โรคผิวหนังในออฟฟิศ ภัยร้ายใกล้ตัวที่คุณอาจคาดไม่ถึง
-http://men.kapook.com/view49723.html-
โรคผิวหนังในออฟฟิศ ภัยร้ายใกล้ตัวที่คุณอาจคาดไม่ถึง (Men's Health)
เรื่อง นพ.ประยูร เจนตระกูลโรจน์
โลกของเราเต็มไปด้วยเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราชนิดต่าง ๆ กระจายอยู่ทุกที่ แถมเราก็ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่จำกัดบริเวณกันมาก และสถานที่เหล่านั้นก็มักเป็นสถานที่ปิด ซึ่งอาจไม่ได้รับการทำความสะอาด หรือมีอากาศและแสงแดดอย่างเพียงพอ ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะสถานที่ที่เราเหล่ามนุษย์เงินเดือนใช้ชีวิตอยู่กว่าครึ่งค่อนวัน นั่นก็คือ ออฟฟิศของเรา ซึ่งนอกจากจะทำให้ติดเชื้อเกิดอาการเจ็บป่วยแล้ว เชื้อโรคเหล่านี้ยังทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้ด้วยครับ
ป่วยเพราะที่ทำงาน
มีงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยซานดิเอโกสเตททำร่วมกับมหาวิทยาลัยแอริโซนาระบุว่า ในออฟฟิศตามเมืองใหญ่มีเชื้อแบคทีเรียกระจายอยู่ทั่วไม่ต่ำกว่า 500 ชนิด ซึ่งมีจำนวนใกล้เคียงกับแบคทีเรียในห้องน้ำและในเครื่องบินโดยสารเลยล่ะ โดย แบคทีเรียเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในออฟฟิศได้โดยมีคนเป็นพาหะนำมาทั้งจากผิวหนังของเรา น้ำลาย น้ำมูก ที่หลุดร่วงหรือกระเด็นกระดอนออกมาจากตัวระหว่างทำงาน เชื่อหรือไม่ว่าแบคทีเรียหรือเชื้อราบางชนิดสามารถอาศัยและสืบพันธุ์อยู่ได้เป็นเวลาหลายปีเชียวล่ะ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
1. ไวรัส สามารถทำให้เกิดผื่นได้หลายโรค บางชนิดเป็นผื่นทั้งตัว บางชนิดเป็นเฉพาะที่ ไวรัสที่ทำให้เกิดผื่นทั้งตัว เช่น โรคหัด โรคหัดเยอรมัน โรคไข้สุกใส โรคมือเท้าปาก ไวรัสที่ก่อให้เกิดผื่นเฉพาะที่ เช่น โรคเริม โรคงูสวัด เป็นต้น เชื้อไวรัสมักอาศัยการแพร่กระจายทางอากาศและการสัมผัส ลมหายใจ หรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อหรือเป็นพาหะโดยตรง เพราะคนที่เป็นอาจจามแล้วมาจับลูกบิดประตู หากคุณไปจับต่อแล้วเอามือมาขยี้ตา ก็ทำให้ติดเชื้อได้เหมือนกัน
การป้องกันทำได้โดยหมั่นล้างมือให้สะอาด หรือใช้เจลล้างมือแทนก็ได้ โดยเจลล้างมือทั่วไปมีประสิทธิภาพในการป้องกันที่ดี ซึ่งจะฆ่าเชื้อไวรัสได้โดยการจับตัวไปที่ผนังหุ้มเซลล์ของไวรัสเหล่านั้น และสามารถฆ่าเชื้อไวรัสทั่วไปได้ แต่เชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เชื้อมือเท้าปาก ไม่มีเยื่อหุ้มผนังเซลล์ เจลล้างมือทั่วไปจึงไม่สามารถทำลายเชื้อตัวนี้ได้ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อจึงควรสอบถามผู้ขายให้ดีก่อน ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้มือไปจับหน้าจับตาหรือกินอะไร โดยไม่ล้างมือ รวมทั้งไม่ทานอาหารร่วมกับคนอื่น โดยไม่มีช้อนกลาง (ถ้าเป็นไปได้) และหากมีบาดแผลก็ควรปิดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วยนะ ส่วนการแพร่กระจายเชื้อในอากาศ แม้เครื่องฟอกอากาศหรือแอร์ที่มีระบบฆ่าเชื้อจะกำจัดไวรัสบางชนิดได้ แต่ก็ไม่ได้ทุกชนิด ดังนั้นจึงควรสวมหน้ากากเมื่อไม่สบาย เพื่อลดการแพร่เชื้อ หรือหยุดงานจนกว่าจะหายดีกว่า
