ผู้เขียน หัวข้อ: สงกรานต์ปีนี้ 2555  (อ่าน 8998 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สงกรานต์ปีนี้ 2555
« เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 09:53:05 am »
ความเป็นมาและเกร็ดน่ารู้ของวันสงกรานต์



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          แดดร้อนเปรี้ยงกลางเดือนเมษายนเช่นนี้ เชื่อเลยค่ะว่า หลาย ๆ คนคงกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยเทศกาลแห่งความสุขอย่าง "เทศกาลสงกรานต์" อย่างแน่นอน เพราะนอกจากที่เราจะได้สาดน้ำคลายร้อนในวันหยุดยาว ๆ 3 วันกันแล้ว เทศกาลนี้ยังเป็นวันนัดพบของคนในครอบครัวที่อยู่ต่างถิ่นต่างแดน ให้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมกันด้วย อีกทั้งยังเป็นเทศกาลที่เปรียบเสมือนวันปีใหม่ไทย ให้ชาวไทยได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตตลอดทั้งปี

          วันนี้กระปุกดอทคอมก็ขอหยิบยกนำเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "วันสงกรานต์" มาให้เพื่อน ๆ ได้รับทราบกัน ไปดูกันซิว่า เทศกาลสงกรานต์ เริ่มขึ้นเมื่อไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง...

          สำหรับคำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสฤกตว่า "สํ-กรานต" ซึ่งแปลว่า ก้าวขึ้น ย่างขึ้น หรือการย้ายที่ เคลื่อนที่ โดยหมายความอีกนัยนึงว่า เป็นการเข้าสู่ศักราชราศีใหม่ หรือวันขึ้นปีใหม่นั้นเอง ส่วนเทศกาลสงกรานต์นั้น เป็นประเพณีเก่าแก่ของคนไทยสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณคู่กันมากับประเพณีตรุษจีน จึงมีการเรียกรวมกันว่า "ประเพณีตรัษสงกรานต์" ซึ่งหมายถึง ประเพณีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ นั่นเอง

          ทั้งนี้ วันหยุดสงกรานต์ เป็นวันหยุดราชการ แบ่งออกเป็น 3 วัน ได้แก่ วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า วันมหาสงกรานต์, วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า วันเนา, วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า วันเถลิงศก ส่วนกิจกรรมหลัก ๆ ที่ทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็จะเป็นการทำความสะอาดบ้านเรือน การร่วมกันทำบุญทำทาน สรงน้ำพระ รดน้ำของพรผู้ใหญ่ และเล่นสาดน้ำคลายร้อนกัน เป็นต้น

วันสงกรานต์

วันสงกรานต์

 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันสงกรานต์   

          ในสมัยโบราณ คนไทยถือเอาวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนอ้าย ซึ่งตกราว ๆ เดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพราะถือว่าเป็นช่วงฤดูหนาว ต่อมาในปี พ.ศ. 2432 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ให้เป็นวันที่ 1 เมษายน แต่เมื่อในยุคสมัยของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ปี พ.ศ. 2483 ได้เปลี่ยนวันปีใหม่ให้เป็นสากล คือวันที่ 1 มกราคม แต่กระนั้น คนไทยส่วนมาก็คุ้นเคยกับวันปีใหม่ไทยในเดือนเมษายน จึงกำหนดให้วันที่ 13 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทิน เกรกอรี่

          นอกจากประเทศไทยได้ถือเอาวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่แล้ว รู้หรือไม่ว่า ประเทศมอญ พม่า ลาว  ก็นำเอาวันดังกล่าว เป็นเทศกาลฉลองวันขึ้นปีใหม่ของเขาด้วยเช่นกัน

วันสงกรานต์

วันสงกรานต์

          สำหรับภาษาและความเชื่อของวันสงกรานต์ในแต่ละภาคก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนี้ ...

ภาคกลาง

          วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันมหาสงกรานต์" และเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ

          วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเนา" ซึ่งในสมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ได้ประกาศให้เป็นวันครอบครัว

          วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันเถลิงศก" คือวันเริ่มจุลศักราชใหม่


ภาคเหนือ

          วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันสังขารล่อง" ซึ่งมีความหมายว่า อายุสิ้นไปอีกปี

          วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันเน่า" เป็นวันห้ามพูดจาหยาบคาย เพราะเชื่อว่าจะทำให้ปากเน่าและไม่เจริญ

          วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันพญาวัน" คือวันเปลี่ยนศกใหม่


ภาคใต้ 
   
          วันที่ 13 เมษายน เรียกว่า "วันเจ้าเมืองเก่า"  หรือ "วันส่งเจ้าเมืองเก่า" เพราะเชื่อว่าเทวดารักษาบ้านเมืองกลับไปชุมนุมกันบนสวรรค์

          วันที่ 14 เมษายน เรียกว่า "วันว่าง" คือวันที่ปราศจากเทวดาที่รักษาเมือง ชาวบ้านก็จะงดงานอาชีพต่าง ๆ แล้วไปทำบุญที่วัด

          วันที่ 15 เมษายน เรียกว่า "วันรับเจ้าเมืองใหม่" คือวันรับเทวดาองค์ใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้มาดูแลเมืองแทนองค์เดิมที่ย้ายไปประจำเมืองอื่น

          คำว่า "ดำหัว" ปกติแปลว่า "สระผม" แต่ประเพณีสงกรานต์ล้านนา หมายถึง การแสดงความเคารพ และขออโหสิกรรมที่ตนอาจจะเคยล่วงเกิน รวมทั้งขอพรจากผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นญาติผู้ใหญ่ ผู้อาวุโส ครูบาอาจารย์ หรือผู้บังคับบัญชา ส่วนมากจะใช้น้ำขมิ้นส้มป่อยนำไปไหว้ และผู้ใหญ่ก็จะจุ่มเอาน้ำแปะบนศีรษะก็เป็นอันเสร็จพิธี

วันสงกรานต์

วันสงกรานต์

วันสงกรานต์

วันสงกรานต์

          อย่างไรก็ตาม พิธีสงกรานต์ เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในสมาชิกครอบครัว หรือชุมชนบ้านเรือนละแวกใกล้เคียง แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปตามสมัย และค่านิยม จากเดิมชาวบ้านจะใช้น้ำเป็นตัวแทนในการประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ โดยถือว่า น้ำจะแก้ความร้อนของฤดูร้อน และใช้ช่วงเวลาดังกล่าวขอพรจากผู้ใหญ่ รวมไปถึงระลึกบุญคุณต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ส่วนประเพณีสงกรานต์ในสมัยใหม่นั้น จะเป็นประเพณีกลับบ้านเกิดเสียมากกว่า หรือถือว่าเป็นวันครอบครัว


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วิชาการดอทคอม
-http://www.vcharkarn.com/varticle/36247-

-http://hilight.kapook.com/view/21047-

.

