ประชาสัมพันธ์ > โครตเกรียนล้างโลก - ลงชักโครกซะ !
บ่นเรื่อยเปื่อย...เมื่อยก็พัก...ตามประสา นักปฏิบัติไม่เอาไหน ฯ ( Episode 4 )
บัวผ่อง:
ซ้อ 7 ว่า ...
สนามหญ้าก็มีสัตว์ มีเชื้อโรค บนดินก็มี บนซิเมนต์ก็มี บนตัวเราก็มีไรกินเนื้อผิวหนังที่ตาย ในอากาศก็มีเชื้อโรค ถ้าเราเห็นเราก็อย่าเหยีบเขาแค่นั้น ไม่เห็นก็จบ
แล้วไม่ต้องเอากล้องจุลทรรศน์ไปส่องแล้วบอกว่ามีนะ ถ้าทำอย่างนั้นตอนเดินส่องกล้องไปเห็นไปแล้วไปฆ่ามันก็บาปแน่ แล้วใครจะปัญญา?อย่างนั้นเล่า
ใครจะยืนอยู่เฉยไม่ทำอะไรเลย เพราะขยับตัวอาจมีเจ้าแมลงน้อยที่ตัวเราตายได้ กินยารักษาก็ฆ่าเชื้อโรคนะ คิดมากอีกหรือเปล่า ยังนี้คนขายยาให้เขาจะคิดว่าเราขายยาสำหรับฆ่าเชื้อโรคหรือเปล่า เขากินแล้วฆ่าเชื้อโรคหนะเขาเจตนารักษาตัวเองหรือเขาคิดพยาบาทอยากฆ่าเชื้อโรค เข้าใจหรือยังครับว่าตรงกลางอยู่ตรงไหน
เห็นหรือยังความไม่พอดีทำให้เศร้าหมอง ทำแล้วไม่ปกติ ไม่ผ่องใส มัวแต่จะวิตกจริตคิดแต่ว่าจะฆ่าสัตว์จะเหยีบมันไหม ตรงนี้มีพวกมันอยู่ไหม มันมีอยู่ทุกที่แหละ แต่ถ้าเราเผลอฆ่ามาแล้วโดยไม่ได้เจตนา แต่ดันคิดมากถึงมันบ่อยๆก็สะสมอกุศลกรรมอีก ใจเศร้าหมองอีก ทางที่ดีเราขออโหสิกรรมเขา แผ่กุศล แล้วคิดแต่สิ่งดีๆที่ตัวเองทำ ทาน ศีล ภาวนา
นู๋บี ว่า...
อืม...สมณะโคดม สอนพวกคุณ มาแบบนี้ล่ะหรือ
เบียดเบียนชีวิตอื่น แล้ว ทำไม่รู้ไม่ชี้ คิดถึงแต่สิ่งดี ๆ
พร้อมกับ แสร้งทำมาเป็น ขออโหสิกรรม อุทิศส่วนบุญไปให้ทีหลัง
โดยอ้างว่า มันเป็นเหตุสุดวิสัย จริงจริ๊งงงงงงงงงงง งั้นหรือ ?
แหม ? นี่ ถ้ามีผู้ชายคนไหน ยกแม่น้ำทั้ง 5
มาสาธยาย ให้ฟังแบบนี้ แถวบ้านอิฉัน เขาจะบอกว่า
ไอ้หมอนี่ มันเป็น พวกผู้ชายมักง่าย
ขาดสำนึกรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองค่ะ
อนาคต มีแนวโน้ม จะเป็นพวก ชอบฟันแล้วทิ้งงงง :'(
เอ้า เอา กระทู้เนี้ยะ มาให้อ่าน
เผื่อจะ สำเหนียก สำนึก
และ ระลึก อะไรขึ้นมาได้มั่ง อิอิ
นู๋บีว่า ....
2.เอ ? แล้ว ถ้าเรารู้ทั้งรู้ว่า
คอมพิวเตอร์ของตัวเอง มีโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ
แต่ก็ยังบ่มเพาะความตระหนี่ถี่เหนียว คิดเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้
เทียวไล้เทียวขื่อ ใช้ของโจร อยู่ร่ำไป งี้
ศีลข้ออทินนา จะมัวหมองป่ะคะ
ซ้อ 7 ว่า ...
ถ้าซื้อComมาเขาจัดอะไรมาก็ใช้ไปอย่างนั้น ดันคิดมากก็เอามันออกไป แล้วอย่านำเข้ามาใหม่อีก หาของฟรีมาใช้แทน
นู๋บี ว่า ...
ปัญหา มันไม่ได้อยู่ที่ คิดมาก หรือ คิดน้อย อ่ะดิ
ปัญหา มันอยู่ที่ เรามองเห็น รากเหง้า ของมโนกรรม
อันเป็น เจตนา ที่แท้จริง ของเรา ได้หรือไม่ ตะหาก
ที่สำคัญ เจตนานั้น มันเป็น กุศล จริงๆ
หรือว่า มันมีวาระซ่อนเร้น แอบแฝงอยู่กันแน่ ?
อิฉัน จึงมักจะย้ำให้ชาวบ้านชาวช่อง ฟัง เสมอ ๆ ไง
ว่า การซื่อสัตย์กับตัณหา และ อัตตา ตัวเอง นั้น
มันเป็น กฏมณเฑียรบาล ของการเป็นนักปฏิบัติ
ถ้า ทำตาม กฏมณเฑียรบาล อันนี้ ไม่ได้ ก็ตัวใครตัวมัน
อ่ะ เพื่อให้เข้าถึง อรรถรสของเรื่องที่กำลังถกกัน
ขอ อนุยาด แถม กระทู้นี้ ให้อ่านเล่น ๆ จะได้เห็นภาพ
บัวผ่อง:
นู๋บี ว่า...
แล้ว ถ้า ศีลข้อ 5 รวมไปถึง การไม่เสพสิ่งเสพติดต่างๆด้วย
งั้น ไอ้พวกที่ ชอบ เอา บุหรี่ยาเส้น ไปถวายพระนี่
มันเป็นการส่งเสริมให้พระผิดศีล ข้อ 5 ไหมเจ้าคะ
เออ แล้ว ถ้าพระท่านรู้ทั้งรู้ว่า มีสารก่อมะเร็งในควันบุหรี่ ที่สูบ
แต่ก็ยัง พ่นควันให้เราสูดดม งี้ ถือว่าท่านทำผิดศีลข้อ 1
เข้าข่ายมีส่วนสมรู้ร่วมคิด กระทำการอันเบียดเบียนชีวิต
ด้วยการยัดเยียด มะเร็งปอดให้เรา โดยเจตนา ได้หรือไม่คะ
ซ้อ 7 ว่า...
คุณอยู่ของคุณดีๆแล้วท่านเดินมาหาคุณแล้วสูบบุหรี่ข้างคุณหรือ หรือท่านก็อยู่ของท่านแต่พวกเราเข้าไปหาท่านหล่ะ
สิ่งเสพติดมีหลายประเภท ถ้ามันทำลายประสาท กล่อมประสาทมันก็คล้ายเหล้าได้ ทำให้สูญเสียสติ มึนเมา พวกกัญชา ผงขาว โคเคน ยาบ้ายาโง่
บุหรี่ ยาเส้น ยังไม่เคยเห็นใครเสียสติเพราะไอ้นี่ เสียแต่ตังกับสุขภาพ ท่านที่เป็นพระอริยเจ้า จิตท่านไม่ติด แต่อาจสูบด้วยหลายสาเหตุ เช่นให้ลูกศิษย์เกิด
ปิติ เกิดสุขที่ท่านเมตตารับไว้ใช้ ชินกับเวลาที่สูบ ชินรสที่สูบ เหมือนชินรสกินข้าว จิบน้ำชา ชินกิจวัตรประจำวัน ปกติผู้ใกล้ชิดท่านจะไม่คิดอคติ คิดปรามาส ถ้าผู้อื่นคิดท่านอาจพูดเตือน บางท่านถ้าเป็นพระสอนปฏิบัติต้องพบกับคนหมู่มาก ท่านเมตตาไม่อยากให้ผู้อื่นปรามาสท่านจะไม่สูบเลยครับ ส่วนท่านที่สูบแล้วคนเห็นแล้วไม่ศรัทธาท่าน ท่านก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าคนสนใจธรรมที่ท่านมีย่อมอยากให้ท่านสอนโดยไม่สนใจเปลือกคือกายท่าน กริยาของท่านครับ
กินหมากก็เหมือนกัน แต่กินหมากไม่เหมือนบุหรี่ หมากเหมือนเป็นการให้เกียรติ
