ผู้เขียน หัวข้อ: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน  (อ่าน 17563 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2013, 10:49:33 pm »
กล้องจับผิดจราจรรุ่นใหม่! โดนกันระนาว

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=GDATVae6_K8#t=33

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=GDATVae6_K8#t=33

-http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=GDATVae6_K8#t=33-

-------------------------------------------------

ถ้าจับจริง ออกใบสั่งจริง 

โดนกันเยอะแน่ๆ อิอิ

.
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2013, 08:44:20 am »
รถสตาร์ตไม่ติด แก้ปัญหาอย่างไร ?

-http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1382075216&grpid=&catid=09&subcatid=0903-


คอลัมน์ คาร์ทิปส์




ถ้าคุณขับรถอยู่แล้วรถคุณดับสตาร์ตเท่าไหร่ก็ไม่ติด หรือสตาร์ตไม่ติดคุณจะทำอย่างไร ถ้าผู้ขับขี่ที่มีพื้นฐานความรู้ด้านช่างอยู่บ้างก็คงจะพอแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ แต่ถ้าเป็นผู้ขับขี่มือใหม่คงจะต้องโทร.ตามช่าง หรือไม่ก็สอบถามผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เพื่อที่จะทำการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ขับต่อไปได้

เมื่อบิดกุญแจแล้วเครื่องยนต์ไม่หมุนแต่มีเสียงดังแชะๆ หรือไม่ดัง ถ้าอาการนี้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า แบตเตอรี่ หรือไดสตาร์ตมีปัญหา ให้ลองบีบแตรดูอาการว่าแตรดังปกติหรือไม่? แบตเตอรี่อาจจะอ่อนเกือบหมด ทำให้หมุนไดสตาร์ตไม่ไหว ได้แค่กระตุ้นโซลินอยด์เบาๆ แต่หมุนไม่ไหวจึงมีเสียงแชะๆ

ถ้าหากแบตเตอรี่มีไฟ ไดสตาร์ตอาจขัดข้อง ถ้าไดสตาร์ตขัดข้องให้ทดลองหาท่อนไม้มาเคาะไดสตาร์ต (ต้องระมัดระวังอย่าให้โดนอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย) ถ้าสตาร์ตติดแสดงว่าไดสตาร์ตสกปรก แต่หลังจากนั้นก็ต้องถอดไปทำความสะอาดด้วย แต่ถ้าเคาะแล้วยังไม่ทำงานก็ต้องถอดออกไปซ่อม

บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนอืดๆ ไม่ยอมทำงานเอง ถ้าคุณได้ยินเสียงไดสตาร์ต และการหมุนของเครื่องยนต์ แต่เป็นการหมุนช้าๆ หรืออืดๆ อาการนี้ มักจะมีปัญหามาจากแบตเตอรี่ไฟอ่อน แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือไดชาร์จไม่ปกติ ไม่ใช่ปัญหาที่ตัวเครื่องยนต์

อาการขัดข้องแบบนี้ถ้าเป็นระบบเกียร์ธรรมดา สามารถเข็นโดยเข้าเกียร์ 2 กระตุกติดเครื่องยนต์ได้ หรือถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติก็สามารถพ่วงแบตเตอรี่จากภายนอกเพื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ให้ติดได้

เมื่อเครื่องยนต์ทำงานแล้วให้ดูไฟรูปแบตเตอรี่ที่หน้าปัด ว่าสว่าง หรือเลือนราง ถ้าไฟรูปแบตเตอรี่ไม่สว่างแสดงว่าการชาร์จไฟปกติ แต่ถ้ารูปไฟแบตเตอรี่สว่างขึ้นโชว์ไม่ดับ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจเช็กการชาร์จไฟของไดร์ชาร์จโดยด่วน เพราะถ้าคุณขับรถต่อไปเครื่องยนต์อาจจะดับเองได้อีก

ที่มา http://phithan-toyota.com/th

(ที่มา:มติชนรายวัน 17 ต.ค.2556)

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2013, 09:27:01 pm »
จับเจ้าของรถหัวหมอ ถูกล็อกล้อ แต่แอบถอดล้ออะไหล่มาเปลี่ยน
-http://hilight.kapook.com/view/92929-




