ผู้เขียน หัวข้อ: 7 สัญญาณเตือนภัยหย่าร้าง  (อ่าน 1306 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
7 สัญญาณเตือนภัยหย่าร้าง
« เมื่อ: มิถุนายน 17, 2012, 11:38:23 am »
7 สัญญาณเตือนภัยหย่าร้าง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
17 มิถุนายน 2555 09:09 น.
-http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000071554-




 ในชีวิตแต่งงาน น้อยคนที่จะคิดถึงการหย่าร้าง เพราะทุกคู่รักย่อมปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกันไปจนวันสุดท้ายของลมหายใจ อย่างไรก็ดี ความคิดของคนเราบางคนก็อาจฟุ้งซ่าน และคิดถึงเรื่องของการหย่าร้างแวบขึ้นมาได้เช่นกัน แต่นั่นยังมองเป็นเรื่องปกติได้อยู่จนกระทั่งมีสัญญาณบางประการเกิดขึ้น ซึ่งวันนี้เรามี 7 สัญญาณ ที่จะบอกว่า ความคิดของการหย่าร้างที่ฝังอยู่ในตัวคุณได้ถูกปลุกขึ้นมาแล้วอย่างเต็มภาคภูมิ มีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยค่ะ
       
       1.คุณเริ่มจินตนาการถึงวันที่คุณอยู่โดยปราศจากเขาคนนั้นบ่อยๆ
       
       การคิดเผื่อเอาไว้ว่า ถ้าเราไม่มีเขาอยู่ข้างกายจะเป็นอย่างไร จะทำอย่างไร จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ (ถ้าต้องการฝึกเตรียมใจให้ตัวเอง) อย่างไรก็ดี ความคิดในสมองนั้นมันจะมีปัญหาขึ้นมาก็ต่อเมื่อ คุณเริ่มคิดว่าไม่มีเขาชีวิตก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร หรือคิดว่าต้องการหย่าขาดจากเขาคนนั้นบ่อยๆ เพราะนั่นหมายถึงว่า สถานการณ์ในครอบครัวที่คุณเผชิญหน้าอยู่ในปัจจุบันนี้กำลังมีปัญหาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ทางที่ดี หากไม่ต้องการหย่าขาดจากกันจริงๆ ควรหาวิธีปรับจูนให้ทั้งสองคนกลับมามีความสัมพันธ์อันดีต่อกันใหม่
       
       2.คุณมองเห็นแต่ข้อเสียของอีกฝ่าย
       
       นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ถูกใจ มองไปทางไหนก็หงุดหงิดไปหมด ถ้าเป็นอย่างนี้ การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันคงทำให้ทั้งสองฝ่ายอึดอัดใจน่าดู ดังนั้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มองเห็นแต่ข้อเสียของคู่ชีวิต ไม่เคยมองเป็นข้อดีได้เลย เป็นไปได้ว่าคุณกำลังไม่อยากมีชีวิตร่วมกับเขาต่อไปเสียแล้ว
       
       3.คุณเก็บสิ่งต่างๆ ไว้ในใจ
       
       การพูดคุยเป็นทางออกทางหนึ่งที่จะช่วยลดความเครียด หรือความรู้สึกไม่ดีระหว่างสามีภรรยาได้ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่า พูดไปก็ไม่มีค่า ไม่มีคนสนใจ ไม่มีใครฟัง ไม่พูดดีกว่า แล้วเก็บเรื่องต่างๆ ไว้กับตัวเอง เป็นไปได้ว่า ความสัมพันธ์ของคุณสองคนกำลังมีปัญหา
       
       4.คุณรู้สึกว่าคุณกำลังแก้ไขสิ่งต่างๆ เพียงฝายเดียว
       
       หากสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับคุณ และคู่ครองนั้น ทำให้คุณพยายามหาทางออกหลายๆ อย่าง ทั้งชวนเขาไปพบจิตแพทย์ หรือนักบำบัดเพื่อร่วมกันหาทางออก ชวนไปทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อจะได้มีเวลาดีๆ ร่วมกัน ชวนให้เขาหันมาพูดคุยกับคุณในปัญหาที่เกิดขึ้น ฯลฯ แต่สุดท้ายแล้ว คุณก็พบว่า เขาปฏิเสธที่จะทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง และทำให้คุณท้อแท้กับชีวิตอย่างมากจนไม่อยากจะสนใจ หรือใส่ใจสิ่งใดๆ เกี่ยวกับชีวิตสมรสอีกแล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณและคู่สมรสกำลังมีระยะห่างระหว่างกัน
       
       5.มีกิจกรรมทางเพศน้อยลง
       
       ไม่ว่าจะมาจากความไม่พร้อมของฝ่ายใดก็ตาม แต่การที่คู่สมรสมีกิจกรรมทางเพศด้วยกันน้อยลงเรื่อยๆ เป็นสัญญาณเตือนว่า ความปรารถนาที่จะใกล้ชิดกับอีกฝ่ายหนึ่งได้ลดลงเรื่อยๆ และทำให้สามีภรรยารู้สึกห่างไกลกันมากขึ้น นอกจากนี้ การลดจำนวนของกิจกรรมทางเพศลงอาจมาจากปัญหาส่วนตัวทั้งคู่ได้สร้างเอาไว้ก็เป็นได้
       
       6.คุณโมโหได้ทุกเรื่องกับสิ่งที่เขาทำ
       
       ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามในบ้าน เช่น เปิดประตูบ้านทิ้งไว้ ทำกับข้าวไม่อร่อย ออกไปคุยกับเพื่อนบ้าน ซ่อมสายไฟโดยไม่ได้บอกให้คุณรู้ล่วงหน้า ขับรถหลงทาง ฯลฯ ทันทีที่คุณทราบเรื่อง คุณก็พร้อมที่จะหงุดหงิดอาละวาด หรือไม่พอใจกับการกระทำของเขาทันที ถ้าเป็นแบบนี้ การเลิกรากันอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายมีชีวิตอยู่อย่างสบายใจมากกว่า
       
       7.คุณรู้สึกว่ามีคนอื่นเข้าใจคุณมากกว่าสามี/ภรรยา
       
       ข้อนี้ต้องระวังปัญหาการนอกใจที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะถ้าคนที่เข้าใจคุณนั้นไม่ใช่ญาติ หรือเพื่อนที่ไว้ใจได้ เพราะการที่ชีวิตสมรสมีปัญหา และมีคนเข้าใจคุณมากกว่าคนที่ (ควรจะ) อยู่ข้างกาย ก็เป็นไปได้ว่า คุณจะหันไปหาคนที่เข้าใจคุณคนนั้นบ่อยครั้งขึ้นนั่นเอง
       
       อ้างอิงบางส่วนจาก divorcesupport

-http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000071554-

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)