ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ได้อย่างไรว่าลูกของเราเล่นพนันบอลยูโรหรือไม่…!!!  (อ่าน 1585 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
รู้ได้อย่างไรว่าลูกของเราเล่นพนันบอลยูโรหรือไม่…!!!
/สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
11 มิถุนายน 2555 16:53 น.
-http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000071411-   

  ความขัดแย้งเรื่องสัญญาณถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลยูโร ระหว่างแกรมมี่ กับทรูวิชั่นส์ สะท้อนชัดเรื่องขัดผลประโยชน์ของกลุ่มทุน โดยไม่คิดถึงผู้บริโภคและไม่ได้แคร์ว่าจะต้องรับผิดชอบแต่อย่างใด ซึ่งจะว่าไปผู้บริโภคในบ้านนี้เมืองนี้ ก็มักจะตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ และถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างนี้มาโดยตลอด จนแทบจะกลายเป็นความเคยชิน และสุดท้ายก็มักจะจบเรื่องด้วยการต้องยอมจำนนอยู่เสมอๆ มิใช่หรือ..!!
       
       และสำหรับผู้ที่นิยมดูกีฬาชนิดนี้ทั้งหลาย แน่นอนต้องไม่ยอมพลาด ก็จะดิ้นรนจนสามารถดูการแข่งขันฟุตบอลยูโรจนได้ ซึ่งก็น่าจะดีถ้าเป็นการดูกีฬาเพื่อความสนุกสนานและผ่อนคลาย เพราะดูกีฬาเพื่อกีฬา
       
       แต่สำหรับคนที่ดูกีฬาฟุตบอล เพราะเป็นเกม เป็นการเล่นพนันแล้วล่ะก็ น่าเป็นห่วงยิ่ง
       
       ก่อนหน้านี้ นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ได้เปิดเผยผลสำรวจภายหลังจากเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเวทีเสวนา “ผู้หญิงกับภัยร้ายพนันบอล” และร่วมกับ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบคโพลล์) พบข้อมูลที่น่าตกใจ ว่า ในกลุ่มที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เคยพนันบอลมาแล้วถึง 40.6% เมื่อจำแนกตามกลุ่มอาชีพ พบว่า 75.0% ของผู้เล่นพนันเป็นกลุ่มที่ว่างงาน รองลงมา คือ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ 70.6% ธุรกิจส่วนตัว/ค้าขาย 69.8% เกษตรกร/รับจ้าง 68.3% แม่บ้าน/เกษียณอายุ 63.6% พนักงานบริษัทเอกชน 63.2% และนักเรียน/นักศึกษา 49.0%
       
       เมื่อถามถึงการรับรู้ต่อการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 พบว่า 59.9% ทราบว่า จะมีการแข่งขันในวันที่ 8 มิ.ย.-2 ก.ค.55 และกลุ่มตัวอย่างเกินครึ่ง 54.0% มองว่า การพนันบอลกำลังเป็นเรื่องปกติไปแล้วในสังคมไทย ซึ่งเป็นจุดที่น่าเป็นห่วงมาก อีกทั้งกลุ่มตัวอย่าง 1 ใน 4 ระบุว่า เคยมีประสบการณ์ในการเล่นพนันฟุตบอลในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และส่วนใหญ่ 75.4% เคยเห็น รับรู้ว่ามีเพื่อน คนรู้จักเล่นพนันบอล เมื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ทำให้คนเล่นทายพนันบอล พบว่า 55.2% เล่นเพื่อความสนุก รองลงมา 53.0% เล่นตามเพื่อน/แฟน 46.6% ชอบลุ้น ชอบตื่นเต้น 23.2% เห็นคนใกล้ชิดในครอบครัวเล่น 22.4% คลายเครียด 13.6% เพื่อเข้าสังคม และ 0.6% หวังรวยทางลัด
       