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02
       
            บก.02 โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีเจ้าของรถหัวหมอ ถูกล็อกล้อ แต่แอบถอดล้ออะไหล่มาเปลี่ยน โดนจับ คุก 3 เดือน ปรับ 5 พันบาท

            วันนี้ (30 ตุลาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02 ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีที่เจ้าของรถจอดรถในที่ผิดกฎหมาย ถูกล็อกล้อ แต่หัวหมอเอาล้ออะไหล่มาเปลี่ยน โดนจับ โทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 พันบาท โดยมีข้อความดังนี้...

            "จอดรถผิดกฎหมาย ถูกล็อกล้อ ถูกปรับ แต่ถ้าไปทำลายเครื่องบังคับหรือถอดออก จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 150 วรรค 2 ในข้อหา เคลื่อนย้ายรถที่เจ้าพนักงานจราจรได้ใช้เครื่องมือบังคับมิให้เคลื่อนย้ายโดยมิได้รับอนุญาต มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

            โดยเมื่อเช้านี้ (30 ตุลาคม 2556) เวลา 08.41 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.คลองตัน ได้ทำการบังคับล้อรถทะเบียน 1 กศ-7573 กทม ที่จอดผิดกฎหมายในซอยบาร์โบส ถนนพระราม 4 ปรากฏว่า ต่อมาได้มีนายไพบูลย์ อินทร์แก้ว อายุ 34 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี เจ้าของรถได้ออกมาถอดล้อแม็กซ์ที่มีเครื่องบังคับล้อออก และเอายางอะไหล่มาใส่แทน เพื่อขับรถออกไป แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตรวจพบ จึงถูกจับกุมดำเนินคดีส่งฟ้องศาลต่อไปครับ"




http://hilight.kapook.com/view/92929
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 30, 2013, 09:40:43 pm »
บก.จร.ขยายอีก30 เส้นทาง จับจริงปรับจริงยกจริง จอดรถบนถนน เริ่ม 1 พ.ย.56

-http://auto.sanook.com/6042/%E0%B8%9A%E0%B8%81.%E0%B8%88%E0%B8%A3.%E0%B8%82%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%8130-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87-%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1-1/-



    ภายหลังจากที่ กองบังคับการตำรวจจราจร  ได้ดำเนินการจับจริงปรับจริงยกรถจริง ตั้งแต่เมื่อวันที่  21 ตุลาคม เป็นต้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเส้นทางสำคัญ ในเขตกรุงเทพมหานคร นั้น

     เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. ระบุ ได้มีการขยายโครงการระดมแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเส้นทางสำคัญ ระยะที่ 2  โดยยกรถที่จอดผิดกฎหมายออกจากพื้นที่ เพิ่มอีก 30 เส้นทาง

     30 เส้นทางที่เพิ่มขึ้นมา ได้แก่

1.ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ตั้งแต่หน้าวัดสร้อยทอง ถึงแยกเกียกกาย
2.ถนนสามเสน ตั้งแต่แยกเกียกกาย ถึงแยกบางลำภู
3.ถนนรามอินทรา ตั้งแต่วงเวียนบางเขน ถึงแยกมีนบุรี
4.ถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วงเวียนบางเขน ถึงสุดเขต กทม.
5.ถนนงามวงศ์วาน ตั้งแต่แยกเกษตร ถึงสุดเขต กทม.
6.ถนนประชาชื่น ตั้งแต่แยกตัดถนนประชาราษฎร์สาย 2 ถึงแยกพงษ์เพชร
7.ถนนนวมินทร์ ตลอดสาย
8.ถนนร่มเกล้า ตั้งแต่แยกเคหะร่มเกล้า ถึงแยกมอเตอร์เวย์
9.ถนนลาดกระบัง ตลอดสาย
10.ถนนประดิษฐมนูธรรม ตั้งแต่แยกพระราม 9 ถึงแยกถนนรามอินทรา
11.ถนนศรีนครินทร์ ตั้งแต่แยกลำสาลี ถึงสุดเขต กทม.
12.ถนนเสรีไทย ตั้งแต่แยกนิด้า ถึงแยกคลองครุ
13.ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่ท่าน้ำถนนตก ถึงแยกสี่พระยา
14.ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ตลอดสาย
15.ถนนจักรเพชร ตั้งแต่หน้า สน.พระราชวัง ถึงแยกเมอร์รี่คิงส์
16.ถนนบำรุงเมือง ตั้งแต่แยกแม้นศรี ถึงแยกกษัตริย์ศึก
17.ถนนกรุงเกษม ตั้งแต่แยกตัดถนนสันติภาพ ถึงแยกกษัตริย์ศึก
18.ถนนเยาวราช ตลอดสาย
19.ถนนสีลม ตลอดสาย
20.ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตลอดสาย
21.ถนนเจริญนคร ตลอดสาย
22.ถนนรัชดาภิเษก-พระราม 3 ตั้งแต่แยกรัชดา-พระราม 4 ถึงแยกใต้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์
23.ถนนรัชดาภิเษก-ตลาดพลู ตั้งแต่แยกมไหสวรรย์ ถึงแยกท่าพระ
24.ถนนสมเด็จเจ้าพระยา ตลอดสาย
25.ถนนกรุงธนบุรี ตลอดสาย
26.ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ตลอดสาย
27.ถนนเพชรเกษม ตั้งแต่วงเวียนใหญ่ ถึงสุดเขต กทม.
29.ถนนพระราม 2 ตั้งแต่แยกดาวคะนอง ถึงสุดเขต กทม.
และ 30.ถนนราชพฤกษ์ ตั้งแต่แยกบรมราชชนนี ถึงแยกถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน

     โดยจะมีการดำเนินการตั้งแต่ เวลา 06.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน นี้
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2013, 08:37:09 pm »
‘แซงซ้าย‘ สรุปว่าผิดกฏหมายหรือไม่?

-http://auto.sanook.com/6082/%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%87%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%8F%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88/-


  การแซงซ้ายถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ความเร็วสูงบนทางหลวง แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังคงมีผู้ใช้รถอีกจำนวนหนึ่ง ที่มีพฤติกรรม 'แช่ขวา' คือการขับรถชิดขอบทางด้านขวา ด้วยความเร็วไม่มากนั่นเอง ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ที่ขับรถมาด้วยความเร็วสูงกว่า ไม่มีพื้นที่ให้แซงขึ้นไป หากเจอพฤติกรรมเช่นนี้ จะปฎิบัติอย่างไรดี?

แซงซ้าย ผิดกฏหมาย!

      พรบ.จราจรทางบก ปี 2522 หมวด 2 มาตรา 45 ระบุไว้ชัดเจนว่า 'ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ ขับรถแซงหน้ารถคันอื่นทางด้านซ้าย' ด้วยเหตุนี้แล้ว การแซงซ้ายนั้นถือว่าผิดกฏหมายเต็มๆ


อ้าว! แล้วพวก 'แช่ขวา' ล่ะ

     อย่างไรก็ดี ยังมีกลุ่มผู้ใช้รถบางคน ที่มีพฤติกรรมการขับขี่ด้วยความเร็วต่ำในช่องเดินรถขวาสุด โดยไม่สนใจว่ามีรถคันหลังที่ใช้ความเร็วสูงกว่า ซึ่งเหตุผลที่มักพบอยู่บ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น สภาพผิวถนนเลนซ้ายไม่ดี วิ่งเลนขวาสบายใจกว่า หรือ ผู้ขับขี่อาจคิดว่าตนใช้ความเร็วตามกฏหมายกำหนดแล้ว ไม่จำเป็นต้องชิดซ้าย

     การขับช้าขวางเส้นทางนั้น ผิดพรบ.การจราจรทางบก มาตรา 35 ระบุว่า รถที่มีความเร็วช้าหรือรถที่มีความเร็วต่ำกว่ารถคันอื่น ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบเดินรถทางซ้ายเท่าที่จะกระทำได้ โดยมิได้กล่าวถึงอัตราความเร็ว หมายความว่า ถึงแม้จะใช้ความเร็วสูงสุดตามที่กฏหมายกำหนดแล้วก็ตาม คุณจำเป็นต้องใช้เลนทางซ้ายมืออยู่ดี โดยให้รถที่เร็วกว่า สามารถแซงไปทางขวาได้

'แช่ขวา' ยังไงก็ไม่หลบ 'แซงซ้าย' ก็ผิดกฏหมาย แล้วจะให้ทำอย่างไร?

     อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัตินั้น ผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรม 'แช่ขวา' ยังคงมีให้เห็นในถนนบ้านเรา แม้จะให้สัญญาณไฟขอทาง หรือสัญญาณแตรแล้วก็ตาม กฎหมายจึงระบุข้อยกเว้นในมาตรา 45 (2) ว่าผู้ขับขี่สามารถแซงขึ้นไปทางซ้ายได้ เมื่อเห็นว่าปลอดภัย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้รถต่อแถวกันยาวเป็นหางว่าวเนื่องจากต้องต่อท้ายรถที่มีพฤติกรรมดังกล่าว

     สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาที่พบอยู่บ่อยๆ คือ เมื่อสามารถแซงขึ้นไปทางซ้ายได้แล้ว ผู้ขับขี่บางคนอาจมีความรู้สึกโกรธแค้นจนก่อให้เกิดการ 'เอาคืน' ด้วยการปาดหน้ากระชั้นชิด หรือแซงขึ้นหน้าแล้วเหยียบเบรคแรงๆ สิ่งเหล่านี้ถือว่าไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุยิ่งกว่า ให้ลองคิดว่าหากรถที่ขับช้านั้น เป็นญาติพี่น้องเราเอง เราคงไม่ทำพฤติกรรมเช่นนั้น

     ทางที่ดีเมื่อแซงได้แล้ว ก็ขับต่อไปโดยไม่ต้องสนใจ ปล่อยให้กฎหมายเป็นผู้จัดการเขาเอง


พื้นผิวจราจรเลนซ้ายไม่ดี บางทีก็ต้องเห็นใจ!

     พื้นผิวทางหลวงข้ามจังหวัดบางเส้นนั้น มีสภาพค่อนข้างแย่ การขับขี่บนถนนขรุขระเช่นนั้น อาจทำให้รถเกิดความเสียหายได้ด้วยเหมือนกัน ข้อแนะนำเล็กน้อยสำหรับผู้รักรถ คือ ผู้ขับอาจใช้เลนขวาที่สภาพถนนเรียบกว่าได้ แต่ต้องหมั่นมองกระจกหลังเป็นระยะ หากพบว่ามีรถวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ให้เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย พร้อมหลบเข้าเลนทางซ้ายไปก่อน

     แต่ต้องพึงระลึกไว้ว่า ช่องทางเดินรถขวาสุด มีไว้สำหรับรถที่วิ่งเร็วกว่า ทั้งยังเป็นการเปิดช่องให้ตำรวจทางหลวงเรียกได้เสมอ ทางที่ดีปฏิบัติตามกฎจราจรได้จะดีที่สุด



คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2013, 09:20:18 pm »
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2013, 07:13:09 am »
5 วีธีขับขี่ปลอดภัยช่วงปีใหม่

-http://auto.sanook.com/6261/6-%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/-


 ช่วงเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวนมาก วันนี้ Sanook!Auto มีข้อแนะนำ 5 ข้อง่ายๆเพื่อการขับขี่ปลอดภัยรับช่วงปีใหม่ 2557 มาฝากกันครับ

     สถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่เมื่อปีที่แล้ว (ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2555 จนถึง 2 ม.ค 2556) พบว่า เกิดอุบัติเหตุทั่วประเทศกว่า 3,176 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 365 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 3,329 ราย ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นเส้นทางตรงเสียด้วยครับ ถ้างั้นเรามาดูข้อปฏิบัติ 5 ข้อง่ายๆกันเลยดีกว่า

