ผู้เขียน หัวข้อ: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก  (อ่าน 89755 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #100 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 08:45:20 am »




๗๔. ๒ สมบูรณ์แบบ

เณรน้อยรูปหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น และที่พื้นมีกระดาษที่เขียนแล้วทิ้งเต็มไปหมด
พระอาจารย์จึงถามว่า “เป็นอะไรไปล่ะ?”
“เขียนได้ไม่ดี”
พระอาจารย์จึงหยิบกระดาษขึ้นมาดู
“เขียนได้ไม่เลวนี่ ทำไมถึงต้องโยนทิ้ง แล้วร้องไห้ทำไม” พระอาจารย์ถาม

“ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเขียนได้ไม่ค่อยดี” เณรน้อยยังคงร้องต่อไป
“ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ชอบทำอะไรให้ดีพร้อม พลาดแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้”
“ปัญหาก็คือ ผู้คนในโลกนี้ มีใครที่จะไม่ผิดแม้แต่นิดเดียวล่ะ?”

พระอาจารย์ตอบแล้วตบหลังเณรน้อยเบาๆ แล้วพูดว่า
“เจ้าต้องการแต่ความดีพร้อม พอพลาดอะไรเล็กน้อยก็รู้สึกเคือง
ก็จะร้องไห้ ลักษณะอย่างนี้ก็ไม่ใช่ความดีพร้อมแล้ว”

         


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #101 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 08:47:54 am »



๗๔. ๓ รักสะอาด

เณรน้อยก้มลงเก็บกระดาษบนพื้นขึ้นมาจนหมด แล้วก็ไปล้างมือ
ส่องกระจก ล้างหน้า ถอดจีวรมาซักแล้วซักอีก
“เจ้าทำอะไร? ซักแล้วซักอีก เสียเวลาไปตั้งครึ่งวันแล้ว” พระอาจารย์ถาม



“ข้าพเจ้ารักสะอาด ทนไม่ได้ที่จะมีสิ่งสกปรกแม้แต่นิดเดียว
พระอาจารย์ไม่ได้สังเกตหรือว่า หลังจากที่โยมๆทั้งหลายกลับไปแล้ว
ข้าพเจ้าจะต้องเช็ดเก้าอี้ที่โยมๆนั่งแล้วทุกตัว”

“อย่างนี้เรียกว่ารักสะอาดหรือ? เจ้าคิดแต่จะตำหนิฟ้าสกปรก
ดินสกปรก คนสกปรก ภายนอกแม้จะดูสะอาด
แต่ในจิตกลับผิดปกติ ไม่ใช่การรักความสะอาดแล้ว

         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2014, 09:21:10 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #102 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 08:50:21 am »




๗๔. ๔ บิณฑบาต

เมื่อเณรน้อยจะออกบิณฑบาต ตั้งใจเลือกสวมใส่จีวรที่เก่าและขาด
“ทำไมถึงเลือกชุดนี้” พระอาจารย์ถาม

“ท่านเคยบอกว่าไม่ต้องสนใจรูปลักษณ์ภายนอกไม่ใช่หรือ?
ดังนั้นข้าพเจ้า จึงเลือกชุดที่เก่าและขาด และเพื่อจะได้ให้ญาติโยมเห็นใจ
จะได้บริจาคเงินเยอะๆ”
“เจ้าไปบิณฑบาตหรือไปขอทาน เจ้าหวังจะให้ผู้อื่นสงสาร บริจาคทาน

หรือหวังให้ญาติโยมเห็นว่าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หวังจะให้ท่านเป็นเนื้อนาบุญ”

           


ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #103 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 08:03:12 pm »

           

๗๔. ๕ มีชีวิตอยู่อย่างดี

ในวันที่อากาศร้อน ดอกไม้รอบๆบริเวณวัดโดนแดดจนแห้งเหี่ยวไปหมด
“แย่แล้ว ต้องรีบรดน้ำแล้ว”เณรน้อยอุทานแล้วรีบยกถังน้ำมา
“อย่าเพิ่งใจร้อน ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังส่องแสงอยู่ เดี๋ยวเย็น
เดี๋ยวร้อน ต้นไม้ตายแน่ต้องรอให้เย็นกว่านี้ถึงจะรดน้ำได้”
ช่วงเย็น ต้นไม้เหล่านั้นเหมือนกับผักตากแห้ง เณรน้อยเลยบ่น
พึมพำๆว่า “ป่านนี้คงตายหมดแล้ว รดน้ำยังไงก็คงไม่รอด”
“บ่นให้น้อยหน่อย รดน้ำไปเถิด “ พระอาจารย์สั่ง

