ผู้เขียน หัวข้อ: 'สงกรานต์สั่ว' โดน!! ทั้งปรับ-ทั้งขัง รู้เอาไว้ 'มีโทษรออยู่'  (อ่าน 1248 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
'สงกรานต์สั่ว' โดน!! ทั้งปรับ-ทั้งขัง รู้เอาไว้ 'มีโทษรออยู่'

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน 2555 เวลา 00:00 น.




กลายเป็นอีกหนึ่งเทศกาลแห่งการ ’ย้ำเตือน“ มานานหลายปีดีดักแล้ว...สำหรับเทศกาล ’สงกรานต์“ ซึ่งกับการย้ำเตือนหลัก ๆ ในช่วงสงกรานต์นั้น นอกจากเรื่องการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการเดินทางแล้ว อีกหนึ่งเรื่องคือเรื่องการดำรงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอันดีงาม...ไม่ ทำให้ ’สงกรานต์เสื่อม“

เตือนมิให้เล่นสงกรานต์ ’อันตราย-ลามกอนาจาร“

และ ณ ที่นี้ก็ขอร่วมย้ำเตือนถึง ’โทษทางกฎหมาย“

ทั้งนี้ กับเรื่องของกฎหมาย การ “กระทำผิดกฎหมาย” ที่อาจจะเกิดขึ้นหรือมักจะเกิดขึ้นใน “ช่วงเทศกาลสงกรานต์” นั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดจากการเล่นสงกรานต์ หรือฉลองสงกรานต์ แบบ ’เกินเลย“ หรือ ’ขาดสติ“ ในหลาย ๆ รูปแบบ และอาจผิดกฎหมายได้หลาย ๆ กระทงความผิด ทั้งแค่เบาะ ๆ และรุนแรง

“สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ขอร่วมสืบสานสงกรานต์ที่ดีงาม ด้วยการย้ำเตือนกันอีกครั้งถึงข้อกฎหมาย โดยยกตัวอย่างโทษ ทั้งแบบเบาะ ๆ และแบบที่รุนแรง โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้นมักจะมีการกระทำความผิดลหุโทษรูปแบบต่าง ๆ หลายกรณี ซึ่งแม้จะเป็นลหุโทษ...แต่ก็ ’มีโทษ“ ตามประมวลกฎหมายอาญา เช่น...มาตรา 370 ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน มีโทษปรับไม่เกิน 100 บาท, มาตรา 378 ผู้ใดเสพสุราหรือของเมาอย่างอื่น จนเป็นเหตุให้ตน ’เมา ประพฤติวุ่นวาย“ หรือครองสติไม่ได้ ขณะอยู่ในถนนสาธารณะ หรือสาธารณสถาน มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

หรือประเภท ’ชอบโชว์โป๊เปลือย“ มาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

กรณี ’ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์จากการเล่นสงกรานต์“ มาตรา 358 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น (เช่น โทรศัพท์มือถือ) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 360 ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่ง ทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

’ปิดกั้นถนน หยุดรถโดยสาร“ เพื่อที่จะสาดน้ำผู้ที่โดยสารมาบนรถ นี่ก็ผิดกฎหมาย และถ้าใครถึงขั้นกระทำการใด ๆ ให้รถยนต์ขนส่งสาธารณะอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล จะยิ่งมีโทษหนัก ตามมาตรา 232 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 1 พันบาท ถึง 1 หมื่น 4 พันบาท

กรณีเป็นความผิดต่อร่างกาย ’ทำร้ายผู้อื่น“ อันเนื่องจากการเล่นสงกรานต์เกินเลย (เช่น ใช้อุปกรณ์ฉีดน้ำที่อันตราย ใช้น้ำแข็งขว้างปา) มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่น ผู้นั้นมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี

แม้แต่ ไปกับกลุ่มเพื่อน แล้วเพื่อน ๆ ไปทำร้ายผู้อื่น ก็อาจมีโทษ ยิ่ง ถ้ามีผู้ถึงแก่ความตาย โทษยิ่งหนัก ซึ่งกฎหมายอาญามาตรา 294 ระบุว่า ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ถึงแก่ความตาย โดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น ช่วยกันห้ามเพื่อนที่ห้าว ๆ ดีกว่า

หรือแม้แต่เป็นการกระทำไปโดยประมาท แต่ถ้าเป็นการกระทำที่ทำให้ผู้อื่นเกิดอันตรายสาหัสก็มีโทษหนักเช่นกัน โดยมาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ นอกจากตัวอย่างกรณีความผิดลหุโทษ ความผิดทำให้เสียทรัพย์ ความผิดต่อร่างกาย กับกรณี ความผิดเกี่ยวกับเพศ ก็ควรตระหนักไว้ ซึ่ง ช่วงสงกรานต์มักมีการทำความผิดเกี่ยวกับเพศกันมาก โดยส่วนใหญ่เป็นกรณี ’อนาจาร“ อย่างไรก็ตาม ใครที่คิดจะเล่นสงกรานต์แบบสั่ว ๆ หื่น ๆ รู้กันไว้ว่า ’โทษหนัก“

