ผู้เขียน หัวข้อ: ระวังถูกหลอกและเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ของใกล้ตัว  (อ่าน 68952 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ตัวอย่างบริษัท ที่ไม่ควรทำงานด้วย

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คอลัมน์ เอชอาร์ คอร์เนอร์ โดย ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ -http://tamrongsakk.blogspot.com-

-http://campus.sanook.com/1375685/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2/-


ผมเพิ่งไปบรรยายหลักสูตร Public Training ให้กับบริษัทจัดฝึกอบรมแห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ และมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ประสานงานฝึกอบรมของบริษัท เธอเล่าให้ฟังว่า...เมื่อสองเดือนก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจบปริญญาตรีมาหมาด ๆ และได้ไปทำงานกับบริษัทที่ทำธุรกิจเครื่องหนังส่งออกมียี่ห้อแห่งหนึ่งแถว ๆ สุขุมวิท ซึ่งทำได้ประมาณเดือนครึ่งก็ตัดสินใจลาออก

"ทำไมถึงลาออกเร็วนักล่ะ ?" ผมถามด้วยความอยากรู้

เธอจึงเล่าให้ฟังว่าสาเหตุที่ลาออก เพราะบริษัทดังกล่าวมีการปฏิบัติต่อพนักงานใหม่อย่างเธอ ดังนี้

1.บริษัทรับเข้าทำงานตำแหน่งพนักงานประจำสำนักงานดูแลงานธุรการทั่วไปในสำนักงาน แต่บริษัทมีเงื่อนไขว่าจะต้องหักเงินค้ำประกันความเสียหายในการทำงาน 3,000 บาท โดยหักจากเงินเดือนในเดือนแรกเต็มจำนวน

2.เธอเซ็นสัญญาจ้างใน ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการสำนักงานกับบริษัท เวลาทำงาน 08.00-17.00 น. เมื่อเธอขอสำเนาสัญญาจ้าง ฝ่ายบุคคลปฏิเสธไม่ยอมให้สัญญาจ้าง และบอกว่าสัญญาจ้างเป็นความลับต้องเก็บไว้ที่บริษัท

3.เมื่อทำงานไปประมาณเกือบเดือน ผู้บริหารก็สั่งให้เธอไปออกงานอีเวนต์ขายกระเป๋า, เครื่องหนังของบริษัทที่ศูนย์แสดงสินค้าชื่อดังแถว ๆ แจ้งวัฒนะ ซึ่งไกลจากที่ทำงาน (แถวสุขุมวิท) แถมไปขายเกินเวลาจนถึงประมาณสี่ทุ่มโดยบริษัทไม่ได้มีการจ่ายค่าล่วงเวลา และบอกว่าเป็นงานที่ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ทำ


ถ้าไม่ทำจะถือว่าขัดคำ สั่งของบริษัท สรุปคือให้ไปขายสินค้าให้กับบริษัท 5 วันไม่ได้โอทีเลยแม้แต่วันเดียว แถมไม่มีค่าพาหนะเดินทางอะไรให้เลย

4.หลังจากขายของครบ 5 วันแล้วไม่ได้โอที เธอจึงตัดสินใจลาออก ซึ่งก็เขียนใบลาออกส่งให้กับหัวหน้า แต่หัวหน้าบอกว่าไม่อนุมัติการลาออก โดยอ้างว่าตามระเบียบของบริษัทจะต้องให้ผู้บังคับบัญชาอนุมัติเสีย ก่อนถึงจะลาออกได้ ดังนั้น ถ้าเธอจะลาออกบริษัทจะยึดเงินค้ำประกันการทำงาน 3,000 บาท เพราะถือว่าทำให้บริษัทเสียหายหาคนมาแทนไม่ทัน

เป็นไงบ้างครับ เรื่องจริงจากชีวิตจริงของคนทำงานที่เพิ่งจบใหม่ ??

แต่น้องคนนี้แกก็ตัดสินใจลาออก โดยยอมให้บริษัทยึดเงินค้ำประกัน 3,000 บาท นะครับ เพราะเชื่อที่บริษัทบอกว่าบริษัทมีสิทธิ์หักได้ แต่แกถามผมว่า...ที่จริงแล้วบริษัทมีสิทธิ์จะยึดเงินค้ำประกันไว้ตามระเบียบ ที่บริษัทกล่าวอ้างหรือไม่ ?

