิได้หมายเพียงถึงความมั่นคง รู้สึกถึงความมั่นคงตั้งมั่นและสีข้าง ในทางจิตใจมันหมายถึงความมั่นคง รู้สึกถึงความมั่นคงตั้งมั่นอยู่ในความดีงามตั้งมั่นอยู่บนโลก ดังนั้นเนียนจึงเกี่ยวพันกับความกล้าหาญและความเป็นอัศวินของมนุษย์ ในความหมายนี้ มันคือแง่มุมอันสูงส่งของมิตรภาพซึ่งก็คือความกล้าหาญและทำคุณต่อผู้อื่น

......สุดท้ายก็คือหลักการลู่ ซึ่งตามตัวอักษรหมายถึง "ชลาลัย" มันเป็นภพของท้องทะเลมหาสมุทรแม่น้ำลำธารและทะเลสาบ เป็นอาณาจักรของน้ำและความเปียกชื้น ลู่มีคุณลักษณะของอัญมณีเหลว ดังนั้นความเปียกชื้นในที่นี้จึงสัมพันธ์อยู่กับความอุดมสมบูรณ์ ในทางจิตใจประสบการณ์ของลู่นั้นเหมือนกับการกระโดดลงไปในทะเลสาบทองคำสู่ยังหมายถึงความสดชื่น แต่มิได้เป็นดังความสดฉ่ำแห่งธารน้ำแข็งของลา ความสดชื่นในที่นี้เปรียบประดุจดังแสงแดดซึ่งสะท้อนประกายอยู่ในห้วงน้ำลึก แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของน้ำซึ่งคล้ายอัญมณีเหลว ในร่างกายคน ลู่ คือขาและเท้า ทุกส่วนที่อยู่ต่ำกว่าเอวลงมา

......ลา เนียน และลู่ยังสัมพันธ์อยู่กับฤดูกาลด้วย ฤดูหนาวคือ ลา มันเป็นฤดูกาลซึ่งขึ้นสูงสุดในบรรดาฤดูกาลทั้งหลาย ในฤดูหนาว คุณรู้สึกเหมือนดั่งว่าคุณกำลังอยู่เบื้องบน เหนือเมฆ ทั้งหนาวยะเยือกเย็น เหมือนดังว่าคุณกำลังบินไปในฟ้า ครั้นแล้วก็มาถึงฤดูใบไม้ผลิซึ่งก็คือการลงจากฟ้ามาสัมผัสโลก ฤดูใบไม้ผลิช่วงต่อจากลามาสู่เนียน ครั้นแล้วก็มาถึงฤดูร้อนซึ่งเป็นพัฒนาการระดับสูงสุดของเนียน เมื่อยามที่สรรพสิ่งเขียวชอุ่ม ครั้นแล้วฤดูร้อนก็คลี่คลายเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงซึ่งสัมพันธ์อยู่กับลู่เพราะว่าพืชผลสุกงอมในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นพัฒนาการขั้นสุดท้าย พืชผลและการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงคือผลของลู่ ในลีลาของฤดูกาลทั้งสี่ ลา เนียน และลู่ ต่างกระทำการร่วมกันในกระบวนการวิวัฒน์ หลักการนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับสถานการณ์ต่างๆ ความสัมพันธ์ร่วมระหว่างลา เนียน และลู่ เป็นเหมือนดังหิมะซึ่งเยิ้มละลายบนขุนเขา อาทิตย์อุ่นยอดเขา ทั้งหิมะและธารน้ำแข็งก็เริ่มเยิ้มเหลว นั่นคือลา ครั้นแล้วสายน้ำก็ไหลหลั่งลงจากขุนเขาก่อเกิดแม่น้ำลำธาร ซึ่งก็คือเนียน ท้ายสุดแม่น้ำก็ไหลลงสู่มหาสมุทร ซึ่งก็คือลู่ ซึ่งเป็นผลสุดท้าย

......สัมพันธภาพระหว่างลา เนียน และลู่ยังอาจแลเห็นได้ในความสัมพันธ์และพฤติกรรมของมนุษย์ ตัวอย่างเช่น เงินคือหลักการของลา การเปิดปัญชีและการฝากเงินในธนาคารคือเนียน และการถอนเงินออกมาจ่ายหนี้หรือซื้อของคือลู่ หรือดังตัวอย่างง่ายๆ เช่นการดื่มน้ำ คุณไม่อาจดื่มน้ำจากแก้วที่ว่างเปล่า ดังนั้นสิ่งแรกคือเติมน้ำลงไปในถ้วยซึ่งก็คือ สถานที่แห่งลา ถือถ้วยไว้ในมือซึ่งก็คือเนียน และดื่มซึ่งก็คือลู่