เคารพบูชา นับถือกัน หรือแสดงมารยาทไมตรีจิตร คนโบราณเขาต้องจัดชานหมากและน้ำเพื่อต้อนรับแขก พระราชาก็ใช้ พระสงฆ์สมัยก่อนก็ใช้ จะเห็นว่าการทำพิธีบูชาครูอาจารย์จะมีหมากด้วย บูชาเทวดาต้องมีหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะมีด้วยเหตุผลข้างต้น บูชาปู่โตนี่น่าจะต้องมีหมากเป็นต้น ถ้าดูหนังพระนเรศวร คุณจะเห็นในที่ประชุมเขาจะมีหมากด้วย ใครมาหาที่บ้านต้องต้อนรับด้วยหมาก ทางทิพย์เขาตัดมานะก็จริง แต่จริงๆก็มีอวุโส มีคุณธรรมอันดับที่เขาทำความเคารพนับถือกันอยู่ แสดงความเคารพนับถือกัน แสดงความนอบน้อมต่อกันแต่ไม่ได้ถือมานะ
ส่วนเรื่องร่างกายท่าน ถ้าท่านมาทางนิพพานก็ไม่สนใจการเจ็บป่วยกายแล้ว
นู๋บี ว่า ...
ถ้า คิดงี้ แล้วมันทำให้ คุณ รูสึกดี รูสึกสบายใจ
ก็ตามฉะบายจร้าาาาาาาาาาาา าาาาาาา
อ้อ แล้วถ้ามีโอกาส ช่วยจุดธูปถาม พระคุณเจ้า ทั้งหลายให้ทีสิเจ้าคะ
ว่า ภิกษุ แปลว่า อะไร แล้ว สะกดคำว่า โลกวัชชะ เป็นไหม ?
อืม...บางที สังคมพุทธแท้ แบบไทย ๆ
มันก็มักจะเอาแต่เทิดทูน พะเน้าพะนอ
เอาอกเอาใจ เหล่าสมณะ กันจนเหลิง
แล้วเลยเถิดจนมองข้ามความเหมาะสม ไปเรยแฮะ
แหม ? แต่มีพระสงฆ์องคเจ้า
ที่ทำให้เกิด โลกวัชชะ บ่อย ๆ งี้ก็ดีเหมือนกันนะ
อิฉันจะได้ มีโอกาสนั่งบนภู ดู ปาหี่วิถีพุทธสุดมันส์
แล้ว เพลิดเพลินกับ การคอยรับชม ปรากฏการณ์
สนิมเกิดแต่เนื้อ ในตน
กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้ำ
จนหนำใจไปเล๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :cool:
แหม ? แพล่มเรื่องนี้แล้ว คิดถึง โพลเนี้ยะ จังแฮะ :25:
ซ้อเจ็ด ว่า....
ที่ผมถามไม่ได้ชักชวนมานับถือศาสนาพุทธ ถามเพราะคุณบอกว่าไม่มีศาสนา เห็นสนใจศีล5ผมเลยถามเรื่องนี้ตามที่กล่าว เพราะใครจะนับถือหรือไม่ หรือนับถืออะไรผมไม่สนใจ ผมมีเพื่อนได้ทุกศาสนา มีหรือไม่มีมันก็ไม่เกี่ยวกับเรา
ผมพอจะเข้าใจความคิดของคุณ ส่วนผมจะเห็นด้วยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องนึง
ผมรู้แต่ว่าเรามีความเห็นต่างกันมากอย่างสุดขั้ว จนไม่สามารถไปทางเดียวกันได้ คุณจะมีความเห็นอีกมุมมองที่แตกต่างกันไปก็เป็นส่วนบุคคลของคุณผมไม่ต่อต้าน แชร์ความคิดเห็นกันเท่านั้น
ที่มา :
http://board.palungjit.com/f4/ศีล-5-a-355144.html#post6579504
บัวผ่อง:
The letter : จม. เปิดผนึก ถึง อิเจ้รองสันขวาน และ อิหม่ามี๊
--- อ้างถึง ---
อิเจ้รองฯ ว่า
คุยเรื่องกิเลส อิเจ้รองฯมีชาดกเด็ดๆ มาฝาก
หาริตชาดก (แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของกิเลสที่ครองใจพระโพธิสัตว์)
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙
ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
อรรถกถา หริตจชาดก
ว่าด้วย กิเลสที่มีกำลังกล้า
โดย : อิเจ้รองสันขวาน วันที่: 24 สิงหาคม 2555 เวลา: 12:49:02 น.
