ริมระเบียงรับลมโชย > รับสายลมเย็นหน้าระเบียง

“สตาร์บัคส์” จี้ “สตาร์บัง” เปลี่ยนโลโก้ เหตุละเมิดลิขสิทธิ์

<< < (2/2)

sithiphong:
“สตาร์บัง” ผู้สั่นไหวจักรวาล “สตาร์บัคส์”
โดย Taste    2 พฤศจิกายน 2555 11:27 น.
-http://www.manager.co.th/Taste/ViewNews.aspx?NewsID=9550000134008-



   เมื่อสตาร์บังกระตุกหนวดยักษ์ใหญ่แห่งวงการร้านกาแฟสตาร์บัคส์ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่สื่อหลายแขนงจับตามอง โถ ที่จริงเค้าก็โดนจับตามองมานานแล้วล่ะ พี่แกขายอยู่หน้าออฟฟิศ ASTV ผู้จัดการ และชาว Taste เองก็ถือเป็นแฟนคลับตัวยง (เพราะแถวนี้ไม่ค่อยมีอะไรกิน ต้องเดินไปถึงท่าพระจันทร์หรือไม่ก็บางลำพูโน่น) เราต่างหากที่เห็นว่ามันแปลกหูแปลกตา เพราะสตาร์บังเจ้าคารมได้รับลูกค้าแปลกตาหนาหูมากขึ้น บางทีก็มีทีวีมาถ่าย สาวๆ ก็มาถ่ายรูปด้วย และด้วยความรู้สึกสงสัย (ปนอิจฉานั่นแหละ) เราเลยอัดเสียงแล้วถ่ายทอดมาให้คุณๆ ได้ชมกัน



ดังแล้วจะขึ้นราคามั้ย
       ต่อให้ผมดังไปทั่วโลก ก็ยี่สิบบาทเหมือนเดิม ไม่ขึ้นหรอกครับ ถ้านม ของเขิงขึ้น ผมก็จะบอกไว้ก่อน แต่ตอนนี้อยู่เท่านี้ ก็ราคาเท่านี้แหละครับ ลูกค้าเราๆ ก็มนุษย์เงินเดือนทั้งนั้นแหละครับ จะให้ขึ้นเป็นร้อย ก็ไม่ได้หรอก แค่ห้าบาทสิบบาท ลูกค้าก็หนีหมดแล้ว
       
       คิดยังไง ช่วงนี้มีคนมาถ่ายรูปด้วยบ่อยๆ
       ไม่ได้ห้าม ถ้าอยากจะถ่ายก็ถ่ายไป ดีนานๆ ทีเหมือนดารา นานๆ จะมีอย่างนี้สักที (หัวเราะ) ไม่เขินหรอก ตอนหนุ่มๆ ผมไม่ถ่ายรูปหรอก ส่วนมากจะถ่ายให้เค้า
       
       มีแฟนเพจในเฟซบุ๊กรึเปล่า ดังขนาดนี้
       เล่นไม่เป็นอ่ะดิ ไม่รู้ด้วยมันหน้าตายังไง ไม่เคยเล่น
       
       เคยกินกาแฟของคู่กรณีรึยัง
       เคยนะ ก็กาแฟสดดีๆ นั่นแหละ พอใช้ได้ แต่ให้กินทุกวันก็ไม่ไหว แพง คิดดูสิ ถ้าเราเป็นมนุษย์เงินเดือนไปกินแก้วละ 100 เดือนนึง 3,000 ไม่ไหวหรอก แพงไป นานๆ อาจจะกินสักแก้วนึง เงินเดือนออกงี้
       
       แล้วคิดจะขายแข่งกะเค้ามั้ย
       เอายังงี้นะ ถ้าเป็นกาแฟสด ผมก็คงจะไม่ไปซื้อตามร้าน เราคงไปเอากาแฟคั่วเองมาจากที่บ้าน (กระบี่) มาขายเองดีกว่า ก่อนหน้านี้ผมก็เคยคั่ว แต่ไม่ไหว มันไม่มีเวลา
       
       คิดว่าสตาร์บังอร่อยตรงไหน
       ไม่รู้สิ ตอบไม่ถูก ส่วนมากลูกค้าก็จะมาสั่งชากับกาแฟโบราณ โกโก้ โอวัลติน แนะนำเลยแล้วกันถ้ามาสตาร์บัง
       