......ลา เนียน และลู่ ดำเนินบทบาทอยู่ในทุกๆ สภาพการณ์ของชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งคุณเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยย่อมสัมพันธ์อยู่กับสถานใดสถานหนึ่งในสถานทั้งสามนี้ ตัวอย่างเช่นในการแต่งตัว หมวกอยู่ในสถานแห่งลา รองเท้าอยู่ในสถานแห่งลู่ เสื้อ กระโปรงและกางเกงอยู่ในสถานแห่งเนียน ถ้าคุณสับสนในหลักการเหล่านี้ คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่ามาบางสิ่งบางอย่างที่ผิดพลาด เช่นว่ ถ้าอาทิตย์ฉายแสงแรงร้อนอยู่เหนือหัว คุณคงไม่เอารองเท้าขึ้นไปไว้เป็นเครื่องกำบัง และเช่นกันคุณคงไม่สวมแว่นตาต่างรองเท้า คงไม่เอาเนคไทไปผูกรองเท้า ด้วยเหตุนี้เอง คุณจึงไม่ควรเอาเท้าพาดโต๊ะ ด้วยเหตุว่ามันทำให้ลู่และเนียนสับสน ของใช้ส่วนตัวซึ่งดำรงอยู่ในอาณาจักรของลาได้แก่ หมวก แว่นตา ตุ้มหู แปรงสีฟันและแปรงผม ของที่อยู่ในอาณาจักรของเนียนได้แก่ แหวน เข็มขัด เนคไท เสื้อและกางเกง กระดุมข้อมือ กำไลและนาฬิกา ของซึ่งอยู่ในสถานแห่งลู่ได้แก่ รองเท้า ถุงเท้าและกางเกงใน ข้าพเจ้าเกรงว่าแต่ละสิ่งแต่ละอย่งมีความหมายตรงตามตัวของมัน ลา เนียน และลู่ เป็นสิ่งที่ตรงไปตรงมาและธรรมดาสามัญยิ่ง

......การถือตามระเบียบแบบแผนของลา เนียน และลู่ คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีอารยะ ดังนั้น เราจึงควรถือมันเป็นแบบแผนขั้นสูงสุด โดยการดำเนินตามแบบแผนแห่ง ลา เนียน และลู่ ชีวิตของคุณก็อาจกลมกลืนเข้ากับแบบแผนของโลกแห่งปรากฏการณ์ มีคนบางคนมักไม่ใส่ใจในแบบแผนพื้นฐานทางสังคมเหล่านี้ เขามักจะกล่าวว่า "จะเป็นไรไป ถ้าฉันใส่รองเท้าไว้บนหัว" แต่ทุกๆ คนรู้ดีว่าการทำดังนั้นดูไม่เหมาะสม ทั้งๆ ที่ไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดว่าทำไม ทว่าผู้คนมีสัญชาตญาณที่รู้ได้ลึกๆ ว่าสิ่งไหนควรจะใช้กับสิ่งไหน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือของใช้ในบ้าน แบบแผนเหล่านั้นมีเหตุผลอยู่ในตัวของมัน ทั้งห้องนอนและบ้านช่องของคุณจะแลดูเข้าที่เข้าทางขึ้นถ้าคุณจัดวางสิ่งต่างๆ ไว้ในที่ที่เหมาะสม จากจุดนี้เองที่คุณได้พัฒนาจังหวะจะโคนและแบบแผนขึ้นในประสบการณ์ส่วนตน คุณจะไม่ถอดเหวี่ยงเสื้อผ้าไว้บนพื้น คุณจะไม่เอารองเท้าแตะใส่ไว้ใต้หมอนและไม่เอาแปรงผมไปขัดรองเท้า

