เหรียญพระคลังมหาสมบัติ ที่ระลึกครบรอบ80ปี-กรมธนารักษ์
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้ตั้ง ?กรมเก็บ?
ในเขตพระบรมมหาราชวัง เพื่อดูแลและจัดเก็บทรัพย์สินแผ่นดิน
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เปลี่ยนชื่อเป็น
"กรมพระคลังมหาสมบัติ" และหลังการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเมื่อพ.ศ.2475
มีประกาศใช้พระราชบัญญัติจัดตั้งกระทรวงและกรม พ.ศ.2476 ในรัชกาลที่ 7 โปรดเกล้าฯ
ให้รวมกรมพระคลังมหาสมบัติ กรมเงินตรา กรมรักษาที่หลวงและกัลปนา
และกรมกระษาปณ์สิทธิการ เข้าด้วยกันเรียกว่า "กรมพระคลัง" และเปลี่ยนชื่อมาเป็น
"กรมคลัง"
ต่อมาเปลี่ยนเป็น "กรมธนารักษ์" เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2495
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระจักรพรรดิพงศ์
ซึ่งทรงกำกับดูแลกรมพระคลังมหาสมบัติ
กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสร้างเทวรูปพระคลัง เพื่อให้เป็นที่คุ้มครอง
ปกปักรักษาพระราชทรัพย์ของแผ่นดินที่รวมเก็บไว้ในพระคลังมหาสมบัติ
และให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทที่รับราชการในกรมพระคลังมหาสมบัติ
ให้มีขวัญกำลังใจยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต
โดยขอพระบรมราชานุญาตทำรูปปั้นเทวรูปพระคลังลักษณะคล้ายพระสยามเทวาธิราชเป็นบางส่วน
นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวว่า ในโอกาสที่กรมธนารักษ์ ครบวาระ 80 ปี
จึงจัดสร้างเหรียญพระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ
นำรายได้ไปดูแลรักษาทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินให้คงอยู่สืบไป
และรายได้อีกส่วนหนึ่งจะนำไปสนับสนุนด้านการศึกษาในโครงการเพชรยอดมงกุฎ
ซึ่งเป็นโครงการที่พระธรรมภาวนาวิกรม (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
เป็นโครงการที่สร้างนักเรียนเพื่อให้เกิดความเป็นเลิศในด้านการศึกษา 10 สาขาวิชา
ดำเนินการมากว่า 10 ปี อาทิ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์
และอีก 6 สาขา รายได้อีกส่วนหนึ่งจะเป็นสวัสดิการของกรมธนารักษ์
สำหรับพระคลัง ในพระคลังมหาสมบัติ
เป็นรูปปั้นมีลักษณะเป็นเทวดาหล่อยืนทรงเครื่องกษัตริยาธิราช สวมมงกุฎยอดชัย
พระหัตถ์ขวาถือ พระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือดอกบัว เปรียบเสมือนมีเทวดาปกปักรักษา
ทรัพย์สมบัติทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน โดยนางพุทธชาติ อรุณเวช
ผอ.สำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินได้ปั้นแม่พิมพ์โดยอัญเชิญแบบฉบับจากองค์จริงเต็มองค์มาประทับบนเหรียญม
โดยได้ทำแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว
มีลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้ากลางเหรียญมีรูปเทวรูปพระคลังเต็มองค์
ประทับยืนบนแท่นทรงเครื่องกษัตริยาธิราชสวมมงกุฎยอดชัยพระหัตถ์ขวาทรงพระแสงขรรค์
พระหัตถ์ซ้ายทรงดอกบัว
เบื้องหลังเทวรูปพระคลังเป็นรูปพระวิมานเก๋งจีนที่เทวรูปพระคลังสถิตอยู่
ด้านหลังกลางเหรียญมีตราสัญลักษณ์กรมธนารักษ์ เบื้องบนรูปตราสัญลักษณ์มีข้อความว่า
"พระคลัง" ใน "พระคลังมหาสมบัติ" เบื้องล่างมีข้อความว่า "ครบ 80
ปีกรมธนารักษ์กระทรวงการคลังพ.ศ.2555" ตามลำดับ
ภายในชิดขอบเหรียญโดยรอบประดับด้วยลายไทย
สะท้อนถึงศิลปะและความเป็นไทยเมื่อดูโดยองค์รวมทั้งหมดของเหรียญจะสมบูรณ์ทุกส่วนทั้งมิติของความงามของงานศิลปะศ
ความศักดิ์สิทธิ์ ความสงบ และความศรัทธา
ในส่วนของการผลิตเหรียญจะมีกรรมวิธีการทำที่ละเอียดทุกขั้นตอนโดยเฉพาะในขั้นตอนการผลิตเหรียญขัดเงา
เหรียญพ่นทรายรมดำพิเศษ
ซึ่งจะผลิตโดยกรรมวิธีทำด้วยมือทุกเหรียญเพื่อให้เหรียญออกมาดูมีมิติในทุกๆ ด้าน
เหรียญที่ผลิตออกมามีด้วยกัน 4 ชนิด ประกอบด้วย 1.เหรียญชนิดทองคำขัดเงา 99%
น้ำหนัก 300 กรัม ขนาดความสูง 7 เซนติเมตร ราคาเหรียญละ 999,999 บาท
2.เหรียญชนิดทองคำ 96.5% น้ำหนัก 18 กรัม ขนาดความสูง 3 เซนติเมตร ราคาเหรียญละ
50,000 บาท 3.เหรียญเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ 95% น้ำหนัก 15 กรัม ขนาดความสูง 3
เซนติเมตร ราคาเหรียญละ 2,000 บาท 4.เหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย 95%
ขนาดความสูงของเหรียญ 3 เซนติเมตร ราคาเหรียญละ 120 บาท
เหรียญทั้ง 4 ชนิดจะเปิดโอกาสให้มีการสั่งจองก่อน โดยสั่งจองได้ที่ส่วนกลาง
สำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ในพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ สำนักการคลัง
กรมธนารักษ์ ซ.อารีย์สัมพันธ์ ถ.พระรามที่ 6 กรุงเทพฯ สำนักบริหารเงินตรา
ถ.จักรพงษ์ กรุงเทพฯ สำนักกษาปณ์ ถ.พหลโยธิน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ส่วนภูมิภาค ศาลาธนารักษ์ 1 ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ศาลาธนารักษ์ 2
ศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า) อ.เมือง จ.สงขลา สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 75 พื้นที่
ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักการคลัง กรมธนารักษ์ โทร.0-2278-5446
เริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-30 เม.ย.นี้ และรับเหรียญตั้งแต่วันที่ 23
พ.ค.2555 เป็นต้นไป
-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOREV4TURNMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNeTB4TVE9PQ==-
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOREV4TURNMU5RPT0=§ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdNeTB4TVE9PQ==.