       โลโก้นี่ได้แต่ใดมา
       ได้พี่แหลม (ผู้จัดกวน) เค้ามาทำให้นะ สองปีแล้วที่เริ่มติดป้ายเนี่ย ผ่านมาตั้งสองปีแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเพิ่งมาฟ้อง แต่จะให้ทำไงล่ะ ฟ้องก็ฟ้องไป ประหลาด ฟ้องว่าเราเหมือนเค้าเหรอ อ่านก็ไม่เหมือนกันแล้ว (หัวเราะ) แต่จะให้เอาป้ายลงก็ขอคิดดูก่อนนะ แต่เดี๋ยวเราก็จะปรึกษาเพื่อนที่เป็นนักกฏหมายมาคุยก่อน ไม่ได้จ้างอะไรหรอกนะ ไม่มีเงินขนาดนั้น
       
       ถ้าโดนบังคับให้เอาป้ายลงล่ะ
       เราก็คงให้พี่แหลมออกแบบให้ใหม่ ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก อยากให้มีรูปแบบเดิมๆ ปรับเปลี่ยนอะไรนิดหน่อย แต่ถ้ามันรุนแรงนัก เราก็อาจไม่ยอมเปลี่ยนก็ได้ จะเอาอะไรนักหนา เราก็แค่กาแฟซาเล้งคันนึง ไม่มีสาขาอื่นด้วย แล้วเราก็ขายพี่ๆ น้องๆ เราที่อยู่ตรงนี้ แล้วใครจะมาขอแบบป้ายไปขาย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้จดลิขสิทธิ์
       
       แล้วไม่คิดจะจดกับเค้ามั่งเหรอ
       โอ๊ย จะไปจดทำไม ขายกาแฟได้วันละห้า-หกร้อยบาท เราไม่ได้ไปทำการค้าอะไรใหญ่โตมโหฬาร เราก็แค่สามล้อทั่วไปที่วิ่งกันเต็มถนนในกรุงเทพฯ จะมาเอาอะไรกับโพ้มมม (หัวเราะ)











.

http://www.manager.co.th/Taste/ViewNews.aspx?NewsID=9550000134008
.




sithiphong:
ชี้ราคากาแฟโลกร่วง แต่ "สตาร์บัคส์" ไม่คิดปรับลดราคา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
9 พฤศจิกายน 2555 16:02 น.

-http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000137188-

มาร์เก็ตวอตช์ - หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลเผย ขณะที่ราคาขายส่งเมล็ดกาแฟในปีที่ผ่านมานั้นตกลงเกือบ 1 ใน 3 ทว่า ผู้เชี่ยวชาญกลับไม่คิดว่าจะส่งผลใดๆ กับราคาขายปลีกกาแฟ 1 แก้ว นอกเสียจากจะขึ้นราคาเท่านั้น โดยเฉพาะสำหรับร้านเครื่องดื่มชื่อดังอย่าง สตาร์บัคส์
       
       รายงานตรวจสอบตลาดโภคภัณฑ์ของธนาคารโลกฉบับล่าสุดเผยว่า ราคากาแฟอาราบิกาในเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น ตกลง 3% จากเดือนก่อนหน้า และร่วงลงถึง 30% จากราคา 2.48 ดอลลาร์ต่อปอนด์ ในปีที่แล้ว
       
       สาเหตุหลักคือ ปริมาณการผลิตกาแฟในโคลอมเบีย และอเมริกากลาง อันเป็นแหล่งผลิตกาแฟสำหรับตลาดอเมริกานั้น มีเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ปลูกกาแฟในบราซิล ซึ่งผลิตกาแฟถึง 1 ใน 3 ของโลกก็คาดว่าจะเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟทำสถิติได้ถึง 6.6 พันล้านปอนด์ในปี 2012 นี้ด้วย
       
