เจาะคดีแก๊งแบงก์ปลอม อาละวาดลวงซื้อน้ำมัน ป่วนทั่วกรุงเก่า-อ่างทอง
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU5UUXhOREk0T1E9PQ==§ionid=-
วิเชียร นรสิงห์ สุรศักดิ์ หริ่มสืบ เรื่อง/ภาพ
เจ้า ของปั๊มน้ำมันละแวกย่านกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง ต่างต้องปวดเศียรเวียนเกล้า กับแก๊งคนร้ายที่อาศัยช่วงมืดค่ำมาขอซื้อน้ำมันครั้งละ 500-600 ลิตร ก่อนใช้แบงก์ปลอมจ่ายเป็นค่าน้ำมัน
กระทั่งล่าสุดไปก่อเหตุกับปั๊มน้ำมันบางจาก ในพื้นที่ ม.8 ต.โรงช้าง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
โดย เมื่อเวลาประมาณตี 5 วันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ชายหนุ่ม 2 คน ขับปิกอัพเชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน กฉ 6328 สุพรรณบุรี บรรทุกถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร รวม 3 ใบ มาในกระบะท้าย ก่อนขอซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงรวม 600 ลิตร
ด้วย ความที่มีข่าวระแคะระคายมาเข้าหูว่า มีแก๊งคนร้ายลวงใช้แบงก์ปลอมหลอกซื้อน้ำมัน ทำให้นายสามารถ อินทร์อุไร อายุ 35 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันดังกล่าว จึงออกมายืนคุมเชิงระหว่างที่พนักงานเติมน้ำมันให้ลูกค้ารายนี้
แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่เจ้าของปั๊มระแวงไว้ทุกประการ!!?
ทันทีที่พนักงานของปั๊มเติมน้ำมันเต็ม ทุกถัง คิดเป็นเงินรวม 18,000 บาท
คนร้ายก็เข้าไปนั่งในรถทันทีเหมือนจะ ขับรถออกจากปั๊มไปเลย
นาย สามารถจึงรีบเดินเข้าไปเกาะประตูรถพร้อมขอเงินค่าน้ำมัน ซึ่งคนร้ายก็ยื่นเงินเป็นแบงก์ 1,000 บาท มาให้ปึกหนึ่ง เขาจึงยื่นมือเข้าไปรับเพื่อนับว่าครบถ้วนหรือไม่
แต่ทันทีที่มือสัมผัสกับเงินปึกดังกล่าว เขาก็รู้ทันทีว่าเป็นแบงก์ปลอม จึงตะโกนโวยวายขึ้น
จนคนร้ายตกใจรีบบึ่งรถออกไปทันที หายวับไปกับความมืดต่อหน้าต่อตาเขา
หลัง เกิดเหตุ พ.ต.อ.อนุสรณ์ วะยาคำ ผกก.สภ.ป่าโมก นำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทำให้พบว่า กล้องวงจรปิดของปั๊ม ดังกล่าวจับภาพคนร้ายและรถได้อย่างชัดเจน จึงประสานไปยังท้องที่ต่างๆ ซึ่งอยู่ข้างเคียงกัน โดยเฉพาะ บก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเกิดเหตุแบบเดียวกันหลายครั้ง
แล้วความพยายามของตำรวจก็เป็นผล สำเร็จในช่วงค่ำวันเดียวกัน เมื่อพล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนคร ศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รอง ผบก. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.บาง ปะหัน สภ.บางไทร
บุกเข้าจับกุม ตัว นายคมสัน วงศ์สุขชัยกิจ อายุ 25 ปี และ นายภานุวัฒน์ รามศร อายุ 31 ปี ชาว อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้คาบ้านพักในพื้นที่ อ.บางไทร พร้อมรถปิกอัพเชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน กฉ 6328 สุพรรณบุรี และน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมาก ก่อนคุมตัวไปสอบสวน
เบื้องต้นผู้ต้องหา ซัดทอดถึงนายวรพจน์ สุขเกศา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.1 ต.แคออก อ.บางไทร ว่าเป็นผู้ผลิตแบงก์ปลอมที่ใช้ก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่จึงตามไป จับตัวได้คาห้องพักเลขที่ 5203 หอพักกีรติจินดา ม.6 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางเครื่องถ่ายเอกสารสีแบบเลเซอร์ 1 เครื่อง ธนบัตรปลอมฉบับละ 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท จำนวนหลายสิบใบ กระดาษ เอ 4 จำนวนหนึ่ง ยาบ้าอีก 100 เม็ด
ซึ่งนายวรพจน์ก็ก้มหน้ายอมรับสารภาพว่า รับจ้างผลิตแบงก์ปลอมให้แก๊งคนร้ายนำไปหลอกซื้อน้ำมันจริง โดยได้ยาบ้าเป็นค่าจ้าง
รุ่ง เช้าวันที่ 19 มี.ค. ผู้การเสริมคิดก็นำทีมสอบปากคำนายคมสันและนายภานุวัฒน์ ซึ่งทั้งคู่ก็สารภาพอย่างหมดเปลือกว่า ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เท่าที่จำได้มีเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ลงมือที่ ปั๊มน้ำมันคอสโม่ ม.3 ต.ขยาย อ.บางปะหัน ได้น้ำมันไป 200 ลิตร
วันที่ 16 มี.ค. ก่อเหตุที่ปั๊มน้ำมันพีที ม.3 ต.ตานิม อ.บางปะหัน ได้น้ำมันไป 51 ลิตร วันที่ 17 มี.ค. ลวงซื้อน้ำมันที่ปั๊ม ปตท.วัฒนชัย ม.3 ต.หันสัง อ.บางปะหัน
สุดท้ายก็ที่ปั๊มน้ำมันบางจากของนายสามารถที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง รวมมูลค่าความเสียหายหลายหมื่นบาท
ก่อนถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวได้ยกแก๊งดังกล่าว
นาย คมสันยังสารภาพอีกว่า ก่อนเริ่มลงมือก่อเหตุทั้งหมดนั้น ได้รู้จักกับนายวรพจน์ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ และติดยาบ้างอมแงม จึงใช้ยาบ้าล่อให้นายวรพจน์ร่วมมือ ด้วยการผลิตแบงก์ปลอมนำไปลวงซื้อน้ำมัน เพื่อนำไปขายต่อ
แต่ก็ไปไม่รอด เพราะถูกกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ต้องเข้าไปชดใช้กรรมหลังมุ้งสายบัวยกแก๊ง
นับเป็นอีกหนึ่งผลงานของตำรวจอ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ที่ร่วมกันสืบสวนจนทลายแก๊งคนร้ายได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน