วิถีธรรม > กฏแห่งกรรม-ชาติภพ
♠ มัจจุราชสามขา ♠
ฐิตา:
♠ มัจจุราชสามขา ♠
ในย่านคลองเดโช ถ้าเอ่ยถึงทิดเชียร เป็นต้องรู้จักกันทุกคน
เพราะฝีมือในการจับปลา โดยใช้ "ฉมวก"
ซึ่งเป็นเครื่องมือด้ามยาว ๆ ตรงปลายมีเหล็กแหลมคมสามแฉก
อาวุธจับปลาชนิดนี้เป็นของเก่าแก่ สมัยพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่เคยใช้มาก่อน
มันได้สังหารชีวิตสัตว์น้อยใหญ่มาแล้วนับไม่ถ้วน
ทิดเชียรช่ำชองในการใช้ฉมวก มาตั้งแต่เด็ก ๆ ชาวบ้านต่างชื่นชมและเชิดชู
ให้ฉายาว่า "เชียรมือฉมวก"
เพราะทุกคราวที่ฉมวกแล่นออกจากมือมักจะไม่เคยพลาดเป้าเลย
คราวใดที่ประตูน้ำระบายน้ำเสียทิ้ง สัตว์น้ำประเภทกุ้งปลาจะลอยหัวเพราะเมาน้ำ
ชาวบ้านจะเฮละโลบอกข่าวป่าวร้องต่อกัน
บ้างก็เตรียมสวิงบ้างก็เตรียมแห มุ่งสู่คลองชลประทานเพื่อ จับปลา บ้างก็เอาไปขาย
เชียรใช้ฉมวกสามขาคู่ชีพเป็นอุปกรณ์ที่ถนัด เขาไม่ต้องลงไปในน้ำ เช่นคนอื่น ๆ
เพียงยืนอยู่บนฝั่งเลือกพุ่งใส่แต่ตัวโต ๆ
ทุกครั้งที่ฉมวกแล่นออกจากมือ นั่นหมายถึงมีชีวิตของสัตว์สังเวยคมฉมวกอันแม่นยำ
ปลาตัวเขื่อง ๆ ดิ้นเร่า ๆ ด้วยความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานแสนสาหัส แต่ผู้ล่ากลับสะใจ
พึงพอใจ ทั้งลูกเมียก็พลอยยินดีปรีดากับฝีมือของเขา
ช่วยปลดปลาใส่ปี๊บ ใจก็คิดไปว่า ตัวนี้ต้องเอาไปห่อหมก ตั้วนั้นท้องไข่เอาไว้ทำต้มยำ
ที่เหลือชำแหละใส่เกลือทำเค็ม ไว้กินบ้างขายบ้าง
ฐิตา:
ชีวิตครอบครัวนี้อาศัยอาชีพประมงเลี้ยงตัวมาช้านาน เพราะบ้านอยู่ริมน้ำ
เหตุการณ์ก็ดำเนินไป
วัน ๆ คืน ๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงกระทั่งหลายเดือนต่อมา ชวนชม ภรรยาของเชียรตั้งครรภ์
ลูกคนที่สองใกล้คลอด เชียรต้องเตรียมหาเงิน
ด้วยการล่าปลามาขายเพื่อจุนเจือครอบครัว และสมาชิกใหม่ ที่จะเกิดมาร่วมกินร่วมใช้
ปลายเมษายน ลูกสาวคนที่สองของเชียรและชวนชมก็คลอดมาดูโลก ทั้งสองดีใจมาก
เพราะอยากได้ลูกสาว
เชียรให้ชวนชมทำหมันเพื่อจะไม่ต้องมีลูกอีก เขาพอใจแล้ว ที่ได้ลูกชาย ๑ ลูกสาว ๑
เพราะเขาก็เข้าใจถึงเศรษฐกิจในยุคนี้ ใครมีลูกมากจะยากจน
มีลูกถี่จะหนี้หลาย ตอนนี้ชวนชมต้องพักผ่อนมาก ๆ ยังทำงานหนักไม่ได้
เชียรทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว ทุกวันเขาจะออกหาปลาตามคลองตั้งแต่เช้าจนเย็น