 ข้อควรปฏิบัติ 5 ข้อง่ายๆเพื่อการขับขี่ปลอดภัย

     1.ใช้ความเร็วที่เหมาะสม

      เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีผู้ใช้รถร่วมกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรใช้ความเร็วให้น้อยลง เพื่อการตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุลดลงนั่นเอง ทั้งยังเป็นการประหยัดน้ำมันไปในตัวอีกด้วย

     แต่หากกังวลว่าจะถึงที่หมายไม่ทันเวลานั้น ก็เพียงเริ่มออกเดินทางให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ก็จะทำให้ถึงที่หมายได้ตรงตามเวลา และยังปลอดภัยอีกด้วย

     2.ห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่

     การใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์เป็นสิ่งอันตราย เพราะจะทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิในการขับรถ และทำให้การตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินช้าลงอีกด้วย ทางที่ดีควรให้ผู้ที่นั่งไปด้วยเป็นผู้สนทนาแทนจะดีกว่า หรือหากจำเป็นก็ควรหยุดรถให้เรียบร้อยเสียก่อน

     3.ผ่อนคลาย..ไม่หงุดหงิด

     การใช้รถใช้ถนนร่วมกันกับผู้คนอีกมากมายนั้น อาจทำให้ผู้ขับขี่เลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความหงุดหงิดขณะขับรถ แต่สิ่งสำคัญนั่นก็คือ การควบคุมอารมณ์ตนเองมิให้อยู่เหนือการกระทำ ยกตัวอย่างเช่น หากถูกรถคันอื่นปาดหน้า ก็ควรปล่อยเขาไป ไม่ต้องเอามาใส่ใจให้เสียอารมณ์

    4. เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า

     ผู้ขับสามารถลดความเสี่ยงต่อการชนท้ายได้ง่ายๆ เพียงรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าไว้ 2 วินาที วีธีการก็คือ ให้เริ่มต้นนับจากจุดที่รถคันหน้าขับผ่าน โดยอาจสังเกตจากป้ายบอกถนนหรืออะไรก็ตาม จากนั้น เราควรใช้เวลาประมาณ 2 วินาทีในการขับผ่านจุดดังกล่าว จึงจะถือเป็นระยะห่างที่เหมาะสม

     นอกจากนั้น ในกรณีที่ทัศนวิสัยย่ำแย่มาก เช่น หากมีฝนตกหรือหมอกลงจัด ก็ควรใช้ระยะห่างมากขึ้นกว่าเดิม

     5. เมาไม่ขับ

     ข้อนี้สำคัญที่สุดนะครับ เพราะทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเมาแล้วขับ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย และเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างอย่างยิ่ง ดังนั้น หากใครเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดื่มสังสรรค์ ก็ควรมอบกุญแจรถให้ผู้อื่นขับแทน หรือใช้บริการรถสาธารณะเสียเลยจะดีกว่า

     ที่กล่าวมาแต่ละข้อล้วนแต่เป็นเรื่องง่ายๆที่เราทราบดี เพียงแต่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จึงจะช่วยลดอุบัติเหตุได้อย่างจริงจัง

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ธันวาคม 31, 2013, 10:39:51 am »
5 ท่าคลายเมื่อยหลังพวงมาลัย คนขับรถไกล ๆ ลองทำดู

-http://health.kapook.com/view78820.html-


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลทีไร ถนนหนทางเส้นหลัก ๆ ในต่างจังหวัดที่จะพาไปสู่สถานท่องเที่ยวนั้นช่างติดขัดสาหัสเสียจริง ๆ ทำเอาคนขับรถเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว อ่อนเพลียเอาได้ง่าย ๆ และทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมีสูงขึ้นไปด้วย แต่ถ้าไม่อยากให้ทริปท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวหมดสนุก ลองมาดูข้อมูลดี ๆ จากกรมอนามัย ที่ให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวที่ขับรถยนต์ทางไกลกันเลย

