คลังธรรมปัญญา > พรรณาอักษร

กระโถน ส้วม อยากระบาย เขียน บ่นอะไร เชิญ เอาให้โล่ง โปร่งไปสิบทิศ

<< < (12/137) > >>

มดเอ๊กซ:




2. ธ.ค.ตอนเย็น ๆๆๆๆๆๆ สด ๆ ร้อน ๆ หวาดเสียวววววววว
 
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด กรูอีกแล้ววววว เหรอออออออ นี่ ๆๆๆๆๆๆ
 
กลับจากทำธุระ ฟังการอบรมมา ตอนเย็น ๆๆๆๆๆๆๆๆ 6 โมง กว่าๆๆๆๆๆ
 
เราเป็นคนชอบนั่งรถ สีแดงมาก ชอบลมเย็น ๆ ริ่มหน้าต่าง
นอกจาก วันรีบ ๆ หรือกรณีจำเป็นเท่านั้น จะขึ้นรถตู้ รถแอร์
เวลานั่ง ชอบนั่งเบาะหลังที่สุด โดยเฉพาะริมหน้าต่าง มันส่วนตัวดี
ชอบนั่งหลับ ตาพริ้ม ให้ลมมันพัดผ่านกาย ชอบอาการแห่งลมพัด
ดูลม มีสติบ้าง จิตเตลิด เปิดกล่องความคิดให้ไหลรินบ้าง
 
วันนี้ ใจเราอยากนั่งรถสีแดงรับลมอีกแล้ววววว ฮิ ๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
เบอร์ 26 มินบุรี -อนุสาวรีย์ชัย ไหมลูกเพ่
 
ได้เลย เราก็ขึ้นไปเบาะหลังสุดริมหน้าต่างด้านซ้าย มุมโปรดสุดเลย
แล้ว เราก็นั่ง ถ่ายมิวสิก รับลมตามเคย คนขึ้นพอประมาณ
ไม่ถึงกับแน่นน่ะ วันนี้ไม่เคลิ้มหลับว่ะ นั่งตาตื่นตลอดเส้นทางเลย
 
ขอใช้คำว่า แม่งงงงงงงงงงงงง ! เอ๊ยยยยยยยยยยย !
 
ไอ้ฉิบหาย ให้กรูนั่งอารมณ์สุนทรีย์ สงบ ๆ เพลิน ๆ หน่อยได้ไหวฟ่ะ
 
งานเข้าเลย ! พี่น้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ! เอ๊ยยยยยยย !
 
 
กรูนั่งรถรับลมอยู่ดี ๆ มาถึง ก.ม.8 เท่านั้นแหละ
 
โครต พ่อง โครต แม่ง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอหยาบเลยล่ะ ขอโทษ
 
รถเมล์ที่นั่ง จอดเปิดประตู เท่านั้นแหละ
 
ไอ้ เด็ก เทคนิก เทคโน อาชีวะ จากไหนไม่ทราบ
 
กรูมาเลย มากันเป็นฝูงงงงงงงงงงงงง เห็นชี้หน้าด่าใครไม่รู้
ที่ประตูหน้า ซักพัก แป๊บบบบ เดียวเองแหละ
 
ได้ยินเสียงว่า
 
เฮ๊ย ! ตามมาด้วยเสียง เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !
 
 
ที่หน้าประตู เท่านั้นแหละ เราและชาวคณะผู้โดยสารแห่งประเทศไทย
 
หมอบลง พื้นรถเลย หลับกระสุนกันใหญ่ ๆๆๆๆๆๆๆๆ ( มดด้วยยยย )
 
 
พี่คนขับ แกไวมาก มีสติ เลยปิดประตู ซิ่งรถหนี จากท่ารถ ก.ม 8
ผ่านไป สอง สามป้าย ยังจอดไม่ได้ เพราะเห็นเด็กอาชีวะท่ารถอื่นอีก
งานนี้ ไม่รู้ว่าใครเป็นใครล่ะ ซิ่งไปจนถึง ท่ารถปลอดภัยแล้วค่อยจอด
 
ขณะที่หมอบ เราก็ถาม พี่น้องผู้โดยสาร ถามพี่เป๋ารถเมล์ ว่า
 
ปลอดภัยยัง ชูหัวได้ยัง ผ่านโซนอันตรายไปยัง
 
จนเราสังเกตเห็น เขายืนกันเกือบหมด เราก็ยืนด้วย เออเปลอดภัยแล้ว
 
ใจเราเต้น สติกระเจิงไปบ้าง จนคุมสติได้ เห็นคนนอนงอ อยู่กลางรถเลย


 
เราเห็นคนเจ็บ โอ๋ยยยยยยยยยยยยย เราเผลอด่าเลย มันอะไรกันวะ
มึงนึกจะ ยิงก็ยิง ผู้โดยสารเต็มคันรถ ไปโดนคนบริสุทธิ์
คนไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ว่าไงฟะ
 
เห็นเด็กเทคโนคนหนึ่ง โดนคู่อริยิง นอนงออยู่ เราเข้าไปถามเหตุการณ์
คนอยู่ไกล้ ๆ หน้ารถ กับ พี่เป๋ารถเมลล์ จนได้ความ
 
เราไม่รู้จะช่วยยังไง ดีนะคนบนรถช่วย ๆ กันโทรไปหา
ตำรวจ โรงพยาบาล หน่วยกู้ภัย
เราได้ สมุดเล่มหนึ่ง ก็ช่วยพัด ลมไกล้ ๆ หน้าคนเจ็บ
ใครมียาดม เอาไปแนบจมูกกกก คนเจ็บ พร้อมพูดปลอบใจ
ข้าง ๆ หู ว่า ใจเย็น อย่างเพิ่งหลับน้อง พี่ช่วยเรียกรถพยาบาลให้แล้ว
อย่าหลับ น้อง อย่าหลับ อีกนิดเดียว จะมีคนมาช่วย
 
กระสุนเข้าไปที่ท้อง 1 นัด แต่ไม่มีเลือด น้องเข้าใส่เสื้อ 2 ชั้น
เสื้อขาว ทับกับเสื้อช็อปน่ะ เป็นรูเลย ดีนะไม่โดนที่สำคัญ
แต่ก็เจ็บพอดู เพราะถึงกับนอนนิ่ง หายใจอยู่นะ ดีใจที่ยังหายใจอยู่
กระสุนถ้าจะ แตกใน เลือดน่าจะตกข้างใน
 
น้องมันจะกลับบ้าน จะลงรถ แกเห็นคู่อริมาเป็นฝูงเลย 10 กว่าคน
น้องมันบอกให้พี่คนขับ อย่าเปิดประตู ให้ปิด คู่อริผม
แต่ คนขับไม่รู้ อยู่หน้ารถนะ ประตูหน้าเลย พอเปิดเท่านั้นแหละ
พวกกรูมาตรงหน้าประตู ยืนยิง ประชิดตัวเลย โดนทีท้อง
พอดีคนขับปิดประตูทัน เสียก่อน ไม่งั้นคงโดน ลูกสอง ลูกสาม ถึงตายแน่
น้องมันโดนยิง มันวิ่งมาที่ กลางรถบอก พี่น้องคนโดยสารว่า
 
พี่ พี่ พี่ ผมโดนยิง !
 
เท่านั้นแหละ น้องมันฟุบ ตรงกลางรถเลย
 
ปืนจริง ๆ นะ เพราะ เสียง ชัด ๆ เลยว่าเป็น ลูกซอง ดังสนั่น
กลิ่น ดินปืนคลุ้งไปทั่วรถ ได้กลิ่นตอนหมอบนะ ปืนแน่นอน
 
เราและผู้ร่วมในเหตุการณ์ ให้ปากคำ เป็นพยาน กับตำรวจ
ไม่รู้ มีนักข่าวด้วย รึเปล่าหว่า จนได้เวลาจึงรีบกลับบ้าน
 
 
เฮ่อออออ ! ซวย รึฟาดเคราะห์ไปฟะ เห็นความตาย ตรงหน้า
อีกแล้ว หลังจาก เจอ M 79 บอมครั้งก่อน 2 เดือน
เห็นความตาย 2 ครั้ง เราได้อะไรบ้างฟะ เราถามตัวเราเอง
ยังทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านได้ไม่เยอะเลย
หายใจเปลืองออกซิเจนโลกไปเปล่า รึเปล่าวะ ถามๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใจคน จะ ตอบ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บ้างล่ะ
 
ชีวิต กับ ความตาย มันไกล้กันนิดเดียวเอง
 
จำไว้นะ แถวโซนจุฬา - มาบุญครอง กับ โซนถนนรามอินทรา 2 โซนนี้
ขึ้นรถแอร์ รถตู้ น่าจะปลอดภัยที่สุดดดดดดด เพราะ ไอ้พวกเด็กบ้านี่
มันจะชอบ ปะ ฉะ ดะ กันบนรถเมลล์ร้อนสีแดง เห็นอะไรไม่เข้าท่า
ให้เตรียมหมอบ เตรียมลงจากรถได้ อย่าสัปหงกมากไป อย่าถ่ายมิวสิกมากไป
ไม่ดี ความตาย กวักมือเรียกทุกเมื่อ ๆๆๆ นะ