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 09:54:10 am »
กิจกรรมและข้อควรปฏิบัติในวันสงกรานต์




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


ก่อนหน้านี้ เราได้ฉลองวันปีใหม่สากลกันมาแล้ว ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเทศกาลวันปีใหม่ของไทยแล้วนะคะ นั่นก็คือ เทศกาลสงกรานต์ นั้นเองค่ะ ในวันนี้ ลูกหลานที่แยกย้ายออกไปสร้างครอบครัวอยู่ที่ใดก็จะกลับบ้านมาพบปะ กราบไหว้บุพการี นอก จากนี้ในวันสงกรานต์ยังมีกิจกรรมมากมาย ที่ไม่ใช่เพียงแค่การสาดน้ำอย่างเดียวนะคะ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำกิจกรรมและข้อควรปฏิบัติในวันสงกรานต์ ที่เชื่อแน่ว่า หลายคนอาจยังไม่เคยทราบมาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูพร้อมกันเลยค่ะ


การเตรียมงาน

วันตรุษและวันสงกรานต์เป็นเทศกาลสำคัญที่คนไทยยังถือว่าวันตรุษคือวันสิ้นปี วันสงกรานต์คือวันขึ้นปีใหม่ดังกล่าว ดังนั้นจึงต้องตระเตรียมงานกันเป็นการใหญ่ จนมีคนที่พูดกันติดปากว่า "ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่" สิ่งที่ตระเตรียมกันนั้นจึงเป็นเรื่องที่จะต้องกระทำกันเป็นพิเศษตามลำดับ ดังนี้...

1. เครื่องนุ่งห่ม

เพื่อใส่ในโอกาสไปทำบุญที่วัด ตลอดจนเครื่องประดับตกแต่งร่างกายอย่างค่อนข้างจะพิถีพิถัน

2. ของทำบุญ

เมื่อใกล้จะถึงวันงานก็เตรียมของทำบุญเลี้ยงพระ และที่เป็นพิเศษของที่จะทำขนมพิเศษ 2 อย่าง ได้แก่ ข้าวเหนียวแดงในวันตรุษ และขนมกวน หรือกะละแมในวันสงกรานต์ นอกจากจะทำขึ้นเพื่อทำบุญแล้ว ยังแลกเปลี่ยนแจกกันในหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อแสดงอัธยาศัยไมตรีในวันสำคัญ

3. การทำความสะอาดบ้านเรือนที่อาศัยตลอดจนบริเวณใกล้เคียง

เพื่อให้ดูเรียบร้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บูฃาพระและที่เก็บอัฐิบรรพบุรุษ แม้เสื้อผ้าที่ใช้สอยก็ต้องซักฟอกให้สะอาดหมดจดโดยถือว่ากำจัดสิ่งสกปรกให้ สิ้นไปพร้อมกับปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ ด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่อง

4. สถานที่ทำบุญ

วัดเป็นสถานที่ทำบุญสวดมนต์เลี้ยงพระ และทำต่อเนื่องกันหลายวัน นอกจากจะทำความสะอาดกุฎีที่อาศัยแล้วยังต้องทำความสะอาดหอสวดมนต์ โบสถ์วิหาร ศาลาการเปรียญ ตลอดจนลานวัด เพราะต้องใช้ทำกิจกรรมหลายอย่าง ได้แก่ การทำบุญตักบาตร ปล่อยนกปล่อยปลา สรงน้ำพระ ก่อพระเจดีย์ทราย และงานรื่นเริงต่าง ๆ ด้วย

ก่อนหน้านี้ เราได้ฉลองวันปีใหม่สากลกันมาแล้ว ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเทศกาลวันปีใหม่ของไทยแล้วนะคะ นั่นก็คือ เทศกาลสงกรานต์ นั้นเองค่ะ ในวันนี้ ลูกหลานที่แยกย้ายออกไปสร้างครอบครัวอยู่ที่ใดก็จะกลับบ้านมาพบปะ กราบไหว้บุพการี นอก จากนี้ในวันสงกรานต์ยังมีกิจกรรมมากมาย ที่ไม่ใช่เพียงแค่การสาดน้ำอย่างเดียวนะคะ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้นำกิจกรรมและข้อควรปฏิบัติในวันสงกรานต์ ที่เชื่อแน่ว่า หลายคนอาจยังไม่เคยทราบมาฝากกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูพร้อมกันเลยค่ะ


การทำบุญ


การทำบุญในวันสงกรานต์มีทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฎร์ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. พิธีหลวง หรือ พระราชพิธีสงกรานต์

วันที่ 15 เมษายน ในเวลาเช้า 10.30 น. พระสงฆ์ที่รับอาราธนามาเจริญพระพุทธมนต์ที่พระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปสำคัญต่าง ๆ ที่หอพระสุราลัยพิมาน แล้วเสด็จหอพระบรมอัฐิที่หอพระธาตุมณเฑียร สรงน้ำพระ พระบรมอัฐิและพระอัฐิ ถวายสักการะพระสยามเทวาธิราชที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสด็จออกพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนบุฃาพระรัตนตรัย ทรงศีล พระสงฆ์จำนวน 67 รูป เท่าจำนวนพระบรมอัฐิ และพระอัฐิที่อาราธนาจากวัดที่เกี่ยวข้อง กับพระบรมอัฐิและพระอัฐิ เจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารเพล

เสร็จแล้วอัญเชิญพระบรมอัฐิ จากหอพระธาตุมณเฑียรเป็นกระบวนแห่ มีประโคมสังข์ แตร กลองชนะ ตั้งแต่เวลาเชิญออก จนกระทั่งถึงบนราชบัลลังก์นพปฏลมหาเศวตฉัตร ในพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนราชสักการะพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ของพระบรมอัฐิ ทรงจุดธูปเทียน ถวายสักการะพระบรมอัฐิและพระอัฐิ ทรงทอดผ้าคู่ (ถือผ้าขาว 2 ผืน นุ่งผืน 1 ห่มผืน 1) มีขวดน้ำหอม 1 ขวด พระสงฆ์นั่งสดับปกรณ์ตามลำดับวัดประจำพระบรมอัฐิ

เวลา 16.30 น. เสด็จสรงน้ำพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธสัมพรรณี พระชัยหลังช้าง พระพุทธรูปฉลองพระองค์รัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 2 เสด็จสรงน้ำพระคันธราษฎร์ สรงน้ำ พระโพธิ์ พระนิโครธ พระพุทธเจดีย์ทอง พระไตรปิฎกฉบับทองทึบ พระนาคที่วิหารขาวสดับปกรณ์ พระบรมอัฐิกรมพระราชวังบวรสถานมงคล และพระอัฐิเจ้านายต้นราชสกุลต่าง ๆ

เปิดปราสาทพระเทพบิดรวันที 13, 14, 15, 16 เมษายน เพื่อให้ประชาชนถวายสักการะพระบรมรูปบูรพมหากษัตริยาธิราช