--- End quote ---
--- อ้างถึง ---
อิอิ
ถึงแม้ อินู๋บีจะนอกใจฮาร์ทจังไปหาคนอื่น
อิหม่ามิ๊ก็ไม่ว่าไรจ้ะ
เพราะ อะไรๆ มันก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน
ยึดมั่นถือมั่นให้คงอยู่ถาวรกะสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นมันขัดกับ
ธรรมชาติของสรรพสิ่งอะจ้ะ
การเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เป็นเรื่องปกติ เนาะ
ฮาร์ทจัง เขาก็คงไม่ว่าไรเหมือนกัน มั้ง
เรื่องมหากาพย์ดราม่าของพ่อรถเรณู ก็ตามอ่านมั่งไม่อ่านมั่ง
หุหุ เพราะหาความจริงในหม้อมาม่าต้มยำกุ้งไม่เจอเจงๆ
เรื่องนิสัยใจคอ คารี้คารี้คารม นี่เจ้ว่าก็พอตัวกันทุกคนอะ
แต่ความจริงนี่ดิ ไม่รู้จะมีให้คนอื่นได้ไหม
พอขาดเรื่องความจริง ซะแล้ว
อย่างอื่นมันก็ด้อยค่าไปหมดอะ เหลือแต่การรักษาหน้าตา
ชื่อเสียง ที่ยืนในสังคม รักษาพวกพ้อง ถล่มกันไปถล่มกันมา
มีแต่สำนวนโวหาร หาฟามจริง และความจริงใจที่จะให้
ประโยชน์กับคนอ่านไม่มีเล้ย มีแต่ตั้งวงเลี้ยงมาม่าต้มยำ
หุหุ
เพียงแต่ถ้ามีใครซักคนยอมรับความจริงของตัวเองได้
ก็คงจะน่าสนใจและน่าติดตาม มากกว่านี้นะ
อย่างเรื่อง ชาดกที่ยกมา อะ คำสัตย์ คำจริง คือสิ่งที่ต้องมี
ศีลข้ออื่นจะพลาดบ้างก็เพียงแต่เสื่อมลงไปชั่วคราว
มีสติกลับมาได้ก็กลับตัวกลับใจ คิดใหม่ทำใหม่ได้
ไม่ถึงกับทำให้จิตตัวเองต้องเสื่อมจากความบริสุทธิถาวร
คนจริง ความจริง ความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง คือสิ่งที่ต้องมี
ถ้าไม่มีแล้ว ก็ไม่น่าคบหาสมาคม อะ
ไม่ได้จะว่าคุณรถเรณู นะ
เพียงแต่ว่าไม่เข้าใจเจตนาของเขา
ว่าจะสานเสวนาต่อไปเพื่ออะไร ถ้าต้องการบอกความจริง
ก็ค่อยน่าสนใจติดตาม หน่อย แต่ถ้าไม่มีความจริงให้อ่าน
ก็ไร้ค่าไร้ฟามหมาย อะนะ
โดย : อิหม่ามิ๊ วันที่: 24 สิงหาคม 2555 เวลา: 13:17:22 น.
--- End quote ---
นู๋บี ว่า...