        “กลุ่มตัวอย่าง 23.9% ยืนยันว่า มีคนในครอบครัวเล่นพนันบอล และน่าตกใจไปกว่านั้นคือ 23.5% สามารถเข้าถึงแหล่งเล่นพนันบอลได้ง่ายมาก 20.6% จะติดตามวิเคราะห์ อัตราต่อรอง ผลการแข่งขันฟุตบอล 16.9% พูดคุยกันเรื่องอัตราต่อรอง ผลการแข่งขัน 13.9% เคยคิดหาเงินด้วยการเล่นพนันบอล และ 12.2% ติดต่อกับคนที่รับทายผลบอล อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากติดตามการแข่งขันฟุตบอล กลุ่มตัวอย่าง ระบุว่า 48.6% เจ็บไข้ได้ป่วย เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ และ 41.0% ต้องหยุดงานหยุดเรียน เนื่องจากติดตามดูการถ่ายทอดสด 31.4% มีหนี้สิน 16.2% ถูกขู่กรรโชก ถูกทำร้ายร่างกาย 15.9% ใช้หนี้ด้วยวิธีที่ผิด เช่น ค้ายาเสพติด ขายบริการทางเพศ 11.4% มีความเครียด พยายามฆ่าตัวตาย” นายธนากร กล่าว
       
       ประเด็นที่น่าตกใจ ก็คือ กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งที่มองว่าการพนันบอลกำลังเป็นเรื่องปกติไปแล้วในสังคมไทย…ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงยิ่ง และไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวของคนเป็นพ่อแม่อีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ
       
       และโปรดอย่าคิดว่าลูกของเราอยู่ในสายตาไม่มีทางที่จะมีโอกาสเล่นพนันบอลได้เลย แต่เมื่อเขาไปโรงเรียนหรืออยู่กับเพื่อน คุณแน่ใจหรือว่าลูกของคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพนันบอล ?
       
       เรื่องผลเสียของการพนันเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงบ่อยครั้ง และแทบจะทุกฤดูกาล ทุกเทศกาลของการแข่งขัน ในอดีตอาจเป็นเฉพาะกีฬาแมตช์ใหญ่ๆ แต่ปัจจุบันการพนันเข้ามาหาเราในทุกแมตช์การแข่งขัน ทุกสถานที่ ทุกเวลา ทุกเพศ ทุกวัย เรียกว่าทุกหนทุกแห่งเลยก็ว่าได้ ยิ่งเป็นสังคมยุคออนไลน์ การพนันออนไลน์ก็ตามมาติดๆ ค่ะ
       
       ที่น่าประหลาดใจ ก็คือ ทุกคนรู้ดีว่าการพนันเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ควรเข้าไปยุ่ง ทั้งยังมีผลเสียผลกระทบที่ตามมาก็มากมายเหลือเกิน แต่เราก็กลับพบว่าตัวเลขของนักพนันกลับเพิ่มขึ้นๆ ทุกขณะ และแนวโน้มตัวเลขของเด็กและเยาวชนที่ติดพนันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นสถิติที่พร้อมใจขึ้นกันทั่วโลกทีเดียว
       
       ฉะนั้น จึงอยากชวนพ่อแม่เป็นนักสังเกตการณ์ และป้องกันไม่ให้ลูกหลานของเราตกเข้าไปอยู่ในวังวนของการพนันบอลครั้งนี้ เพราะเมื่อฤดูกาลการแข่งขันบอลยูโรจบ แต่หนี้สินอาจไม่จบตามไปด้วย
       
       หนำซ้ำปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้นก็อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภัยร้ายปัญหาใหม่อีกก็ได้
       
       วิธีสังเกตว่าลูกของเราเข้าไปข้องเกี่ยวกับการพนันหรือไม่ ต้องเป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ในครอบครัวที่เป็นนักสังเกตการณ์ที่ดี
       
       ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่ใกล้ชิดลูกอยู่แล้ว เวลาลูกมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป จะพบเห็นได้เร็ว และจะสามารถรับมือกับปัญหาได้ดีกว่าด้วย
       