เมื่อก่อนการบำเพ็ญพระราชกุศลในพระบรมมหาราชวัง มี 4 วัน คือวันที่ 13-16 เมษายน ปัจจุบันมีเฉพาะวันที่ 15 เมษายน วันเดียว ซึ่งในเช้าวันที่ 15 เมษายน โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานนิมนต์พระ 150 รูป เข้าไปรับอาหารบิณฑบาตรทีในพระบรมมหาราชวัง

เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิตไปยังพระมหามณเฑียรในพระบรมมหาราชวัง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จฯ พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สรงน้ำพระพุทธรูปสำคัญที่หอพระสุลาลัยพิมาน ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ แล้วเสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราชที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสด็จฯ ไปยังหอพระธาตุมณเฑียรทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะและสรงน้ำพระบรมอัฐิ พระอัฐิ แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอัมรินทร์วินิจฉัยทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 71 รูป เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีสงกรานต์ จบแล้วทรงประเคนภัตตาหาร

เมื่อพระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จเจ้าพนักงานเชิญพระบรมอัฐิและพระอัฐิออก ประดิษฐานบนพระราชบัลลังก์ ภายใต้นพปฏลมหาเศวตฉัตรและบนที่นั่งกงภายใต้ฉัตรขาวลายทอง 5 ชั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะถวายบังคมพระอัฐิ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดผ้าคู่ พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบรมอัฐิและพระอัฐิ แล้วถวายอนุโมทนาถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินประทับรถยนต์พระที่นั่ง ที่พระที่นั่งทวารเทเวศรรักษาเสด็จพระราชดำเนินกลับ

เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้าพนักงานกราบบังคมทูลรายงานเครื่องราชสักการะที่ทรงพระราชอุทิศ พระราชทานให้กระทรวงมหาดไทยเชิญไปถวายเป็นพุทธบูชาเจดียสถานต่างๆ แล้วเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ ทรงพระสุหร่ายสรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรพระสัมพุทธพรรณี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงจุดธูปเทียนถวายนมัสการ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปสรงน้ำปูชนียวัตถุตามเจดียสถานในพระอารามนี้ แล้วเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่หอพระนาก ทรงจุดธูปเทียนถวายสักการะพระอัฐิ 5 รูป สดับปกรณ์แล้วทรงทอดผ้าพระสงฆ์อีก 50 รูป สดับปกรณ์พระอัฐิพระราชวงศ์ พระสงฆ์ถวายอนูโมทนา ถวายดิเรก เป็นเสด็จการ


2. พิธีราษฎร์

การทำบุญตักบาตรในวันสงกรานต์

การทำบุญในวันสงกรานต์อาจจะทำการตักบาตรทำบุญได้ 2 แห่ง คือ ที่วัดหรือในบริเวณงานที่จัดไว้แล้ว วิธีตักบาตร ใช้วิธีเรียงแถวและนิมนต์พระเดินตามลำดับ โดยชายตักบาตรด้วยข้าว หญิงตักบาตรด้วยของคาวหวาน ถ้าเต็มบาตรก็ถ่ายใส่ภาชนะอื่น และนิมนต์ท่านรับจนทั่ว เสร็จแล้วอาจนิมนต์ท่านฉัน ณ สถานที่จัดงาน หรือให้ท่านนำไปฉันที่วัดก็ได้ ในเวลาตักบาตรพระสงฆ์จะสวดถวายพร คือ พาหุง พอเสร็จก็ช่วยกันยกอาหารคาวหวานไปถวายพระ ขณะพระฉันจะมีการอ่านประกาศสงกรานต์กันในตอนนี้ บางคนก็อาจจะอยู่ฟังอนุโมทนา เป็นอันเสร็จพิธี



กิจกรรมที่ประชาชนทำในวันสงกรานต์


การก่อเจดีย์ทราย

จะทำในวันใดวันหนึ่งของวันที่ 13-15 เมษายนก็ได้ ผู้ทำบุญจะช่วยกันขนทรายมาก่อเป็นเจดีย์ขนาดต่างๆ ในบริเวณวัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ให้ใช้ก่อสร้างหรือถมพื้นที่เป็นเรื่องที่ถือว่าได้บุญและสนุกสนาน แต่ไม่มีข้อจำกัดว่าต้องทำทุกวัด

การปล่อยนกปล่อยปลา

เป็นการทำบุญเพื่อแสดงความกรุณาต่อสัตว์ นิยมทำในวันสงกรานต์และไม่จำกัดว่าจะทำในวัดเท่านั้น

การสรงน้ำพระ

มีทั้งสรงน้ำพระพุทธรูปและภิกษุ สามเณร เพื่อความเป็นศิริมงคลในโอกาสขึ้นปีใหม่อันเป็นเวลาที่อากาศร้อน

การรดน้ำผู้ใหญ่

เป็นเรื่องของการแสดงคารวะต่อผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ผู้ร่วมพิธีควรนำผ้า 1 สำรับ คือ ผ้านุ่ง 1 ผืน ผ้าห่ม 1 ผืน ไปมอบให้ท่านพร้อมกับดอกไม้ธูปเทียน การรดน้ำผู้ใหญ่ดังกล่าวมานี้มักจะรดหรืออาบท่านจริง ๆ จึงต้องมีผ้าไปมอบให้ ปัจจุบันบางแห่งรดเฉพาะที่ฝ่ามือ โดยจะเอาน้ำหอมเจือในน้ำด้วย แต่ก็ยังคงมีผ้านุ่งห่ม 1 สำรับ และดอกไม้ธูปเทียนไปแสดงความคารวะ และขอพรท่านก็จะให้ศีลให้พรให้มีความสุขปีใหม่ คือตั้งแต่วันสงกรานต์เป็นต้นไป

การทำบุญอัฐิ

เป็นเรื่องที่นิยมทำแบบนิมนต์พระ ชักบังสุกุลอัฐิของญาติที่ล่วงลับไปแล้ว แล้วอุทิศส่วนกุศลให้ โดยนิมนต์พระไปยังสถานที่เก็บหรือบรรจุอัฐิ หรือถ้าไม่มีอัฐิจะเขียนชื่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็ได้ เมื่อบังสุกุลแล้วก็เผากระดาษแผ่นนั้นเสีย เหมือนเผาศพ การทำบุญอัฐิจะทำในวันไหนก็ได้สุดแต่จะนัดหมายกัน การรื่นเริงจัดขึ้นเพื่อเชิ่อมความสามัคคีในหมู่คณะ เป็นการอนุรักษ์ประเพณีต่างๆ ในท้องถิ่นไว้ด้วย

การสาดน้ำ

เป็นการสนุกสนานรื่นเริงอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของสงกรานต์ คือ สาดน้ำกันโดยมากจะเริ่มต้นในวันสรงน้ำพระ แต่บางแห่งพอเริ่มสงกรานต์ ก็เริ่มสาดน้ำกันทีเดียว ส่วนใหญ่แล้วใช้น้ำสะอาดมีน้ำอบน้ำหอม หรือแป้งหอมผสมบ้างก็ได้ และไม่ถือเป็นเรื่องเสียหาย