จากเรื่องจริงที่ผมเล่ามานี้เป็น อุทาหรณ์ที่ผมอยากจะนำมาบอกเล่าให้ท่านผู้อ่านได้ทราบ (รวมถึงบอกให้น้องคนนี้ได้ทราบ) สิ่งที่ถูกต้องดังนี้ครับ

1.บริษัทไม่มีสิทธิ์ที่จะหักเงินค้ำประกันการทำงานตั้งแต่แรกแล้วนะครับ เพราะตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 2) ปี 2551 ระบุไว้ในมาตรา 10 ระบุไว้ชัดเจนว่า "....ห้ามมิให้นายจ้างเรียก หรือรับหลักประกันการทำงาน หรือหลักประกันความเสียหายในการทำงานไม่ว่าจะเป็นเงิน ทรัพย์สินอื่น หรือการค้ำประกันด้วยบุคคลจากลูกจ้าง เว้นแต่ลักษณะ หรือสภาพงานที่ทำนั้น ลูกจ้างต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สินของนายจ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างได้...."

จะเห็นได้ว่ากรณีของน้องคนนี้เธอไม่ได้ทำงานที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ หรือทรัพย์สินของบริษัทอะไรเลย

ดังนั้น ถ้าท่านไปสมัครงาน และบริษัทนั้นเรียกเงินค้ำประกัน (หรือแม้แต่จะให้หาคนมาค้ำประกัน) ทั้ง ๆ ที่ท่านไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับเงิน หรือทรัพย์สินของนายจ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ ผมว่าท่านควรคิดดูให้ดี ๆ ว่าเราควรจะทำงานกับบริษัทที่ส่อเจตนาทำผิดกฎหมายแรงงาน และเอาเปรียบพนักงาน ตั้งแต่แรกแบบนี้หรือไม่

2.สัญญาจ้างงานไม่ใช่ ความลับตามที่ฝ่ายบุคคล (ซึ่งผมมั่นใจว่าต้องไม่ใช่ฝ่ายบุคคลมืออาชีพอย่างแน่นอน เพราะคนที่เป็นมืออาชีพ HR จะต้องไม่พูดอย่างนี้) กล่าวอ้าง ซึ่งหากเป็นมืออาชีพควรจะให้สำเนาสัญญาจ้างกับพนักงานใหม่ด้วย เพื่อยืนยันเงื่อนไขสภาพการจ้างอย่างโปร่งใสชัดเจน ซึ่งผมไม่เห็นว่าการให้สำเนาสัญญาจ้างกับพนักงานใหม่จะเป็นเรื่องลับอะไรเลย

3.การที่บริษัทสั่งให้ไปทำงานออกอีเวนต์ จนเลยเวลาทำงานปกติแล้วไม่ให้ค่าล่วงเวลาก็ผิดกฎหมายแรงงานอีกด้วย แถมยังมาอ้างว่าถ้าไม่ไปทำจะถือว่าขัดคำสั่งบริษัท กรณีนี้หากไม่ไปทำงานออกอีเวนต์ก็ไม่ถือว่าขัดคำสั่งนายจ้างนะครับ เพราะงานของน้องคนนี้เป็นงานธุรการทั่วไปไม่มีหน้าที่ไปออกอีเวนต์ขายของ ซึ่งเป็นงานของฝ่ายขายครับ

ผมถึงบอกว่าคนที่ทำฝ่ายบุคคลบริษัทแห่ง นี้คงเป็นใครสักคนที่บริษัทเป็นคนอุปโลกน์ให้ว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลแบบ กลวง ๆ ที่ไม่ใช่มืออาชีพ ซึ่งคนพวกนี้แหละครับที่ทำให้พนักงานอื่น ๆ มองคนที่ทำงานฝ่ายบุคคลในแง่เสียหาย

มองว่า HR เป็นพวกที่ชอบเอาเปรียบพนักงาน พวกบ้าอำนาจ ฯลฯ

ซึ่งผมว่าท่านที่เป็น HR มืออาชีพควรจะต้องนำกรณีที่ผมเล่ามานี้เพื่อเตือนใจตัวเองไม่ให้มีพฤติกรรมทำนองนี้ด้วยนะครับ

4.ผมเคยพูดไว้หลายครั้งแล้วว่า "การลาออกเป็นสิทธิ์ของลูกจ้าง" เมื่อพนักงานยื่นใบลาออก และระบุว่าการลาออกจะมีผลตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ การลาออกจะมีผลตามวันที่ระบุไว้ โดยไม่ต้องรอว่านายจ้างจะอนุมัติหรือไม่ (แต่การเป็นพนักงานที่ดีก็ควรทำตามระเบียบบริษัทซึ่งส่วนใหญ่ก็จะให้ยื่น ล่วงหน้า 30 วัน)

แต่กรณีบริษัทที่มีพฤติกรรมแบบนี้ที่มาอ้างว่าการ ลาออกต้องทำตามระเบียบคือให้ผู้บริหารอนุมัติเสียก่อนถึงจะลาออกได้ อ้างแบบนี้ก็ผิดแล้วล่ะครับ แถมมายึดเงินค้ำประกันไว้ 3,000 บาทไม่ยอมจ่ายคืนเสียอีก