       ข้อแรก พ่อแม่ต้องเข้าใจธรรมชาติของลูกก่อนว่ามีพื้นฐานนิสัยอย่างไร ชอบลุ้นชอบลองชอบเสี่ยงหรือไม่ หรือเป็นเด็กประเภทโดนใครท้าไม่ได้หรือเปล่า ถ้าเข้าข่ายเหล่านี้ก็อาจต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด
       
       ส่วนวิธีการจับตาอย่างใกล้ชิด ต้องไม่ใช่วิธีการจับผิดทุกฝีก้าว เพราะจะยิ่งทำให้เด็กถอยห่างจากเรา ถ้าเด็กเขารู้ว่าพ่อแม่จับผิด เขาจะเริ่มโกหกและไม่พูดความจริงกับพ่อแม่
       
       ข้อสอง ต้องสังเกตพฤติกรรมของลูกว่ามีสิ่งใดเปลี่ยนไปในช่วงนี้อย่างชัดเจนหรือไม่ เช่น การใช้เงินของลูกผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด อาจจะมีการขอพ่อแม่ ผู้ปกครองเพิ่มเติมเป็นพิเศษ แต่พ่อแม่ก็ไม่ควรบุ่มบ่ามตำหนิ แต่ควรจะถามไถ่ว่ามีความจำเป็นอะไรที่ต้องใช้เงินหรือ แล้วค่อยๆ สังเกตความเป็นไป
       
       ข้อสาม คนที่เล่นการพนันมักจะใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงระหว่างการแข่งขัน ถ้ามีการแยกตัวไปคุยโทรศัพท์เป็นระยะๆ อย่างผิดสังเกต และมักจะคุยทุกครั้งที่มีการแข่งขัน พ่อแม่อาจจะต้องประเมินสถานการณ์ให้ดี และอาจจะต้องพูดคุยกับลูกด้วยท่าทีที่แสดงความห่วงใยแต่ก็ปรามในทีเช่น “แม่เป็นห่วงลูกที่ดูบอลดึกๆ ดื่นๆ เป็นผลเสียต่อสุขภาพนะ แต่แม่ก็เชื่อใจว่าลูกจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับการเล่นการพนันนะลูก” เป็นการสะกิดในทีเพื่อกระตุกให้ลูกคิดได้เองก่อน
       
       ข้อสี่ ถ้าลูกติดตามดูบอลชนิดที่ขาดไม่ได้ ต้องพยายามดิ้นรนหาช่องทางดู หรือแม้แต่ไม่ได้ดูก็ขอฟังทางวิทยุก็ได้ และระหว่างการดูก็มักจะเครียดกับผลแพ้ชนะ พ่อแม่ก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าลูกติดการพนันแล้ว เพราะคนที่ชอบดูฟุตบอลมาก ๆ ก็มีพฤติกรรมเช่นนี้ได้ ต้องดูพฤติกรรมอื่นๆ ก่อนหน้านี้ประกอบด้วย รวมไปถึงการสังเกตว่าเขามีอารมณ์แปรปรวนง่าย หงุดหงิดง่ายหรือไม่ ยิ่งถ้าเด็กที่เล่นการพนันเสียมากๆ อาจจะเก็บตัว มีอาการซึมเศร้าปนด้วย
       
       ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงข้อสังเกตสำหรับคนเป็นพ่อแม่เบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่สูตรสำเร็จทั้งหมด แต่ถ้าเราเป็นพ่อแม่ที่ใกล้ชิด และพูดคุยกับลูกในทุกๆ เรื่องอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ
       
       ช่วงนี้กระแสฟุตบอลยูโรมาแรง กระแสการพนันก็มาแรงไม่แพ้กัน สิ่งที่เราคนเป็นพ่อแม่ทำได้ ก็คือ เป็นนักสังเกตการณ์และใส่ใจรายละเอียดลูกเพิ่มขึ้น แต่ขออย่างเดียวคนเป็นพ่อแม่ต้องไม่เล่นพนันบอลเสียเองก็แล้วกันค่ะ

.

http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000071411

.


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)