การแห่นางแมว

บางแห่งอาจมีการแห่นางแมวเพื่อขอฝนด้วย ซึ่งเป็นเรื่องสนุกสนานรื่นเริงเหมือนกัน แต่ก็หวังผลในทางเกษตรกรรมด้วย กล่าวคือถ้าเกิดฝนแล้งก็แห่นางแมวกันในช่วงวันทำบุญสงกรานต์ เช่นเดียวกัน


อย่างไรก็ตามในแต่ละท้องถิ่นย่อมมีค่านิยมและธรรมเนียมปฏิบัติเกี่ยวกับ ประเพณีสงกรานต์ที่แตกต่างกันออกไป ก็สมควรให้ปฏิบัติไปตามนั้น เพื่อเป็นการเคารพภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ได้กลั่นกรองเลือกสรรแล้วว่า เหมาะสมกับท้องถิ่นของตนเอง ดังนั้นการจะเปลี่ยนแปลงใดๆ จึงขึ้นกับวิจารณญาณของเจ้าของวัฒนธรรมนั้นๆ โดยตรงที่จะเลือกรับหรือไม่รับสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม รวมทั้งสิ่งใหม่ๆ ที่แทรกเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง


สิ่งที่ได้จากการทำบุญสงกรานต์

1. เป็นการแสดงความเคารพบูชาต่อสิ่งที่ตนเคารพ ต่อบิดามารดา และผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ

2. เป็นการชำระจิตใจ และร่างกายให้สะอาด

3. เป็นการรักษาประเพณีมาแต่เดิม

4. เป็นการสนุกสนานรื่นเริงในรอบปี และพักจากงานประจำชั่วคราว เพื่อจะไปพักผ่อนหย่อนใจ

5. เป็นการเตือนสติว่ามนุษย์นั้นผ่านไป 1 ปีแล้ว และในรอบปีที่ผ่านมาเราได้ทำอะไรบ้างและควรจะทำอะไรต่อไปในปีที่กำลังจะมาถึง

6. เป็นการเตรียมตัวบวช ถ้าเป็นผู้ชายโดยเอาระยะเวลานี้บวชกัน เพราะหลังสงกรานต์ต้องเตรียมตัวทำนาแล้ว

7. เป็นการทำความสะอาดพระ โต๊ะบูชา บ้านเรือน ทั้งในและนอกบ้าน



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม


-http://hilight.kapook.com/view/21053-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 09:55:09 am »
ความหมายของ วันสงกรานต์



-http://hilight.kapook.com/view/21046-


คำว่า "สงกรานต์" มาจากภาษาสันสฤกตว่า สํ-กรานต แปลว่า ก้าวขี้น ย่างขึ้น หรือก้าวขึ้น การย้ายที่ เคลื่อนที่ คือพระอาทิตย์ย่างขึ้น สู่ราศีใหม่ หมายถึงวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งตกอยู่ในวันที่ 13, 14, 15 เมษายน ทุกปี แต่วันสงกรานต์นั้นคือวันที่ 13 เมษายน เรียกว่า วันมหาสงกรานต์ วันที่ 14 เป็นวันเนา วันที่ 15 เป็นวันเถลิงศก

ความหมายของคำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสงกรานต์ มีดังนี้

สงกรานต์ ที่แปลว่า "ก้าวขึ้น" "ย่างขึ้น" นั้นหมายถึงการที่ดวงอาทิตย์ขึ้นสู่ราศีใหม่ อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกเดือนที่เรียกว่า สงกรานต์เดือน แต่เมื่อครบ 12 เดือนแล้วย่างขึ้นราศีเมษอีกจัดเป็นสงกรานต์ปี ถือว่าเป็น วันขึ้นปีใหม่ทางสุริยคติ ในทางโหราศาสตร์

มหาสงกรานต์ แปลว่า ก้าวขึ้นหรือย่างขึ้นครั้งใหญ่ หมายถึงสงกรานต์ปี คือปีใหม่อย่างเดียว กล่าวคือสงกรานต์หมายถึงได้ทั้งสงกรานต์เดือนและสงกรานต์ปี แต่มหาสงกรานต์ หมายถึง สงกรานต์ปีอย่างเดียว

วันเนา แปลว่า "วันอยู่" คำว่า "เนา" แปลว่า "อยู่" หมายความว่าเป็นวันถัดจากวันมหาสงกรานต์มา 1 วัน วันมหาสงกรานต์เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ย่างสู่ราศีตั้งต้นปีใหม่ วันเนาเป็นวันที่ดวงอาทิตย์เข้าที่เข้าทาง ในวันราศีตั้งต้นใหม่เรียบร้อยแล้ว คืออยู่ประจำที่แล้ว

วันเถลิงศก แปลว่า "วันขึ้นศก" เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ การที่เปลี่ยนวันขึ้นศกใหม่มาเป็นวันที่ 3 ถัดจากวันมหาสงกรานต์ก็เพื่อให้หมดปัญหาว่าการย่างขึ้นสู่จุดเดิมสำหรับต้น ปีนั้นเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาเพราะอาจมีปัญหาติดพันเกี่ยวกับชั่วโมง นาที วินาที ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่จะเปลี่ยนศกถ้าเลื่อนวันเถลิงศกหรือวันขึ้นจุลศักราชใหม่มาเป็นวันที่ 3 ก็หมายความว่าอย่างน้อยดวงอาทิตย์ได้ก้าวเข้าสู่ราศีใหม่ไม่น้อยกว่า 1 องศา แล้วอาจจะย่างเข้าองศาที่ 2 หรือที่ 3 ก็ได้

วัน สงกรานต์เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ ซึ่งกษัตริย์สิงหศแห่งพม่า ทรงตั้งขึ้นเมื่อปีกุนวันอาทิตย์ พ.ศ. 1181 โดยกำหนดเอาดวงอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษได้ 1 องศา ประกอบกับไทยเราเคยนิยมใช้จุลศักราช สงกรานต์จึงเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยอีกด้วย



ใน ปีแรกที่กำหนดเผอิญเป็นวันที่ 13 เมษายน ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่วันที่ 13 เมษายนทุกปี แต่เมื่อเป็นประเพณีก็จำเป็นต้องเอาวันนั้นทุกปี เพื่อมิให้การประกอบพิธีซึ่งมิได้รู้โดยละเอียดต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วันที่ 13 จึงเป็นวันสงกรานต์ของทุกปี

ปกติวันสงกรานต์จะมี 3 วัน คือเริ่มวันที่ 13 เมษายน ถึงวันที่ 15 เมษายน วันแรกคือวันที่ 13 เป็นวันมหาสงกราต์ วันที่พระอาทิตย์ต้องขึ้นสู่ราศีเมษ วันที่ 14 เป็นวันเนา (พระอาทิตย์คงอยู่ที 0 องศา) วันที่ 15 เป็นวันเถลิงศกใหม่ และเริ่มจุลศักราชในวันนี้ เมื่อก่อนจริงๆ มีถึง 4 วัน คือวันที่ 13-16 เป็นวันเนาเสีย 2 วัน (วันเนาเป็นวันอยู่เฉยๆ) เป็นวันว่างพักการงานนอกบ้านชั่วคราว

จะ เห็นได้ว่าวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนถึง พ.ศ. 2483 ทางราชการจึงได้เปลี่ยนไหม่ โดยกำหนดเอาวันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพื่อให้เข้ากับหลักสากลที่นานาประเทศนิยมปฏิบัติ อย่างไรก็ตามแม้จะมีการเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ประชาชนก็ยังยึดถือว่าวัน สงกรานต์มีความสำคัญ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง

-http://hilight.kapook.com/view/21046-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 09:56:20 am »
10 เทคนิคเซฟพลังงาน ตะลุยหยุดยาว...เที่ยวสงกรานต์
-http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000045735-
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
12 เมษายน 2555 11:45 น.