......การขาดความใส่ใจในลา เนียน และลู่นั้น มีผลร้ายมาก ถ้าหากว่าฤดูร้อนตามติดฤดูใบไม้ร่วง แทนที่จะเป็นฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิตามติดฤดูร้อน แทนที่จะเป็นฤดูใบไม้ร่วง กฎเกณฑ์ทั้งหมดของจักรวาลก็จะถูกละเมิด ในกรณีนี้พืชพันธุ์ก็จะไม่เติบโต ส่ำสัตว์ก็ไม่ออกลูกออกหลานและเราก็จะต้องเผชิญกับอุทกภัยและความแห้งแล้ง เมื่อหลักการของลา เนียนและลู่ในสังคมถูกละเมิด มันก็เหมือนกับการเข้าไปขัดขวางความเป็นไปของฤดูกาล มันจะทำให้สังคมเสื่อมโทรมและก่อให้เกิดความสับสนขึ้น

......ในบางครั้งคุณจะพบการฝ่าฝืนหลักการลา เนียน และลู่ปรากฏอยู่ในพฤติกรรมของผู้นำทางการเมือง ดังเช่นการที่ประธานาธิบดี แห่งสหรัฐอเมริการเอาเท้าพาดโต๊ะประชุมฝ่ายบริหาร หรือเหตุการณ์อันลือลั่นเมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีครุชเชฟ กระทืบเท้าบนที่แสดงสุนทรพจน์ขององค์การสหประชาชาติ มิใช่ว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นปัญหาในตัวของมันเอง การบรรสานร่วมกับหลักการของลา เนียนและลู่มีอะไรที่มากกว่าการมีมารยาทดี ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ท่าทีซึ่งฝืนต่อความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต โดยการคิดว่าหนทางที่ข่มขู่คุกคามได้ก็โดยการจับโลกกลับหัวกลับหาง โดยการไม่ใส่ใจต่อแบบแผนรากฐาน คุณได้สูญเสียความเชื่อมั่นซึ่งมีต่อปรกฏการณ์โลก และในขณะเดียวกันคุณก็ได้กลายเป็นคนซึ่งเชื่อถือไม่ได้ไปเสียเอง ในคนซึ่งคิดว่าการต่อสู้และแก่งแย่งแข่งขันคือหนทางไปสู่ความสำเร็จ บางทีอาจมีชัยชนะซึ่งดำรงอยู่ในวิธีการนั้น แต่ถึงที่สุดแล้วก็เป็นเพียงแต่การกระโดลงไปในท่อระบายน้ำของโลกเท่านั้น

......ดังนั้นเองการเคารพกฎเกณฑ์ของลา เนียน และลู่จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่มิได้หมายเพียงการสักแต่พูดโดยการจัดทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านอย่างเป็นระเบียบเท่านั้น คุณอาจเริ่มด้วยการตระหนักถึงคุณค่าในโลกของตนโดยการมองดูจักรวาลด้วยสายตาอันสดใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราได้พูดกันมาซ้ำเล่า จากจุดนั้นเองที่คุณอาจรู้สึกได้ถึงการดำรงอยู่ของลา เนียนและลู่ในกายของตนและในตัวตนทั้งหมด คุณจะรู้สึกได้ถึงการตื่นขึ้นและญาณทัศนะของลา รู้สึกถึงความมั่นคงและความอ่อนโยนของเนียน และความเป็นไปได้อันเปี่ยมล้นในการดำรงชีวิตในโลก ซึ่งก็คือหลักการของลู่ จากการค้นพบถึงหลักเกณฑ์พื้นฐานนี้เอง คุณจะเริ่มเข้าใจว่าจะสามารถเชื่อมโยง ลา เนียน และลู่เข้าด้วยกันอย่างไร โดยอาศัยการอุทิศตนเพื่อผู้อื่น โดยการเป็นผู้รับใช้ในโลกของตน