ทั้ง ๆ ที่พนักงานก็ไม่ได้ทำอะไรให้บริษัทเสียหายเลย

ผมบอกน้องคนนี้ไปว่าถ้าไปร้องเรียนกับแรงงานเขตพื้นที่หรือไปฟ้องศาลแรงงานล่ะ ได้คืนแน่ ๆ แถมยังจะได้ดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดชำระอีกร้อยละสิบห้าต่อปีต่างหาก แต่น้องเขาก็บอกว่าไม่อยากเสียเวลาไปศาล ก็เลยปล่อยให้บริษัทขี้โกงรายนี้เอาเปรียบลูกจ้างหน้าใหม่รายอื่นอีกต่อไป

ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ เพื่ออยากจะฝากข้อเตือนใจถึง HR มืออาชีพทุกท่านได้ทราบไว้เป็นข้อคิด และเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้อง ซึ่งจำเป็นจะต้องให้ความรู้กับผู้บริหารระดับสูงของบริษัททราบด้วยว่าการ กระทำอะไรบ้างที่ผิดกฎหมายแรงงานเป็นการเอาเปรียบพนักงาน

อะไรถูกอะไรผิด อะไรทำได้หรือไม่ควรทำ ฯลฯ

เพราะหากทำไปแล้ว จะทำให้พนักงานเกิดความรู้สึกในทางลบกับบริษัท หรือจะเกิดปัญหากับบริษัทในอนาคต ซึ่งการเป็น HR มืออาชีพจำเป็นจะต้องกล้าพูดความจริง และทำในสิ่งที่ถูกต้องครับ
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
แฉหมดเปลือก ธุรกิจทำงานผ่านเน็ต ไม่จำกัดวุฒิ ที่แท้ก็คือ...

-http://money.kapook.com/view108428.html-



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           ชาวเน็ตเปิดโปงโฆษณาชวนคนทำงานหารายได้พิเศษ โว แค่มีอินเทอร์เน็ตก็สร้างรายได้หลักหมื่น ไม่จำกัดวุฒิ ที่แท้คืออะไรกันแน่
 
           เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเห็นข้อความ หรือใบปลิวที่เขียนเชิญชวนให้คนมาทำงานพิเศษผ่านอินเทอร์เน็ต โดยระบุว่าเป็นงานง่าย ๆ มีเวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ทำได้ ให้รายได้ดีหลักหมื่นขึ้นไป และไม่จำกัดวุฒิการศึกษาด้วย ซึ่งชวนน่าสงสัยไม่น้อยว่า นี่คืองานประเภทไหนกันแน่ มีด้วยหรืองานง่าย ๆ สบาย ๆ รายได้ดีขนาดนี้ ฟังดูแล้วน่าดึงดูดใจไม่น้อย จึงพยายามหาคำตอบกัน

           และล่าสุดก็มีผู้ไขข้อข้องใจให้แล้ว โดยคุณ สมาชิกหมายเลข 1753904 ได้ตั้งกระทู้ชื่อ "แฉหมดเปลือก.......... ไอ้ธุรกิจหารายได้พิเศษ ทำงานผ่านเน็ต ไม่จำกัดวุฒิ - มันคืออะไรกันแน่?" ลงในเว็บไซต์พันทิปดอทคอม อธิบายให้รู้ว่างานที่ว่าคือทำอะไรกันแน่ พร้อมกับเตือนภัยคนที่คิดจะไปทำงานตามโฆษณาดังกล่าวด้วย

           โดยเจ้าของกระทู้เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีเพื่อนชวนไปทำงานที่โฆษณาว่า "รับสมัครงานโปรโมทเว็บไซต์ ทำหน้าที่ส่งเมล รายได้ 10,000-50,000  บาทต่อเดือน อายุ 17 ปีขึ้นไป (ไม่จำกัดวุฒิ) ใช้ Internet และ คอมพิวเตอร์พื้นฐานได้" จึงสงสัยว่าแค่เล่นอินเทอร์เน็ตก็ได้เงินขนาดนี้จริงหรือ เจ้าของกระทู้จึงเดินทางไปที่ตึกออลซีซั่นตามที่ระบุไว้ เมื่อไปถึงก็ได้รับคำตอบวา ให้ทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต ส่งอีเมลหาลูกค้า จากนั้นก็นัดให้ไปพบอีกครั้งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

