๗๓.
๔ ชีวิตคล้ายดั่งใบชาใบชาถูกน้ำร้อนถึงจะออกรสและกลิ่นที่หอมกรุ่นนุ่มลึก
ชีวิตก็ต้องพบกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงจะเกิดความหอมกรุ่นของชีวิต
มีชายหนุ่มที่พบกับความผิดหวังคนหนึ่งมาที่วัด พบกับพระอาจารย์แล้ว
เล่าระบายทุกข์ให้ฟังว่า “เฉกเช่นคนอย่างข้าพเจ้าซึ่งผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
มีชีวิตก็เพียงแค่อยู่ไปวันๆ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
พระอาจารย์นั่งนิ่งอย่างสงบและสำรวม ฟังชายหนุ่มคนนั้นรำพึง
รำพันและทอดถอนใจ ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่สั่งพระที่เป็นอุปัฏฐากว่า
“ประสกท่านนี้เดินทางมาแต่ไกล ไปหาน้ำอุ่นมาสักกาซิ”
เมื่อพระนั้นยกกาน้ำอุ่นมาให้ พระอาจารย์จึงหยิบใบชามาใส่ไว้ในแก้ว
แล้วรินน้ำอุ่นลงในแก้ว พลางยื่นแก้วนั้นให้กับชายหนุ่ม แล้วพูดว่า
“ประสก เชิญดื่มชาก่อน”
ชายหนุ่มก้มหน้าลงมองแก้วชานั้น เห็นไอความร้องลอยอ้อยอิ่งออกมาเล็กน้อย
มีใบชาลอยขึ้นมาอยู่นิ่งๆ
ชายหนุ่มถามขึ้นอย่างๆไม่เข้าใจว่า “ทำไมวัดนี้ถึงใช้น้ำอุ่นชงชา?”
พระอาจารย์ไม่พูดอะไร เพียงแต่แสดงทีท่าว่า “ดื่มชาก่อนเถอะ”
ชายหนุ่มนั้นจึงจำใจยกชาขึ้นมาจิบไปสองสามครั้ง”
พระอาจารย์ถามว่า “ชานี้คงจะหอมซินะ”
ชายหนุ่มนั้นจึงค่อยๆยกชาขึ้นมาจิบเพื่อลิ้มรสอย่างช้าๆ พลางส่ายหัวพูดว่า
“นี่เป็นชาอะไรครับ ความหอมสักนิดก็ไม่มี”
พระอาจารย์ยิ้มพลางและพูดว่า
“นี่เป็นใบชาชื่อดังที่ชื่อว่ากวนอิมเหล็ก ทำไมถึงไม่หอมล่ะ”
ชายหนุ่มนั้นเมื่อได้ฟังว่าเป็นใบชารสเลิศที่ชื่อกวนอิมเหล็ก
ก็รีบยกแก้วขึ้นมาแล้วใช้ลมเป่าเศษใบชาที่ลอยอยู่ออก แล้วค่อยๆ
จิบเพื่อลิ้มรสชาติใหม่ แล้ววางแก้วลงพลางยืนยันอีกว่า
“ไม่มีกลิ่นชาแม้แต่สักนิดจริงๆ”
พระอาจารย์จึงสั่งพระอีกรูปหนึ่ง ให้เอาน้ำเดือดมาอีกกา
เมื่อกาน้ำร้อนมาแล้ว พระอาจารย์จึงหยิบใบชาใส่ลงในแก้วอีกใบหนึ่ง
แล้วเติมน้ำร้อนลงไป แล้วยกไปวางไว้ข้างหน้าชายหนุ่ม
ชายหนุ่มนั้นก้มหน้ามองไปที่แก้วน้ำใบนั้น ก็เห็นใบชาในแก้วลอยขึ้นลง
ไปตามแรงวนของใบชา แล้วสักครู่ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆของใบชา
ลอยขึ้นมาแตะจมูก ชายหนุ่มนั้นเผลอยกขึ้นมาสูดกลิ่น
พระอาจารย์พูดขึ้นมาว่า “ช้าก่อน พ่อหนุ่ม”
พลางเติมน้ำร้อนลงในแก้วเพิ่มขึ้นอีก ชายหนุ่มนั้นก้มหน้าลงมองแก้วน้ำ
ก็เห็นใบชาเหล่านั้นลอยขึ้นและจมลงหมุนวนคละไปทั่ว พร้อมกับ
ได้กลิ่นหอมอ่อนของใบชาลอยอบอวลขึ้นมานอกแก้วชา
พระอาจารย์เติมน้ำร้อนเพิ่มลงในแก้วอีกหลายครั้ง
จนน้ำเต็มแก้ว พลางถามว่า “ประสก ทำไมใช้ใบชาชนิดเดียวกัน
ทำไมกลิ่นชาถึงแตกต่างกัน?”
“ใบหนึ่งใช้น้ำอุ่นชง อีกใบหนึ่งใช้น้ำเดือดชง เพราะใช้น้ำที่แตกต่างกัน หนุ่มนั้นตอบ
“ใช้น้ำที่ต่างกัน การลอยของใบชาก็แตกต่างกัน ใบชาที่ใช้น้ำอุ่น ใบชาจะ
ลอยเอื่อยๆ ไม่มีการลอยแล้วจม แล้วใบชาจะแผ่กระจายความหอมออกมาได้อย่างไร?
แต่ใบชาที่ชงกับน้ำเดือด ผ่านน้ำร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า ใบชาจมแล้วก็ลอย
ลอยแล้วก็จม ลอยๆจมๆใบชาก็จะแผ่ขจายกลิ่นหอมของฝนที่รับมาจากฤดูใบไม้ผลิ
ความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ได้ในฤดูร้อน ความเย็นสงบในหน้าหนาว
คนมากมายในโลกนี้ มีอะไรไม่เหมือนชาเล่า คนที่ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาว
ใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับใช้น้ำอุ่นชงชา ใบชาลอยไปเสมอกัน
ไม่สามารถกลั่นเอาความหอมและปัญญาออกมาได้
และคนที่ต้องพบกับอุปสรรคและทุกข์ลำเค็ญอดมื้อกินมื้อ
พบกับความโชคร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ก็เหมือนใบชา
ที่ชงกับน้ำร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาผ่านวันเวลาฝ่าลมฝนพายุที่ขึ้นๆลง
เสมอมา ทำให้ชีวิตของพวกเขาค่อยๆกลั่นความหมายออกมา
สวนกระแสขึ้นมาเหมือนใบชา แล้วพวกเราทำไมจะไม่เหมือนชีวิตของชา
ชะตาชีวิตทำไมจะไม่เหมือนกาน้ำอุ่นหรือน้ำเดือด
ใบชาเพราะถูกน้ำร้อนจัด จึงคายความหอมที่บ่มเพาะอยู่ในตัวออกมา
และชีวิตก็มีแต่พบอุปสรรคและความยากลำบาก
ถึงจะบ่มเพาะความหอมที่มีอยู่ในตัวออกมา