@เหงาเท่าจักรวาล สู่ ศาสตร์แห่งความเหงา
ทุกคน ๆ เป็นคนขี้เหงา
สุดแต่เรา จะเหงา แบบไหน
เหงา เท่า จักรวาล เป็นไง
สุดท้าย ก็ต้องอยู่กับตัวเอง
แปรเปลี่ยน ความเหงา เศร้าหงอย
เป็น ความเงียบ สงบเยือกเย็น จะดีไหม
กลายเป็นคู่ชีวิต ใน บั้นปลาย
ดีใหม เราบอกตัวเรา
ความเอย ความเหงา
กลับกลาย ทำร้ายตัวเรา
ถ้า ไม่เหงา อย่างอารยะ
เรา ชอบความเหงา ใน เชิง สร้างสรรค์
แปรเปลี่ยน เฉดสี แห่งความเหงา
ไหลเป็น เรื่องราว
ลงตัวโน๊ต ลงภาพวาด
ลงกระดาษ ลงถ้อยคำ
ในทุก ๆ ความทรงจำ
เราว่า ความเหงาสร้างโลกได้
เหงา เท่าจักรวาล จะเป็นไร
เราก็ใช้ไป ในทางดี
เหงา แล้ว อย่าจมจ่อม
เหงา แล้ว ใช้มัน และ ลอยอยู่ เหนือมัน
เรา มิใช่ทาสแห่ง ความเหงา
แต่เราคือ นายมัน
รู้สึกได้ ใน รสเหงา
เจ็บได้ ปวดได้ ทุกข์ได้ ผิดหวังได้
แต่ อย่าจม
ต้อง ค่อย ๆ ผละออก ถอยออก
จนเห็นมัน และใช้มัน บรรเลง มัน
สุดท้าย แปรเปลี่ยน
ให้ เป็น ความสงบเงียบ ความชุ่มเย็น
เมื่อเรา เข้าใจ ความเหงา อย่างถึงแก่น
เห็นต้นธารแห่ง ความเหงา
เรา เขียนบอกตัวเรา เราฝึกอยู่
สุดท้าย เราอยู่กับใจเรา
ประคองใจไว้ อย่างให้ ทำร้ายตัวเรา
เรา ตั้งคำถามว่า
เออหนอ เราเหงา อย่างมี สติ ได้หรือไม่
เรา มิได้เหงา ทุกเวลา สักหน่อย
เรา เหงาเป็นด้วย
เรา กำลังเรียน ศาสตร์แห่งการหงอยเหงา
ใน โรงเรียนเศร้าวิทยา ฝึก เคล็ดวิชาโดดเดี่ยว
เราเหงา เท่าจักรวาล ได้
เรียกว่า " โครตเหงา เลย ว่ะ " ได้ เสมอ
เอา อาการโคตรเหงา เท่าจักรวาล
แล้ว ขับขาน เป็น เป็นถ้อยคำ
บาง ที ก็เขียน อยู่ เงียบ ๆ
บางที ก็เขียน ให้ คนอ่าน
บางที เรา มิได้ ตั้งใจเขียน
แต่ คนสัมผัส มันจับได้
ว่า เขียนแบบนี้ อาการนี้
มึงคงเหงา
เราไม่ได้ เหงา แบบซึมเศร้า
หากแต่ เราเหงาแบบ มิวสิค
เรียกว่า เหงาอย่างมีพลังชีวิต
เป็น ความเหงาเชิงสร้างสรรค์
เหงาแบบมิตรไมตรี
เหงาแบบเบาเบา
เศร้าแต่พองาม
ชายคนหนึ่ง นั่งเท้าคาง
ดวงตาเหม่อลอย
พลันถอนหายใจ เฮือก ใหญ่
แล้ว คุยกับตัวเอง ว่า
" สวัสดี จ้า ความเหงา
แกมาหา ฉันอีกแล้วนะ
มะมา มา มาคุยกัน
ตอนนี้ ฉันมีเพียง แก "
เหงาได้ แต่ อย่ากลาย เป็น ไก่หงอย
ปล่อยมันออกไป บ้างก็ได้
อย่าไปเก็บ
เหงา แบบ เบา ๆ กึ่ม ๆ
แบบดื่มเหล้า เบา ๆ แต่ ไม่หนัก
ทำให้ เราจัดการ
จัดระเบียบ ความเหงา
เกลอเก่า ของเราได้ บ้าง
ใน บางเวลา
สติมา อย่า มโน มากไป
เดี๋ยวความเหงา จะกลาย เป็น หงอย
แล้ว มันจะ ค่อย ๆ เจ็บปวด
ทุกข์ ซะ เปล่า ๆ
ไล่ตามความเหงา ของเรา ให้ทัน
โปรดจงเห็นมัน
และได้โปรดจง เหงา แต่ พอดี
เขียนบอกตัวเอง เพราะมีคน มาสะกิด ต่อมความเหงา แห่งตัวเรา เราไม่ได้ แสดงธรรม เราแสดงกิเลสหนา มายาการ ผ่าน อักษร น่ะ เราปล่อย ธรรมชาติ บางเสี้ยวส่วน ออกมา ไหลออก มา ตามถนัด ก็แค่นั้น นะ เราไม่มี อักขระ โวหารวจี บาลี ธรรม ใด ๆ จะแสดง เราแสดง ความดิบ ความสดใหม่ ธรรมชาติหยินหยาง มืดสว่าง บางมุม ออกมา ปลดปล่อย ปลดเปลื้อง พันธนาการ สภาวะ มลภาวะ บางอย่าง เรียกแบบนี้ ละกัน
เออ ก่อนจาก ฉัน แว้บ ๆ มา การสุนทรียสนทนา ใน ประเด็น ว่า ศาสตร์แห่งความเหงา วิถีแห่งความเหงา ......ประเด็นนี้ เท่ กรี๊ดดดด โดนใจเลย นะ เขียนเป็น หนังสือ ได้เลยนะ พวก ออเจ้า ทั้งหลาย ฉะนั้น จงกลับไป ฝึก ความเหงา กัน เยอะ ๆ น่ะ ออเจ้า ....ข้าขอตัว....
สุดแล้ว แต่ คนฟัง คนอ่าน คนรับสาร จะย่อยสาร อะไรที่ แว้บ ๆ ว้าบ ๆ อยู่ภายในของใครคนหนึ่ง เราเลย บ่น ซะมากมาย ในลวดลาย ประหลาดๆ บน คลื่นวิถี รูปลักษณ์แห่งตัว พอเหอะ จบ นะ
@ สวัสดี มีสุขทุกลมหายใจ จิตคารวะรอบวง
https://www.youtube.com/v/qaJHGZ9RKZE