       ขณะที่บริษัทกาแฟ คอฟฟีชอป และบริการเดลิเวอร์รี มักขึ้นราคาสินค้า โดยแทบจะไม่เคยปรับราคาลงเลย เช่น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา สตาร์บัคส์เพิ่งขึ้นราคาเครื่องดื่มหลายชนิดราว 1% ในพื้นที่แถบนอร์ทอีสต์ และซันเบลท์ รวมถึงนิวยอร์ก บอสตัน แอตแลนตา และดัลลัส หลังจากเพิ่งอัพราคากาแฟถุงไป 17% เมื่อปี 2011
       
       วอลล์สตรีทเจอร์นัลระบุว่า บริษัทสตาร์บัคส์ไม่ได้หั่นราคาลง แม้ราคาขายส่งกาแฟจะลดลงก็ตาม
       
       ส่วน บริษัทเจ.เอ็ม.สมัคเกอร์ ซึ่งขายกาแฟให้กับดังกิน โดนัท และโฟลเกอร์ส ปรับลดราคากาแฟลง 6% ในเดือนพฤษภาคม ทว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ขึ้นราคาไปถึง 23% ในปี 2011 ขณะที่ร้านของชำส่วนใหญ่ก็ขึ้นราคาขายปลีกกาแฟเช่นกัน
       
       ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ชาวอเมริกันมีแนวโน้มไม่ใส่ใจราคากาแฟ ไม่เหมือนที่อ่อนไหวต่อราคาน้ำมัน และแม้ว่าต้นทุนด้านวัตถุดิบจะลดลง แต่เชนร้านกาแฟต่างๆ ก็ยังคงจะคิดราคาเครื่องดื่มของตนเท่าเดิม หรือไม่ก็เพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายบริษัท อย่าง สตาร์บัคส์สามารถเปลี่ยนผลผลิตราคาต่ำให้เป็นสินค้าระดับพรีเมียมได้
       
       "เวลานี้ สตาร์บัคส์เป็น 1 ในแบรนด์ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ" แจ็ค รัสโซ นักวิเคราะห์ลูกค้าของเอ็ดเวิร์ด โจนส์กล่าว โดยว่า "เมื่อคุณมีสินค้าพรีเมียม คุณก็สามารถคิดราคาระดับพรีเมียมได้"
       
       อย่างไรก็ตาม โฆษกของสตาร์บัคส์ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเมื่อถูกถามถึงกรณีที่ว่าบริษัทจะปรับลดราคาเครื่องดื่มของตนหรือไม่

.

sithiphong:
อุดหนุนสินค้าของคนไทยเรา

ดีกว่านำเงินให้ต่างชาติครับ







.

sithiphong:
“สตาร์บัคส์” เหี้ยม! ฟ้อง “สตาร์บัง” ขอศาลสั่งขัง เรียก 3 แสน จ่ายรายเดือนอีก 3 หมื่น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    17 ตุลาคม 2556 17:35 น.
-http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000130452-


นายดำรงค์ มัสแหละ เจ้าของร้านกาแฟรถเข็นสตาร์บัง (แฟ้มภาพ)

“สตาร์บัคส์” กาแฟระดับโลกเอาจริง! ฟ้องกาแฟรถเข็น “สตาร์บัง” ขอศาลคุ้มครองชั่วคราวสั่งจับและกักขัง 2 พี่น้องเจ้าของร้าน พร้อมเล่นอาญาฟันผิด พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า จ่ายค่าเสียหาย 300,000 บาท พร้อมจ่ายย้อนหลังเดือนละ 30,000 บาท ศาลสั่งไต่สวนคดีแรก 4 พ.ย.นี้ ส่วนคดีที่ 2 นัด 10 ก.พ.57 “บัง” ยันใช้โลโก้อิงศาสนา พร้อมสู้คดี แต่โอดเลี้ยงลูก 6 คน ใช้กินวันชนวันจะจ่ายยังไง
       
       วันนี้ (17 ต.ค.) มีรายงานความคืบหน้ากรณีที่ บ.สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น เจ้าของร้านกาแฟสตาร์บัคส์ เตรียมดำเนินคดีกับร้านกาแฟรถเครื่อง สตาร์บัง ที่ขายอยู่ริมถนนบริเวณหน้า ถ.พระอาทิตย์ เขตพระนคร กทม.ล่าสุดได้มีรายงานว่า บ.สตาร์บัคส์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ให้มีคำสั่งจับกุมและกักขัง นายดำรงค์ มัสแหละ หรือ “บัง” เจ้าของร้านกาแฟรถเข็นสตาร์บัง และนายดำรัส น้องชาย ผู้จะถูกฟ้องที่ 1 และ 2 แล้ว ในคดีหมายเลขดำที่ คค.1/2556 และคดีหมายเลขแดงที่ คค.1/2556 ลงวันที่ 9 ต.ค.ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้นัดไต่สวนในวันที่ 4 พ.ย.นี้ เวลา 13.30 น.
       