           วันรุ่งขึ้น เพื่อนโทรมาปลุกให้ไปที่โรงแรมด้วยกัน ซึ่งเมื่อไปถึงหน้างานก็ทราบว่า ต้องจ่ายค่าเข้าร่วมงาน 600 บาท โดยเป็นค่าสัมมนาและค่าอาหารกลางวัน และเน้นย้ำว่าต้องเข้าฟังวันนี้ ไม่เช่นนั้นจะพลาดโอกาส เมื่อเข้าไปในห้องก็มีคนขึ้นมาพูดถึงความสำเร็จของตัวเองที่ได้เงินเดือนละเป็นแสนเป็นล้าน แต่เจ้าของกระทู้กลับรู้สึกแปลก ๆ และคิดจะกลับออกจากงาน แต่กลับถูกด่าว่าไม่มีมารยาท ทำให้ต้องนั่งฟังไปจนถึง 6 โมงเย็น แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบสักทีว่าคืองานอะไร กระทั่งตอนท้ายงานมีคนมาบอกว่าพรุ่งนี้ให้กลับไปที่ตึกออลซีซั่นอีกครั้ง เพื่อฟังเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นจะได้บันทึกข้อมูลลงในบริษัทเลย

           กระทั่งวันรุ่งขึ้น เจ้าของกระทู้ตัดสินใจกลับไปที่ตึกออลซีซั่นอีกครั้ง และนั่งฟังการบรรยายผ่านไป 6 ชั่วโมงก็ยังไม่ได้ข้อมูลอะไร จนมาถึง 30 นาทีก็ถึงบางอ้อ เมื่อมีการเปิดเผยชื่อผลิตภัณฑ์ขายตรงออกมา ทำให้รู้ว่า ธุรกิจนี้คือการขายตรงนั่นเอง โดยต้องเสียเงินค่าส่งทุนเป็นซูเปอร์เวเซอร์ 38,000 บาท เพื่อนำผลิตภัณท์ไปขายต่อ สร้างความงุนงงให้เจ้าของกระทู้เป็นอย่างมากว่า งานนี้เกี่ยวกับการใช้อีเมลอย่างไร และเหมือนเป็นการหลอกลวงให้คนไปฟังมากกว่าหรือไม่ เพราะสัปดาห์หนึ่งมีคนถูกชวนไปร่วมงานกว่า 500 คน เสียค่าเข้าฟังคนละ 600 บาท ดูแล้วช่างไม่แฟร์กับคนที่ไม่รู้เรื่องเลย จึงฝากช่วยแชร์และเตือนคนที่กำลังคิดจะไปทำงานตามโฆษณาแบบนี้ เพื่อไม่ให้ถูกหลอก

           และแน่นอนว่าหลังจากกระทู้ดังกล่าวถูกแชร์ต่อกัน ก็มีคนเข้ามาคอมเม้นท์พร้อมแสดงความคิดเห็น และร่วมแชร์ประสบการณ์เป็นจำนวนมาก โดยหลายคนบอกเช่นกันว่า เคยถูกหลอกให้ไปฟังมาแล้ว หลังจากฟังไปสักพักถึงรู้ว่าเป็นการขายตรง ซึ่งทำกันเป็นขบวนการเลยทีเดียว ที่น่าตกใจก็คือ มีหลายบริษัทที่ลงโฆษณาแบบนี้เพื่อดึงให้คนไม่รู้มาเข้าร่วม



คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ลูกหนี้เฮ! ผ่านกม.ทวงหนี้ “ข่มขู่-ทวงผิดเวลา” เจอโทษปรับ-อาญา


-http://money.sanook.com/243899/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AE-%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A1.%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89-%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B9%E0%B9%88-%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%B2/-


-http://www.matichon.co.th/index.php-

ลูกหนี้เฮ! ผ่านกม.ทวงหนี้ “ข่มขู่-ทวงผิดเวลา” เจอโทษปรับ-อาญา


นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผอ.สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 3 วาระ เรียบร้อย คาดว่าจะมีผลบังคับต้นปี 2558 นี้ ส่งผลให้ลูกหนี้ได้รับการคุ้มครองจากการทวงหนี้จากเจ้าหนี้ หรือผู้ทำหน้าที่แทนในการทวงหนี้มากขึ้น

สำหรับข้อห้ามที่ระบุไว้ในร่างกฎหมาย พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ มี 5 ข้อ ได้แก่

1.ห้ามมิให้ผู้ติดตามหนี้ติดต่อบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ลูกหนี้ เว้นแต่เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลสถานที่ติดต่อลูกหนี้

2.ห้ามมิให้ผู้ติดตามหนี้ กระทำการในลักษณะที่เป็นการละเมิด และคุกคาม ในการติดตามทวงถามหนี้ อาทิ ใช้ความรุนแรง ใช้วาจา หรือภาษาดูหมิ่น ถากถาง เสียดสี การเปิดเผยความเป็นหนี้ของผู้บริโภคแก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง

3.ห้ามติดตามทวงหนี้เกินสมควรแก่เหตุรวมถึงการติดต่อทางโทรศัพท์วันละหลายครั้ง และก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญ

4.ห้ามมิให้ผู้ติดตามหนี้กระทำการในลักษณะที่เป็นเท็จ หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในการติดตามทวงหนี้ เช่น ทำให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดี รัฐ หน่วยงานของรัฐ ทนายความ หรือสำนักงานกฎหมาย ทำให้เชื่อว่าหากไม่ชำระหนี้จะถูกดำเนินคดี ถูกยึดหรืออายัดทรัพย์หรือเงินเดือน ข่มขู่ว่าจะดำเนินการใด ทั้งที่ไม่มีอำนาจจะกระทำได้ตามกฎหมาย

5.ห้ามไม่ให้ผู้ติดตามหนี้ ติดตามทวงถามหนี้ในลักษณะที่ไม่เป็นธรรม อาทิ เรียกเก็บค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายใดๆ เว้นแต่ได้มีการตกลงไว้ล่วงหน้า ติดต่อลูกหนี้เกี่ยวกับหนี้โดยทางไปรษณียบัตร เอกสารเปิดผนึก หรือโทรสาร ใช้ภาษา สัญลักษณ์ ชื่อทางธุรกิจ บนซองจดหมายในการติดต่อลูกหนี้ ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการติดตามทวงถามหนี้ ส่วนการติดต่อกับลูกหนี้นั้น ให้ติดต่อตามสถานที่ที่ลูกหนี้แจ้งไว้ ในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยได้พยายามตามสมควรแล้ว ให้ถือเอาสถานที่ติดต่ออื่น เป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการติดต่อได้ สำหรับการติดต่อลูกหนี้ทางโทรศัพท์ โทรสาร หรือติดต่อบุคคล สำหรับวันทำการให้ติดต่อได้ในเวลา 08.00-20.00 น. ส่วนวันหยุดราชการติดต่อได้ในเวลา 08.00-18.00 น. เว้นแต่ได้ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร


ด้านบทกำหนดโทษแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โทษทางปกครองจะถูกปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ตามมาตรา 24 และทางอาญาจะถูกเพิกถอนการจดทะเบียน และจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถือว่าเป็นการลงโทษขั้นสูงสุด รวมทั้งให้มีการตั้งคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ ขึ้นมาดูแลรับผิดชอบการดำเนินงานด้วย
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ชาวบ้านผวาแบงก์ร้อยปลอมระบาด บอกเหมือนของจริงมาก
โพสต์เมื่อ : 7 มกราคม 2558 เวลา 13:59:18
-http://money.kapook.com/view108779.html-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           ชาวบ้าน ต.ลอ จ.พะเยา เก็บแบงก์ร้อยได้ แจ้งนายกเทศมนตรีตำบล สรุปเป็นของปลอมทั้งหมด เตรียมประกาศให้ชาวบ้านระมัดระวังการโดนหลอก

           วันที่ 7 มกราคม 2558 นายสมชาย เข็มเพชร ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) เวียงลอ อ.จุน จ.พะเยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.00 น. นายสุเทพ ไกลทา ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ลอ ได้เข้ามาพบตนและนางอุบลวรรณ เข็มเพชร นายก ทต.เวียงลอ ที่บ้านพัก พร้อมกับกระดาษที่มีรูปร่างคล้ายกับธนบัตรชนิดใบละ 100 บาท จำนวน 3 ใบ โดยระบุว่าพบตกหล่นระหว่างทางสายบ้านปางป้อม-สันหลวง หมู่ 4 ต.ลอ ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาที่นายสุเทพ กำลังกลับมาจากการไปดูเตาเผาถ่านจึงนำมาแจ้งนายก ทต.เวียงลอ เพื่อดำเนินการต่อไป

           ทั้งนี้ นางอุบลวรรณ นายก ทต.เวียงลอ กล่าวว่า นายสุเทพได้นำกระดาษที่คล้ายธนบัตรชนิดละ 100 บาท มาให้ตนดูจำนวน 3 ใบ บอกว่าเก็บได้ระหว่างทางสายบ้านปางป้อม-สันกลาง หมู่ 4 ตกหล่นอยู่ข้างทาง ซ้อนกันอยู่ 3 ใบ กลัวว่าจะเป็นของปลอมจึงนำมาให้ตนตรวจสอบเบื้องต้น จากนั้นตนจึงได้ประสานงานไปยัง สภ.จุน ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ปรากฏว่ากระดาษทั้งสามใบเป็นธนบัตรชนิดละ 100 บาท ปลอมทั้งหมด โดยหากไม่สังเกตให้ดีก็จะไม่ทราบว่าเป็นของปลอม เพราะทำเหมือนของจริงมาก แต่ถ้าสังเกตให้ละเอียดถี่ถ้วนจะพบว่าไม่มีลายน้ำ เมื่อหยดน้ำลงไปสีบนธนบัตรปลอมก็จาง หากเป็นเวลากลางคืนอาจจะถูกหลอกได้ง่ายมาก

           อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน ได้นำธนบัตรปลอมทั้ง 3 ใบ ไปทำการลงบันทึกประจำวันและตรวจสอบหาที่มาของธนบัตรปลอมดังกล่าวต่อไปแล้ว นอกจากนี้ นายก ทต.เวียงลอ ยังเตรียมออกประกาศแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังธนบัตรปลอมที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะร้านค้าต่าง ๆ หากไม่ระวังอาจจะถูกหลอกโดยมีคนนำธนบัตรปลอมมาซื้อของ รวมทั้งในตลาดสดก็ต้องระวัง เพราะมีการซื้อขายกันในเวลาเช้ามืด เสี่ยงต่อการระบาดของธนบัตรปลอมมาก


อ่านรายละเอียดจาก-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU1EWXdORE15TkE9PQ==&subcatid=-




รูปจากข่าวสด
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU1EWXdORE15TkE9PQ==&subcatid=-
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ตะลึง! ขอทานข้ามชาติอู้ฟู่ พกเงินสดกว่า 2 หมื่น

-http://news.sanook.com/1738889/-



นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชัยนาท ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำกำลังเข้าตรวจสอบจัดระเบียบขอทานตามนโยบายของรัฐบาล ที่ตลาดเทศบาลเมืองชัยนาท บนถนนคงธรรม

จากการตรวจสอบ ปรากฏว่าไม่มีขอทานที่เป็นคนไทยแม้แต่รายเดียว แต่พบขอทานเป็นชายชาวต่างชาติ สัญชาติจีน นั่งขอเงินประชาชนที่เดินซื้อของภายในตลาด เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวน ทราบชื่อ นายฉู่ เป่าฉง อายุ 40 ปี มือพิการทั้ง 2 ข้าง ตรวสอบในตัวพบเงินเหรียญที่ได้จากการขอทานจำนวน 480 บาท แต่เจ้าหน้าที่ต้องพบกับสิ่งที่ทำให้ตะลึงทั้งชุดเมื่อค้นในกระเป๋าสะพายของนายฉู่ พบเงินสดเป็นธนบัตรรวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 21,540 บาท

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายฉู่ไปตรวจค้นในที่พักซึ่งเป็นโรงแรมอยู่กลางเมืองใกล้จุดที่นายฉู่นั่งขอทาน ก็ได้พบเงินไทยชนิดเหรียญอีกจำนวนมาก จากการสอบสวนทราบว่า นายฉู่เคยทำงานอยู่ในโรงงานที่เมืองจีน แต่ถูกยางมะตอยกัดจนนิ้วกุด ปัจจุบันตกงาน เพื่อนบ้านที่เมืองจีนชักชวนให้มาเป็นขอทานที่ประเทศไทย บอกว่าได้เงินดี เพราะคนไทยขี้สงสาร เห็นใจคนพิการ จึงได้ทำเรื่องเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา อ้างว่าเงินที่พบเป็นเงินที่ติดตัวมาจากเมืองจีน

ทั้งนี้ จากผลการกวาดล้างจัดระเบียบขอทานตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.เป็นวันแรกนั้น นายอนุสันต์ เทียนทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผย เมื่อวันที่ 27ม.ค.ว่า จับกุมขอทานได้ทั้งสิ้น 107 คน เป็นคนไทย 87 คน ต่างด้าว 20 คน แยกเป็น กทม.มากที่สุด

เบื้องต้นยังไม่พบรายใด เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งขอทานคนไทยถูกนำส่งสถานสงเคราะห์เยียวยาฟื้นฟู คนต่างด้าวได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผลักดันส่งกลับประเทศ

ขอบคุณภาพประกอบจาก ไอเอ็นเอ็น

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
จะบอกว่า โกรธ ก็ ต้องยอม โกรธ



------------------------------------------------------------------------------------------

เจ้าหนี้ สุดทนติดชื่อลูกหนี้ประจานทั่วรถ ไม่ให้ก็อายกันไป

-http://hilight.kapook.com/view/115084-


เจ้าหนี้ติดชื่อลูกหนี้ประจานทั่วรถ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก JI Nakklee

           ไม่จ่ายก็อายกันไป ! เจ้าหนี้ติดชื่อ 15 ลูกหนี้ ประจานทั่วรถตู้ รวม ๆ ราคาแล้วร่วมล้านบาท บอกยืมกูไม่ให้ก็โกรธ พอทวงแถมยังท้าให้ฟ้อง

           เรื่องเงินเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ เลยล่ะ บางคนตอนมาขอยืมเงิน พูดดีเสียจริงจะให้ทำอะไรก็ยอมทุกอย่าง..รับปากจะคืนตอนนั้นตอนนี้ แต่พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ เจ้าหนี้ก็ต้องหนักใจ กับเหตุผลล้านแปด !! ทวงบ่อย ๆ ก็เกรงใจ (ใครเป็นบ้าง) แต่ไม่ใช่กับเจ้าหนี้คนนี้... ที่ขอติดชื่อลูกหนี้ประจานกันไปเลย ให้ทวงจนเหนื่อยดีนัก ฮึ๊ยยยย