......การเชื่อมโยงลา เนียน และลู่เข้าด้วยกัน แสดงออกเป็นแบบอย่างด้วยการโค้งคำนับ ซึ่งในวัฒนธรรมตะวันออกหลายกระแสถือเป็นประเพณีของการทักทาย สำหรับนักรบชัมบาลา การโค้งคารวะเป็นสัญลักษณ์ของการยอมศิโรราบต่อผู้อื่น คือการรับใช้ เรามิได้กำลังพูดกันถึงความหมายตามตัวอักษรของคำว่าคำนับ หากพูดถึงท่าทีนั้นทั้งหมดของนักรบซึ่งแสดงออกต่อชีวิตอื่น ซึ่งถือเป็นการรับใช้อย่างปราศจากอัตตา เมื่อคุณโค้งคำนับในฐานะของนักรบ คุณเริ่มด้วยการตั้งศีรษะและไหล่ ยืดกายตรงมิใช่เพียงขู่คำรามและโค้งตัว แต่แรกทีเดียวจะต้องตั้งกายให้ตรง การกระทำดังนี้เชื่อมโยงคุณเข้ากับลา และการบำรุงเลี้ยงอาชาวายุ หรือเป็นดังประหนึ่งว่ามีธารน้ำแข็งอยู่บนศีรษะ ดังประหนึ่งว่าคุณคือขุนเขาเอเวอเรสต์ หลังจากนั้น จากขุนเขา ธารน้ำแข็งอันสูงชันและแหลมคมแห่งลา คุณก็เริ่มโค้งต่ำลงไปโดยการก้มศีรษะและหลังเล็กน้อย คุณลดศีรษะลงมาสู่ระดับไหล่ นี่คือการผูกมิตรกับเนียน คุณอาจรับรู้ถึงความกว้างใหญ่ของบ่าไหล่ ครั้นแล้วท้ายที่สุด คุณก็ทำให้การโค้งคารวะสมบูรณ์ คุณลดต่ำลงมาสู่สถานแห่งลู่ คุณสยบยอมโดยสิ้นเชิง หลักการทั้งสามของลา เนียน และลู่ได้ถูกมอบให้เป็นบรรณาการในขณะที่คุณโค้งต่ำลง

......การโค้งคำนับคือ การมอบความดีงามพื้นฐานและอาชาวายุให้แก่ผู้อื่น ดังนั้นในการโค้งจึงเป็นการที่คุณยอมมอบถวายพลังศักยภาพและอำนาจวิเศษให้ และคุณได้กระทำไปด้วยความรู้สึกจริงแท้และกระทำอย่างเหมาะสม มันเป็นกระบวนการสามขั้นตอนคือ รวบรวมไว้ รู้สึก และให้ออกไป แรกสุดคุณจะต้องรวบรวมขึ้นมา มิเช่นนั้นก็จะไม่มีน้ำหนักอะไรเลย ถ้าคุณเพียงแต่โค้งให้ใครอย่างผลุบผลับ นั่นเป็นการโค้งคำนับอย่างหลอกๆ มันไม่มีความรู้สึกที่แท้จริงอยู่ในนั้น ผู้ที่เป็นประจักษ์พยานของการโค้ง คนผู้ซึ่งคุณโค้งให้จะถือว่าคุณเป็นคนไว้ใจไม่ได้ แนวคินี้มีอยู่ว่า อำนาจวิเศษของการโค้งคารวะ พลังของการโค้งคำนับย่อมตอกย้ำความมั่นใจของทั้งสองฝ่าย เมื่อคุณโค้งให้เพื่อนหรือคนดีงาม คนซื่อตรงซึ่งมีพลังเช่นนั้นอยู่ในตัว นั่นเท่ากับเป็นการแบ่งปันบางสิ่งบางอย่างร่วมกัน ถ้าคุณโค้งคำนับต่อโลกอาทิตย์อัสดง ถ้าคุณโค้งให้มิกกี้เม้าส์ นั่นเท่ากับเป็นการบั่นทอนตัวเอง นักรบจะไม่ทำดังนั้นเลย ดังนั้นการโค้งจึงตั้งอยู่บนการตระหนักรู้ถึงคุณค่าในตัวคน ในลา เนียน และลู่ซึ่งดำรงอยู่เบื้องหน้าคุณ และเพื่อเป็นเครื่องแสดงถึงความเคารพ คุณจะไม่ยืดกายขึ้นจนกว่าอีกฝ่ายหนึ่งกระทำ

......การโค้งคำนับแสดงถึงบรรณาการแลกเปลี่ยนกันทางพลังงาน เช่นเดียวกับเป็นการแสดงความสุภาพ ความภักดีและการยอมศิโรราบ มันเป็นแบบฉบับของการเชื่อมโยงลา เนียน และลู่เข้าด้วยกัน โดยพื้นฐานแล้วประเด็นของมันอยู่ตรงการรับใช้โลก เครื่องมือซึ่งเราใช้ในการเปลี่ยนแปลงโลก ก็ยังถูกถือว่าคือการเชื่อมโยงลา เนียนและลู่ ซึ่งจะต้องให้ความเคารพเป็นพิเศษ ความข้อนี้ก็ยังคงเป็นจริง สำหรับคนซึ่งต้องการจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้อื่นโดยการรับใช้ ดังนั้น ครูจึงเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพอย่างสูง ด้วยเหตุที่เขาเป็นผู้เชื่อมโยงลา เนียนและลู่ขึ้นในตัวนักเรียนตามอุดมคติแล้ว นักการเมืองและข้าราชการก็มีบทบาทนี้เช่นกัน บทบาทของนักรบก็คือช่วยผสานลา เนียนและลู่ เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์

......การใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับระบบธรรมชาติมิใช่เป็นการดำเนินตามกฎเกณฑ์อันตายตัว หรือประกอบภารกิจประจำวันตามแบบแผนความประพฤติหรือบทบัญญัติอันแห้งแล้ง โลกนี้มีระเบียบแบบแผน มีพลังอำนาจและความรุ่มรวยล้ำลึกซึ่งอาจสอนคุณให้รู้จักดำเนินชีวิตอย่างมีศิลปะ อย่างเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาต่อผู้อื่นและรู้จักทนุถนอมตัวเอง อย่างไรก็ตามเพียงแค่การศึกษาหลักการของลา เนียนและลู่ ยังไม่เพียงพอ การค้นพบถึงระบบธรรมชาติจักต้องปรากฎขึ้นเป็นประสบการณ์ส่วนตัว อำนาจวิเศษนั้นเป็นสิ่งที่คุณต้องสัมผัสด้วยตัวเอง เมื่อนั้น คุณจะไม่มีวันถูกล่อลวงให้ทิ้งหมวกไว้บนพื้น แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คุณจะไม่มีวันถูกล่อลวงให้หลอกลวงเพื่อนบ้านหรือมิตรสหาย คุณจะมีแรงบันดาลใจ ในการที่จะรับใช้โลกของคุณ และหยิบยื่นตัวเองให้อย่างสิ้นเชิง

" มันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน
ความเฉยชา คือ ผู้พิฆาต ความคิดดีนับร้อยพันและแผนการอันวิเศษ
ณ บัดหนึ่ง มีผู้มุ่งมั่นตั้งใจลงมือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมอำนวยชัย

มิว่าสู ทำสิ่งใด หรือ ฝันจะทำอะไร ทำ ณ บัดนี้
ความทรนงองอาจ มีพรสวรรค์ พลังอำนาจ และ มหัศจรรย์แห่งตน "

เกอเธ่...

ออฟไลน์ แก้วจ๋าหน้าร้อน

  • สิ่งใดคือธรรมะ สิ่งนั้นย่อมดีแล้วสูงสุด
  • ทีมงานกวาดลานดิน
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 6503
  • พลังกัลยาณมิตร 1741
  • ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครอง
    • kaewjanaron
    • facehot
    • ดูรายละเอียด
    • ใต้ร่มธรรม
Re: ชัมบาลา : บทที่ ๑๗ ระบบธรรมชาติ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2011, 08:20:58 pm »
อนุโมทนาครับพี่มด  :13:
การโพสภาพโดยใช้เว็บฝากไฟล์ภาพ imageshack.us/ (เว็บกบ)
การปรับแต่งห้องสมาชิกไร้ขีดจำกัด Ultimate Profile + ห้องเพลงส่วนตัว
การตั้งกระทู้และการโพสกระทู้ในเว็บใต้ร่มธรรมครับ
การแก้ไข้ข้อมูล ชื่อ ระหัส ส่วนตัวของสมาชิกใต้ร่มธรรมครับ
การใส่รูปประจำตัวเรา Avatar รวมทั้งลายเซ็นต์ ในกระทู้หรือโพสของเราครับ
เพิ่มไอคอน ทวิสเตอร์ เฟชบุ๊ค ยูทูบ ในโปรโปรไฟล์ของเรา
การสร้างอัลบั้มภาพส่วนตัวในห้องสมาชิก Profile Pictures
การเพิ่มเพื่อน กัลยาณมิตรใต้ร่มธรรม ในห้องสมาชิกส่วนตัว
การดูกระทู้ทั้งหมดที่เรายังไม่ได้อ่านครับ
โค้ดสี bb color code ไว้สำหรับโพสกระทู้ครับ
*วิธีเคลียร์แคชในทุกเว็บเบราว์เซอร์ครับ เมื่อคอมอืด*

ห้องประชุมของทีมงาน
~ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ~