คลังธรรมปัญญา > พรรณาอักษร
กระโถน ส้วม อยากระบาย เขียน บ่นอะไร เชิญ เอาให้โล่ง โปร่งไปสิบทิศ
มดเอ๊กซ:
ศาสนา คือ ฟ้ากว้าง ทะเลไกล
มิใช่ กำแพง กรงขัง
ทุกคนมีอิสระ
ในการเข้าถึง
ความจริง ความดี
ความงาม ตามวิถีตัว
สรรพสัตว์
มีกิเลสเป็น แสนเป็นล้านแบบ
วิถีเทคนิค อุบายธรรม
ก็ย่อมมี เป็นแสนเป็นล้านสไตน์
สรรพสัตว์มีจำนวนเท่าใด
วิถีแห่งธรรมก็มีจำนวนเท่านั้น
แต่ละคน มีรูปสีแสงเงา
มันดาล่า ผลึกภายในเฉพาะตัว
ต่างคนต่างสไตน์ .......
มดเอ๊กซ:
เรื่องกามนิต วาสิฏฐี ทำให้นึกถึง คำว่า ........
" เคียงคู่ แต่ไม่ได้เคียงข้าง"
" เคียงข้าง แต่ไม่ได้เคียงคู่ "
เสร็จกิจ เสร็จงาน ก็ กลับบ้าน พักผ่อน ????
มดเอ๊กซ:
เขียน ตรง ๆ จากหัวใจ และความรู้สึก ในทุกเฉดสี ทุกอารมณ์ แม้ในวันที่ ดิ้นพล่าน โลกภายในจะแหลกละเอียด งง โง่ เง่า เศร้า เหงา ซึม ฟุ้งกระจาย บ้าฉิบหาย เราจะละลายอาการด้วยตัวอักษร เขียนไปสักพัก ใจเราจะคลายตัว เขียนเก็บไว้ เวลาย้อนกลับมา อ่านจะ ได้ปัญญาพิจารณา ตัวเรา เหมือนได้แสงสว่าง จาก รอยแหว่ง แปลกไหม
.......เราเริ่ม ด้วยเขียนจากความสุขก่อน แม้จะเพียง เล็ก ๆ จากเสี้ยว บาง ๆ ในความทรงจำ เช่น เราทอดไข่ให้พ่อทาน พ่อพาเราขี่หลัง แม่หยิกแก้ม เบา ๆ แมวที่บ้านอ้อน กับข้าววันนี้อร่อย ความรักครั้งแรก การโบกรถเที่ยว การออกค่าย การไปวัด และอีกมากมาย การเขียนความสุข จะทำให้ใจเราพองโต ผ่อนคลาย ได้คิด แล้ว ค่อยขยับมาเขียน ใน ทุก ๆ อารมณ์หม่น ด้านมืด ระบาย เขียนบาดแผล เขียนไป ไหลไป เราเรียกมันว่า การระบายอักษร วาดคำ ไม่ต้องกลัวอะไร เราเขียนเราอ่านคนเดียวนี่หว่า เขียนไป ใจอย่าจม ตั้งสติ ดี ๆ แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไป เป็นเพียงแค่ ร่องอารมณ์ลบ เราใช้มัน เป็นนายมัน ไม่ใช่ทาสมัน บ่อยครั้งที่เราย้อนกลับไปอ่าน เราจะขำ เราจะตลก ความเห่ยๆ ความแหว่ง ๆ ความบิดเบี้ยว เหมือนหัวเราะเด็กน้อย ในตัวเรา เราจะคิดได้ เราจะเห็น ทางออกบางอย่าง เราจะจูนโหมดใจ เสียใหม่ เหมือนได้ชำระล้างตัวเอง ผ่านอักษร การเขียน
.....การเขียนจะทำให้ ห้วงเวลา ใจที่ไหลปรี๊ดดดด ช้าลง เย็นลง ผ่อนคลายลง ทุก ๆ อย่างช้า สติ การเห็นเราจะมา เกิดการเยียวยา จัดระเบียบภายใน เรา เราจะได้แง่คิด มุมมอง ต่าง ๆ ผ่านความมืด เราคิดว่า บาง ที ความมืด สอนอะไรเรา ได้ดีกว่า ความสว่าง ถ้าเรารู้จักวิธีจัดการมัน เรียกว่า ยิ่งมืด ยิ่งสว่าง
.....คุณหมอท่านหนึ่ง ท่านสอนเรา เรียกว่า การเขียนเพื่้อเยียวยา ตอนแรก เราเขียนคนเดียวให้ตัวเองอ่าน ต่อ มา เราเขียนให้เพื่อนสนิท คนมีปัญหาเหมือนเราอ่าน ผลัดกันอ่าน ผลัดกันคุย ก็ได้ฉุดช่วยกัน สะท้อนแง่มุม ดี ๆ แก่กัน เรียกว่า การ dialogue สุนทรียสนทนา สนทนาชำระใจ
.....ในมุมพุทธ การเขียน เป็น การภาวนา เรียกว่า ขนิกะสมาธิ เวลาเราไหลคำ เราขับขี่อารมณ์ เราไม่จม อารมณ์มีเกิดดับ เขียนจนสุดแรงส่ง อารมณ์เราจะคลายตัว พอย้อนกลับไป อ่าน สิ่ง ๆ เน่า ๆ ในตัว ด้วยใจที่ผ่อนคลาย ใสกว่าเดิม มันได้เห็น ได้พิจจารณา เห็นทางออก ต่าง ๆ มากมาย
......สำหรับเรา การเขียนอย่างน้อยคือ การระบาย เกิดกลไกลเยียวยา ตัวเอง โดย ธรรมชาติ .......
จาก https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1007662722726033&id=737386923086949
มดเอ๊กซ:
ื
การเขียน คือ ทางผ่าน คือ สะพานเชื่อมฝั่ง คือ พลังแฝงเร้น เป็น การเยียวยา เราเรียกอักษรภาวนา เกิด วิปัสสนา แบบ อ่อน ๆ
ทีละขั้น เริ่ม เขียนที่ ความสุข จนขยายใหญ่ ก่อน พอใจเปี่ยมพลัง จิตมีกำลัง แล้ว ค่อย ๆ ปรับโหมด เขียนจาก ความทุกข์ ความมืดหม่น รอยแหว่ง ในตัว ......ถ้าใครไหว ก็ ชำแหละ หลั่งไหล ร่องอารมณ์ลบ ของตัวเองเลย สำคัญคือ มีสติ อย่าจม อารมณ์เป็นเพียงกระแส มาแล้วก็ไป ......เหมือนหาอะไรให้ใจทำ จิตเกาะเป็นพาหนะ พ่วงแพ ข้ามทะเลคลั่ง สักพัก คลื่นลมจะสงบ อาจพบอะไรบางอย่าง จิตจะคลายตัว ประมาณว่า ฟ้าหลังฝน หลังปลดปล่อยถ้อยคำ จะเป็นห่าฝนแห่งถ้อยคำ พายุแห่งถ้อยคำ ก็ตามแต่ ....ความซึมเศร้า ไม่ใช่โรค ทุกคนในโลก มีความซึมเศร้าในตัว มีความทุกข์ในตัว เราสามารถหาวิธี แปรเปลี่ยน เยียวยามันได้ คนเขียนก็ซึมเศร้า นะ เดี๋ยวนี้ ก็ยังซึมเศร้าอยู่ เป็นหย่อม ๆ การเขียนเป็น การระบาย อีกวิธีหนึ่ง ในหลากหลายการเยียวยา ที่น่าลอง มันอาจจะถูกจริต ถูกนิสัย เหมาะสมกับ บางคนก็ได้ นะ เช่น เรา .......
การเขียน ด้วยความสุข คือ การหลั่งไหล สารแห่งความสุข ผ่านถ้อยคำ การเยียวยาภายใน การคลายตัว กาววาง การวาบ การว้าวววว จะมาเอง
มดเอ๊กซ:
ส่วน การเขียน ด้วยความทุกข์ ต้องตั้งสติ ดี ๆ อย่าจม พอเขียนจนสุดสายป่านแห่งอารมณ์ มันจะเบาลงมาเอง เพราะอารมณ์มีการเกิดดับ พอเกิดปุ๊บ เราก็ขี่มันปั๊บ ๆ จนอาชาแห่งอารมณ์ มันเหนื่อย มันวิ่งจนหยุดลง ช้าเชื่อง ลงไปเอง ใจเราจะคลายตัวลง เป็นกลไกลแห่งการระบาย ผ่านร่องอารมณ์ลบ จบลงที่ ใจคลายตัว จิตใส ใจกระจ่าง ทางจะเปิด ดุจการกำเนิดใหม่
.......จิตฟื้นคืนสภาพ สบาย ๆ พอได้ย้อนกลับไป อ่าน สิ่งเน่า ที่เราเขียน มันกลับเกิด หน่อ อ่อน ๆ แห่งความสุข เกิดแสงสว่างบางประการ จิตหยั่งสู่การเห็น เป็นปัญญาบางอย่าง สะท้อนแง่คิด มุมมอง ผ่านรอยฟกช้ำภายใน บางทีก็ตลก ขำ ๆ ในความไม่เอาไหน ความเห่ย ความโง่เง่า ความเยาว์วัย ในบางห้วงขณะ ของตัว
....อย่างน้อยได้ระบาย ได้ถอนหายใจ เฮ่อ ๆ กูหนอ กู กูอีกแล้ว มีใครในตัวกูละเหวย มันถึง บ้าบอ ถึงปานนั้น ฮ่า ๆๆๆๆๆ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version