2. แบคทีเรีย ขณะที่ไวรัสมักกระจายตัวตามอากาศ หรือสารคัดหลั่งที่ออกมาจากร่างกาย แต่แบคทีเรียจำนวนมากใช้ผิวหนังของมนุษย์เป็นที่อยู่อาศัยเสมือนร่างกายมนุษย์คือโลกของมัน ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่แบคทีเรียชอบสิงสถิตคือบริเวณที่มีความชื้นได้แก่ รูจมูก บริเวณหู ซอกขา ซอกแขน รักแร้ ง่ามมือ ง่ามเท้า ทั้งนี้ แบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังแต่ละส่วนของร่างกาย ก็เป็นแบคทีเรียต่างชนิดกัน เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะกำจัดแบคทีเรียออกไปให้หมดจากผิวหนัง และไม่ควรทำด้วยนะ เพราะแบคทีเรียประจำถิ่นที่อยู่อาศัยบนผิวจะปกป้องคุณจากแบคทีเรียอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายยิ่งกว่านั่นเอง
แบคทีเรียบนผิวหนังอาจร่วงหล่นไปตามบริเวณต่าง ๆ ที่คุณเดินผ่านหรือสัมผัส ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งการติดเชื้อสามารถติดทางการหายใจได้เช่นเดียวกับไวรัส แต่ในออฟฟิศมักเกิดจากการสัมผัสผิวหนังของคนที่เป็นโรคหรือโดยการกินหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนมากกว่า
แบคทีเรียบางชนิดเป็นตัวการก่อให้เกิดสิว โดยสามารถพบได้ตามผิวหนัง ผม ขน ช่องปาก บางชนิดทำให้เป็นฝี ผิวพุพอง รูขุมขนอักเสบ โรคในออฟฟิศที่เกิดจากแบคทีเรียที่มักเป็น เช่น ปอดอักเสบ ทอนซิลอักเสบ หูอักเสบ ท้องเสีย แผลอักเสบ ซึ่งการป้องกันทำได้โดยการหมั่นล้างมือเช่นเดียวกัน
แม้แบคทีเรียจะชอบอยู่บริเวณผิวหนังที่มีความชื้นบนร่างกายมากกว่า แต่หากผิวหนังแห้งขาดความชุ่มชื้น ผิวหนังก็จะเปราะบาง จนทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดีสามารถแทรกซึมเข้าไปตามรูขุมขน และทำร้ายคุณได้เหมือนกัน ดังนั้นควรรักษาความสะอาดและความชุ่มชื้นเพื่อผิวที่แข็งแรงด้วยนะ
3. เชื้อรา มีทั้งราดีและราอันตราย ราที่ดีจะช่วยย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ ราบางตัวก็นำมาทานได้ เช่น เห็ด หรือยีสต์หมักขนมปัง ส่วนราที่ให้โทษแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่ทำลายผิวมนุษย์โดยตรง และกลุ่มที่ทำลายและกัดกินเนื้อเยื่อของมนุษย์โดยตรง
ราที่ไม่ก่อโรค เป็นราที่จะเกิดปฏิกิริยากับระบบอวัยวะสัมผัสซึ่งทำให้เกิดภูมิแพ้ในบางคน เพราะเชื้อราพวกนี้มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่เรียกว่า สปอร์ ซึ่งกระจายอยู่ในอากาศ พบได้ทั่วไปทั้งในบ้านและนอกบ้านรวมถึงที่ทำงาน ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ซึ่งเกิดเฉพาะในบางคนที่แพ้เท่านั้น หากเป็นภูมิแพ้ที่ปอดก็จะมีอาการหอบหืด หากเป็นที่เยื่อบุจมูกก็จะมีน้ำมูกไหล ไอ จาม หรือถ้าเป็นเยื่อบุตาก็จะคันตา ตาแดง น้ำตาไหล ซึ่งอาการที่ว่านี้ตัวราเองไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เป็นเพราะว่าคนที่แพ้สูดหายใจหรือสัมผัสเอาฝุ่นเข้าไปจึงเกิดมีอาการขึ้น คนที่ไม่แพ้ก็จะไม่มีอาการใด ๆ การกำจัดเชื้อราประเภทนี้คือ พยายามอย่าให้เกิดความชื้นหรืออับทึบ ถ้าพบว่ามีเชื้อราเกิดขึ้นควรกำจัดโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา ชนิดที่หาซื้อง่ายและราคาไม่แพงคือ น้ำยาดับกลิ่นไลโซล หรือน้ำยาฟอกผ้าขาว เช่น คลอร็อกซ์ เป็นต้น