ไม่นาน ต้นไม้ที่ดูแห้งเหี่ยว เหมือนกับฟื้นชีพขึ้นมาใหม่ที่ดูสดใสกว่าเดิม
“โอ้ พวกมันนี้เก่งจริงๆ อดกลั้น ค้ำอยู่ตรงนั้นไม่ยอมตาย”
“เหลวไหล ไม่ใช่ค้ำอยู่ตรงนั้นไม่ยอมตาย แต่คือการมีชีวิตอยู่อย่างดี”
“แล้วมันจะต่างกันอย่างไร” เณรน้อยถาม
“ไม่เหมือนกันแน่นอน ข้าขอถามเจ้า ปีนี้ข้าอายุแปดสิบกว่าแล้ว
ข้าค้ำไว้ไม่ยอมตาย หรือว่ามีชีวิตอยู่อย่างดี?”



หลังจากทำวัตรเย็นแล้ว พระอาจารย์ถามเณรน้อยว่า
“เป็นยังไง คิดตกลงยัง?”
“ยังครับ” พระอาจารย์ตบหลังเณรน้อยเบาๆแล้วพูดว่า
“เด็กโง่ คนที่กลัวตายตั้งแต่เช้ายันค่ำ เป็นการค้ำไว้ไม่ยอมตาย
คนที่มองไปข้างหน้าทุกวัน เป็นการมีชีวิตอยู่อย่างดี
มีชีวิตอยู่มาอีกวัน ก็ใช้ชีวิตหนึ่งวันนั้นอย่างคุ้มค่า
พวกที่มีชีวิตอยู่ แต่เพราะกลัวตายจึงไหว้พระสวดมนต์
หวังจะให้ตายแล้วกลายเป็นพุทธะ ไม่มีทางได้เป็นพุทธะ”


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2014, 08:02:53 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #104 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 08:18:36 pm »

         

๗๔. ๖ ฟ้าดินก็คือวัด

หลังจากที่พระอาจารย์มรณภาพแล้ว เณรน้อยนั้นก็ได้กลายเป็นเจ้าอาวาส
ท่านมักจะครองจีวรอย่างเรียบร้อย ถือหีบยาแล้วไปในที่ๆสกปรกและยากจนที่สุด
เพื่อช่วยคนไข้เช็ดแผลเปลี่ยนยา แล้วกลับวัดด้วยจีวรที่เปรอะเปื้อนไปหมด

ท่านมักจะออกไปบิณฑบาตด้วยตนเอง แต่เมื่อมือขวารับเงินบริจาคมา
มือซ้ายท่านก็ส่งมอบไปช่วยเหลือคนยากไร้ ท่านมักจะไม่ค่อยอยู่ที่วัด
แล้วก็ไม่เคยก่อสร้างวัดเพิ่มเติม แต่มีศาสนิกชนศรัทธาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ท่านกล่าวว่า “ขณะที่พระอาจารย์มีชีวิตอยู่ ท่านสอนว่า อะไรคือสมบูรณ์แบบ
สมบูรณ์แบบคือขอให้โลกนี้ดีพร้อม

อะไรคือ รักสะอาด รักสะอาดคือช่วยเหลือคนที่ไม่สะอาด ให้สะอาดขึ้นมา
ท่านยังชี้แนะเรื่องการบิณฑบาต คือการช่วยให้คนจับมือกัน
ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สร้างบุญสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

อะไรคือวัด วัดไม่จำเป็นต้องอยู่บนเขา แต่ควรอยู่ในหมู่มนุษย์
ทิศเหนือใต้ออกตก ก็เป็นที่ๆจะแสดงธรรมได้
ที่ไหนๆก็เป็นวัดของข้า”



ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชาวนาคนหนึ่งมีธุระจะต้องเดินทางไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง
ขณะที่เดินทางรอนแรมอยู่กลางป่าพบว่า การจะไปอีกหมู่บ้านหนึ่งนั้น
จะต้องข้ามแม่น้ำ หรือไม่ก็ปีนข้ามเขาสูงไป

ขณะที่กำลังคิดว่าจะข้ามแม่น้ำไปดีหรือจะปีนเขาดี
พลันก็เห็นต้นไม้ใหญต้นหนึ่ง จึงใช้ขวานที่นำติดตัวมาโค่นต้นไม้นั้นลงมา
แล้วก็ทำเป็นเรือชาวนาคนนั้นรู้สึกดีใจมาก
และนึกชมเชยถึงความสามารถของตัวเองอยู่ในใจ
แล้วก็นั่งเรือนั้นข้ามฟากไป