กฎหมายอาญา มาตรา 278 ถ้าผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น คดีแบบนี้มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ยิ่งถ้ากระทำอนาจารเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 279 และถ้าผู้กระทำได้กระทำโดย ขู่เข็ญ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น โทษจะยิ่งหนัก คือจำคุกไม่เกิน 15 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ก็ร่วมย้ำเตือนกันไว้ว่า...อย่า ’เล่นสงกรานต์อันตราย“

อย่า ’เกินเลย-อนาจาร“ จน ’เสียค่าปรับ-ถูกขังคุก!!“.


-http://www.dailynews.co.th/article/223/21972-

http://www.dailynews.co.th/article/223/21972
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
สงกรานต์ลวนลาม สาวๆ พึงระวัง!!!

11 เมษายน 2555 เวลา 08:17 น.


โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ



“สาวเอยสาว ขาวๆ นุ่งสั้น” สาวใดที่เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมรับความชุ่มฉ่ำกับวันมหาสงกรานต์ของไทยในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้ ตระเตรียมการนัดเพื่อนฝูงไปเล่นน้ำปะแป้งตามประสาวัยรุ่นวัยสาว ก็ต้องระมัดระวัง “ความเป็นสาว” ของตนเองที่อาจจะไปถูกจิตต้องตาชายหนุ่มที่จ้องจะเล่นน้ำแบบ “อนาจาร” กันไว้ด้วย เพราะหากชุลมุนขึ้นมาอาจถูกลวนลามเอาได้ง่ายๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองหลวงเมืองบางกอก ที่เตรียมจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์กันในมุมเมืองสำคัญๆ เช่น ถนนสีลม หรือตรอกข้าวสาร หรือแม้แต่จุดต่างๆ ที่นิยมเล่นกัน สาวเจ้าก็ต้องพึงระวังเอาไว้บ้างเสียก็ดี อย่าปล่อยให้ความสาวความสวยของเราเป็นของหยิบเล่นของใครก็ตามที่กลัดมัน
เพราะแน่นอนว่ามหาสงกรานต์สำหรับคนหนุ่มสาวในสมัยนี้ได้แตกต่างไปจากเดิมแล้ว ทั้งรูปแบบการเล่นน้ำ ปะแป้ง รวมถึงอุปกรณ์การเล่นน้ำจำพวก “ปืนฉีดน้ำ” ที่พัฒนาให้รุนแรงขึ้น ยิงได้ไกลขึ้น แต่ที่น่าวิตกคือ การดื่มสุรายาเมาที่เป็นของคู่คนไทย และเมื่อน้ำเมาเข้าคอ สาวที่มาเล่นน้ำอาจจะตกเป็นเหยื่อถูกอนาจารได้ทันที
เรื่องนี้ถูกเตือนจากตำรวจมือปราบของ สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.เอกรัตน์ เปาอินทร์ รองผู้กำกับการเจ้าของพื้นที่ย่านตรอกข้าวสารที่เปิดให้เล่นน้ำกันทุกปี ทั้งไทยและเทศมาขลุกกันอยู่ที่ถนนแห่งนี้ทั้งนั้น และแน่นอนเมื่อคนเยอะปัญหาก็ต้องแยะตามมาเป็นเงา