            โดยภาพดังกล่าว เป็นภาพของคุณ JI Nakklee ที่ได้บันทึกภาพของรถตู้คันหนึ่ง มองแวบแรกนึกว่ารถตู้โดยสารทั่วไปที่มีป้ายเขียนบอกสถานที่ แต่เมื่ออ่านดูดี ๆ แล้วกลับกลายเป็นชื่อคน 15 คน พร้อมจำนวนเงินเอาไว้ แถมยังมีคติประจำใจเอาไว้ประชดลูกหนี้ว่า.. ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย !! และ ยืมกูจัง ไม่ให้ก็โกรธ ให้ก็ไม่คืน ทวงก็ด่า แถมท้าให้ฟ้อง มึนจังมึง

           อย่างไรก็ดี เมื่อรวม ๆ จำนวนเงินที่เจ้าหนี้ติดบนรถตู้เป็นเงินร่วม 1 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งคุณ JI Nakklee ระบุว่า รถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อความดังกล่าวติดเพราะประจานลูกหนี้หรือนำมาติดเพื่อให้คนสนใจ แต่ที่แน่ ๆ ถ้าลูกหนี้มาเห็น คงจะเจ็บจี๊ดไม่น้อยเลยล่ะ





คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
แก๊งคอลเซ็นเตอร์แสบ ใช้เบอร์ ปปง. โทรหลอกเหยื่อโอนเงินกว่า 6 แสน

-http://hilight.kapook.com/view/116251-

  แก๊งคอลเซ็นเตอร์ช่างกล้าใช้เบอร์โทรศัพท์สำนักงาน ปปง. โทรหลอกเหยื่อว่ามีชื่อเข้าไปพัวพันกับคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อนถูกหลอกโอนเงิน 665,000 บาท

             วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการร้องเรียนจาก นางอศรสุดา พิทักษ์ธรรม อายุ 45 ปี ว่าตัวเองได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีหญิงสาวคนหนึ่งใช้โทรศัพท์หมายเลข 061-3234998 โทรมาหลอกให้โอนเงินจำนวน 665,000 บาทไปให้ อ้างว่าธนาคารกสิกรไทย สาขาบ้านบึง จ.ชลบุรี ได้อนุมัติเงินกู้แล้ว ทั้งที่ตนไม่เคยกู้เงิน

             โดยนางอศรสุดา กล่าวว่า ต่อมาได้มีชายคนหนึ่งอ้างชื่อว่า ร.ต.อ. ธวัชชัย อยู่สกุล ทำงานที่สำนักงานป้องกันและปราบปราการฟอกเงิน ได้ใช้เบอร์โทรศัพท์ 02-219-3600 ของสำนักงาน ปปง. โทรมาหาตนและยังบอกให้ตนโทรไปตรวจสอบว่าเป็นเบอร์ของ ปปง. จริงหรือไม่ ตนจึงได้โทรไปที่ 1113 ว่าเบอร์ 02-219-3600 เป็นเบอร์ของสำนักงาน ปปง. จริง ตนจึงเริ่มหลงเชื่อ โดยชายคนดังกล่าวได้บอกว่าเอกสารทั้งหมดของนางสุจิตรา ที่เป็นคนยื่นแบบเงินกู้ซึ่งมีชื่อตนรวมอยู่ด้วย มีประวัติพัวพันเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด ถ้าจะอนุญาตให้ทำการยกเลิก ต้องให้รายละเอียด และให้พูดกับ พ.ต.อ. วรรณพงศ์

             นางอศรสุดา กล่าวต่อว่า ซึ่งทาง พ.ต.อ. วรรณพงศ์ ได้ให้คำแนะนำว่า ให้ถอนเงินออกจากธนาคาร เพราะหากนางสุจิตราถูกดำเนินคดีจะพัวพันถึงตนด้วย ตนตกใจจึงตัดสินใจไปถอนเงิน ซึ่งขณะที่กำลังถอนเงิน พ.ต.อ. วรรณพงศ์ บอกว่าต้องให้ความร่วมมือกับทางราชการ โดยการนำเงินมารันตัวเลขและให้โอนเงินเป็นจำนวน 665,000 บาท เข้าบัญชีนายเฉลิม ชมพู่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาหน้าเมือง จ.ขอนแก่น และบัญชีนายศุภชัย กันใจ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัส อ.แม่สาย จ.เชียงราย

             ต่อมาเมื่อตนกลับถึงบ้านก็รู้สึกเอะใจว่าจะถูกหลอก จึงได้โทรไปยัง เบอร์ 02-219-3600 ของสำนักงาน ปปง. และสอบถามว่า ร.ต.อ. ธวัชชัย อยู่สกุล ทำงานที่นี่หรือไม่ และได้รับคำตอบว่าไม่มี ส่วนเบอร์ติดต่ออื่น ๆ ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำให้เอาสลิปโอนเงินให้แจ้งตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน แต่เบอร์ที่โทรหาตนเป็นเบอร์สำนักงาน ปปง. จริง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบด้วย



