ผู้เขียน หัวข้อ: ห่าน ท่าดินแดง  (อ่าน 2046 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ห่าน ท่าดินแดง
« เมื่อ: มิถุนายน 10, 2012, 09:04:12 pm »
ห่านท่าดินแดง







ก่อนจะมาเปิดเป็นร้านห่านท่าดินแดง สาขาลาดพร้าวเหมือนในปัจจุบันนี้
เราเริ่มต้นจาก นาย เจียบหงี แซ่ฉั่ว (คุณทวด) ชายวัย 25 ปี
คนหนึ่งที่อพยพมาจากซัวเถา จีนแผ่นดินใหญ่เมื่อประมาณปี 2464 ทำงานรับจ้างแบกหามทั่วไปตามโกดังสินค้าบริเวณท่าน้ำท่าดินแดง ฝั่งธนบุรี จนกระทั่งเก็บหอมรอมริบมีเงินทุนประมาณ 20 – 30 บาท ได้ตัดสินใจลงทุนต้มห่านพะโล้ตามสูตรลับที่ได้ติดตัวมาจากบ้านเกิด เริ่มจากการหาบเร่ขายเมื่ออายุได้ประมาณ 45 ปี โดยมีลูกชายคนโต (คุณปู่) อายุ 15 เป็นผู้ช่วย จากที่เริ่มขายเพียงวันละ 1-2 ตัว ผ่านไปหลายปีจึงได้เปิดร้านลักษณะเป็นเพิงเล็กๆใกล้ๆกับท่าน้ำท่าดินแดง ซึ่งในตอนนั้นผู้คนทั่วไปที่อาศัยในบริเวณนี้ยังต้องอาศัยเรือจ้าง พาข้ามฟากไปขึ้นฝั่งพระนครที่ราชวงศ์ ด้วยรสชาติอร่อยของห่านพะโล้ จึงทำให้มีลูกค้าประจำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาจึงได้ขยับขยายมาเปิดร้านเป็นตึกแถวชื่อร้าน ฉั่วเจียบง้วน (ปี 2510) หลังจากนั้นไม่นาน (คุณทวด) เจียบหงี ก็เสียชีวิตยกมรดกเป็นร้าน ฉั่วเจียบง้วน ไว้ให้ลูกชายคนโตดูแลต่อสืบไป ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของรุ่นที่ 2 ไม่นานลูกชายคนโตได้หันไปทำธุรกิจอื่นปล่อยให้น้องชายคนรองดูแลร้านต่อไป

หลังจากนั้นไม่นานมีการปิดซ่อมใหญ่สะพานพุทธยอดฟ้า ซึ่งเป็นสะพานหลักที่เชื่อมระหว่างฝั่งพระนครและธนบุรีในสมัยนั้น ทำให้คนจำนวนไม่น้อยที่ใช้สะพานนี้ข้ามฟากไปมาต้องอาศัยเรือจ้างที่ท่าน้ำสะพานพุทธ และท่าน้ำท่าดินแดงเป็นหลัก จึงทำให้คนผ่านไปมาที่ท่าเรือท่าดินแดงมากขึ้น เป็นโอกาสให้ผู้คนทั่วไปได้ลิ้มลอง รสชาติความอร่อยของห่านพะโล้ แล้วบอกปากต่อปาก จนทำให้ชื่อ ห่านพะโล้ท่าดินแดง เป็นที่รู้จักของผู้คนจากที่อื่นๆมากขึ้น

แต่หลังจากธุรกิจด้านการเกษตรซบเซา ลูกชายคนโต (คุณปู่) จึงได้หันกลับมาเปิดร้านห่านพะโล้ ฉั่วคิมฮวด ( 2515 ) ใกล้ๆกับร้านเดิมที่ยกให้น้องชายคนรองไป จึงทำให้มีร้านห่านพะโล้ 2 ร้านที่ท่าน้ำดินแดงตั้งแต่ 30 กว่าปีก่อน นับเป็น 2 สาขา ในรุ่นที่ 2 (รุ่นคุณปู่) ผ่านไป 5 ปี จึงถือเป็นการเริ่มต้นของรุ่นที่ 3 (รุ่นคุณพ่อ)