เมื่อข้ามฝั่งไปได้ ชาวนานั้นรู้สึกว่าเรือนี้มีประโยชน์มาก ถ้าหากทิ้งไว้ที่นี่ คงจะ
น่าเสียดาย และหากข้างหน้ามีแม่น้ำอีก ก็คงจะต้องตัดต้นไม้ทำเรืออีก กว่า
จะต่อเรือเสร็จ ต้องเสียแรงและเวลาอีกไม่น้อย ชาวนานั้นจึงตัดสินใจแบก
เรือนั้นติดตัวไปด้วย เผื่อจะได้ใช้ยามต้องการ

ชาวนาแบกเรือนั้นด้วยความเหน็ดเหนื่อยและมีเหงื่อท่วมตัว
ทำให้ยิ่งเดินยิ่งช้าลงเรื่อยๆ เพราะเรือนั้นหนักเหลือเกิน
และกดทับทับเขาจนแทบจะหายใจไม่ออก

ชาวนานั้นเดินไปพักไป บางทีก็คิดจะทิ้งเรือนั้นไป แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดาย
คิดในใจว่า “แบกมาตั้งไกลแล้ว แบกต่อไปเถิด บางทีถ้าเจอแม่น้ำอีก ก็จะได้ใช้

และแล้ว ขณะที่แบกจนเหงื่อท่วมตัว จนถึงใกล้จะมืดค่ำ เพิ่งจะรู้สึกว่า หนทางที่
เดินผ่านมาเป็นทางที่ราบเรียบ จนถึงอีกหมู่บ้านก็ไม่เห็นมีแม่น้ำอีก การแบกเรือ
มาด้วย ทำให้เขาต้องเสียเวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอีกเป็นสามเท่า



มนุษย์เราไม่มีใครจะรู้ล่วงหน้าได้ว่า เส้นทางเดินของชีวิตตัวเองจะเป็นทางที่
ราบเรียบ หรือขรุขระ หรือจะพบกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราด หรือว่าจะต้อง
ปีนขึ้นไปบนภูเขา แต่ไม่ว่าทางเดินชีวิตจะเป็นเช่นใด เราก็จำเป็นจะต้องเลือกวิธีที่
ทำตัวตามสบาย เดินไปอย่างมีความสุข หรือจะแบกเรืออันหนักอึ้งไปด้วย

บางครั้งสภาวะจิตของเราที่พบกับเหตุการณ์ต่างๆ ก็เหมือนกับการแบกเรือ
ลำหนึ่งไว้ การแบกอย่างนั้นก็เหมือนกับการผูกมัด เราจำเป็นต้องวางลงเสียบ้าง
เพื่อให้จิตได้พบกับความเบิกบาน ความสบาย ความปลดปล่อย เดินไป
บนทางเดินชีวิตอย่างสบายใจและมีความสุข

           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2014, 07:10:57 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #105 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 08:39:51 pm »



๗๔. ๗ แค่ความคิดช่วงหนึ่ง

วันหนึ่งมีชายหนุ่มที่ผิดหวังสองคนมาหาพระอาจารย์พร้อมกัน
“พระอาจารย์ครับ พวกเราถูกคนในที่ทำงานกลั่นแกล้ง อย่างแสนสาหัส
ขอท่านช่วยชี้แนะหน่อยว่า พวกเราควรจะลาออกหรือไม่?”

พระอาจารย์ปิดตานิ่งอยู่นานแล้วจึงพูดออกมาแค่ห้าคำว่า “ก็แค่ข้าวชามเดียว”
แล้วโบกมือทำท่าว่า ให้กลับไปได้แล้ว
เมื่อกลับไปแล้ว คนหนึ่งก็ไปลาออกทันที กลับไปทำไร่นาอยู่ที่บ้าน
อีกคนหนึ่งก็ยังคงทำงานต่อไป วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สิบปีให้หลัง คนที่กลับไปทำไร่นา ใช้วิทยาการยุคใหม่ บวกกับความตั้งใจ
อย่างมุ่งมั่น กลายเป็นเกษตรกรมืออาชีพและมีชื่อเสียง

อีกคนที่ยังทำงานอยู่ที่บริษัท พยายามใช้ความอดทน
ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อด้วยความมุ่งมั่น ก็ค่อยๆได้รับความสนใจจาก
เจ้านาย ในที่สุดก็ได้กลายเป็นผู้จัดการของบริษัท