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1424425727-


คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
อยากจะบอกว่า  อย่าค้ำประกันใคร 

หากจะค้ำฯ ต้องมั่นใจว่า สามารถใช้หนี้แทนได้

หรือ การให้ยืมเงิน

ต้องมั่นใจว่า การให้ยืมไปแล้ว ให้ตัดใจและตัดหนี้สูญทันที



-----------------------------------------------------------------------------------


สท.คนดังเมืองอุตรดิตถ์ผูกคอตายคาบ้าน คาดเครียดเรื่องหนี้ค้ำประกันเพื่อนเกือบล้าน
-http://news.sanook.com/1777778/-


นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

เมื่อเวลา 15.00 น. (9 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายภายในบ้าน ต.ท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ชั้นเดียวชื่อ โกยีคารเซ็นเตอร์ เปิดให้บริการซื้อขายเกี่ยวกับรถยนต์

ที่บริเวณหลังบ้านตรงกับประตูทางออกของด้านหลังบ้าน พบศพนายบัณฑิต อุตสาหะกานนท์ หรือ "โกยี" เป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เขต 1 ในสภาพเปลือยกายท่อนบนไม่ใส่เสื้อผ้า นุ่งกางเกงขาสั้นลายผลไม้สีขาว ผูกคอตายเสียชีวิตในสภาพลิ้นจุกปากบนกำแพง โดยมีสายไฟสำหรับชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์ผูกอยู่ที่คอและร้อยผ่านช่องระบายอากาศพันกับหน้าต่างห้องครัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปลดสายไฟออกแล้วนำร่างลงมาวางไว้บนพื้น

จากการชันสูตรพลิกศพไม่พบบาดแผลอื่นต่างร่างกาย คาดเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตมานานกว่า 2 ชั่วโมง พบเพียงแต่รอยปูนและสีที่ติดอยู่ตามนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายได้ไปค้ำประกันรถยนต์ให้กับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง แต่เพื่อนขาดสภาพคล่อง จนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องร้องและคดีขึ้นสู่ศาล เจ้าตัวหวั่นต้องชดใช้เงินแทนเพื่อนเป็นเงินจำนวนเกือบ 1 ล้านบาท ด้วยความเครียดและกลัดกลุ้มไม่รู้จะหาหยิบยืมเงินจากใครไปใช้หนี้จากการค้ำประกันครั้งนี้ จึงเป็นเหตุให้ผูกคอตาย

เช่นเดียวกับทางญาติพี่น้องต่างก็เชื่อว่าปัญหาน่าจะมาจากเรื่องหนี้ที่ค้ำประกันให้เพื่อน เพราะเคยบ่นให้ญาติพี่น้องฟังว่าหาทางออกเรื่องเงินไม่เจอ แต่ไม่คิดว่าจะหาทางออกให้กับตนเองด้วยวิธีนี้ และไม่ติดใจเอาความใด
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
ปาระเบิดสังหารเอ็ม 67 ใส่บ้านพัทลุง โชคดีไม่ทำงาน

-http://news.sanook.com/1798330/-

ปาระเบิดสังหารชนิดเอ็ม 67 ใส่บ้านโชคดีไม่ทำงาน พบเป็นเจ้าหนี้มาทวงเงินที่ค้างไว้

พ.ต.ต.ธีรยุทธิ์ มิตรมุสิก สวป.สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีพบระเบิดสังหารชนิดขว้างตกอยู่ที่ข้างบ้านเลขที่ 91 ม.6 ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอีโอดีพัทลุง ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของ นายบุญธรรม อายุ 56 ปี ตรงพงหญ้าหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบระเบิดสังหารชนิดเอ็ม 67 ยังไม่ถอดสลักตกอยู่ 1 ลูก จึงได้ทำการเก็บเพื่อนำไปทำลายต่อไป

จากการสอบถาม นายสุขโชค เดชแสง อายุ 25 ปี บุตรชาย นายบุญธรรม ได้ความว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มี นายโดม ซึ่งตนไม่ทราบชื่อจริง และที่อยู่ รูปร่างลักษณะอ้วน ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาปาระเบิดใส่บ้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายโดม เดินมาทวงเงินที่ติดค้างอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ตนยังหามาใช้ไม่ได้ ทำให้ นายโดม โกรธแค้น จึงนำระเบิดมาขว้างใส่บ้าน แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงานดังกล่าว จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ



--------------------------------------------------------------------------------


ทำไม ไม่ปราบปรามให้เด็ดขาด

.




คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)