ป้องกันปวดหลัง ด้วยการปรับเบาะนั่ง

          เพื่อไม่ให้ปวดหลังและเมื่อยล้า ต้องเริ่มจากการปรับเบาะที่นั่งคนขับก่อน ด้วยการเลื่อนเบาะที่นั่งให้อยู่ในระดับเหมาะสมกับตนเอง หลังพิงพนักพอดี ไม่ควรนั่งห่างหรือชิดพวงมาลัยมากเกินไป เพราะจะทำให้หลังโค้ง พิงพนักไม่ได้ หรือพิงได้แต่เวลาขับต้องเหยียดแขนและเข่ามากขึ้น จนกลายเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปวดหลัง ซึ่งหากมีอาการปวดหลังเป็นเวลานานและไม่มีการดูแลป้องกันอย่างถูกวิธีแล้ว อาจทำให้เสี่ยงปวดหลังถาวรได้


5 ท่าง่าย ๆ คลายเมื่อยล้าหลังขับรถนาน

          ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ได้แนะนำวิธีบริหารร่างกายด้วย 5 ท่าง่าย ๆ ให้ผู้ขับรถทางไกลนำไปใช้ลดอาการเมื่อยล้ากันแบบนี้

          ท่าที่ 1 ท่าหงายมือแขนแนบลำตัว อาจยกด้วยมือเดียวหรือสองมือก็ได้ เกร็งข้อศอกแล้วยกขึ้นถึงหัวไหล่ จากนั้นค่อย ๆ เอาแขนลงช้า ๆ ทำซ้ำเช่นนี้สลับกันทั้ง 2 แขน จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการบังคับพวงมาลัยรถเป็นเวลานาน ๆ

           ท่าที่ 2 ท่ายืดกล้ามเนื้อใต้ท้องแขนส่วนบน เริ่มจากยกแขนขวาตั้งศอกให้ขนานกับพื้น ตั้งฉากกับลำตัว ใช้มือซ้ายจับข้อศอกขวา แล้วออกแรงผลักไปข้างหลังค้างไว้ นับ 1-5 แล้วสลับข้าง ทำซ้ำกัน 5 ครั้ง

           ท่าที่ 3 ท่ายืดไหล่ ทำได้โดยนั่งยืดตัว แล้วบีบไหล่ยกขึ้นไปหาใบหู ค้างไว้ นับ 1-2 แล้วเอาลง ทำซ้ำ 5 ครั้ง จะรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น

           ท่าที่ 4 ท่าบิดตัว นั่งยืดตัวตรงขึ้น มือจับที่ขอบเบาะ มือซ้ายสอดใต้ขาขวา บิดตัวค้างไว้ นับ 1-5 ทำสลับข้างไปสัก 5 ครั้ง

          ท่าที่ 5 ท่าบริหารเท้า นั่งเหยียดขาออกไปด้านหน้า ยกเท้าให้ลอยขึ้นพ้นพื้น เหยียดปลายเท้าให้สุด จากนั้นกระดกปลายเท้าขึ้น-ลง ทำ 5 ครั้งแล้วสลับข้างซ้าย-ขวา จะช่วยคลายเมื่อยได้

Note !

          สิ่งสำคัญที่สุดในการขับรถคือความปลอดภัย ดังนั้น ผู้ขับขี่ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา และห้ามดื่มของมึนเมาเด็ดขาด

          ถึงจะไม่ปวดหลัง ไม่เมื่อยล้า แต่ถ้าเกิดรู้สึกเพลีย ง่วงนอนขึ้นมาเมื่อไร ต้องแวะจอดพักในสถานที่ปลอดภัยทันที อย่าฝืนขับรถต่อไปเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ยอมเสียเวลาพักเอาแรงนิดหน่อยจะได้มีแรงขับรถต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ดีกว่าต้องมาเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก-http://www.anamai.moph.go.th/ewt_news.php?nid=5946&filename=index-



คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มกราคม 21, 2014, 09:09:22 pm »
เรืองรถยนต์ ไม่เกี่ยวกับ การขับรถ

แต่ขอลงไว้ให้เป็นความรู้กันครับ


---------------------------------------------------------------------------------


4 เรื่องที่คุณไม่รู้ของแอร์ในรถยนต์

-http://club.sanook.com/21365/4-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81-