       โดยคำร้องของ บ.สตาร์บัคส์ ได้ระบุว่า ก่อนหน้านี้ บ.สตาร์บัคส์ ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนฟ้องคดีต่อศาลฯ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.และศาลฯ ก็ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนฟ้องห้ามมิให้ นายดำรงค์ และพวกใช้เครื่องหมายรูปประดิษฐ์ และคำ STARBUNG COFFEE กับสินค้าเสื้อยืดคอกลมและเสื้อผ้าและกระดาษหุ้มแก้วบรรจุกาแฟหรือเครื่องดื่มที่ขาย รวมทั้งเครื่องหมาย “สตาร์บัง” ที่เป็นพื้นสีเขียว ตัวอักษรสีเข้มตามวัตถุพยาน เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้จะถูกฟ้องทั้ง 2 ได้รับหมายห้ามชั่วคราวของศาลแล้ว แต่หาได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลไม่ จึงขอให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าว
       
       นอกจากนี้ บ.สตาร์บัคส์ ยังได้ยื่นฟ้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.4019/2556 ด้วย ซึ่งศาลได้มีคำสั่งไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 10 ก.พ.2557 เวลา 09.00 น.โดยฟ้องในข้อหาเลียนเครื่องหมายการค้า พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ม.109, 110 ขอศาลให้สั่งห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าและการบริการของโจทก์ต่อไป ให้ยุติการเลียนและยุติจำหน่ายสินค้าโดยใช้เครื่องหมายการค้าที่เลียน ให้ริบสินค้าที่เลียนและให้ทำลายสินค้าดังกล่าว โดยให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย ให้ร่วมกันชำระเงินจำนวน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 30,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะยุติการละเมิด และให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีแก่โจทก์
       
       ทั้งนี้คำฟ้องระบุว่า โจทก์ประกอบกิจการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟและชาที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีสาขามากกว่า 18,000 สาขา ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และยังเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าและการบริการคำว่า STARBUCK และ STARBUCKS และรูปคนประดิษฐ์ในวงกลมพื้นสีเขียว ได้จดทะเบียนการค้าไว้ทั่วโลกรวมทั้งไทย และได้ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าจนสาธารณะทั่วไปรู้จักเป็นอย่างดี
       
       ส่วนจำเลยที่ 1 และ 2 ประกอบกิจการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีกาแฟและชาเป็นส่วนผสม โดยมีรถเข็นจำหน่ายอยู่บริเวณหน้าบ้านพระอาทิตย์ เหตุที่ต้องฟ้องเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน ก.ย.55 - ปัจจุบัน ได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายโดยทำเครื่องหมาย “สตาร์บัง” มีเจตนาเลียนแบบเครื่องหมายการค้าเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้า “สตาร์บัคส์” โดยโจทก์ได้ส่งหนังสือเตือนเมื่อ 17 ต.ค.55 แต่จำเลยกลับกระทำการอันเป็นการละเมิดสิทธิ์มากยิ่งขึ้น โดยการผลิตรูปลอกและปลอกหุ้มแก้วกาแฟและเสื้อผ้า เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าสินค้ามีความเกี่ยวข้องกับสตาร์บัคส์ โจกท์จึงได้มีหนังสือเตือนอีกครั้ง แต่นายดำรงค์ กลับเรียกร้อง และข่มขู่ให้ชำระค่าตอบแทนเป็นเงิน 3,000,000 บาท ซึ่งโจทก์ได้ปฏิเสธ และทำให้นายดำรงค์ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
       