10 เทคนิคเซฟพลังงาน ตะลุยหยุดยาว...เที่ยวสงกรานต์

ปีใหม่ไทย วันสงกรานต์ หลายคนเดินทางออกต่างจังหวัด กลับบ้านหรือไปเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยว สิ่งที่ควรระวังนอกเหนือจากอุบัติเหตุ หลายๆ คน อาจลืมนึกถึงสิ่งที่จะตามมาภายหลังการเดินทาง คือ การเพิ่มปริมาณคาร์บอน หรือทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

ผศ.ดร.จิรพล สินธุนาวา คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะรองประธาน และเลขาธิการมูลนิธิใบไม้เขียว ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีข้อมูลดีๆ มาแนะนำในการบรรเทาการเพิ่มคาร์บอน ลดโลกร้อน โดยมีข้อปฏิบัติน่าสนใจ ที่สามารถนำไปใช้เพื่อช่วยโลดใบนี้ได้ไม่ยาก

1.ตรวจสอบการปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานออกให้หมด หมั่น สังเกตอุปกรณ์ภายในบ้าน เช่น ปั๊มน้ำ หากได้ยินเสียงการทำงานตลอดเวลา แม้ไม่ได้ใช้งาน หมายถึงอาจมีรอยรั่วที่ใดที่หนึ่งในระบบส่งน้ำ นอกจากซ่อมแซม ก็ต้องปิดสวิตช์เมื่อไม่ใช้งานด้วย

2.เลือกพักผ่อนในที่ที่ไม่ต้องเดินทางไกล หรือใช้รถสาธารณะ เพื่อ ไม่ให้สูญเสียพลังงานอย่างสูญเปล่า เพราะทุกๆ ลิตรของการเผาไหม้น้ำมันดีเซล รถยนต์จะปล่อยคาร์บอนมากถึง 2.7 กิโลกรัม ส่วนน้ำมันเบนซินจะเผาไหม้ให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2.3 กิโลกรัม โดยเดินทางได้เพียง 8-10 กิโลเมตร หากรถติดมากก็จะวิ่งได้เพียง 4-6 กิโลเมตร

3.หลีกเลี่ยงการตั้งวางและผูกมัดสิ่งของบนตะแกรงเหนือหลังคารถยนต์ เพื่อลดการสูญเสียเชื้อเพลิงพลังงานมากกว่าปกติ เพราะสิ่งของเหล่านั้นจะเพิ่มแรงต้าน ซึ่งเป็นต้นเหตุให้สูญเสียพลังงานเพิ่มมากขึ้น

4.วางแผนเดินทางหลีกเลี่ยงช่วงเวลาการเดินทางหนาแน่น เช่น ในวันแรกของการเดินทางรอบๆ สถานีขนส่งจะมีการจราจรหนาแน่นมาก ก็ต้องเลือกช่วงเวลาเพื่อกระจายการเดินทางไม่ให้เกิดการจราจรติดขัดมาก

5.ทางเดียวกันไปด้วยกัน ก็จะช่วยลดปริมาณคาร์บอนเหล่านี้ลง ก่อนเดินทางจึงต้องวางแผนให้ดีว่าจะไปทางไหน อย่างไร หรือหากมีเพื่อนไปทางเดียวกัน ก็ใช้รถคันเดียวเพื่อลดปริมาณการจราจร ลดระยะเวลาในการเดินทาง ซึ่งจะลดค่าใช้จ่าย สิ้นเปลืองน้ำมันน้อยลง และปริมาณคาร์บอนได้

6.ใช้ความเร็วอย่างสม่ำเสมอ ถ้าการจราจรไม่หนาแน่น เกินไปผู้ขับขี่จะสามารถเดินทางด้วยความเร็วสม่ำเสมอได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานได้ ความเร็วที่ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนการใช้ความเร็วนอกจากสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นยังทำให้เกิดการปล่อย คาร์บอนมากขึ้นด้วย ที่สำคัญ การใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดยังทำให้เกิดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิด อุบัติเหตุได้

ผศ.ดร.จิรพล สินธุนาวา
   
7.ในช่วงเดือนเมษายนอากาศร้อนมากกว่าปกติ การเดินทางจึงต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ในการจอดรถสามารถประหยัดและลดการปล่อยคาร์บอนได้ โดยวางแผนการจอดรถ ไม่จอดรถบ่อยครั้งมากเกินไป เพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงาน

8.เลือกจอดรถในที่ร่ม เมื่อต้องพักรถเปิดฝากระโปรงรถเพื่อช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เพื่อลดความร้อนของรถยนต์

9.เลือกที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมจำนวนมากร่วมโครงการทำกิจกรรมเพื่อลดโลกร้อน เช่น ใช้น้ำ พลังงานอย่างรู้คุณค่า คัดแยกมูลฝอย หรือเป็นโรงแรมปลอดบุหรี่ โรงแรมสร้างเสริมสุขภาพ โรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โรงแรมใบไม้เขียว สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงแรมเหล่านนี้ได้ที่

10.ลดขยะมูลฝอย หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ขวดพลาสติก หรือกล่องโฟม โดยใช้อุปกรณ์แก้วน้ำที่เตรียมไปเอง หรือหากต้องใช้ควรทิ้งในถังขยะไม่ทิ้งในสิ่งแวดล้อมทั่วไป เพื่อให้เกิดการกำจัดขยะที่เหมาะสม

การมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยกิจกรรมการใช้ทรัพยากรที่ มีความรอบคอบจะทำให้วันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เป็นวันหยุดยาวที่เราไม่ร่วมสร้างปัญหาใหม่ให้แก่โลกใบนี้ และจะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่มากขึ้น

สงกรานต์นี้เดินทางโดยสวัสดิภาพ เย็นกาย เย็นใจ ทั่วกัน
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 09:56:51 am »
ฝากไว้ในช่วงสงกรานต์ครับ



.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 09:57:25 am »
วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7806 ข่าวสดรายวัน