อะโหยยยย แต้งกิ๋วคร้าาาา อิเจ้รองขราาาา
ที่แวะ เอา หาริตชาดก มาฝากกัน
ม่ะอยากจะบอกเรยว่า อิการ์ฟิลด์ มัน อ่านแล้วก็ร้องยี้
บ่นง้องแง้ง ก๊ะ อิคิตตี้ บอกว่า หาริตดาบส มันไม่เจ๋ง อ่ะ
แมร่ง กะอีแค่ เจอ กามราคะ กระจอก ๆ
อย่างมนต์เสน่ห์แห่งมาตุคาม
โค้งหนอ เว้าหนอ อวบ ๆ ตู้ม ๆ แค่เนี๊ยะ
ก็ เสียหมา ตบะแตก ซะแระ ช่าง บ่ มีไก๊ เอาซะเรย
พิณา จาก ที่ชาดก มันบอกว่า
หลังจากที่ หาริตดาบส ไปจู่จุ๊กรูก๊ะเมียชาวบ้าน ครั้งแรกแล้ว
ก็ยังมี ครั้งที่ 2 - 3 -4 -5 จนถึง ครั้งที่ n ต่อไปเรื่อย ๆ งี้
ถึงจะ พยามรักษาความสัตย์
ตอบคำถามพระราชา ตามความจริง แค่ไหน
มันก็ยังไม่แหล่ม ตามสแตนดาร์ด
ของนักปฏิบัติตัวพ่อตัวแม่ เฟร้ยยยยยยยย
ถ้าเจ๋งจริงอ่ะนะ มันต้อง ซื่อสัตย์ต่ออัตตาตัวเอง
แล้ว ต้อง ปฏิบัติ หลัก สัมมัปธาน 4 ได้ด้วยว่ะ
เนี่ย ถ้า อิตาดาบส นี่ มันตระหนักถึงความสำคัญ ของ สังวรปทาน ( เพียรระวัง )
คือ เพียรระวัง ระงับการกระทำอกุศล ไม่ให้เกิดขึ้น ได้ ตะแต่แรกอ่ะนะ
ป่านฉะนี้ก็คงจะ กลายเป็น เสือ ติดปีก แบ่บลั้ลลา ไปแย้ววว
และ หาก อดใจไม่ไหว ถูก เล่ห์ราคะแห่งมาตุคาม ตีแตก ในด่านแรกได้
ไอ้ เสือลำบาก ก็ต้องรู้จักเจริญสติ งัดแผน 2 คือ ปหานปทาน ( เพียรละ )
คือ เพียรละเลิกอกุศลที่กำลังกระทำอยู่ เอามาใช้ด้วย มันถึงจะ รบชนะในทุกๆทิศ
แล้วก็ ไม่เห็นจะต้องรอให้ ใครมาถามไถ่ข้อสงสัย
ถึงในอาศรม ก่อน แล้วค่อยสารภาพบาป เลย
น่าจะ แอ่นอกเดินไปแสดงความรับผิดชอบต่อ ความระย้ำ ที่ได้กระทำ
แล้วยอมรับโทษทัณฑ์ อย่างแมน ๆ น่าจะเท่ห์ กว่า อ่ะ หุหุ
ส่วนเรื่อง บักรถเรณู น่ะ
ฝากไปบอก อิหม่ามี๊ที
ว่า อิฉันก็ ม่ะรู้ เหมือนกัน ว่า
จะมีความจริงอะไร หมกเม็ด ไว้ในกอไผ่
รอให้เราไป ค้นหา อยู่หรือไม่นะ
รู้แต่เพียง ว่า ม่าม่า อาหย่อย แผล่บ ๆ
อืม...และ เท่าที่ทราบเลา ๆ
เรื่องนี้ มันเริ่มมาจากการท้าแปลบาลี มั้ง
แล้ว บักรถฯ ดันอวดร่ำอวดรวย
ว่าจองคอนโด 30 ล้าน ให้ลูกสาว
ชาวบ้านก็เรยหมั่นไส้ ในความโม้เหม็น
แถม บักระนาด มันก็ดันจับเอามาเล่นเป็นประเด็น
เลยโดน บักรถ ตลบหลัง แล้ว หักคอจิ้มน้ำพริก จนดิ้นไม่หลุด
ด้วย ข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้
ทำให้ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก อยู่นี่ไง
เฮ้อออ พูดถึงเรื่องนี้ แล้ว
ก็นึกสงสาร บักระนาดเอก ขึ้นมาตะหงิด ๆ ว่ะ