ส่วนราในกลุ่มที่สองจะก่อโรคโดยตรงกับเรา เพราะตัวเชื้อราเองย่อยหรือกินเนื้อเยื่อของมนุษย์โดยตรง อย่างถ้าเป็นที่ผิวหนังชั้นนอกส่วนบน เช่น กลาก เกลื้อน เชื้อราที่เล็บ ซึ่งแม้จะไม่รักษาก็ไม่ได้ทำอันตรายถึงตาย เพียงแค่ก่อความรำคาญเพราะอาการคันและดูไม่สวยงามเท่านั้น ตัวเชื้อกลาก นั้นมาจากสิ่งแวดล้อมโดยการสัมผัส เช่น สัตว์เลี้ยง ดินยานพาหนะต่าง ๆ ซึ่งราพวกนี้รักษาไม่ยาก ส่วนเกลื้อนที่เป็นวงขาว ๆ มักจะขึ้นช่วงหน้าร้อน คนที่เคยเป็นแล้วมีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก จึงต้องระวังไม่ให้ร่างกายอับชื้น อาบน้ำให้สะอาดทั้งเช้า-เย็น และป้องกันได้โดยหมั่นล้างมือบ่อย ๆ
โดยปกติแล้ว มนุษย์เราสัมผัสกับเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 60,000 ชนิดในแต่ละปี ปราการด่านแรกที่เชื้อโรคต้องเผชิญคือ ผิวหนังของเรา ดังนั้น จึงควรดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรง ทานอาหารให้ครบทุกหมู่ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ ทำความสะอาดร่างกายอย่างเหมาะสม อย่าขัดผิวหรือทำให้ผิวระคายเคืองมากเกินไป เพราะจะทำให้ผิวอ่อนแอ ทั้งนี้ นอกจากดูแลตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมรักษาความสะอาดสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือสถานที่ทำงานให้สะอาดอยู่เสมอ จะทำให้พนักงานมีสุขภาพดี และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยนะ
สถานที่อันอุดมไปด้วย เชื้อโรคในออฟฟิศ
โดยมากเชื้อโรคทั้งหลายชอบที่ที่มีความชื้น และไม่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง เหล่าร้ายพวกนี้จึงมักสิงสถิตอยู่ตามลูกบิดประตู ปุ่มกดในลิฟต์ สวิตช์เปิด-ปิดแอร์หรือพัดลม สวิตช์ไฟ ราวบันได ห้องประชุม เอกสารเวียนหนังสือที่ใช้ร่วมกัน เก้าอี้ โซฟา หมอนอิง โทรศัพท์ เม้าส์ คีย์บอร์ด คอมพิวเตอร์ หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทีวี รีโมตทีวี หูจับตู้เย็น ประตูเปิด-ปิดเตาไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อน ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดโต๊ะ บริเวณต่าง ๆ ในห้องน้ำ เป็นต้น ฉะนั้น อย่าลืมล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสสิ่งเหล่านี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณนะครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
-http://www.mhthailand.com/main.php-
ฉบับ กันยายน 2555
http://www.mhthailand.com/main.phphttp://men.kapook.com/view49723.html.