ได้มากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่โอกาส
เจ้าแดงลูกชายวัย ๖ ขวบ คอยติดสอยห้อยตาม ช่วยพ่อหิ้วปี๊บใส่ปลาแทบทุกวัน
ได้เห็นพ่อใช้ฉมวกพุ่งใส่ปลาอย่างแม่นยำ
เจ้าแดงลิงโลด ใจคิดว่าโตขึ้นจะต้องเก่งอย่างพ่อให้ได้
ที่นอกชานบ้านของเขาได้กลายเป็นลานตากปลาแห้งส่งกลิ่นกลิ่นคาวคลุ้ง ใครไปใครมา
จะเห็นแต่ปลาเค็มเต็มหน้าบ้านไม่เคยขาด
ชีวิตของครอบครัวนี้ ยังคงอาศัยการขายปลาสดบ้างปลาแห้งบ้างแลกเงินมาจุนเจือฐานะ
พอเป็นไป ลูกสาวของเขาเริ่มเติบโตเดินเตาะแตะกำลังฉอเลาะน่ารัก
ฐิตา:
วันนั้นประตูระบายน้ำระบายอีกครั้ง ชาวบ้านบอกข่าวกัน ต่างเตรียมเครื่องมือไปจับปลากัน
เชียรก็เตรียมฉมวกคู่ชีพ ผูกเชือกที่ปลายด้ามเรียบร้อย ชวนชมหิ้วปี๊บ ๒ มือ พร้อมสวิง
ครอบไว้บนหัว ทุกคนรีบเร่งสู่คลองชลประทาน มิลืมที่จะหันมาสั่งเจ้าแดงให้ดูน้องอยู่กับบ้าน
เจ้าแดงอ้อนพ่อแม่อยากไปด้วย แต่ถูกบังคับให้ดูน้อง เจ้าแดงเองก็มีอาการไข้อยู่ด้วย
เมื่อพ่อแม่ไปกันแล้ว แดงก็อุ้มน้องใส่เปลเห่ไกว ใจนั้นอยากไปดูพ่อใช้ฉมวกพุ่งใส่ปลา
แต่ก็ไม่กล้ากลัวถูกตี ถ้าพ่อแม่รู้ว่าทิ้งน้องให้อยูลำพัง
แดงลงนอนข้างเปลน้อง ใช้มือดึงเชือกให้เปลแกว่งไปมา จนหลับไปด้วยกันทั้งสองคน
สองชั่วโมงผ่านไป ประตูระบายน้ำก็ปิด ชาวบ้านต่างกลับบ้านสู่ที่พัก ด้วยหน้าตา
ยิ้มแย้มเบิกบาน เพราะต่างคนต่างจับได้จนล้นข้องล้นถัง
เชียรกับชวนชมก็ได้ปลา จนล้นปี๊บ ต้องใส่สวิงหิ้วบ้าง หาบบ้างเดินทางกลับบ้าน
ระหว่างทางพวกเขา ก็คุยกันว่า "ถ้าประตูน้ำเิปิดทุกวันก็ดีนะ พวกเราจะได้รวยเร็ว ๆ "
แต่ความจริงแล้ว นาน ๆ จึงจะระบายที น้ำไม่เสียประตูน้ำก็ไม่เปิด
ใจเขาอยากให้น้ำเสียบ่อย ๆ ซึ่งเป็นความคิดเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ที่พวกตนจะได้
จากการที่ประตูน้ำระบาย ด้วยการจับกุ้งปลาเท่านั้น
มิได้นึกถึงผู้ที่อาศัยอยู่ด้านในของคลองชลประทาน ที่ต้องทนใช้น้ำเสียเกือบทั้งปี
ฐิตา:
http://www.rd1677.com/rd_bangkok/bangkok_sum.php?sid=&Page=380
เมื่อถึงบ้านวางปี๊บใส่ปลาลง ด้วยความเมื่อยล้าชวนชมมุ่งหน้าสู่บันไดท่าน้ำ
หมายชำระเมือกโคลนและคาวปลา ที่คละคลุ้งทั่วร่าง ทันใดนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็น
สิ่งหนึ่งลักษณะคล้ายปลาใหญ่ดิ้นอยู่ใต้น้ำข้างบันได พรายน้ำและฟองอากาศผุดขึ้น
