ผู้เขียน หัวข้อ: พระแม่ตารา  (อ่าน 3989 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
พระแม่ตารา
« เมื่อ: สิงหาคม 13, 2012, 07:59:34 pm »


ขอนอบน้อมแด่พระแม่ตารา
ผู้ทรงถือกำเนิดจากดอกบัวสีทองและสีขาบ
พระหัตถ์ประดับตกแต่งไปด้วยดอกบัวอันวิจิตร
พระผู้ทรงเป็นเรือนกายแห่ง.. ทาน วิริยะ ตบะ
สันติ ขันติ และสมาธิ


ขอนอบน้อมต่อพระแม่ตาราและต่อคุณงามความดีทั้งหลาย
Homage to Tara and all the virtue

มูลนิธิ พันดารา







-http://www.pinklotus.co.uk/viewnews.asp?ID=19
vajrasattva.jpg





vajrasattva6.jpg
ภาพศักดิ์สิทธิ์แห่งธรรมกาลยุขาว เก็บงานปรกโปรดสามโลก
-http://matiepoppy.multiply.com/photos/album/14/14#










*http://www.zenheart.hk/viewthread.php?tid=6956&extra=page%3D1&page=28

















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 25, 2015, 02:57:16 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: พระแม่ตารา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 05, 2012, 01:50:04 pm »




ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


รูปประวัติศาสตร์ พระอาจารย์ใหญ่ของทิเบต...
สมเด็จองค์ดาไลลามะประทับยืนอยู่ตรงกลาง ทางขวาของพระองค์
คือสมเด็จสาเกีย ทริซิน ริมโปเช (ประมุขนิกายสาเกียปะ)
และสมเด็จซูชิกริมโปเช (อดีตประมุขนิกายญิงมาปะ)
ทางซ้ายของพระองค์คือสมเด็จแมนรี ทริซิน ริมโปเช (ประมุขนิกายพุทธเพิน/ยุงตรุงเพิน)
และสมเด็จองค์การ์มาปะ (ประมุขนิกายกาจูร์ปะ)
พระอาจารย์อาวุโสสุดในขณะนี้คือแมนรี ริมโปเช และสาเกีย ริมโปเช
สำหรับท่านสาเกีย ริมโปเช ท่านไว้ผมยาว นุ่งสบงสีขาว
สัญลักษณ์ของผู้ปฏิบัติตนเป็นโยคี (ไม่ใช่พระภิกษุ) พระอาจารย์ทั้งหลาย
มีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน มีใจเปิดกว้าง
และภาวนาด้วยกันไม่ว่าท่านจะได้รับการฝึกฝนในนิกายใด

F/B สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ามด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 25, 2015, 01:25:18 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด


พระแม่ตารา
เสียงสวดมนต์เพราะๆแบบ นิกายวัชรยาน เพื่อทำอารมณ์ให้สงบ

พระแม่ตารา พระแม่ตารา


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: พระแม่ตารา :Om โอม.. จิตยิ่งใหญ่ดั่งฟ้า ...
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กันยายน 21, 2013, 11:43:49 am »



Om  โอม จิตยิ่งใหญ่ดั่งฟ้า ...
Tare  ตาเร ความกรุณาแผ่ไปทุกแห่งหน ...
Tuttare  ตุตตาเร สรรพชีวิตพ้นจากทุกข์ระทม ...
Ture ตูเร  สายฝนแห่งพรชโลมกาย ...
Soha โซฮา  ขอประณตน้อมแด่พระองค์ ...




ขอเชิญผู้สนใจร่วมเสวนาและภาวนาเรื่อง
“ตารากับปณิธานพระโพธิสัตว์ร่วมสมัย”
และพิธีมนตราภิเษกพระโพธิสัตว์ตารา (Tara and Bodhisattva Training)
ที่ห้อง ๑๐๕ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
*** วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๖ นี้ ***
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=504389546311511



พระอารยตารามหาโพธิสัตว์จาก...มองโกเลีย...กลับบ้านสู่เมืองไทย

          “โอม ตาเร ตุตตะเร ตุเร สวาหา” คือบทสวดบูชา พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ที่มีอายุมากกว่า ๒,๐๐๐ ปี ที่ถูกฝังไว้ในแผ่นดินมองโกเลีย ประเทศที่พระพุทธศาสนาเคยเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน จนกระทั่งถูกรุกรานอย่างหนัก

           วันเวลาผ่านเนิ่นนาน ตราบจนวันหนึ่ง เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ได้อัญเชิญพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ มาประดิษฐานเป็นการถาวร ณ เสถียรธรรมสถาน ชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างศานติ