       นอกจากนี้โจทก์ยังได้ร้องขอให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา เชิญ นายดำรงค์ เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยและระงับข้อพิพาท แต่นายดำรงค์ กลับข่มขู่เจ้าหน้าที่และปฏิเสธที่จะไกล่เกลี่ย โดยมุ่งหวังที่จะให้ใช้มาตรการทางอาญาที่รุนแรง เพื่อให้สื่อสารมวลชนที่ติดตามการดำเนินคดีนำข่าวสู่สาธารณชน เพื่อให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง ในขณะที่จำเลยได้รับประโยชน์ แต่โจทก์กลับต้องได้รับความเสียหายจากบุคคลที่ยังไม่รู้สตาร์บัคส์ อาจจะสับสนหลงผิดว่าสินค้าสตาร์บัง มีความเกี่ยวข้องกัน ขณะที่ลูกค้าก็อาจเสื่อมความนิยมเชื่อถือในคุณภาพสินค้า โจทก์ได้พยายามทุกวิถีทางให้ข้อพิพาทยุติลงโดยไม่จำเป็นต้องฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งหากจำเลยทั้ง 2 ยังคงดำเนินการต่อไป ย่อมจะนำมาซึ่งความเสียหายที่ไม่อาจประมาณการและใหญ่หลวงแก่สตาร์บัคส์
       
       การกระทำของจำเลยนับเป็นการกระทำโดยไม่สุจริตและไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ จำเลยทั้งสองจึงต้องมีหน้าที่ชดใช้ค่าเสียหายต่อโจทก์ในชั้นนี้ จากการละเมิดเลียนแบบเครื่องหมายการค้า และค่าใช้จ่ายในการบังคับสิทธิในเครื่องหมายการค้า เพียง 300,000 บาท และขอเรียกค่าเสียหายจากจำเลยอีกเป็นรายเดือนๆ ละ 30,000 บาท นับแต่วันที่ฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลยทั้งสองจะเลิกใช้เครื่องหมายที่พิพาท
       
       ขณะที่ นายดำรงค์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ทนายของทาง บ.สตาร์บัคส์ ได้เจรจาเพื่อขอยกเลิกชื่อ “สตาร์บัง” แต่ตนก็ไม่ยอม ทั้งนี้ตนได้มีการแก้ไขให้ตั้งแต่วันแรกที่ทางทนายได้ยื่นหนังสือเตือนมา โดยเครื่องหมายการค้าที่ตนใช้นั้นได้อิงตามหลักศาสนาอิสลามที่ตนนับถือ ทั้งสีเขียวพื้นหลัง โลโก้รูปดาวกับเดือน เครื่องหมายฮาลาล และชื่อบังที่มาจากภาษามลายู อีกทั้งตนก็ไม่ได้ใช้คำว่าบัคส์ ตนจึงสงสัยว่าตนผิดตรงไหน อักษรที่ใช้ก็มีลักษณะไม่เหมือนกัน ถ้าก๊อบปี้ (ลอกเลียนแบบ) แล้วมันต้องเหมือนเป๊ะ อันนี้ไม่ใช่ แถมไม่ให้ใช้โลโก้ภาษาไทยด้วยมันก็ละเมิดสิทธิ์ตนเกินไป ส่วนกรณีที่คำฟ้องอ้างว่าตนได้มีการข่มขู่เรียกค่าเสียหายจำนวน 3 ล้านบาทนั้น ตนเพียงแค่บอกว่าถ้าจะขอให้ตนยกเลิกเครื่องหมายการค้าตนก็ขอขายกิจการให้ทั้งหมดเป็นเงิน 3 ล้านบาท
       
       ส่วนที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 300,000 บาท และจ่ายรายเดือนอีกเดือนละ 30,000 บาท นั้น นายดำรงค์ กล่าวว่า ตนใช้วันกินวัน เลี้ยงลูก 6 คน จะมีให้ได้ยังไง ขายแก้วละ 20-30 บาท รายได้ปีนึงยังไม่เท่ากับวันนึงของเขาเลย กาแฟ ชา ของเรากับเขาก็คนละอย่าง ไม่ได้ซื้อเครื่องมาใช้เหมือนเขา ขณะที่การดำเนินคดีก็ยังคงต่อสู้ต่อไป
       



นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[*] หน้าที่แล้ว

ตอบ

Go to full version