Om โอม จิตยิ่งใหญ่ดั่งฟ้า ...Tare ตาเร ความกรุณาแผ่ไปทุกแห่งหน ...
Tuttare ตุตตาเร สรรพชีวิตพ้นจากทุกข์ระทม ...Ture ตูเร สายฝนแห่งพรชโลมกาย ...
Soha โซฮา ขอประณตน้อมแด่พระองค์ ...ขอเชิญผู้สนใจร่วมเสวนาและภาวนาเรื่อง
“ตารากับปณิธานพระโพธิสัตว์ร่วมสมัย”
และพิธีมนตราภิเษกพระโพธิสัตว์ตารา (Tara and Bodhisattva Training)
ที่ห้อง ๑๐๕ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
*** วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๖ นี้ ***
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=504389546311511 พระอารยตารามหาโพธิสัตว์จาก...มองโกเลีย...กลับบ้านสู่เมืองไทย
“โอม ตาเร ตุตตะเร ตุเร สวาหา” คือบทสวดบูชา พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ที่มีอายุมากกว่า ๒,๐๐๐ ปี ที่ถูกฝังไว้ในแผ่นดินมองโกเลีย ประเทศที่พระพุทธศาสนาเคยเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน จนกระทั่งถูกรุกรานอย่างหนัก
วันเวลาผ่านเนิ่นนาน ตราบจนวันหนึ่ง เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ได้อัญเชิญพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ มาประดิษฐานเป็นการถาวร ณ เสถียรธรรมสถาน ชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างศานติ
จากความเชื่อที่ว่าพระอารยตารามหาโพธิสัตว์แห่งความกรุณาในร่างของสตรี ทรงกำเนิดมาจากน้ำพระเนตรของพระอวโลกิเตศวร เมื่อคราวที่พระองค์ทรงกรรแสงขณะทอดพระเนตรเห็นสรรพสัตว์ตกอยู่ในทุกขเวทนา มีดอกบัวดอกหนึ่งผุดขึ้นจากน้ำพระเนตร เมื่อดอกบัวบานออก องค์กรีนตาราทรงปรากฏพระวรกายขึ้น และตรัสแก่พระอวโลกิเตศวรว่า
จะทรงเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะช่วยพระองค์ในการนำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามทะเลวัฏสงสารไปยังอีกฟากฝั่งแห่งปัญญา หากสัตว์ทั้งหลายยังไม่หลุดพ้น ไม่ว่าพวกเขาจะเวียนว่ายตายเกิดไปอีกกี่กัลป์ พระองค์ก็จะยังคงอยู่ในสังสารวัฏ เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ พระองค์จึงทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงเกิดศรัทธาในการปฏิบัติเพื่อหนทางแห่งการบรรลุธรรม
ลักษณาการและคติในการทำงานของพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ...พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ทรงยื่นพระบาทขวาออกมาโดยมีดอกบัวรองรับ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการก้าวออกไปทำประโยชน์ให้แก่มวลมนุษยชาติ
พระบาทซ้ายพับในท่าสมาธิ หมายถึงการดำรงสติอย่างรู้ตัวทั่วพร้อม พระหัตถ์ขวาหงายออกแสดงให้เห็นถึงการคุ้มครองและความตั้งใจในการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นเสมอไหล่ ถือดอกบัว เป็นการแสดงถึงปัญญาและมหากรุณาที่พร้อมจะเป็นผู้ให้แก่สรรพชีวิต
ลักษณะการถือดอกบัว เป็นการถืออย่างสบายๆ แสดงถึงการถืออย่างไม่ยึดติด และมีคติในการทำงานอย่างพระโพธิสัตว์ อันได้แก่การสั่งสมบารมีโดยการก้าวออกไปทำงาน เพื่อความสงบเย็น และเป็นประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ
ซึ่งคุณธรรมสำคัญที่ช่วยเหลือเกื้อกูลให้ผู้ปฏิบัติได้ถึงซึ่งโพธิญาณ มี ๑๐ ประการ ได้แก่ ทานบารมี, ศีลบารมี, เนกขัมมบารมี, ปัญญาบารมี, วิริยบารมี, ขันติบารมี, สัจบารมี, อธิษฐานบารมี, เมตตาบารมี และ อุเบกขาบารมี และทำงานโดยใช้หัวใจโพธิสัตว์นำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นความทุกข์ และอุปสรรคทั้งปวงไปสู่ความปลอดภัย
รวมทั้งคุณธรรม ๘ ประการของพระโพธิสัตว์ อันได้แก่ ไม่มีความถือตัวอวดดี, ไม่มีความโง่เขลา, ไม่มีความอาฆาตพยาบาททั้งปวง, ไม่มีความอิจฉาริษยา, ไม่มีความคิดเห็นที่ผิด, ไม่มีความโลภ, ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น และ ไม่มีความยึดติด ความเคลือบแคลงสงสัยทั้งปวง
พระอารยตารามหาโพธิสัตว์…กลับบ้าน...ในตำนานเคยมีการกล่าวขานถึงพระองค์ว่า “ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด...แสงน้อยๆ ของดวงดาวจะเป็นดังเครื่องนำทางให้เรือกลับสู่ฝั่ง เฉกเช่นกรีนตารา...ที่จะเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมน...ให้ผู้คนเดินไปสู่การบรรลุธรรม”
ฉะนั้น จาก...มองโกเลีย...สู่...เสถียรธรรมสถาน การ ‘กลับบ้าน’ ของพระอารยาตารามหาโพธิสัตว์จึงมิใช่เป็นเพียงความบังเอิญ หากแต่เป็นปาฏิหาริย์แห่งการตื่นที่ทำให้มนุษยชาติกลับมามีกรุณา และให้อภัยกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อร่วมมือกันสร้างสังคมไทย และสังคมโลก ให้เป็นสังคมที่มีกรุณาแห่งหัวใจ พร้อมช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ ไปสู่การพ้นทุกข์ร่วมกันด้วย หัวใจของผู้หญิง...หัวใจแม่...หัวใจโพธิสัตว์ เนื่องในวาระเฉลิมฉลอง พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
>>fb จรัส สิงห์แก้ว