เตือนกินมั่วระวังอาหารเป็นพิษ หมดสนุกช่วงสงกรานต์



อุตรดิตถ์ - ร.อ.น.พ.ภูริวรรธน์ โชคเกิด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ในช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุข เขต 9 พบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษแล้วถึง 24,340 ราย และเสียชีวิต 1 ราย กลุ่มอายุที่พบการป่วยมากลำดับแรก คือ 15-24 ปี อาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและนักเรียน ดังนั้น ในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคมนี้ เป็นช่วงที่อากาศในประเทศไทยมีอุณหภูมิร้อนมาก และเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนส่วนใหญ่มักจะเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หรือกลับภูมิลำเนาของตนเอง มีการจัดงานเลี้ยงฉลองรับประทานอาหารรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก

ร.อ.น.พ.ภูริวรรธน์กล่าวอีกว่า สิ่งที่พบตามมาคือ การเจ็บป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ จากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรค อาทิ อาหารไม่สะอาด อาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ อาหารที่เตรียมไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อวัว ไข่ไก่ ไข่เป็ด รวมทั้งอาหารกระป๋อง อาหารทะเลและนํ้านมที่ยังไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ

จึงขอเตือนให้นัก ท่องเที่ยวและประชาชนได้ตระหนักในการเตรียมอาหาร และเลือกรับประทานให้ปลอดภัยตามสถานที่ สถานีขนส่ง ปั๊มนํ้ามัน และร้านอาหารตามแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพตนเองและผู้ร่วมเดินทางให้เลือก รับประทานอาหารที่ปรุงสุก หากอาหารที่สั่งมาไม่สุก ให้ทางร้านช่วยปรุงให้สุกก่อนที่จะรับประทาน มิฉะนั้น จะป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษ

-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd2NtOHdNVEV6TURRMU5RPT0=&sectionid=TURNeE13PT0=&day=TWpBeE1pMHdOQzB4TXc9PQ==-

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 10:02:17 am »
ความเชื่อ กับคำทำนาย ของนางสงกรานต์ กิมิทาเทวี ประจำปี 2555



ปีมะโรง จัตวาศก จันทรคติเป็น อธิกมาส ปกติวาร สุริยคติเป็น อธิกสุรทิน วันมหาสงกรานต์ ตรงกับ วันศุกร์ที่ 13 เมษายน เวลา 19.46.12 น. ตรงกับเวลา 20.04.12 น. (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน) …..วันเถลิงศก ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน เวลา 23.43.48น. ตรงกับเวลา 0.01.48น. (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน)
…..ได้ฤกษ์เผยชื่อ นางสงกรานต์ ประจำปี พ.ศ.2555 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกประกาศ ว่า นางสงกรานต์ประจำปีนี้คือ นางกิมิทาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ หัตถ์ขวาทรงขรรค์ หัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร (นอนลืมตา) มาเหนือหลังมหิงส์ (กระบือ) เป็นพาหนะ
…..โดยมีคำทำนาย ของนางสงกรานต์ปีนี้ว่า จะมีสงครามรุนแรง พยาุและลม โหมเข้าใส่ แนะแนวให้ระวังมากเป็นพิเศษ…
….. เกณฑ์ พิรุณศาสตร์ ปีนี้ พฤหัสบดี เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า
….. เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ วาโย (ธาตุลม) ปริมาณน้ำ จะมีมากพอประมาณ ส่วนทางด้านลมนั้น จะโหมแรงมากเป็นพิเศษ
….. เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปี มะโรง นาคราชให้น้ำ 3 ตัว ทำนายว่า ะมีปริมาณฝนมาก ในช่วงต้นปี พอเข้าสู่ช่วงกลางปี จะกำลังพอดี เมื่อเข้าสู่ปลายปี ก็จะลดปริมาณน้อยลง
….. เกณฑ์ธัญญาหาร ชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ แมงและตัวด้วง จะเข้าก่อกวน พืชผลในไร่นา ข้าวกล้า จะได้ผลเพียง 1 ส่วนเท่านั้น โดยจะมีส่วนเสียมากกว่า ถึง 5 ส่วน นอกจากนั้น ยังเกิดสงครามกลางเมือง ทั้งสงครามที่เกี่ยวกับไฟ การฆ่าฟันกัน อย่างไม่ปราณี บ้านเมืองจะฉิบหายหมอดไหม้ จนหมดสิ้น
………………………………………………………………………………………………………………………………….


…..นอกจาก นางสงกรานต์ กิมิทาเทวี แล้ว ก็ยังมีนางสงกรานต์อีก 6 องค์ บางคนอาจจะพอรู้จัก แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้หรืออาจจะจำไม่ได้ว่า นางสงกรานต์แต่ละองค์ มีนามว่าอย่างไรบ้าง วันนี้เราก็มีเรื่องราวของนางสงกรานต์ทั้ง 7 องค์มาเล่าให้ได้ฟังกันค่ะ
…..นางสงกรานต์ ที่ใครหลายคนรู้จักนั้นเป็นธิดาของท้าวกบิลพรหม หรือท้าวมหาสงกรานต์ และเป็นนางฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช (สวรรค์ชั้นที่ 1 ในทั้งหมด 6 ชั้น) ซึ่งมีหน้าที่ในการรับศีรษะของท้าวกบิลพรหมแห่รอบเขาพระสุเมรุในแต่ละรอบปี หรือในวันสงกรานต์นั้นเอง
…..เหตุผลที่นางสงกรานต์ในแต่ละปี ไม่ใช่องค์เดียวกันก็คือ จะใช้เกณฑ์การเลือกจากการกำหนดวันของแต่ละปี ถ้าหากวันสงกรานต์ ที่ 13 เมษายน ตรงกับวันใด ให้นางสงกรานต์ประจำวันนั้น เป็นผู้แห่ นั่นเอง โดยนางสงกรานต์แต่ละองค์จะมีรูปลักษณ์ และอาวุธคู่กายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้