พรั่ง ๆ นางตื่นเต้น ดีใจเรียกให้เชียรเอาฉมวกมาเร็ว ๆ เชียรยังไม่ทันเก็บฉมวก
รีบวิ่งมาดูตามเสียงร้องของภรรยา พลันสายตาของพรานล่าปลาเช่นเขา ก็ได้พบกับ
สิ่งที่ทำให้กระหยิ่มใจ ลักษณะของพรายน้ำเช่นนี้ ต้องเป็นปลาใหญ่แน่ ตาจ้องเขม็ง
มือเกร็งฉมวกยกขึ้นสุดแขน ครั้งนี้จะพลาดไม่ได้ ถ้าพลาดเสียดายแย่
ฉึก...! เพชรฆาตสามขาแหวกน้ำกระจายพุ่งเข้าเป้า คมฉมวกของเขาจะต้องได้เลือด
อีกครั้งอย่างแน่นอน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาอาการดิ้นอย่างนี้
เหยื่อจะต้องถูก คมอาวุธของเขาเข้าแล้ว สัญชาตญาณของพรานฉมวกอย่างเชียรรู้ดีว่า
ถ้ารีบชักฉมวกขึ้นเหยื่ออาจดิ้นหลุดได้
ยิ่งดิ้นเขายิ่งกดด้ามฉมวกให้เหยื่อจมดินเข้าไว้ นั่นเป็นวิธีที่พรานฉมวกรู้ดี
ชั่วอึดใจต่อมาเหยื่อก็ค่อยอ่อนแรงลง เชียรและชวนชมจิตใจจดจ่อรอดู ด้วยความตื่นเต้น
ว่าเหยื่อของเจ้าสามง่ามรายนี้ จะเป็นปลาอะไรกันแน่
ทันทีที่ฉมวกถูกดึงขึ้นพ้นน้ำ สิ่งที่สองผัวเมียเห็น ก็ทำให้ทั้งสองแทบช็อคคาบันได
เพราะฉมวกของเขา ปักลงเสียบทะลุร่างของเด็กหญิงตัวน้อย ๆ
ซึ่งเป็นลูกสาวของเขานั่นเอง ชวนชมร้องกรี๊ด ! ตะโกนลั่น อย่างตื่นตระหนกสุดขีด
"ลูก !!" เท่านั้นเองร่างของเธอก็ทรุดฮวบหมดสติ คาบันไดท่าน้ำนั่นเอง
http://atcloud.com/stories/74731
ฐิตา:
เลือดสด ๆ สีแดงฉานไหลทะลักจากคมฉมวกทำให้น้ำในคลองนั้น
เป็นสีแดงขึ้นเรื่อย ๆ
เชียรหน้าซีดเผือด เหงื่อเม็ดโป้ง ๆ ผุดเต็มใบหน้ามือไม้สั่นเทา ทำอะไรไม่ถูก
เมียก็ช็อคหมดสติไปแล้ว เขาจะทำอย่างไรดี เมื่อเรียกสติคืนมา ก่อนอื่น
เขารีบลงไปประคองอุ้มลูกสาวขึ้นมาวางไว้บนท่าน้ำ มัจจุราชสามขา
ยังคงปักคาร่างเด็กน้อย จากด้านหลังทะลุหน้าท้อง จะถอนก็ถอนไม่ออก
ร่างนั้นไม่ไหวติง
สิ้นชีวิตแน่นิ่งไปแล้ว เชียรน้ำตาไหลพราก หันไปบีบนวดภรรยาซึ่งหมดสติฟุบอยู่
พักใหญ่ ชวนชมก็ได้สติลืมตาเอ่ยปากถามสามีว่า "พี่...ลูกอยู่ไหน ลูกเป็นยังไงบ้าง"
น้ำตาลูกผู้ชายไหลพรากเหมือนเขื่อนที่ไม่มีทำนบกั้น เขาประคองร่างภรรยา
ชวนชมโผเข้าหาลูกน้อยนอนนิ่งคาง่ามฉมวก ปากพร่ำร้อง
"ทำไม่ไม่เอาฉมวกออก"
นางฟูมฟายเหมือนคนบ้า พยายามดึงฉมวกออก แต่ไม่สามารถทำได้ เชียรต้อง
เข้ามายุดฉุดนางไว้ เพราะถ้าพลั้งไป
นางอาจจะถูกคมของมัจจุราชสามขา ทำให้ต้องได้รับบาดเจ็บอีกคน
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version