วันหนึ่ง เมื่อทั้งสองได้พบกันแล้ว คนที่เป็นเกษตรพูดว่า
“แปลกนะ พระอาจารย์เพียงชี้แนะคำว่า ”ก็แค่ข้าวชามเดียว” ให้กับเราสองคนเหมือนกัน
คำห้าคำนี้ข้าฟังทีเดียวก็เข้าใจ ก็แค่ข้าวชามเดียว ถึงกับจะต้องอะไรนักหนา
ทำไมต้องไปนั่งทนอยู่ในบริษัทให้เขาโขกสับ ดังนั้นจึงคิดลาออก”
“ตอนนั้นทำไมเจ้าไม่ฟังคำของพระอาจารย์ล่ะ” เกษตรถาม

“ข้าฟังแล้ว คิดว่า อดทนอีกหน่อย เหนื่อยอีกหน่อย ก็เพื่อข้าวชามหนึ่ง
คนอื่นจะแกล้งอย่างไร ก็ไม่คิดโกรธ ไม่เกี่ยงงอน ก็ได้แล้ว
พระอาจารย์ไม่ได้ชี้แนะลักษณะนี้หรือ?”

ทั้งสองเก็บความสงสัยไปถามพระอาจารย์ พระอาจารย์ก็ชราภาพมากแล้ว
ท่านก็ยังคงปิดตานิ่งอยู่นาน ตอบมาอีกห้าคำเหมือนกัน
“แค่ความคิดช่วงหนึ่ง” แล้วก็โบกมือให้ออกไปได้


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 23, 2014, 04:52:54 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #106 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 08:49:37 pm »



๗๕. สรรพสิ่งล้วนก่อเกิดขึ้นจากที่ใจ

พระอาจารย์และลูกศิษย์ขณะที่กำลังเดินทางไปในที่แห่งหนึ่ง
ลูกศิษย์ซึ่งต้องแบกสัมภาระและเครื่องใช้ต่างๆ เดินไปบ่นไป ว่า
เหนื่อยและหนัก เดินไปสักประเดี๋ยว ก็บ่นว่าเหนื่อยและจะขอ
แวะพักบ่อยๆ

เมื่อเดินผ่านเข้าไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง พอดีมีสาวนางหนึ่ง เดินออกมา
จากบ้าน พระอาจารย์จึงเดินเข้าไปจับสองมือของสาวนางนั้น
สาวนั้นตกใจร้องช่วยด้วยเสียงดังลั่น คนในบ้านและชาวบ้านออกมาดู
นึกว่าพระจะลวนลามหญิงสาว จึงพากันถืออาวุธแล้วจะวิ่งไล่ตี
พระอาจารย์จึงวิ่งหนี ส่วนลูกศิษย์ที่ถือสัมภาระอยู่ ก็วิ่งหนีตามอย่างไม่
คิดชีวิตเหมือนกัน เมื่อกะว่าชาวบ้านไม่ไล่ตามมาแล้ว
พระอาจารย์จึงหยุดพัก แล้วถามลูกศิษย์ว่า “ยังรู้สึกว่าหนักหรือเปล่า?”

ลูกศิษย์รู้สึกประหลาดใจ ที่เมื่อกี้ขณะที่เหตุการณ์ชุลมุน ทำไมถึงไม่รู้สึกว่า
เหนื่อยและรู้สึกว่าสัมภาระหนักเลย จึงได้เรียนรู้ขึ้นมาว่า
                                “ สรรพสิ่งล้วนก่อเกิดขึ้นมาจากที่ใจ ”

                   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2014, 09:34:03 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #107 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2012, 09:16:06 pm »




๗๖. หลักการของจักรยานทดน้ำ

พระอาจารย์ท่านหนึ่งขณะที่กำลังเดินทางไปโปรดญาติโยมตามที่ต่างๆ
ขณะที่ผ่านที่แห่งหนึ่ง รู้สึกหิวน้ำจึงเดินตามหาแหล่งน้ำ บังเอิญเห็น
ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปั่นจักรยานน้ำเพื่อทดน้ำเข้านา จึงขอน้ำดื่มจาก
ชายผู้นั้นเมื่อชายหนุ่มประเคนน้ำดื่มแล้ว พูดขึ้นด้วยความเลื่อมใสศรัทธาว่า

“พระอาจารย์ครับ วันหนึ่งถ้าข้าพเจ้าปลงตกแล้วจะออกบวชศึกษาธรรมะเช่น
เดียวกับท่าน แต่ว่าเมื่อข้าพเจ้าออกบวชแล้ว จะไม่ออกเทศนาโปรดญาติโยม
ไปทั่วเหมือนเช่นท่าน ข้าพเจ้าจะหาที่ที่สงบวิเวก ตั้งหน้าตั้งตั้งตานั่งสมาธิ
วิปัสสนา ไม่ออกมาวุ่นวายกับโลกภายนอก”

พระอาจารย์อมยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ แล้วเมื่อไหร่เจ้าถึงจะปลงตกได้ ?”