เฮ้ออ ไม่น่า มานะจัด แบกศักดิ์ศรีเอาไว้บนหัว
จนหน้ามืดตามัวงี้เยยย สุดท้าย ก็เลยเบลอจัด
โดน บักรถฯ มันเล่นทีเผลอ เอาซะงั้น
บอกได้คำเดียวว่า งานนี้ มีแต่ เสีย กับ เสีย
ถ้า ปฏิเสธข้อเสนอของ บักรถ หรือ
ก็จะต้อง เสียหน้า โดนหาว่าป๊อด
ไอ้ครั้นจะ ยอมจ่าย 5 % เป็นค่าดูใบจองคอนโด
สนองความอยากรู้อยากเห็น หรือ
ก็ มีแต่เรื่องให้ต้อง เสียกะตังค์ ไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ
ทำไมมันไม่รู้จักฉุกคิด ซะมั่งว้าาาา
ไอ้เรื่อง ใบจองคอนโด จริง ๆ เท็จ ๆ เนี่ย
รู้แล้วได้อะไร ไม่รู้แล้วได้อะไร
อืม...ไอ้เทคนิค จิกเอา ศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ ของฝ่ายตรงข้ามมาเป็นตัวล่อ
หลอกเอา ผู้รู้ในรูจอมปลวก ไปเชือด เอ๊ย ไปเข้าโปรแกรมดัดสันดาน น่ะ
อิฉันเองก็มักจะเอามาใช้อยู่บ่อย ๆ เหมือน บักรถ นะ
ยิ่งเห็น ท่าทีอวดดีชอบยกตนข่มท่าน
และการหาเรื่องเหยียบหัว ชาวบ้าน เวลาที่บักรถมันโพสทีไร
ก็ยิ่งทำให้นึกถึง ตอนที่อิฉันแสดงทีท่ากรีดกราย ยักย้ายส่ายสะโพก
โอ้อวดภูมิศีลอันแข็งโป๊ก ของตัวเอง ให้ชาวบ้านชาวช่องมัน ริษยา เล่นว่ะ
ก็เลย พอจะเข้าใจ ถึงเหตปัจจัย
ที่เป็นแรงขับเคลื่อนของพฤติกรรม
ว่า ทำไมบักรถ ฯ มันถึงทำตัวเป็นจิ๊กโก๋ งี้น่ะ
เรื่องของเรื่อง มันก็แค่ เกิดจาก ความหมั่นไส้ ล้วน ๆ ง่ะ งิงิ
แถม บักระนาด มันก็พลาดจังหนับ
ตั้งแต่ตอนที่มันหน้ามืด
เสือกไปตกปากรับคำ
ยอมทำตามเงื่อนไขของ บักรถแระ
แมร่ง ช่างเดินหมาก แบ่บไม่ดูตาม้าตาเรือ เอาซะเรย
เนี่ย ถ้าอิฉันเป็น บักระนาด อ่ะนะ
อิฉันก็จะไม่ บ้าจี้ห่วงศักดิ์ศรีบ้า ๆ บอๆ จนเกินพอดี งี้หร็อก
ถ้าโดน บักรถยื่นข้อเสนอแบบนี้มาให้
อิฉันจะตอกกลับ บักรถฯ ไปว่า
อย่าว่า แต่ ล้านห้า เล๊ยยยยยย
สลึงเดียว ตรูก็ไม่คิดจะควักกระเป๋าจ่าย
เป็นค่าธรรมเนียมในการเข้าชมใบจองฯ ของเมิงหรอกนะจ๊ะ
ถึงแม้ตรูจะอยากรู้อยากเห็น เรื่องเงินในกระเป๋าชาวบ้าน มากแค่ไหน
แต่ไหหน่อไม้ดอง ของเมิง ก็ไม่มี คุณค่าทางโภชนาการเพียงพอ
ที่จะทำให้ตรูรู้สึกว่า มันน่าจะ ควักกระเป๋า จ่ายเป็นค่า มุดรูดูไห ว้อยยยย
( สู้เอาไปจ่ายเป็นค่าตั๋ว ดู เมียงู ยังจะเวิร์ค กว่า ) อิอิ
อืม...แต่ถึงงั้น ถ้ามองถึงแต้มต่อ
อิฉันว่า บักรถฯ น่ะ เก๋าในเกมส์
มาก กว่า บักระนาด เยอะเลย นะ
อันนี้ พิณาดูจาก ความรอบคอบ และ ระดับความนิ่ง ในการตอบ