แอร์รถยนต์ ไม่เพียงแค่เป็นแหล่งรวมของฝุ่นละออง แต่ยังเป็นที่อยู่ของเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคุณและครอบครัว เพื่อสุขภาพอนามัย เราจึงควรล้างตู้แอร์ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และนี่คือ 4 เรื่องที่คุณไม่รู้ที่ควรอ่าน

- ฝุ่น จากภายนอกรถจะเข้ามาในระบบแอร์ทุกครั้งที่เปิดแอร์ เมื่อฝุ่นละอองมาเกาะอยู่ตามแผงคอยล์เย็นในตู้แอร์ ทุกครั้งที่เปิดแอร์ ลมแอร์ก็จะพัดเอาฝุ่นเล็ก ๆ เข้ามาในตัวรถ ยิ่งนั่งอยู่ในรถนาน ก็ยิ่งสูดฝุ่นเข้าไปในร่างกาย สะสมไปเรื่อย ๆ นานวันก็จะกลายเป็นสาเหตุของปัญหาโรคภูมิแพ้ โรคเยื่อบุในระบบทางเดินหายใจ

- ซากแมลงที่เน่าเปื่อยตายอยู่ในตู้แอร์ เป็นสิ่งที่พบได้เสมอ และนับเป็นอันตรายที่มองไม่เห็นและส่งผลต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง นอกจากคุณจะสูดฝุ่นละอองเข้าไป คุณยังสูดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย นั่นทำให้ร่างกายรับสารและก่อให้เกิดโรคแปลก ๆ ที่ไม่คาดคิดมากมาย โดยเฉพาะโรคจากการติดเชื้อในปอด และอวัยวะภายในร่างกาย

- เครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่จะอยู่ด้านหลัง แต่ตัวคุณขับรถอยู่ด้านหน้า ลมแอร์ที่เป่าออกมา จึงเหมือนส่งตรงเข้าจมูก ปอด ให้สูดก่อนที่เครื่องฟอกอากาศจะฟอกอากาศ ในขณะที่การหาซื้อเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดีมาติดตั้ง ต้องใช้เงินมากกว่ามาก ดังนั้นการกำจัดที่สาเหตุ ด้วยการล้างตู้แอร์จึงเป็นทางหลีกเลี่ยงโรคภัยที่ดี และประหยัดกว่า

- หนึ่งในการล้างตู้แอร์ที่ได้รับการตรวจสอบ และรับรองโดยองค์การอาหารและยา คือ การนำตู้แอร์มาทำความสะอาด ผ่านการล้างน้ำยาด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถแวะทำความสะอาดได้กับศูนย์บริการใกล้บ้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก วิชาการดอทคอม

http://club.sanook.com/21365/4-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81



คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)

ออฟไลน์ sithiphong

  • ทีมงานก้านแก้วเกล็ดใบทอง
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7544
  • พลังกัลยาณมิตร 2681
  • พระวังหน้าที่หลวงปู่เทพโลกอุดรเสก
    • ดูรายละเอียด
Re: ร่วมกัน รณรงค์ขับรถ ถูก กฎจราจร กัน
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มกราคม 28, 2014, 05:54:13 am »
นครบาลเตรียมจับ-ปรับจริง! 13 ข้อหาจราจร ตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้้

-http://auto.sanook.com/6335/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87-13-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1-1-%E0%B8%81.%E0%B8%9E/-


  พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจรและคณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป จะเริ่มจับจริงปรับจริง 13 ข้อหาหลักตามพ.ร.บ.จราจร เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากพบว่าฝ่าฝืนจะถูกเรียกปรับทันที



  13 ข้อหาจับปรับจริงตั้งแต่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป

    จอดรถในที่ห้ามจอด
    จอดรถซ้อนคัน
    จอดรถบนทางเท้า
    ขับรถบนทางเท้า
    แซงรถในที่สาธารณะ
    ขับรถย้อนศร
    ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง
    เมาแล้วขับ
    ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
    ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
    แซงรถในที่คับขัน
    ไม่มีใบอนุญาตขับขี่
    ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด



     ซึ่งข้อหาดังกล่าว เป็นความผิดจราจรที่พบเห็นได้บ่อย และก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตำรวจนครบาลจึงจะบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนนั่นเอง

 
คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)