…..นางสงกรานต์ทุงษเทวี ทุงษเทวี เป็นนางสงกรานต์ประจำวันอาทิตย์ นางจะทัดดอกทับทิม มีปัทมราค (แก้วทับทิม) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ อุทุมพร (มะเดื่อ) อาวุธประจำกายของนาง พระหัตถ์ขวา จะถือจักร ส่วนพระหัตถ์ด้านซ้ายนั้น จะถือหอยสังข์ เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์ครุฑ
…..นางสงกรานต์โคราดเทวี โคราดเทวี เป็นนางสงกรานต์ประจำวันจันทร์ ดอกไม้ที่นางทัดคือ ดอกปีป มีมุกดาหาร (ไข่มุก) เป็นเครื่องประดับภักษาหาร คือ เตละ (น้ำมัน) อาวุธประจำกายของนาง คือ พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ ส่วนทางด้านพระหัตถ์ซ้าย จะถือไม้เท้า เสด็จประทับเหนือพยัคฆ์ (เสือ)
…..นางสงกรานต์รากษสเทวี รากษสเทวี เป็นนางสงกรานต์ประจำวันอังคาร ทัดดอกบัวหลวง มีโมรา (หิน) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ โลหิต (เลือด) อาวุธประจำกายของนาง พระหัตถ์ขวาถือตรีศูล ส่วนพระหัตถ์ซ้ายถือธนู เสด็จประทับเหนือวราหะ (หมู)
…..นางสงกรานต์มัณฑาเทวี มัณฑาเทวี เป็นนางสงกรานต์ประจำวันพุธ ทัดดอกจำปา มีไพฑูรย์ (พลอยสีเหลืองแกมเขียว) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ นมและเนย อาวุธประจำกายของนาง พระหัตถ์ ขวาถือเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์คัสพะ (ลา)
…..นางสงกรานต์กิริณีเทวี กิริณีเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดี ทัดดอกมณฑา(ยี่หุบ) มีมรกตเป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ ถั่วและงา อาวุธประจำกายของนาง พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือปืน เสด็จไสยาสน์เหนือปฏษฎางค์ชสาร (ช้าง)
…..นางสงกรานต์กิมิทาเทวี กิมิทาเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันศุกร์ ทัดดอกจงกลนี มีบุษราคัมเป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ กล้วยและน้ำ อาวุธประจำกายของนาง ก็คือพระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือพิณ เสด็จประทับยืนเหนือมหิงสา (ควาย)
…..นางสงกรานต์มโหทรเทวี มโหทรเทวีเป็นนางสงกรานต์ประจำวันเสาร์ ทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) มีนิลรัตน์เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ เนื้อทราย อาวุธประจำกายของนาง พระหัตถ์ขวาถือจักร ทางด้านพระหัตถ์ซ้ายถือตรีศูล เสด็จประทับเหนือมยุราปักษา (นกยูง)
…..นี่แหละค่ะ คือที่มาของ นางสงกรานต์ ทั้ง 7 องค์ นอกจากนางสงกรานต์ ที่เปลี่ยนไปตามวันในแต่ละปีแล้ว ในเรื่องของคำทำนาย ก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่งก็จะมีการคำนวณหาวันมหาสงกรานต์และวันเถลิงศกในแต่ละปีนั่นเอง



-http://horoscope.mthai.com/horoscope-highlight/5721.html-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 10:03:50 am »
เที่ยวทะเลท้าแดดจ้า อย่าลืมพกตัวช่วยไปด้วยนะจ๊ะ




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

อากาศ ร้อน ๆ แบบนี้ร่างกายต้องการทะเลอย่างด่วนเลยค่ะ เก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปลั้ลล้าท้าแดดจ้าให้หนำใจกันดีกว่า แต่แน่นอนล่ะถึงจะไปฮาเฮที่ทะเล แต่ถ้ากลับมาในสภาพผิวไหม้ หน้าดำ ผมแห้งเสีย ก็คงจะไม่ดีใช่ไหมล่ะคะ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่ามีไอเท็มอะไรบ้าง ที่ต้องพกใส่กระเป๋าไปทะเลด้วยชนิดห้ามลืมเป็นอันขาด เพื่อที่จะได้ท้าแดดจ้าได้อย่างมั่นใจไงล่ะ

1. ครีมกันแดด

ครีมกันแดดนับเป็นไอเท็มที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกหากจะไปเที่ยวทะเลเลย เชียว มันช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ที่นอกจากจะทำให้ผิวเสียแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาครีมกันแดดให้ทั่วทุกตารางนิ้วของร่างกาย รวมทั้งหมั่นทาซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง รวมทั้งเมื่อร่างกายเปียกน้ำ เหงื่อออก หรือกำลังจะออกแดดจัดด้วยค่ะ

2. แว่นตากันแดด

แสงแดดแรงจัดจ้าแบบนี้คงไม่มีใครคิดเงยหน้ามองดวงอาทิตย์ตรง ๆ แน่นอน แต่จะไม่มองดวงอาทิตย์ตรง ๆ แต่แสงจ้าที่สะท้อนมาจากคลื่นน้ำและทรายสีขาว ก็ทำให้ต้องทำตายิบหยีหรี่ลงเพื่อหนีแสงเช่นนั่น แบบนี้ก็ต้องหยิบแว่นตากันแดดขึ้นมาสวม นอกจากจะช่วยปกป้องดวงตาไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงจ้าแล้ว ยังลดโอกาสที่สาว ๆ จะต้องเขม่นตาให้เล็กหรี่ลงอันเป็นสาเหตุหนึ่งของริ้วรอยรอบ ๆ ดวงตาด้วยค่ะ

3. หมวก

หมวกไม่ได้เป็นแค่แฟชั่นชายหาดเก๋ ๆ เท่านั้น มันมีประโยชน์ช่วยปกป้องศีรษะ และผม รวมทั้งใบหน้าจากความร้อนและแสงแดดได้เป็นอย่างดี หากอยู่กลางแดดจัดนาน ๆ จนศีรษะร้อนจี๋ จะพานให้รู้สึกปวดหัวไม่สบายได้ง่าย เพราะฉะนั้นเที่ยวทะเลในซัมเมอร์นี้ก็ต้องไม่ลืมพกหมวกใบเก่งไปด้วย ขอแนะนำว่าถ้าเป็นหมวกปีกกว้างได้ก็จะเยี่ยมมาก แถมยิ่งปีกกว้างมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยปกป้องผิวและลำตัวส่วนบนได้มากเท่า นั้นด้วยนะจ๊ะ

4. เซรั่มบำรุงผม

มาทะเลทั้งทีก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องลงเล่นน้ำให้ฉ่ำอุรา แต่ก่อนจะลงไปเริงร่าในทะเลก็ต้องปกป้องเส้นผมด้วยเซรั่มบำรุงผมสูตรป้องกัน ผมเสียจากน้ำทะเล และปกป้องผมจากความร้อนเสียก่อน เท่านี้จะได้มั่นใจว่าผมจะไม่กรอบแห้งเสียภายหลังที่ขึ้นจากน้ำจ้ะ

5. ร่ม

ไอเท็มพื้น ๆ อย่างร่มช่วยสร้างพื้นที่ที่มีร่มเงาขนาดเล็ก ๆ พอให้กำบังตัวเองรวมถึงเพื่อนข้างกายได้อีกสักคน เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่งในเวลาที่จะเดินไปไหนแต่ไม่ต้องการตากแดดจัด ๆ ออกไป แค่กางร่มออกมาเท่านี้ก็มีพื้นที่หลบแดดเฉพาะตัวได้แล้วล่ะ


ใครจะเที่ยวทะเลในซัมเมอร์นี้ก็อย่าพกไอเท็มเหล่านี้ไปด้วย รับรองว่าได้ใช่แน่นอนจ้ะ :D

-http://women.kapook.com/view39277.html-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 10:23:21 am »
เผย เส้นทางห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ในกรุงเทพฯ หวั่นอุบัติเหตุ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

รอง ผบ.ตร. เผย เส้นทางห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ หวั่นถนนเปียกจนเกิดอุบัติเหตุ