 
วันนี้ กลับถึงบ้าน ประมาณ 1 ทุ่มกว่า ๆๆๆๆๆ
 
วันนี้ เราอารมณ์ดีขึ้น ชื้นขึ้น หลังจากเหตุการณ์ เรามองเห็นพระจันทร์
ลอยตามรถเมล์ ไปตลอดเส้นทางเลย นั่งมองพระจันทร์ริมหน้าต่าง
เป็นรูปกระต่ายด้วย ลืมบอกไปอย่างหนึ่ง แถวเข่าข้างซ้ายของเรา
มีปานรูปแปลกมาก ตั้งแต่เล็กแล้ว แม่แกบอกว่า มันเป็นรูปกระต่ายวิ่ง
โกยสี้เท้าเลย ล่ะ โตแล้วก็ยังมีอยู่ คงจะติดตัวไปจนเราหมดลม ละร่าง ล่ะ
 
มันวิ่ง วิ่งไปถึงไหนหว่า ยังไม่ถึงเวลาหยุดกระมัง วิ่ง ๆๆๆๆๆๆ โกย อ้าวววววว
 
โอ่ววววววววว บ้านดิน ที่แสนสงบ จ๋า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สาธุ

มดเอ๊กซ:
ท่าน ว.วชิรเมธี หรือ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี
 

 
หาได้แต่ ปก หาบทความที่ลงไม่เจอ สงสัยต้องซื้อมาอ่านละมัง
แต่โดยสรุป ท่านคงจะพูดถึงเรื่องแก้กรรมต่างๆ ประมาณนี้
 
การแก้กรรมคือการแก้ที่ความหลงผิด การแก้กรรมคือการเลิกทำความชั่ว
ดังนั้นการแก้กรรมจึงไม่ใช่สำเร็จที่การสะเดาะเคราะห์หรือทำพิธีจากเกจิ
 
คนที่รู้เรื่องกรรมดีที่สุดคือตัวเราเอง คนที่แก้กรรมได้ดี่ที่สุดคือตัวของเรา
การแก้กรรมต้องทำด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่ด้วยพิธีกรรมแปลกๆ
 
คัดมาจากคำคมของท่าน ว. (ข้อ 9-10)
 
คำคมโดยท่าน ว.วชิรเมธี
 
1. คนธรรมดาทำบุญก็อยากได้บุญ คนมีปัญญาทำบุญหวังจะเกิดในภพใหม่ที่ดีกว่าเดิม แต่ชาวพุทธแท้ทำบุญเพื่อการปล่อยวางกิเลสอย่างสิ้นเชิง
2. สิ่งที่ตาเห็นอย่าเพิ่งสรุปว่ามี สิ่งที่คนยอมรับว่าดีอย่าเพิ่งบอกว่าเห็นด้วย
3. ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี
4. นักปราชญ์ตะวันตกกล่าวว่า อำนาจทำให้คนเสีย ยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จยิ่งเสียคนแบบเบ็ดเสร็จ
5. ดาบที่ดีต้องมีฝัก ความสามารถที่ดีต้องมีจริยธรรม
6. พ่อแม่ที่ดีต้องมีพรหมวิหาร 4 หน้า หน้า 1 เมตตา หน้า 2 คือ กรุณา หน้า 3 คือ มุทิตา หน้า 4 คือ อุเบกขา
7. ยามปกติเลี้ยงลูกด้วยเมตตา ยามมีปัญหาคอยช่วยเหลือด้วยกรุณา ยามลูกทำดีคอยส่งเสริมด้วยมุทิตา ยามลูกทำผิดปล่อยให้รับกรรมด้วยตัวเอง คือ อุเบกขา
8. รอยเท้าแรกที่เหยียบบนดวงจันทร์ไม่ใช่รอยเท้าของมนุษย์ แต่เป็นรอยเท้าแห่งจินตนาการ
9. การแก้กรรมคือการแก้ที่ความหลงผิด การแก้กรรมคือการเลิกทำความชั่ว ดังนั้นการแก้กรรมจึงไม่ใช่สำเร็จที่การสะเดาะเคราะห์หรือทำพิธีจากเกจิ
10. คนที่รู้เรื่องกรรมดีที่สุดคือตัวเราเอง คนที่แก้กรรมได้ดี่ที่สุดคือตัวของเรา การแก้กรรมต้องทำด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ใช่ด้วยพิธีกรรมแปลกๆ
11. คนขุดบ่อน้ำก็ลงต่ำอยู่ในดิน คนก่อกำแพงก็ขึ้นสูงตามกำแพงที่ก่อ ฉันนี้ฉันใดคนทั้งหลายก้เป็นเช่นนั้น จะสูงจะต่ำขึ้นอยู่กับการกระทำของตน
12. คนฉลาดชอบแกล้งโง่ คนโง่ชอบเสแสร้งว่าฉลาด ส่วนนักปราชญ์เรียนรู้ที่จะฉลาดและเรียนรู้ที่จะโง่
13. กฎแห่งกรรมไม่ต้องมีวีซ่า กฎแห่งกรรมไม่ยกเว้นหน้าอินทร์หน้าพรหม กฎแห่งกรรมไม่มีวันหยุด กฎแห่งกรรมเที่ยงธรรมตลอดกาล
14. บิล เกตต์ เรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
15. อย่ายึดติดกับความหลัง อย่าฟังเสียงปาปมิตร (มิตรชั่ว) อย่ามัวคิดริษยา อย่าเสียเวลากับคนเลวทราม
16. คนส่วนใหญ่เรียกร้องสิทธิมนุษยชน แต่คนมีปัญญาเรียกร้องสิทธิที่จะไม่ทุกข์
17. ความไม่รู้เป็นยอดแห่งมลทิน ปัญญาเป็นยอดแห่งสิริมงคลความถ่อมตนเป็นยอดแห่งเสน่ห์
18. รถทุกคันล้วนมีเบรก รถทุกคันล้วนมีท่อไอเสีย คนทุกคนต้องมีเบรกคือสติ ต้องมีท่อไอเสียคือการปล่อยวาง
19. ความทุกข์ไม่เคยยึดติดเรา มีแต่เราต่างหากที่ยึดติดความทุกข์ ความสุขไม่เคยไปจากใจเรา มีแต่เราต่างหากที่ไม่เคยถนอมมันไว้ในใจของเรา
20. ยศ ทรัพย์ อำนาจเป็นเพียงมรรควิธีที่ทำให้ชีวิตนี้มีประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ โปรดอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นเป้าหมายในการเกิดเป็นมนุ๋ย์
21. ทำผิดแล้วรู้สึกผิดต่อไปจะเป็นคนดี ทำผิดแล้วรู้สึกว่าเป็นความดีกาลกิณีจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
22. ที่สุดของความรักคือรักโดยไม่ครอบครอง ที่สุดของการให้คือให้โดยไม่หวังผล ที่สุดของทานคืออภัยทาน ที่สุดของคนคือการเป็นคนธรรมดาที่มีความสุข
23. ความรักไม่เคยทำให้ใครทุกข์ การไม่รู้จักธรรมชาติของความรักต่างหากที่ทำให้เกิดทุกข์ ธรรมชาติของความรักคือเกิดขึ้นในเบื้องต้น ดำรงอยู่ในท่ามกลาง และแตกดับไปในที่สุด
24. โลกนี้มีผี 6 ตัวที่น่ากลัวกว่าผีไหนๆ 1 ผีสุรา 2ผีเที่ยวกลางคืน 3. ผีมหรสพ (ติดใจในความบันเทิงจนเกินพอดี) 4 ผีการพนัน 5 ผีคบคนชั่วเป็นมิตร (คนชั่วอยู่ไหนชอบเถลไถลไปสนิทสนม) 6 ผีขี้เกียจ ผี 6 ตัวนี้ต้องปราบด้วยปฏิบัติธรรม
 
 
ขอบคุณบทความจากธรรมจักรดอทเน็ต
 


http://arch57.omninmo.com/smf/index.php?topic=208.0

มดเอ๊กซ:

 
22.23 น. วันพ่อ
 
ธงพระเจ้าอยู่หัวโบกปลิวไสว
เรียงรายอยู่บนยอดพระบรมบรรพตภูเขาทอง
ทะเลสีชมพูไหลขึ้นลง ยอดภูเขาทองไม่ขาดสาย
แว่วยิน เสียงฆ้องก้องกังวานอยู่ๆ ไกล้ เป็นระยะ
สลับกับสายลมที่พดโชยเย็นสบาย
มองเห็น งานมหรสพเทอดพระเกียรติ แสง สี เสียง
อลังการ เรายืนชมอยู่บนนี้ หัวเบาหวิว จิตคลาย หายใจสดชื่น
อยากมองจากเบื้องบนลงไปปลายเบื้องล่าง ใจกลางพระนคร
อยากหยุดโมงยามอันสุขสงบ ไว้ตรงนั้น ชั่วนิรันดร์
ไม่อยากลงไปเบื้องล่างเลย
 

 
 
 
 
วันนี้ พระมารดาของเราซื้อเสื้อสีชมพูมาให้
เลยใส่ขึ้นรถลุยท้องสนามหลวง
ขอเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ละกัน
แม้เป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ในแผนที่ประเทศไทย
มาคนเดียวอีกแล้วครับท่าน สะพายเป้สีส้มแป๊ดดดด
ถนนทุกสายมุ่งไปยังท้องสนามหลวง
บนถนนเต็มไปหมดคนเสื้อสีชมพู
เหมือนสายธารสีชมพูหลากสาย จุดหมายคือ มหาสมุทรใหญ่
ไหลไปรวมกันที่ ท้องสนามหลวง เป็น มหานทีสีชมพู
ทะเลสีชมพู ทะเลแห่งความจงรักภักดี
ถึงสนามหลวสงประมาณบ่ายกว่า ๆ ท้องหิว จ๊อก ๆๆๆๆๆ
เลยขอฝากท้องไว้กับ โรงบุญ โรงทาน กินข้าวฟรี จนอิ่ม ๆ
ขออนุโมทนา ในหยด ข้าว หยดน้ำ ของท่านผู้เจริญนะ
เดินจงกลม ล่อเป้า รอบท้องสนามหลวง ดูสายธารสีชมพู 2 รอบกว่า ๆ
จนอาหารย่อย ธาตุขันธ์ของเรา เบาขึ้น ทำบุญวัดปัญญาไป 100 บาท
ได้ พระไภสัชคุรุ เนื้อผงมาบุชา 1 องค์
จิตโอสถ กายโอสถ นโม ไภสัชคุรุพุทธะ สาธุ สาธุ
ซักพักได้นั่งรับเสด็จฟ้าชาย แต่เราเห็นท่านแว๊บ ๆ ผ่านฉิวไปเลย
ได้เวลาแล้ว 6 โมงเย็น เลยเดินดูงาน ตั้งแต่ท้องสนามหลวง
กะจะให้ถึง ลานพระบรมรูปทรงม้า ตั้งใจจะเดินไล่ดูมันทุกซุ้มเลย
เราไหลกับไป ทะเลสีชมพู บนถนนราชดำเนิน
เดินผ่านขบวนสวนสนาม เหล่าแม่บ้านเหล่าทัพ กระทรวง ทบวง กรม
วงโยทวาทิศ 3 ระลอกใหญ่ ยาวมากกกกกกกก เดินหยุด เดินหยุด ตลอด
กว่าจะจบท้ายขบวน เดินไปจนไกล้จะถึงลานพระบรมรูปทรงม้า
แต่ข้ามถนนไปไม่ได้ เพราะคนแน่นมาก เลยตัดสินใจเดินวกกลับ
ไปดู จอทีวีขนาดใหญ่แทน เป็นการแสดงดนตรี แจ๊สสสสสสสสสส
แนวโปรดของในหลวง บทเพลงพระราชนิพนธ์สุดไพเราะ
จากนักร้องระดับแม่เหล็ก นั่งฟังอยู่นานจนจบรายการเพลงแจ๊สสส
แล้วค่อย ๆ ไหลไปกับคลื่นมหาชน จนถึง สะพานมัฆวาน
หยุดชะงักอยู่ เพราะเห็น วาทยากร คุณบัณฑิต อึ้งรังสี นำวงดนตรี
ออเคสต้า บรรเลงอยู่ ฟังจนมาถึงคิว ของ พี่เบริด ธงไชย ร้องเพลง
จึงค่อย เดินดูงานจนมาถึง หน้ากระทรวงคมนาคม
เกิดอาการเพลีย จึงแวะข้างทาง งีบ 1 ตื่นบนเป้ นอนสนามหญ้าสีเขียว
ข้างทางมองดูคลื่นทะเลสีชมพูไหลผ่านเราไป พอเห็นเรานอนเท่านั้นแหละ
คนที่เดินผ่าน ก็มานั่งกันใหญ่ นั่งรอบ ๆ ตัวเรา เขาคงเหนื่อยกระมัง
เห็น มาจากต่างจังหวัดด้วย เสียงเหน่อ ๆ เยอะสุด
มีแหม่มฝาหรั่ง แกเดินมาหาเราตรงที่นอน แล้ว ยิ้มให้
แกคงเห็น ท่าทางเรานอนแล้วประทับใจรึเปล่าหว่า ฮ่าๆๆๆๆ
เราก็ยิ้มตอบแหม่มแกไป เป็นภาษา ที่สื่อ กันด้วยรอยยิ้ม
แว๊บ ๆ เดียวเท่านั้นแหละ แกก็เดินจากไป
รอยยิ้ม ของแหม่มแกมีพลังชะมัด ทำให้ใจเราฟู สดชื่น
นอนมองทะเลชมพู จนงีบไป คร๊อกกกกกกก !
 
ตูม ! สนั้นเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ เราสะดุ้งเสียว ระเบิด ว่ะ
ช่วงนี้ หลอน ๆ อยู่ด้วย ที่ไหนได้ คนแตกฮือ ไปดูพลุ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เสียงพลุ อ่ะ เง่อ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
คนฮือฮา น่าดู เพราะเป็น พลุชั้นเลิศ จัดมาฉลองวันพ่อโดยเฉพาะ
เหลือบไปเห็น แสง แฟรชชชชชช แปล๊บ ๆๆๆๆๆ บนยอดพระบรมบรรพต
ภูเขาทอง อ้าววววว เฮ่ยๆๆๆๆๆๆ ดีใจมากกกกกก เขาเปิดภูเขาทองนี่หว่า
เลยจ้ำอ้าววววววว ขึ้นภูเขาทอง ขึ้นไปทำบุญพระเจดีย์ เห็นแบ๊ง ๆๆๆๆๆ
ปลิวไสวเลย มีแบ๊งงงง เราอยู่ด้วยยยยยยย สาธุ ๆๆๆๆๆๆๆ
 
เด็กวัยรุ่นทีไหนหว่า มันตีฆ้องใหญ่ บ้าพลังชะมัด เล่นเอาซะ
หลุดไปทั้งยวง เลยต้องช่วยมันซ่อม ยกฆ้องเข้าที่
ฆ้องตี ฆ้องอธิษฐาน ของวัดสระเกศกระมัง ตีแล้วจะโชคดี
ว่างั้น พวกคงอยากโชคดีจัดเลยเล่นซะ สายหลุด ร่วงไปทั้งอัน
 
เดินประทักษิณา รอบพระธาตุ 3 รอบ
 
สังเกตุว่า คนขึ้นภูเขาทองวันนี้ เยอะกว่า งานลอยกระทงอีกนะ
ชมวิวบนยอดภูเขาทอง จน หาววววววว
แล้วจึงลง ไปที่ ถนนราชดำเนิน เดินดูซุ้มที่ ไม่ได้ดู จนหมดเลย
 
 
แวะลงนามถวายพระพรด้วย
 
 
 
ถึงสนามหลวง ได้ดูมวยไทย ฝรั่ง นานาชาติ ชกกัน ดูจนจบ
เพิ่งเห็น การแทงมวย ริมขอบเวที เขาใช้ภาษา โค๊ดดดเฉพาะตัวเลย
ดีใจที่มวยไทยดังไปทั่วโลก แต่เสียใจที่ มีคนเล่นพนันกัน จะ จะ ต่อหน้า
คนภาคมวย วันนี้ ฮามากกกกกกกกกกกกกก คร๊าบบบบบบบ
 
ขากลับ ขึ้นรถหลง จนต้องเดินซะ
โอ๊ยยยยยยยยยยยยย ถึงตลาดบางกะปิ ยามเช้ามืดดด
ตีห้า เห็นแม่ค้า ราคาผัก ผลไม้ เดินไปเทียบราคา กับ แถวบ้านเรา
ได้ของติดมือด้วยยยยย อิ อิ อิ
 
 
วันนี้วันหยุด ยังไม่กลับ ยังไม่นอน เดี๋ยว จะแวะ แถว ๆๆๆๆ
สันติอโศก หาซื้อของใช้จำเป็น ติดไม้ติดมือ ไปตัดผมด้วยยยย
พร้อมกับ คุย สืบข่าว ความเคลื่อนไหว การยกระดับจิตร่วมแห่งชาติ
 
พิมพ์ไป ง่วงไป แค่นี้แหละ อรุณสวัสสสสสสสสสสส คร๊อกกกกกกกก

มดเอ๊กซ:
ฝันและความยืดหยุ่นของ… โน้ต-อุดม แต้พานิช




 
ผมแทบไม่ต้องสาธยายความเป็น อุดม แต้พานิช เลยแม้แต่นิด เพราะวิถีในการดำเนินชีวิตที่เด่นชัดกับคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน สร้างปรากฏการณ์ตลอดระยะเวลาที่เขาเดินอยู่ในสายงานศิลปะ เขาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ จนกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดของผู้คนจำนวนมาก เชื่อหรือไม่… มุมตลกของเขาถูกผู้คนนำกลับไปเล่นต่อมากที่สุดคนหนึ่ง
 
อุดม แต้พานิช ไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ พอใจง่ายๆ กับทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นความฝันที่มันสนุกๆ ฝันไกลๆ ไม่จำเป็นต้องไปให้ถึงก็ได้ ความฝันล่าสุดที่เขาเล่าให้ผมฟัง ช่างเป็นความฝันที่เรียบง่าย สะท้อนการเดินทางอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ยึดติด อะไรทำให้ชายจมูกโตอารมณ์ขันถึงได้นึกคิดเช่นนี้ อะไรที่ทำให้เขาพร้อมต่อการขึ้นเวทีโชว์ศิลปะการเอาตัวรอดคนเดียวกับครั้งที่ 8 ที่จะมาถึง แล้วอะไรกันที่ทุกท่านต่างค้นหา สิ่งเหล่านั้นคือ… อะไร
 
• ถ้าให้เลือกสถานที่ที่สามารถไปโชว์ สแตนด์อัพ คอมเมดี้ได้ 1 ที่ในโลก สถานที่ใดที่คุณใฝ่ฝัน
 
คิดว่าผมสมปรารถนาไปแล้วนะ ตอนที่ไปเล่นที่นิวยอร์ก ที่ได้ไปเล่นในโรงแมนฮัตตันเซ็นเตอร
 
• มองว่าเรื่องตลกหรืออารมณ์ขัน สำคัญกับชีวิตคนเรามากน้อยแค่ไหน
 
ถามกลับไปเลยดีกว่า ถ้าโลกนี้ไม่มีอารมณ์ขันน่ะ ถามว่ายังอยู่กันได้ไหม? อารมณ์ขันเนี่ย มันเป็นเหมือนผงชูรสของโลกเลยล่ะ จริงอยู่มันทำให้ผมร่วง แต่ว่ามันก็ทำให้กินอาหารอร่อยขึ้น แล้วก็อารมณ์ขันถ้าเป็นรถก็เหมือนโช้คอัพน่ะ ถามว่าขับรถไม่มีโช้คได้ไหม ได้! แต่มีโช้คแล้วมันดีกว่าไหม? เพราะว่าบางทีตกหลุมใหญ่ๆ หลุมชีวิตคุณน่ะ ใหญ่ๆ แต่ว่าบางที อารมณ์ขันเนี่ยมันทำให้ลดแรงกระแทกได้ ยกตัวอย่าง คุณมีแฟน มีคนรัก บางเวลาคุณทะเลาะกันเนี่ย บางครั้งอารมณ์ขันมันทำให้เรื่องใหญ่ๆ กลายเป็นเรื่องเล็กๆ ได้ งอนกัน แทนที่จะงอนกัน 10 วัน บางทีอาจจะหายในช่วง 10 นาทีก็ได้ อารมณ์ขันมีประโยชน์ต่อโลก จนผมคิดว่าขาดกันได้หรือ? ขาดกันได้หรือเปล่าล่ะ?
 
• อะไรคือความสำเร็จรูปของคนสมัยนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้
 
ผมคิดว่าเกิดจากการที่เราเคยชินกับทุกอย่างที่มันมาเร็วๆ เราขอเน้นย้ำนะ เราเคยชินกับทุกอย่างที่มันมาเร็วๆ แต่ก่อนเขียนจดหมาย เขียน คิด ด้วยหนังสือ เตรียมกระดาษ พับจดหมาย ไปไปรษณีย์ เลือกแสตมป์ให้มากขึ้นถ้าส่งใคร แปะ เลียน้ำลาย แปะ (ตบมือประกอบ) หยอดตู้ รอ 5 วัน 3 วัน 1 อาทิตย์ รอเขาตอบกลับมา นี่คือกระบวนการ ทุกวันนี้ บีบีในชั่วพริบตา แต่ก่อนดารากว่าจะได้เจอกัน กว่าจะรู้ว่าเขาทำอะไร ไม่มีทางที่ใครจะได้คุยกับดารา โอ้ย... เดี๋ยวนี้ทวิตเตอร์ เขามาบอกกับเราหมดว่าเขาทำอะไรที่ไหน คุยกับเขาได้ด้วย สามารถ แม้กระทั่งนายกฯ ก็ยังสามารถสัมผัสเขาได้ ทุกอย่าง เร็ว สั้น ทุกอย่างมันมาเร็วหมด
 
ผมจะสรุปอันนี้ให้ละกัน ตอนนี้ผมว่าความสำเร็จเหมือนผลไม้ ต้องบ่มถึงจะมีรสซาติที่ดี เรากินก่อนก็ได้ แต่ว่าบางทีรสชาติมันก็ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ต้องอดทนรอนิดนึง ของอย่างนี้มันมีเวลาของมัน
 
• ความฝันล่าสุด ณ ปัจจุบัน
 
ไปอยู่เชียงใหม่ ทำมาหากินเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็มีโรงหล่อเซรามิก มีเตาเซรามิกของตัวเอง แล้วก็ขายไอติม แล้วก็ทำโรงเซรามิกที่ให้คนกินไอติมมาปั้นถ้วยเอง แต่ในชีวิตจริงถ้วยเซรามิกนี่ต้องมาปั้นก่อนอาทิตย์หนึ่ง แล้วต้องไปผ่านกระบวนการเผา การเคลือบ อย่างน้อยก็น่าจะ 10 วัน หมายถึงว่าคุณมากินวันแรก คุณมา มากินแล้วคุณก็มาปั้นถ้วยที่คุณอยากมีไว้ใส่ไอติม เดี๋ยวเราเผาให้ แล้วครั้งต่อไปที่คุณมากินน่ะ คุณก็มากินถ้วยของคุณเอง ฝันแค่นี้ล่ะ เล็กๆ
 
มีที่ดินอยู่ที่เชียงใหม่เป็นสวนต้นไม้เยอะๆ เลย แล้วผมก็คิดว่าผมจะเอาร้านไอติมน้อยๆ ของผมเนี่ย ไปตั้งอยู่ในนี้ วันๆ เราก็ ปั้น วาดๆ อะไรของเราไป อยากให้มันมีบรรยากาศของคนที่มาใช้ชีวิตช้าๆ กินอะไรเย็นๆ ใจเย็นๆ ผมอยากทำสเปซตรงนั้นให้มันเป็น ‘สโลว์ฟู้ด’ กินอะไรให้ใจเย็นๆ หน่อย คือไม่ผิดอะไรที่คนเราจะรีบ เพราะโลกเราทุกวันนี้มันเร็วไปหมด ใช่ไหม? แต่ว่ามันคงน่าสนุกนะ ที่ตรงนี้เนี่ยคือจะไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ก็นั่งกินกันอยู่อย่างนี้ล่ะ เพราะปกติทุกที่นะคุณตอนนี้ถ้าคุณทำร้านกาแฟ คุณก็ต้องมีอินเทอร์เน็ต Wireless, Hi-speed ไม่งั้นเขาคงจะไม่เข้า แต่ที่ตรงนี้อาจจะเป็นที่ที่ทำอะไรที่มันช้าๆ หน่อยอย่างนี้ นั่นก็เป็นความฝันที่มันสนุกๆ ฝันไกลๆ ไปไม่ถึงก็ได้…
 
 
คุณสามารถอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ใน นิตยสาร BE
เรื่อง : กิตติพจน์ อรรถวิเชียร / ภาพ : สุตสาย สังหาร
 
http://www.think-be.com/vol7/BE_vol7.html

มดเอ๊กซ:

 
 
 
แง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ปู้จัดการ คนเก่าลาออกไป 2 คนเลย
บ้า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดันเสือกกกกก ออกตอนที่เรา ส่งเรื่องขอที่อยู่ใหม่
รอแค่เซ็น อนุมัติ แค่นั้นเอง เราแทงเรื่องไปวันนั้น แกเสือกออกวันนั้นเลย
 
ม่ายยยยย มีใครเซ็นให้ แง่ม ๆๆๆ ฟึดฟัด ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
เลยต้องรอคนใหม่มา ประมาณ 20 กว่ากัน ปีใหม่มกราคม โน่น ๆๆๆๆ
จึงจะเข้าที่ ทุกอย่างจะเข้าที่ จะอยู่ตัว ขอให้เป็นจริงเถอะ ๆๆๆๆๆ
ลุ้นแทบตาย พรุ่งนี้สอบข้อเขียนนนนน อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
ความจำสั้น ความฝันยาว ครับพี่น้อง
 
กรูเลยต้องตื่นตี 3 ขาไป จากดอนเมืองงงงงงงงงงงงงง
ขากลับบ้าน จาก แถวสมุทรปราการ ถึงบ้านเฉียดๆๆ 5 ทุ่ม
 
ทน ไป ๆ กลับ ๆ 20 กว่าวัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
ไม่เครียดนัก แต่ฟึดฟัด แล้วเอาวะ สู้ ไม่กลัวโว้ยยยยยย
 
หลับบนรถ เข้าฌานบนรถ ก็ได้ฟะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
ทำไม มันต้องหวุดหวิด วันนี้ วันเดียวด้วยวะ
อีกนิดเดียว ออกช้าอีกหน่อยก็ไม่ได้ เสือกออกวันที่เราแทงเรื่องไป


 
พอดี เด๊ะ ๆๆๆๆๆๆ เป๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลย
 
 
แง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 
ทำไมมันต้องแบบนี้ อีช่วงนี้ด้วยฟะ วางแผนไว้แล้วนะ
ลำดับเวลา จังหวะ เรี่ยวแรง ความคิด ชีวิต ความฝัน ไว้แล้ว
ต้องมาจัดลำดับชีวิต ลำดับความสุขใหม่ เลย
 
ไม่กลัว เรามีวิชาทหาร วิชาพระ เตรียมรับมือแล้ววววว
 
โพสนี้ เอาพี่โน๊ตตตตต อุดม ไปดูต่างหน้า มดเอ๊กก่อนละกัน
ไม่ต้องมี ทวิสเตอร์ ใช้ กระทู้นี้แหละ แทนทวิสเตอร์
 
 
ฮิ ๆๆๆๆๆๆๆ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version