“ในหมู่บ้านนี้ คนรุ่นเดียวกับข้าพเจ้าก็มีข้าพเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่
เข้าใจวิธีการของจักรยานน้ำที่ทดน้ำเข้านา ซึ่งคนทั้งหมู่บ้านก็ต้องอาศัย
แหล่งน้ำจากที่นี่ หากข้าพเจ้าสามารถหาคนที่มาทำงานแทนข้าพเจ้า
และเมื่อไม่มีภาระที่ต้องรับผิดชอบติดตัว ข้าพเจ้าก็สามารถหาทางออก
ให้ตัวเองได้ เมื่อนั้น...
ข้าพเจ้าก็จะ สลัด ทุกอย่างออกจากตัว แล้ว ออกบวช ” ชายหนุ่มตอบ

“ได้เจ้าเป็นผู้ที่เข้าใจเรื่องจักรยานน้ำมากที่สุด หากจักยานน้ำทั้งคัน
จมอยู่ในน้ำ หรือรถทั้งคันพ้นจากน้ำ แล้วจะเป็นยังไง?”

                     

“หลักการที่แท้จริงคือต้องให้ครึ่งหนึ่งของช่วงล่างจมอยู่ในน้ำ ครึ่งหนึ่ง
ของด้านบนทวนกระแสน้ำแล้วหมุน ถ้าให้จักรยานทั้งคันจมอยู่ในน้ำ
ไม่แต่ทำให้ไม่หมุนแล้ว ยังจะต้องถูกกระแสน้ำพัดพาไปทั้งคัน และใน
หลักการเดียวกัน ถ้าให้ทั้งหมดอยู่พ้นน้ำก็ไม่สามารถทดน้ำขึ้นมาได้”

พระอาจารย์กล่าวต่อว่า “ความเกี่ยวข้องของจักรยานน้ำกับกระแสน้ำ
ก็เหมือนกับความเกี่ยวพันของคนกับโลกของเรา หากคนๆหนึ่งอยู่ในก
โลมนุษย์ที่ยังอยู่ในเพศฆราวาส ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องถูกกระแสแห่งกิเลส
แบบโลกๆซัดพาไป และหากเข้ามาอยู่ในเพศบรรพชิต
คิดจะใช้ชีวิตสูงส่งใสสะอาด ไม่ไปคลุกคลีไปมาหาสู่กับคนในโลก ก็จะ
ทำให้ชีวิตล่องลอยไปเหมือนขาดราก หมุนวนไปอย่างเปล่าประโยชน์

เพราะเหตุนี้คนที่จะปฏิบัติธรรม จะอยู่เป็นที่หรือจะออกไปโลกภายนอกก็ได้
ตามโอกาสจะต้องไม่เป็นผู้นิ่งดูดายหรือเข้าไปทุ่มสุดตัว
ต้องให้ทั้งฆราวาสและบรรพชิตต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือจุนเจือซึ่งกันและกัน
นี่ถึงจะเป็นการกระทำที่ถูกต้อง
ทั้งต่อ เพื่อนมนุษย์ และต่อ หน้าที่ ที่ถูกต้อง ของผู้ออกบวชฝึกปฏิบัติธรรม



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2013, 11:43:21 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #108 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 04:06:05 pm »

               

๗๖. ๑ ดูคัมภีร์วันละคำ

วันหนึ่ง พระอาจารย์ท่านหนึ่งถามศิษย์ว่า “วันหนึ่งเจ้าดูคัมภีร์กี่เล่ม?”
“เจ็ดแปดเล่ม บางทีก็สิบเล่ม” ลูกศิษย์ตอบ
พระอาจารย์พูดว่า “เจ้าดูคัมภีร์ไม่เป็น”
ลูกศิษย์เลยถามว่า “แล้วอาจารย์ดูวันละกี่เล่ม?”
“วันหนึ่งดูหนึ่งคำ” อาจารย์ตอบ

             