           จากความเชื่อที่ว่าพระอารยตารามหาโพธิสัตว์แห่งความกรุณาในร่างของสตรี ทรงกำเนิดมาจากน้ำพระเนตรของพระอวโลกิเตศวร เมื่อคราวที่พระองค์ทรงกรรแสงขณะทอดพระเนตรเห็นสรรพสัตว์ตกอยู่ในทุกขเวทนา มีดอกบัวดอกหนึ่งผุดขึ้นจากน้ำพระเนตร เมื่อดอกบัวบานออก องค์กรีนตาราทรงปรากฏพระวรกายขึ้น และตรัสแก่พระอวโลกิเตศวรว่า

           จะทรงเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะช่วยพระองค์ในการนำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามทะเลวัฏสงสารไปยังอีกฟากฝั่งแห่งปัญญา หากสัตว์ทั้งหลายยังไม่หลุดพ้น ไม่ว่าพวกเขาจะเวียนว่ายตายเกิดไปอีกกี่กัลป์  พระองค์ก็จะยังคงอยู่ในสังสารวัฏ เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ พระองค์จึงทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงเกิดศรัทธาในการปฏิบัติเพื่อหนทางแห่งการบรรลุธรรม

           ลักษณาการและคติในการทำงานของพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ...พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ทรงยื่นพระบาทขวาออกมาโดยมีดอกบัวรองรับ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการก้าวออกไปทำประโยชน์ให้แก่มวลมนุษยชาติ

           พระบาทซ้ายพับในท่าสมาธิ หมายถึงการดำรงสติอย่างรู้ตัวทั่วพร้อม พระหัตถ์ขวาหงายออกแสดงให้เห็นถึงการคุ้มครองและความตั้งใจในการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นเสมอไหล่ ถือดอกบัว เป็นการแสดงถึงปัญญาและมหากรุณาที่พร้อมจะเป็นผู้ให้แก่สรรพชีวิต

           ลักษณะการถือดอกบัว เป็นการถืออย่างสบายๆ แสดงถึงการถืออย่างไม่ยึดติด และมีคติในการทำงานอย่างพระโพธิสัตว์ อันได้แก่การสั่งสมบารมีโดยการก้าวออกไปทำงาน เพื่อความสงบเย็น และเป็นประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ

           ซึ่งคุณธรรมสำคัญที่ช่วยเหลือเกื้อกูลให้ผู้ปฏิบัติได้ถึงซึ่งโพธิญาณ มี ๑๐ ประการ ได้แก่ ทานบารมี, ศีลบารมี, เนกขัมมบารมี, ปัญญาบารมี, วิริยบารมี, ขันติบารมี, สัจบารมี, อธิษฐานบารมี, เมตตาบารมี และ อุเบกขาบารมี และทำงานโดยใช้หัวใจโพธิสัตว์นำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นความทุกข์ และอุปสรรคทั้งปวงไปสู่ความปลอดภัย

           รวมทั้งคุณธรรม ๘ ประการของพระโพธิสัตว์ อันได้แก่ ไม่มีความถือตัวอวดดี, ไม่มีความโง่เขลา, ไม่มีความอาฆาตพยาบาททั้งปวง, ไม่มีความอิจฉาริษยา, ไม่มีความคิดเห็นที่ผิด, ไม่มีความโลภ, ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น และ ไม่มีความยึดติด ความเคลือบแคลงสงสัยทั้งปวง

           พระอารยตารามหาโพธิสัตว์…กลับบ้าน...ในตำนานเคยมีการกล่าวขานถึงพระองค์ว่า “ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด...แสงน้อยๆ ของดวงดาวจะเป็นดังเครื่องนำทางให้เรือกลับสู่ฝั่ง เฉกเช่นกรีนตารา...ที่จะเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมน...ให้ผู้คนเดินไปสู่การบรรลุธรรม”

           ฉะนั้น จาก...มองโกเลีย...สู่...เสถียรธรรมสถาน การ ‘กลับบ้าน’ ของพระอารยาตารามหาโพธิสัตว์จึงมิใช่เป็นเพียงความบังเอิญ หากแต่เป็นปาฏิหาริย์แห่งการตื่นที่ทำให้มนุษยชาติกลับมามีกรุณา และให้อภัยกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อร่วมมือกันสร้างสังคมไทย และสังคมโลก ให้เป็นสังคมที่มีกรุณาแห่งหัวใจ พร้อมช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ ไปสู่การพ้นทุกข์ร่วมกันด้วย หัวใจของผู้หญิง...หัวใจแม่...หัวใจโพธิสัตว์ เนื่องในวาระเฉลิมฉลอง พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

>>fb จรัส สิงห์แก้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 08, 2021, 07:41:35 pm โดย ฐิตา »