(ผู้เขียนรุ่นที่ 4)

ปี 2519 สาขาคลองตัน ถ. พัฒนาการ สี่แยกคลองตัน
ปี 2526 สาขาลาดพร้าว ปากซอย 35/1
ปี 2538 สาขาร่มเกล้า ถ.ร่มเกล้า
ปี 2544 สาขาบรรทัดทอง ถ.บรรทัดทอง ใกล้สี่แยกถนนพระราม 4

จวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ร้านสาขาลาดพร้าว 35/1 ของเราเข้าสู่เจนเนอเรชั่นที่ 4 (รุ่นเหลน ยุค 2009) แล้ว ความอร่อยที่คุณคุ้นลิ้นยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย ........

-http://www.hanpalo.com/history.php-

.

http://www.hanpalo.com/history.php

.


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ห่าน ท่าดินแดง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2012, 10:01:02 pm »
ห่านพะโล้ ฉั่วเจียบฮวด สูตรอาม่า ความอร่อยที่ต้องบอกต่อ












จุดเด่น: สูตรการทำห่านที่ตกทอดมากว่า 40 ปี รวมถึงบริการทั้งน้ำชาเย็นๆ และผลไม้ตามฤดูกาลฟรี รวมถึงยังมีบริการส่งถึงบ้านอีกด้วย
จุดด้อย: เรื่องของที่จอดรถมีค่อนข้างน้อย ลูกค้าสามารถจอดได้บริเวณหน้าร้านและซอยใกล้เคียง
บทสรุป: ด้วยรสชาติที่เหมาะสมกับคนทุกวัยรวมถึงการ บริการที่เป็นกันเองของทางร้าน จึงอาจจะทำให้คุณเป็นสมาชิกขาประจำของร้านนี้ไปโดยไม่ทันรู้ตัว





ห่านท่าดินแดง สูตรอาม่า ความอร่อยที่ต้องบอกต่อ

ห่านพะโล้รสชาติอร่อยนั้นใช่ว่าจะหาทานที่ใดก็ได้ แต่ที่ ร้านฉั่ว เจียบ ฮวด หรือห่านพะโล้(ท่าดินแดง) สูตรเฉพาะของทางร้านที่ตกทอดมาเกือบ 40 ปีแล้ว คงจะยืนยันได้ถึงความมีคุณภาพที่ดีในระดับหนึ่ง
ร้านนี้แทรกตัวเองอยู่ท่ามกลางตึกแถวคูหาแคบๆ ปากซอยสาธุประดิษฐ์29 การจัดวางโต๊ะภายในดูเรียบง่ายแบบบ้านๆ ซึ่งทางร้านนั้นเปิดให้บริการทุกวัน โดยเมนูแนะนำที่เมื่อมาถึงแล้วไม่ควรพลาดเลยนั้นก็คือ ห่านพะโล้สูตรดั่งเดิมที่ถือเป็นพระเอกของร้านนี้ รวมทั้งหน่อไม้จีนต้มพะโล้ ผัดผักกระเฉดไฟแดง ซุปมะระ รวมถึงเมนูอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจีนเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย

ถือเป็นภาพชินตาในช่วงเวลาพักกลางวันที่จะเห็นทั้งพนักงานออฟฟิตหรือแม้ แต่พ่อ แม่ที่พาลูกๆมาเติมเต็มพื้นที่ในกระเพาะ และร้านนี้ยังเหมาะเป็นที่รวมเครือญาติในแบบของคนจีนอีกด้วย ซึ่งรสชาติของอาหารโดยเฉพาะซุปมะระที่ทางเจ้าของร้านจะ เป็นผู้เลือกวัตถุดิบเองกับมือบวกกับสูตรเฉพาะของทางร้านที่เคี่ยวจนได้น้ำ ซุปสีเหลืองใส รสชาติเบาๆ กลมกล่อม เนื้อมะระนุ่มลิ้น ซดคล่องคอ จึงเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ เป็นพิเศษ ทำเอาผู้ใหญ่หลายคนอดต่างแปลกใจไม่ได้เพราะเจ้าตัวน้อยนั้นจากที่เคยส่าย หน้าเสมอเวลาเจอกับเมนูผัก แต่กับเมนูนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ขณะที่เราก็ไม่รอช้าคว้าตะเกียบคีบห่านชิ้นพอดีคำเข้าปากทันที ตัวเนื้อนั้นค่อนข้างนุ่มและช่ำไปด้วยน้ำพะโล้ ปราศจากกลิ่นสาบ ทว่ารสชาติออกจะเค็มนำจึงเหมาะทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เป็นที่สุด ขณะที่เมนูอย่างหน่อไม้จีนต้มพะโล้นั้นรสชาติก็อร่อยไม่แพ้กันเลย ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่ความกรอบของเนื้อหน่อไม้และความหวานที่ค่อยๆ เผยตัวออกมาทีละนิดๆ ซึ่งพี่โยเจ้าของร้านกระซิบให้ฟังว่าต้องใช้เวลาต้มนานเกือบสัปดาห์เลยที เดียวกว่าจะได้เนื้อหน่อไม้ที่พร้อมเสริฟได้เช่นนี้ ขณะที่เมนูผัดผักกระเฉดไฟแดงนั้น ถือว่ารสชาติไม่ได้น้อยหน้าอย่างอื่นเลย เพราะที่นี่จะคัดเฉพาะยอดอ่อนนำมาผัดด้วยไฟแรงๆพร้อมกับพริก กระเทียม และเต้าเจี้ยว รสชาติถูกปากดีทีเดียว บอกได้เพียงว่าต้องมาลองด้วยตัวเองให้ได้
อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นจุดเด่นของร้านนอกเหนือไปจากเมนูที่ได้แนะนำไป นั้นก็คือของฟรีที่ทางร้านคอยไว้บริการทั้งน้ำชาเย็นๆ ที่พนักงานจะคอยรินเติมให้เป็นระยะ รวมถึงผลไม้หลังมื้ออาหารที่มักจะเป็นฝรั่งหรือผลไม้ตามฤดูกาล เป็นการปิดท้ายอาหารมื้ออร่อยของทางร้าน แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยแต่ทว่ากลับแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจเพื่อให้ลูกค้า ประทับใจในบริการ
โดยทางร้านจะให้บริการทั้ง 2 ชั้น มีโต๊ะรับรองทั้งหมด 11โต๊ะ หากว่าว่ากันเป็นครอบครัวใหญ่สามารถใช้บริการบนชั้น 2 น่าจะสะดวกกว่า สำหรับใครที่ผ่านไปผ่านมาย่านสาธุประดิษฐ์ก็แวะไปชิมไปรู้จักกันได้ ร้านตั้งอยู่บริเวณหน้าปากซอยสาธุฯ29 หาไม่ยากครับ แต่ที่จอดรถมีค่อนข้างน้อยถ้าโชคดีก็อาจมีที่ว่างพอให้จอดหน้าร้านได้ หรือไม่เช่นนั้นก็สามารถจอดบริเวณใกล้เคียง
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารจีนสูตรดั่งเดิมไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าหากไม่สะดวกก็สามารถโทรสั่งได้ซึ่งทางร้านก็มีบริการส่งถึงที่ให้ด้วย เช่นกัน แต่ต้องขอเตือนไว้อย่างว่าทุกครั้งที่ได้หม่ำของอร่อยซะจนหนังท้องตึงแล้ว ระวังหนังตาจะค่อยๆ หย่อนเอาๆ ไม่รู้ด้วยนะ


-http://www.thetrippacker.com/th/destination/place/restaurant/bangkok-chua-jeab-huad-stwed-goose-tha-din-deang#_-


.



คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ห่าน ท่าดินแดง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 15, 2012, 07:40:31 am »
ห่านพะโล้

คอลัมน์ เดินดินกินข้าวแกง โดย วิษณุ เครืองาม (มติชนรายวัน 14 ก.ค.2555)

-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1342279677&grpid=&catid=09&subcatid=0901-

ห่าน และเป็ดเป็นสัตว์ปีกด้วยกันทั้งคู่ เวลาดูเผินๆ จะแยกไม่ใคร่ออก ยิ่งเวลาถอนขนชำแหละเนื้อวางคู่กันแล้วแยกไม่ออกเอาทีเดียว นอกจากจะสังเกตตรงที่ว่าห่านตัวโตอวบอ้วนกว่าเป็ด หนังหนากว่า เนื้อแน่นและหยาบกว่า กลิ่นสาบก็อาจจะน้อยกว่าเป็ด

คนชอบเลี้ยงห่าน เป็นสัตว์เลี้ยงเพราะเฝ้าบ้านได้ ระแวดระวังภัยได้ มันร้องไล่จิกคนแปลกหน้าที่บุกเข้ามาไม่แพ้สุนัขดุๆ เชียวล่ะ ยิ่งบ้านที่มีหญ้ารกๆ เอาห่านไปปล่อย 2-3 ตัวประเดี๋ยวก็หายรก อย่างที่โฆษณายากันยุงยี่ห้อหนึ่งบอกไว้นั่นแหละครับ "ห่านดินกินหญ้า ห่านฟ้ากินยุง" ห่านเป็นศัตรูกับงู บ้านที่มีงูมากๆ หมายถึงงูเขียว งูไม่มีพิษนะครับ ถ้าเอาห่านไปปล่อยห่านจะจิกตีงูจนหนีไป แต่ถ้าเป็นงูเห่า งูจงอาง หรือใหญ่โตขนาดงูเหลือม งูหลาม ห่านเห็นจะเอาไม่อยู่ จุดอ่อน

อยู่ที่ว่าห่านมักจะไม่รู้จักกาลเทศะ ถ้ามันร้องก๊าบๆ ทั้งคืน เจ้าบ้านไม่ได้นอนกันล่ะครับ

คน จีนนิยมใช้เนื้อเป็ดและเนื้อห่านไปปรุงอาหาร เช่น ย่างไฟแดง ตุ๋นยาจีน อบหม้อดิน และทำพะโล้ แต่ความที่เนื้อห่านจะหยาบกว่าเป็ด หนังหนากว่า ดังนั้น ถ้าทำพะโล้จนน้ำเข้าเนื้อ เวลากินจะได้เนื้อได้หนังกว่าเป็ดและชุ่มโชกได้รสชาติหอมกว่าเป็ด

คน จีนทำอาหารจากเป็ดและห่านเก่งมาก ถ้าทำไม่เป็นจะเหม็นสาบเพราะที่บั้นท้ายหรือตูดเป็ดตูดห่านจะมีขุมน้ำมันหาก แตกออกมาจะเหม็นสาบ แต่บางคนก็ชอบจะล่อแต่ตูดเป็ดท่าเดียว จีน ฮ่องกงทำเป็ดย่างห่านย่างอร่อย ที่อังกฤษร้านเป็ดย่างชื่อ ฟอร์ซีซั่นส์ ทำอร่อยมาก คนไทยชอบไปซื้อกลับมา

