ประชาสัมพันธ์ > การเตือนภัยสังคมและกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ

ระวังถูกหลอกและเรื่องเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ของใกล้ตัว

<< < (34/38) > >>

sithiphong:
จะบอกว่า โกรธ ก็ ต้องยอม โกรธ



------------------------------------------------------------------------------------------

เจ้าหนี้ สุดทนติดชื่อลูกหนี้ประจานทั่วรถ ไม่ให้ก็อายกันไป

-http://hilight.kapook.com/view/115084-


เจ้าหนี้ติดชื่อลูกหนี้ประจานทั่วรถ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก JI Nakklee

           ไม่จ่ายก็อายกันไป ! เจ้าหนี้ติดชื่อ 15 ลูกหนี้ ประจานทั่วรถตู้ รวม ๆ ราคาแล้วร่วมล้านบาท บอกยืมกูไม่ให้ก็โกรธ พอทวงแถมยังท้าให้ฟ้อง

           เรื่องเงินเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ เลยล่ะ บางคนตอนมาขอยืมเงิน พูดดีเสียจริงจะให้ทำอะไรก็ยอมทุกอย่าง..รับปากจะคืนตอนนั้นตอนนี้ แต่พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ เจ้าหนี้ก็ต้องหนักใจ กับเหตุผลล้านแปด !! ทวงบ่อย ๆ ก็เกรงใจ (ใครเป็นบ้าง) แต่ไม่ใช่กับเจ้าหนี้คนนี้... ที่ขอติดชื่อลูกหนี้ประจานกันไปเลย ให้ทวงจนเหนื่อยดีนัก ฮึ๊ยยยย

            โดยภาพดังกล่าว เป็นภาพของคุณ JI Nakklee ที่ได้บันทึกภาพของรถตู้คันหนึ่ง มองแวบแรกนึกว่ารถตู้โดยสารทั่วไปที่มีป้ายเขียนบอกสถานที่ แต่เมื่ออ่านดูดี ๆ แล้วกลับกลายเป็นชื่อคน 15 คน พร้อมจำนวนเงินเอาไว้ แถมยังมีคติประจำใจเอาไว้ประชดลูกหนี้ว่า.. ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย !! และ ยืมกูจัง ไม่ให้ก็โกรธ ให้ก็ไม่คืน ทวงก็ด่า แถมท้าให้ฟ้อง มึนจังมึง

           อย่างไรก็ดี เมื่อรวม ๆ จำนวนเงินที่เจ้าหนี้ติดบนรถตู้เป็นเงินร่วม 1 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งคุณ JI Nakklee ระบุว่า รถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อความดังกล่าวติดเพราะประจานลูกหนี้หรือนำมาติดเพื่อให้คนสนใจ แต่ที่แน่ ๆ ถ้าลูกหนี้มาเห็น คงจะเจ็บจี๊ดไม่น้อยเลยล่ะ





sithiphong:
แก๊งคอลเซ็นเตอร์แสบ ใช้เบอร์ ปปง. โทรหลอกเหยื่อโอนเงินกว่า 6 แสน

-http://hilight.kapook.com/view/116251-

  แก๊งคอลเซ็นเตอร์ช่างกล้าใช้เบอร์โทรศัพท์สำนักงาน ปปง. โทรหลอกเหยื่อว่ามีชื่อเข้าไปพัวพันกับคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อนถูกหลอกโอนเงิน 665,000 บาท

             วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการร้องเรียนจาก นางอศรสุดา พิทักษ์ธรรม อายุ 45 ปี ว่าตัวเองได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีหญิงสาวคนหนึ่งใช้โทรศัพท์หมายเลข 061-3234998 โทรมาหลอกให้โอนเงินจำนวน 665,000 บาทไปให้ อ้างว่าธนาคารกสิกรไทย สาขาบ้านบึง จ.ชลบุรี ได้อนุมัติเงินกู้แล้ว ทั้งที่ตนไม่เคยกู้เงิน

             โดยนางอศรสุดา กล่าวว่า ต่อมาได้มีชายคนหนึ่งอ้างชื่อว่า ร.ต.อ. ธวัชชัย อยู่สกุล ทำงานที่สำนักงานป้องกันและปราบปราการฟอกเงิน ได้ใช้เบอร์โทรศัพท์ 02-219-3600 ของสำนักงาน ปปง. โทรมาหาตนและยังบอกให้ตนโทรไปตรวจสอบว่าเป็นเบอร์ของ ปปง. จริงหรือไม่ ตนจึงได้โทรไปที่ 1113 ว่าเบอร์ 02-219-3600 เป็นเบอร์ของสำนักงาน ปปง. จริง ตนจึงเริ่มหลงเชื่อ โดยชายคนดังกล่าวได้บอกว่าเอกสารทั้งหมดของนางสุจิตรา ที่เป็นคนยื่นแบบเงินกู้ซึ่งมีชื่อตนรวมอยู่ด้วย มีประวัติพัวพันเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด ถ้าจะอนุญาตให้ทำการยกเลิก ต้องให้รายละเอียด และให้พูดกับ พ.ต.อ. วรรณพงศ์

             นางอศรสุดา กล่าวต่อว่า ซึ่งทาง พ.ต.อ. วรรณพงศ์ ได้ให้คำแนะนำว่า ให้ถอนเงินออกจากธนาคาร เพราะหากนางสุจิตราถูกดำเนินคดีจะพัวพันถึงตนด้วย ตนตกใจจึงตัดสินใจไปถอนเงิน ซึ่งขณะที่กำลังถอนเงิน พ.ต.อ. วรรณพงศ์ บอกว่าต้องให้ความร่วมมือกับทางราชการ โดยการนำเงินมารันตัวเลขและให้โอนเงินเป็นจำนวน 665,000 บาท เข้าบัญชีนายเฉลิม ชมพู่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาหน้าเมือง จ.ขอนแก่น และบัญชีนายศุภชัย กันใจ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเทสโก้โลตัส อ.แม่สาย จ.เชียงราย

             ต่อมาเมื่อตนกลับถึงบ้านก็รู้สึกเอะใจว่าจะถูกหลอก จึงได้โทรไปยัง เบอร์ 02-219-3600 ของสำนักงาน ปปง. และสอบถามว่า ร.ต.อ. ธวัชชัย อยู่สกุล ทำงานที่นี่หรือไม่ และได้รับคำตอบว่าไม่มี ส่วนเบอร์ติดต่ออื่น ๆ ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำให้เอาสลิปโอนเงินให้แจ้งตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน แต่เบอร์ที่โทรหาตนเป็นเบอร์สำนักงาน ปปง. จริง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบด้วย



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1424425727-


sithiphong:
อยากจะบอกว่า  อย่าค้ำประกันใคร 

หากจะค้ำฯ ต้องมั่นใจว่า สามารถใช้หนี้แทนได้

หรือ การให้ยืมเงิน

ต้องมั่นใจว่า การให้ยืมไปแล้ว ให้ตัดใจและตัดหนี้สูญทันที



-----------------------------------------------------------------------------------


สท.คนดังเมืองอุตรดิตถ์ผูกคอตายคาบ้าน คาดเครียดเรื่องหนี้ค้ำประกันเพื่อนเกือบล้าน
-http://news.sanook.com/1777778/-


นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

เมื่อเวลา 15.00 น. (9 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายภายในบ้าน ต.ท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ชั้นเดียวชื่อ โกยีคารเซ็นเตอร์ เปิดให้บริการซื้อขายเกี่ยวกับรถยนต์

ที่บริเวณหลังบ้านตรงกับประตูทางออกของด้านหลังบ้าน พบศพนายบัณฑิต อุตสาหะกานนท์ หรือ "โกยี" เป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เขต 1 ในสภาพเปลือยกายท่อนบนไม่ใส่เสื้อผ้า นุ่งกางเกงขาสั้นลายผลไม้สีขาว ผูกคอตายเสียชีวิตในสภาพลิ้นจุกปากบนกำแพง โดยมีสายไฟสำหรับชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์ผูกอยู่ที่คอและร้อยผ่านช่องระบายอากาศพันกับหน้าต่างห้องครัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ปลดสายไฟออกแล้วนำร่างลงมาวางไว้บนพื้น

จากการชันสูตรพลิกศพไม่พบบาดแผลอื่นต่างร่างกาย คาดเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตมานานกว่า 2 ชั่วโมง พบเพียงแต่รอยปูนและสีที่ติดอยู่ตามนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายได้ไปค้ำประกันรถยนต์ให้กับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง แต่เพื่อนขาดสภาพคล่อง จนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องร้องและคดีขึ้นสู่ศาล เจ้าตัวหวั่นต้องชดใช้เงินแทนเพื่อนเป็นเงินจำนวนเกือบ 1 ล้านบาท ด้วยความเครียดและกลัดกลุ้มไม่รู้จะหาหยิบยืมเงินจากใครไปใช้หนี้จากการค้ำประกันครั้งนี้ จึงเป็นเหตุให้ผูกคอตาย

เช่นเดียวกับทางญาติพี่น้องต่างก็เชื่อว่าปัญหาน่าจะมาจากเรื่องหนี้ที่ค้ำประกันให้เพื่อน เพราะเคยบ่นให้ญาติพี่น้องฟังว่าหาทางออกเรื่องเงินไม่เจอ แต่ไม่คิดว่าจะหาทางออกให้กับตนเองด้วยวิธีนี้ และไม่ติดใจเอาความใด

sithiphong:
ปาระเบิดสังหารเอ็ม 67 ใส่บ้านพัทลุง โชคดีไม่ทำงาน

-http://news.sanook.com/1798330/-

ปาระเบิดสังหารชนิดเอ็ม 67 ใส่บ้านโชคดีไม่ทำงาน พบเป็นเจ้าหนี้มาทวงเงินที่ค้างไว้

พ.ต.ต.ธีรยุทธิ์ มิตรมุสิก สวป.สภ.เมืองพัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีพบระเบิดสังหารชนิดขว้างตกอยู่ที่ข้างบ้านเลขที่ 91 ม.6 ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอีโอดีพัทลุง ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของ นายบุญธรรม อายุ 56 ปี ตรงพงหญ้าหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบระเบิดสังหารชนิดเอ็ม 67 ยังไม่ถอดสลักตกอยู่ 1 ลูก จึงได้ทำการเก็บเพื่อนำไปทำลายต่อไป

จากการสอบถาม นายสุขโชค เดชแสง อายุ 25 ปี บุตรชาย นายบุญธรรม ได้ความว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มี นายโดม ซึ่งตนไม่ทราบชื่อจริง และที่อยู่ รูปร่างลักษณะอ้วน ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาปาระเบิดใส่บ้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายโดม เดินมาทวงเงินที่ติดค้างอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ตนยังหามาใช้ไม่ได้ ทำให้ นายโดม โกรธแค้น จึงนำระเบิดมาขว้างใส่บ้าน แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงานดังกล่าว จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ



--------------------------------------------------------------------------------


ทำไม ไม่ปราบปรามให้เด็ดขาด

.




sithiphong:
.

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version