ตลอดจน รังสีอำมหิตที่เปล่งออกมา จากผิวหนังของเฮียแกน่ะ
แมร่ง อำมหิตได้ไง พอ ๆ ก๊ะ ทั่นด๊อก ฯ เรยวุ้ย
และ อิฉัน ก็ยัง เชื่อมั่น ในตัว บักรถฯ
มัน ค่อนข้างมาก อยู่นะ
ว่า ไอ้เจ้าผู้ชายปากหมาคนนี้
มัน ก็เป็นคนจริง คนหนึ่งเหมือนกันว่ะ
ไม่รู้สินะ จากการอ่านตัวหนังสือของมัน แล้ว เซ้นส์ มันบอกงี้ อ่ะ
อีกอย่าง ไอ้เฒ่าสับฯ มันเคยบอกไว้ว่า
--- อ้างถึง ---
ภาษาอักษร สำนวน ความคิด
ที่พิมพ์โพสต์ออกมาทุกตัวของแต่ละคน ในทุกความคิดเห็น
มันแฝง "นิสัย และพฤติของใจ ของคนพิมพ์เสมอ"...?
ภาษาที่โพสต์ออกมาจากสมองหรือใจสู่จอคอมฯ..
จะเจตนาหรือเผลอก็ตาม..ช่องว่างระหว่างตัวอักษรและบรรทัด..
ทุกตัวอักษรและวรรคตอน มันมีกริยา นิสัย ความประพฤติ
ดั่งวิญญาณของคนพิมพ์สิงสถิตย์อยู่ด้วย..มันจึงมีชิวิต
ดังนั้น จะพิมพ์อักษรภาษาให้ดี แก้ตัว เสแสร้ง แกล้งบ้า..ยังไง
ใครๆเขาก็อ่านออก บางครั้งไม่จำเป็นต้องเคยสัมผัสกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ..
--- End quote ---
อืม...เรื่องนี้ อิฉันและ ทั่นด๊อกฯ เห็นด้วยกับมันนะ
แม้อิฉันเองยังอ่านคน จากตัวหนังสือ ได้ไม่เชี่ยวเท่าท่านด๊อกฯ ก็ตาม
แต่ก็อาจจะเป็นอย่างที่ บักรถมันบอกนั่นแหล่ะมั้ง
"ทิโส ทิสํ... โจโร โจรํ ฯลฯ" ( โจร ย่อมเห็นโจร ด้วยกัน อิอิ )
และถึง จะ อ่านบักรถฯ พลาดไป
เพราะมันดันเสือกไปตัดไส้ติ่งทิ้ง(แบบอาเจ่กเสกสรร)
ก็ช่างมันอ่ะ เก๊าะ อิหม่ามี๊ เคยสอนไว้นิคร้าาาา ว่า
--- อ้างถึง ---
อะไรๆ มันก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน
ยึดมั่นถือมั่นให้คงอยู่ถาวรกะสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น
มันขัดกับธรรมชาติของสรรพสิ่ง นี่นะ
การเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เป็นเรื่องปกติ
--- End quote ---
แหม๊ นี่ ถ้าป๊ะป๋าโจ เกิด อนิจจังลงใจ
ได้ อย่าง นู๋บี ก๊ะ ฮาร์ทจัง ก็คงดีเน๊าะ
ป๋าแกจะได้ เลิกวิตกจริตคิดมาก
เรื่องเมียรัก จักหนีตามชายอื่นนนนน
แก้วจ๋าหน้าร้อน:
:13: คุณแม่เขียนได้ ดุดันเช่นเดิมครับผม
ในความรู้สึกผมนะ หลังๆนี่ คุณแม่เขียนแบบกลีบบัวครับ ^^ ผมก็อธิบายไม่ถูก นึกถึงกลีบบัวซะงั้น
รักษาสุขภาพนะครับคุณแม่
ธรรมะอวยพรความดีคุ้มครองครับ
magicmo:
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version