วันนี้วันชาติฝรั่งเศส นึกขึ้นได้ว่าเป็ดร้าน ตูร์ดาชอง ริมแม่น้ำแซนในกรุงปารีสก็อร่อย แต่ความอร่อยไม่เท่ากับความโก้ถ้าได้ไปกินที่ร้านนี้เพราะต้องจองนานและขาย มาหลายร้อยปีแล้ว นโปเลียนก็เคยเสวย รัชกาลที่ 5 ก็เคยเสวย ฝรั่งมักเอาตับเป็ดและตับห่านไปทำตับบดเรียกว่า "ฟัว กราส์" ใช้ทาขนมปังหรือทอดกินเรียกไขมันให้มาอุดตันเส้นเลือดดีนัก เมืองไทยที่ร้านลอร์ดจิม โรงแรมโอเรียนเต็ลและร้านลีออง ซอยร่วมฤดี ทำได้อร่อย

เคยเล่าแล้วว่าก๋วยเตี๋ยวเป็ดอร่อยต้องเจ้าสะพานเหลือง ถนนพระรามที่ 4 ถ้ามาจากสามย่านอยู่ก่อนถึงแยกทางด่วน อีกเจ้าก็ร้าน เซี้ยะ ไปจากคลองเตยบ่ายโฉมหน้าไปพระโขนงจะอยู่ขวามือริมถนนพระรามที่ 4 เหมือนกันก่อนถึงแยกเกษมราษฎร์ สองเจ้านี้ขายกลางคืน มีไส้ กึ๋น เลือด ตับ ปีก ลิ้นพร้อม

ก๋วยเตี๋ยวห่านมีขายแต่ไม่อยากแนะนำเพราะใส่มากับ ก๋วยเตี๋ยวไม่ค่อยเข้ากันนัก เสียดายของ สู้สั่งมาคีบกินเปล่าๆ หรือกินกับข้าวสวยร้อนๆ ไม่ได้ ส่วนข้าวต้มเป็ด ขอแนะนำเจ้าประตูผีอยู่ในซอยที่แยกจากถนนมหาไชยข้างวัดเทพธิดารามไปออกศาลา ว่าการ กทม. ข้าวต้มห่านนั้นไม่เคยเห็นใครทำขาย

ห่านทำพะโล้จะเข้า กันดีเพราะยิ่งเคี่ยวก็ยิ่งเข้าเนื้อ เวลากินก็เลาะกระดูกแล่เอาแต่เนื้อสับเป็นชิ้นๆ ติดทั้งหนังทั้งเนื้อ ราดน้ำพะโล้ชุ่มๆ คีบจิ้มน้ำจิ้มทำจากน้ำส้ม กระเทียม พริก อร่อยอย่าบอกใคร ผมกินมานานเพิ่งรู้จากหมึกแดงว่าวิธีที่เคยกินนั้นผิด เสียของ!

การ บริโภคสูตร คุณชายถนัดศรี คือ ใช้ตะเกียบคีบเนื้อจิ้มน้ำจิ้มแล้วเอาเข้าปากเคี้ยวก่อน ต่อจากนั้นจึงตักน้ำพะโล้ราดข้าวสวยแล้วตักข้าวเปล่าตาม ถ้ากินกับข้าวต้มก็ตักข้าวต้มตาม ห้ามโปะเนื้อห่านลงบนข้าว ต้องกินให้ละเมียดละไมอย่างนี้จึงจะได้สุนทรียรสของห่านพะโล้ อ้อ! แล้วคนที่เขี่ยเอาหนังออก คีบแต่เนื้อกินนั้นสิทธิการิยะท่านว่า อย่าริกินห่านพะโล้เลยครับ ไปกินข้าวกับไข่เจียวหรือกะเพราไก่ไข่ดาวจะคุ้มกว่า!