“เรื่องอนาจารมีอยู่ทุกปี เพราะคนเริ่มเยอะก็จะมีการมั่วกัน ที่เรียกว่ามั่วก็เช่นอาจจะมีปะแป้ง แต่เลยเถิดไปถึงหน้าอกหน้าใจกันก็มี หรือสาวๆ เดินๆ กันอยู่คนเยอะ ก็อาจจะมีมือปริศนามาสัมผัสร่างกายตรงที่สงวนหรือที่โน่นนั่นนี่ เรื่องนี้ถือเป็นการทำอนาจารที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเหยื่อจะเป็นคนไทยอย่างเดียว หญิงต่างชาติก็ยังโดน ต้องเข้ามาแจ้งความกันจ้าละหวั่น แต่นั่นก็เหมือนกัน สาวๆ ที่มาเล่นน้ำก็ต้องระมัดระวังตัวไว้ด้วย และอย่าลืมดูของมีค่าติดตัวไว้ ถ้าใครจะมาปะแป้ง หากไม่สะดวกก็ปฏิเสธไป เราเล่นของเราอย่างถูกต้องดีกว่า ส่วนพวกที่ชอบอนาจาร ทุกปีจะมีตำรวจนอกเครื่องแบบปะปนอยู่งานสงกรานต์อยู่แล้ว หากพบเห็นการเล่นน้ำที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมตำรวจจะจับทันที”
แต่ที่ผ่านมาก็มักจะพบว่า สาวเจ้าก็ช่างแต่งตัวยั่วยวนเหลือเกิน เฉกเช่นปีก่อนที่สาววัยรุ่นเกิดความใจกล้า จะเป็นเพราะฤทธิ์สุราหรือความคึกคะนองก็ตาม แต่สาวผู้นั้นก็แก้เสื้อโชว์หน้าอกหน้าใจกันกลางถนนสีลม กระทั่งเป็นข่าวครึกโครมถึงความไม่เหมาะสม และส่งผลถึงความ “เสื่อม” ของมหาสงกรานต์ทันที
ดังว่าจะโทษชายหนุ่มฝ่ายเดียวก็คงกระไรอยู่ เพราะสาวๆ บางคนบางกลุ่มเล่นใส่เสื้อขาวมาเล่นน้ำ พอถูกสาดน้ำเสื้อขาวบางๆ ก็มองเห็นทะลุปรุโปร่งถึงเนื้อใน หรือใส่สายเดี่ยวนุ่งกางเกงขาสั้นกุดมาเล่นน้ำ ภาพยวนตาเหล่านี้ก็ถูกกระตุ้นความกลัดมันได้ง่าย กลายๆ ว่าจะเป็นการเชื้อชวนเสียด้วยซ้ำ
ดังนั้น อาชญากรรมก่อเหตุด้วยการทำลามกอนาจาร จะด้วยสิ่งยั่วเย้าหรือเหตุผลกลใดก็ตามแต่ เมื่อทำก็ถือว่าผิด ผิดทั้งต่อเหยื่อ ผิดทั้งกฎหมาย แต่...เรื่องนี้ป้องกันได้ไม่ยากนัก ขอฝากเตือนให้สาวๆ ระวังการ “จับ คลึง เค้น” ดังนี้

1.อันดับแรก อย่าแต่งตัวให้ดูโป๊จนเกินไป เอาแต่พองาม กางเกงขาสั้นกุดไว้ใส่ส่วนตัวที่บ้านจะดีกว่า ที่สำคัญเสื้อขาวบางอย่าใส่จะเหมาะที่สุด มิเช่นนั้นเมื่อเปียกน้ำ ครานี้ข้างในก็ทะลุปรุโปร่งไปหมดแน่ หรือสายเดี่ยว เสื้อกล้าม ของอย่างนี้ไม่สมควรนำมาใส่เล่นน้ำสงกรานต์

2. “ความเมา” เมามันส์กับการเล่นน้ำยังไม่พอ หากมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยก็ขอให้เอาพอเหมาะ อย่าให้ถึงกับเมามาย เพราะจะเสียสติเสียการครองตัว ตกเป็นเหยื่อของพวกที่จ้องอยู่ก็เป็นได้

3.หากถูกลวนลามทั้งการสัมผัสส่วนไหนของร่างกายสาวๆ ก็ตาม ให้ร้องโหวกเหวกโวยวายเพื่อให้คนได้ยินก็ถือเป็นวิธีที่ป้องกันได้ หรือหากพบเห็นตำรวจที่อยู่ใกล้ก็จำหน้าคนมาจับไว้ และบอกให้ตำรวจไปจับพวกนั้น

ทั้งนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ก็เตรียมส่งกำลังลงไปพื้นที่จัดงานสงกรานต์รอบกรุงเทพฯ อยู่แล้ว ทั้งในและนอกเครื่องแบบ
รวมทั้งหมดที่ว่ามา เพื่อป้องกันให้ปัญหาการถูกลวนลามที่ดูเหมือนจะมีอยู่คู่ทุกงานสงกรานต์ในช่วงหลายปีมานี้ แต่ไม่ใช่ว่าสาวๆ จะขึ้นไปแสดงหรือโชว์ความสาวของตนเอง การรู้จักป้องกันตัวเองให้พร้อมทุกสถานการณ์ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนควรจะพึงระวังไว้ ส่วนหนุ่มๆ ที่กลัดมันตัณหาเยอะก็ให้ระวังเช่นกัน หากตำรวจไปพบเห็นต่อหน้าว่าไปกระทำอนาจารต่อคนอื่น หรือมีคนไปแจ้ง ก็รีบเตรียมตัวถูกจับไว้ได้เลย


จะมาอ้างว่าลื่นเปียกน้ำแล้วมือไปโดนคงจะอ้างไม่ขึ้นแน่ เพราะตำรวจก็อ้างได้เช่นกันว่า “กุญแจมือมันลื่นไปใส่เอง”


โพสต์ทูเดย์ ข่าวอาชญากรรม
http://www.posttoday.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/147853/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%86-%E0%B8%9E%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87
.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)