เมื่อวานนี้ (12 เมษายน) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรับผิดชอบจราจร เปิดเผยว่า ระหว่าง วันที่ 13-15 เมษายนนี้ จะมีการห้ามเดินรถบรรทุกภาชนะบรรจุน้ำ รถบรรทุกการเล่นน้ำ หรือบรรทุกคนเพื่อสาดน้ำ เพราะเกรงว่า อาจจะทำให้ถนนลื่นและเกิดอุบัติเหตุได้ โดยแต่ละสถานที่ จะมีรายละเอียดต่างกันในเงื่อนไขของเวลา ดังต่อไปนี้

ห้ามตลอดทั้งวัน ได้แก่

ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี (ขาเข้า) ตั้งแต่ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ถึงทางลงสะพานพระปิ่นเกล้าและสะพานพระราม 8
ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ขาเข้า) ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ถึงแยกสะพานผ่านพิภพลีลา
ถนนอรุณอมรินทร์ ตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ ถึงทางขึ้นสะพานพระราม 8ถนนราชดำเนินใน ตลอดสาย
ถนนหน้าพระลาน ตลอดสาย,ถนนหน้าพระธาตุ ตลอดสาย
ถนนสนามไชย ตั้งแต่แยกป้อมเผด็จถึงแยกวงเวียนรักษาดินแดน
ถนนมหาราช ตั้งแต่แยกท้ายวังถึงแยกถนนพระจันทร์
ถนนพระจันทร์ ตลอดสาย
ถนนราชินี ตั้งแต่แยกสะพานผ่านพิภพถึงสะพานเสี้ยว
ถนนจักรพงษ์ ตลอดสาย,ถนนราชดำเนินกลาง ตลอดสาย
ถนนราชดำเนินนอก ตลอดสาย,ถนนบริเวณลานพระราชวังดุสิต
ถนนอู่ทองในตลอดสาย

ห้ามตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น. ได้แก่

ถนนสามเสนใน ตั้งแต่แยกสี่เสาเทเวศร์ ถึงแยกบางลำพู
ถนนพระสุเมรุ ตั้งแต่ป้อมพระสุเมรุ ถึงแยกวันชาติ
ถนนพระอาทิตย์ ตั้งแต่ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าถึงป้อมพระสุเมรุ
ถนนตะนาว ตั้งแต่แยกศาลเจ้าพ่อเสือ ถึงวงเวียนสิบสามห้าง
ถนนสิบสามห้าง ตั้งแต่วงเวียนสามห้าง ถึงแยกสิบสามห้าง

ห้ามตั้งแต่เวลา 09.00-24.00 น. ได้แก่

ถนนข้าวสารตลอดสาย และถนนสีลม ตั้งแต่แยกศาลาแดง (โรงแรมดุสิตธานี) ถึงแยกนรารมย์

ห้ามตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. ได้แก่

ถนนโชคชัย 4 ตั้งแต่ปากทางเข้าแยกโชคชัย 4 ถึงสุดถนนโชคชัย
ถนนลาดพร้าว-วังหิน ตั้งแต่สี่แยกวังหินถึงสามแยกถนนโชคชัย 4 ตัดถนนลาดพร้าว-วังหิน
ถนนนาคนิวาส ตั้งแต่สามแยกซอยสังคมสงเคราะห์ตัดถนนนาคนิวาส ถึงสี่แยกถนนนาคนิวาสตัดถนนสุคนธสวัสดิ์
ถนนสุคนธสวัสดิ์ตั้งแต่สี่แยกถนนนาคนิวาสตัดถนนสุคนธสวัสดิ์ถึงสี่แยกถนนประเสริฐมนูกิจตัดถนนสุคนธสวัสดิ์
ซอยสังคมสงเคราะห์ ตั้งแต่สามแยกถนนโชคชัย 4 ตัดซอยสังคมสงเคราะห์ ถึงสามแยกถนนประดิษฐ์มนูธรรมตัดซอยสังคมสงเคราะห์

ห้ามตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ได้แก่

ถนนทวีวัฒนา ตั้งแต่จุดตรวจทวีวัฒนา ถึงแยกตลาดนัดสนามหลวงธนบุรี


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก -http://www.dailynews.co.th/crime/22083-

-http://hilight.kapook.com/view/69983-
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: สงกรานต์ปีนี้ 2555
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 13, 2012, 10:41:16 am »
แนะนำเสื้อฮาวายสีเจ็บ ลายจี๊ดใส่เล่นสงกรานต์
-http://men.kapook.com/view39605.html-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
รูปประกอบจาก asos.com

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ของไทยเรา หลาย ๆ คนคงวางแผนที่เดินทางออกไปเล่นน้ำกันบ้างแล้วใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเล่นในกรุงเทพฯ หรือตะลุยออกไปต่างจังหวัด พร้อมอุปกรณ์สำคัญอย่างปืนฉีดน้ำ แป้ง หรือกระทั่งซองใส่มือถือ แต่ไม่รู้ว่าหนุ่ม ๆ เตรียมเสื้อผ้าที่จะใส่ออกไปรับน้ำหรือยัง แหม...ปีนึงมีแค่ครั้งเดียว ก็ต้องดูดีกันนิดนึง เดี๋ยวสาว ๆ ไม่มาปะแป้งล่ะเสียใจแย่ เราจึงมาแนะนำ "เสื้อฮาวาย" ให้คุณได้ใส่ไปเล่นน้ำกัน

"เสื้อฮาวาย" คืออะไร? มันก็คือเสื้อเชิ้ตลายเยอะ ๆ สีสันสดใส ที่ คุณเห็นได้ทั่ว ๆ ไป ตามร้านค้าแถวชายทะเลนั่นแหละ ลักษณะของเสื้อชนิดนี้โดยมากจะทำออกมาเป็นไซส์ใหญ่ เป็นเสื้อแขนสั้น เนื้อผ้าบางเบา ซึ่งลวดลายก็แตกต่างกันออกไป มีทั้งลายดอกไม้ใบหญ้า ลายท้องฟ้าสีครามและลายชายทะเล ส่วนสีของเสื้อมีทั้งสีแดง น้ำเงินฟ้า เขียว เหลือง เพราะสีเหล่านี้เหมาะสำหรับใส่ในหน้าร้อนมาก ๆ

สำหรับกางเกง จุดนี้คงต้องเป็นกางเกงขาสั้นเท่านั้นถึงจะตอบโจทย์การเล่นสงกรานต์ได้ดีที่สุด เพราะคุณต้องการชุดที่เคลื่อนไหวได้สะดวก และแห้งเร็ว ส่วนรองเท้าก็ลากรองเท้าแตะไป แค่นี้ก็พร้อมลุยแล้ว

เป็นยังไงกันบ้างกับเสื้อใส่เล่นน้ำสุดแจ่มที่เรานำมาให้ชมกัน ลวดลายและสีสันแสบทรวงดีเลยใช่มั้ยล่ะ แต่ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะใส่แบบไหนดี งั้นไปชมพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าาาา





















-http://men.kapook.com/view39605.html-
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)