เมื่อก่อนนี้ ห่านพะโล้อร่อยคู่บ้านคู่เมืองต้องเจ้า ท่าดินแดง ฝั่งธนบุรี เลยวัดอนงคารามทางไปโรงพยาบาลตากสินหรือถนนเจริญนคร จะมีถนนแยกซ้ายไปลงท่าดินแดงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางขวามือริมถนนนั้นมีร้านยกป้ายห่านพะโล้ท่าดินแดง นั่นแหละครับ! พวกเจ้าสัวเงินล้านนิยมลงเรือข้ามแม่น้ำจากท่าราชวงศ์ ฝั่งกรุงเทพฯ ไปขึ้นที่ท่าดินแดงแล้วเดินไปกินห่าน พออิ่มก็เดินกลับไปลงเรือ

เดี๋ยว นี้มีร้านห่านท่าดินแดงแยกไปเปิดร้านขายหลายแห่งไม่ต้องถ่อไปถึงท่าดินแดง ที่ถนนบรรทัดทองมาจากสี่แยกเจริญผลก่อนจะถึงถนนพระรามที่ 4 มีร้าน ฉั่วคิมฮวด อยู่ซ้ายมือขายห่านพะโล้อร่อย อีกเจ้าอยู่ถนนพัฒนาการ จากสี่แยกพัฒนาการไม่ขึ้นสะพานลอยตรงไปนิดเดียวร้านอยู่ฝั่งซ้ายนี่ก็ห่าน พะโล้ท่าดินแดง ขายมาตั้งแต่ผมยังเรียนธรรมศาสตร์ ปี 1 เวลาสอบเสร็จต้องนัดกันไปเลี้ยงฉลองที่ร้านนี้

อีกเจ้าอยู่ถนนทรงวาด ที่จะไปออกโรงเรียนเผยอิงและห้างเจียไต๋ ปากซอยมีร้านเซเว่น ร้านห่านพะโล้เจ้าอร่อยอยู่ตรงข้ามธนาคารเอเชีย พอ 10 โมงเช้าก็หมด

ถนน แจ้งวัฒนะ ถ้ามาจากถนนวิภาวดีจะไปเมืองทอง พอผ่านศูนย์ราชการซ้ายมือจะเห็นอาคารศาลทั้งหลายแหล่ เช่น ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ เลยไปนิดเดียวเป็นตึกแถว สังเกตร้านตัดสูททรงสมัยไว้ ก่อนถึงร้านทรงสมัยมีร้านห่านพะโล้ชื่อ "เบียร์โภชนา" สมัยก่อนตั้งหาบขายริมคลองประปา เวลาแดดร่มลมตกพวกนิยมเหล้ายาปลาปิ้งนัดกันไปกินห่านแกล้มเหล้าเบียร์เป็น ประจำ เวลานี้ยกหาบหนี ขึ้นห้างเปิดร้านใหญ่โตแต่รสชาติคงเดิม ดูสะอาดสะอ้านขึ้นด้วยซ้ำ คุณชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเคยชวนไปนั่งกินตอนเที่ยงๆ หลายหนแล้ว แต่ก็แคล้วคลาดเพราะผมมีธุระปะปังมากจนท่านเลิกนัดไปเอง เคยนัดผมไปเล่นกอล์ฟผมก็หาเวลาไม่ได้ เข้าใจว่าเลิกคบไปแล้วล่ะครับ

วัน หนึ่งผมแวะไปชิมเอง ของเขาอร่อยจริงๆ ยิ่งกินตามวิธีคุณชายถนัดศรีและหมึกแดงแล้ว แม้จะประณีตบรรจง ละเมียดละไมเสียเวลาไปหน่อย เพราะต้องคีบแล้วป้อน ป้อนแล้ววางตะเกียบ ใช้ช้อนตักข้าว เคี้ยวตุ้ยๆ แล้วคีบใหม่ แต่ก็ได้อรรถรสครบครัน อ้อ! ห่านพะโล้เป็นของแพงจานละหลายบาทอยู่จัดเป็นของเทวดา เวลาสั่งจึงให้ดูราคาก่อนนะครับว่าจะสั่งจานเล็ก ครึ่งตัวหรือทั้งตัวดี ส่วนน้ำจิ้มนั้นขอเยอะๆ ก็ได้

แค่ราดข้าวด้วยน้ำพะโล้เปล่าๆ แล้วเหยาะน้ำจิ้มก็อร่อยนะครับ

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)