คำพูดของอาจารย์ที่ว่าวันหนึ่งดูหนึ่งคำ คือจิต
จิตครอบคลุมสรรพสิ่ง จิตคือธรรมะ จิตก่อให้เกิดสรรพสิ่ง
จิตคือทุกอย่าง จิตคือพุทธะ

ดูตำราแม้จะมีประโยชน์ เข้าใจผิดไปกลับมีโทษ
ตำราอาจจะเป็นยา หรืออาจเป็นยาพิษ
การให้ยากับโรค ให้ถูกโรคหาย ให้ผิดอาจถึงตาย

ดังนั้น การอ่านคัมภีร์จะไม่ระมัดระวังไม่ได้
ตำราคัมภีร์มีเป็นพันๆเล่ม ไม่รู้จะเริ่มอ่านเล่มไหนก่อน
ธรรมะแปดหมื่นสี่พันข้อ สามารถเข้าถึงธรรมได้ทุกข้อ
เราอาจไม่รู้จะเริ่มที่ข้อไหนก่อน

แต่การดูจิตสามารถดูได้ทุกที่ทุกเวลา
จนมีผู้กล่าวว่า "ตู้พระไตรปิฎกก็อยู่ในจิตของเรานั่นเอง"

           
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 21, 2014, 09:45:19 pm โดย ฐิตา »

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด
Re: @ นิทานเซ็น @ รวมหลายเรื่องจากเวบไซต์ อกาลิโก
« ตอบกลับ #109 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2012, 06:20:44 pm »


             

๗๖. ๒ สะอาด

ครั้งหนึ่งมีการจัดการปฏิบัติธรรมเจ็ดวัน ที่วัดแห่งหนึ่ง
วันนั้นจะมีหัวข้อบรรยายธรรมเรื่อง “ สะอาด ”
ขณะที่พระอาจารย์กำลังเริ่มต้นจะบรรยายธรรม
มีเสียงคล้ายกับจะถามคำถามดังมาจากหมู่ผู้ปฏิบัติธรรม
พระอาจารย์จึงถามขึ้นว่า “ใคร ใครจะถามอะไร?”

ปรากฏว่ามีเด็กหญิงอายุประมาณ 12-13 ปี ยกมือขึ้นมาว่าจะถาม
พระอาจารย์จึงเรียกให้เด็กหญิงนั้นเดินมาข้างหน้า เด็กหญิงนั้นเดินมา
ข้างหน้าแล้วพนมมือ ไหว้พระอาจารย์ แล้วพูดว่า
“พระอาจารย์ ข้าพเจ้าอาบน้ำทุกวัน สะอาดมากพอแล้ว ทำไมยังต้องสะอาดอีก”



พระอาจารย์จึงชี้มือไปยังบริเวณด้านนอก แล้วบอกกับเด็กหญิงว่า
“แถวนั้นมีดอกกุหลาบแดงบานอยู่ สวยไม่สวย ชอบหรือไม่?”
“สวยเจ้าค่ะ ชอบค่ะ”
“งั้นไป ไปเด็ดมา”

เด็กหญิงนั้นไปเด็ดแล้วนำมาให้พระอาจารย์ พระอาจารย์หยิบมาแล้ว
ก็นำไปปักไว้ในแจกันที่ว่างใบหนึ่ง แล้วถามว่า

“แถวๆนั้นยังมีกุหลาบอีกมากมาย จะเด็ดมาให้หมดหรือเปล่า?”
“ไม่เด็ดเจ้าค่ะ” เด็กหญิงตอบ
“ทำไม” พระอาจารย์ถาม
“หากเด็ดจนหมด ดูแล้วด้วนๆ ไม่สวย ทำลายดอกไม้เยอะแยะอย่างนั้นทำไม?”

“ในแจกันปักดอกกุหลาบเพียงดอกเดียว ดูแล้วไม่ยิ่งน่าเกลียดไปกว่าหรือ?”
“ไม่เจ้าค่ะ หากเด็ดมาหมด ก็เป็นการโลภเกินไป”
“โลภ ไม่ดีหรอกหรือ” พระอาจารย์ถาม
“ไม่ดี ไม่สะอาด”

พระอาจารย์จึงตอบว่า “นั่นแหละ หากในจิตไม่โลภ ไม่หลง นั่นแหละ
คือ “สะอาด” เจ้าอยากจะมีจิตที่สะอาดไม่เปรอะเปื้อนหรือเปล่า?”
“อยากเจ้าค่ะ” เด็กหญิงตอบ