ริมระเบียงรับลมโชย > รับสายลมเย็นหน้าระเบียง
ในหลวง มีพระราชดำรัส ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
sithiphong:
เนืองแน่นข้ามคืน รับเสด็จ ทรงออกสีหบัญชร
-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakExTVRJMU5RPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1pMHhNaTB3TlE9PQ==-
ที่จ.ปราจีนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดหน้าค่ายจักรพงษ์ อ.เมือง มีประชาชนตามหมู่บ้านและข้าราชการเริ่มทยอยมาซื้อเสื้อเหลืองเป็นจำนวนมาก เพื่อสวมใส่ในงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา นางกัญญารัตน์ แจ่มศรี เจ้าของร้านเสื้อผ้าร้านตาเงาะ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้สั่งของมาเตรียมรองรับจำนวนมาก คาดว่าจะขายดีในวันที่ 4-5 ธ.ค.นี้ ด้านนางกรณิกา ชมความสุข ร้านเจ้กิมเองผ้าเมตร กล่าวว่า การซื้อขายเสื้อเหลืองปีนี้คึกคัก ส่วนราคาจำหน่ายอยู่ที่ตัวละ 100 กว่าบาท
ที่จ.นครราชสีมา มีประชาชนพากันไปเลือกซื้อเสื้อสีเหลืองสัญลักษณ์ประจำพระองค์ที่ตลาดจำหน่ายเสื้อผ้า ถ.ตรอกจันทร์ อ.เมือง นางชุติมา ธีระเดชากิจ แม่ค้าจำหน่ายเสื้อผ้า กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เสื้อสีเหลืองที่มีสัญลักษณ์ประจำพระองค์จะขายดีมาก รองลงมาคือสีชมพู โดยมีพนักงานหน่วยงานราชการและพนักงานบริษัทต่างๆ มาเลือกซื้อไปสวมใส่กันเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยขายได้วันละไม่ต่ำกว่า 50 ตัว ทำให้มีรายได้ 5,000-6,000 บาทต่อวัน ทำให้ปริมาณเสื้อเหลืองไซซ์ผู้ใหญ่ขาดตลาด ส่วนใหญ่จะเหลือเพียงเสื้อขนาดเล็กและเสื้อเชิ้ตที่ไม่มีสัญลักษณ์
หนองคายสวดมนต์ถวายพร
ที่จ.หนองคาย คณะครูและนักเรียน ร.ร.อนุบาลหนองคาย ร่วมกันสวดมนต์ขอพรหลวงพ่อพระใส พระคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หายจากพระประชวรโดยเร็ว นายสัมฤทธิ์ เจริญดี ผอ.ร.ร. อนุบาลหนองคาย กล่าวว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการค่ายคุณธรรม ปี 2555 ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี "ทำความดีถวายในหลวง เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2555" ส่งเสริมให้นักเรียนได้กระทำความดีตามที่ตนเองต้องการ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และปลูกฝังให้นักเรียนและครอบครัวมีความจงรักภักดี
ด้านนายอโณทัย ธรรมกุล ปลัดจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านทบทวนจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 4-5 ธ.ค. ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ โดยมีลูกเสือชาวบ้าน 300 คน จาก 9 อำเภอ ร่วมเข้าอบรม
ปฏิบัติธรรม-อุปสมบทหมู่ถวาย
ที่จ.เลย เรือนจำจังหวัดเลย จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณของข้าราชการเรือนจำจังหวัดเลย เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดินปี 55 มีนายวีรชัย เพชรรัตน์ ผบ.เรือนจำจังหวัดเลย เป็นประธาน พร้อมทำบุญตักบาตรพระ 9 รูป จากนั้นประธานฝ่ายสงฆ์ ได้นำข้าราชการของเรือนจำและผู้ต้องขังของเรือนจำจังหวัดเลยประมาณ 1,700 คน ทั้งชายและหญิง ร่วมกันนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
ที่จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานพิธีอุปสมบทหมู่จำนวน 25 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และบำเพ็ญคุณงามความดีถวายเป็นพระราชกุศล ณ วัดศรีจันทร์ พระอารามหลวง อ.เมือง ส่วนที่หอประชุม 72 ปี ดร.ประภา ภักดิ์โพธิ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 นายสายัณย์ ผาน้อย ผอ. (สพป.เขต1) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและแสดงออกถึงความจงรักภักดี
ที่จ.บุรีรัมย์ นายมานะ อักษรณรงค์ ผอ. ร.ร.อนุบาลบุรีรัมย์ พร้อมคณะครู เจ้าหน้าที่ ผู้ปกครอง และนักเรียนกว่า 2,000 คน ร่วมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล นอกจากนี้ ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลานิล และปลาตะเพียน จำนวน 100,000 ตัว ลงในคลองละลมโบราณลูกที่ 4 บริเวณหน้าศาลเจ้าแม่บัวลอย ชุมชนหลักเมือง เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
อยุธยาเสื้อเหลืองขาดตลาด
ที่ตลาดหัวรอ จ.พระนครศรีอยุธยา ประชาชนพากันเลือกซื้อเสื้อสีเหลืองอย่างคึกคัก นางรัตนา แก้วรัตนปัทยา อายุ 55 ปี เจ้าของร้านเสื้ออั่งเปา กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์มีประชาชนมาเลือกซื้อเสื้อสีเหลืองไม่ขาดสาย โดยประชาชนทั่วไปนิยมเสื้อยืด ส่วนข้าราชการนิยมเสื้อคอปกหรือเสื้อเชิ้ต แต่ตอนนี้เกิดปัญหาเสื้อขาดตลาด เนื่องจากแบบที่ผลิตออกมาจำหน่ายมีน้อย ไม่ทันกับความต้องการของประชาชนที่สูงขึ้น
ที่จ.ศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อม รอง ผวจ.ศรีสะเกษ และนายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียนและนักศึกษา ร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ณ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำคำ) โดยสัตว์น้ำที่นำมาปล่อย ประกอบด้วย ปลานิล ปลาตะเพียน ปลากระแห และปลายี่สกเทศ ทั้งนี้พันธุ์ปลาส่วนหนึ่งจะมอบให้ชุมชนต่างๆ ในเทศบาลเมืองศรีสะเกษ นำไปปล่อยในแหล่งน้ำของตน เพื่อช่วยกันขยายพันธุ์สัตว์น้ำต่อไป
ปล่อยพันธุ์ปลา-กุ้ง-ปูม้า
ที่จ.ปัตตานี นายประมุข ลมุล ผวจ.ปัตตานี เป็นประธานในพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่อ่าวปัตตานี ประกอบด้วยพันธุ์กุ้งกุลาดำ 1 ล้านตัว พันธุ์ปลากะพงขาว 2 หมื่นตัว และพันธุ์ปูม้าอีก 1 หมื่นตัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติและอนุรักษ์ฟื้นฟูอ่าวปัตตานี โดยมีข้าราชการ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ชาวประมงพื้นบ้าน และประชาชนทั่วไป ร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ภายในงานยังจัดแสดงสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่มีอยู่ในอ่าวปัตตานี และสาธิตเมนูซีฟู้ดให้ผู้ร่วมงานลองชิมด้วย
ที่จ.นราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ นายอำเภอระแงะ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 นายนูซี มะเด็ง ผอ.โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39 และนายพิมาน ยูโซะ นายก อบต.ตันหยงมัส ร่วมเป็นประธานทำกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยปลูกต้นราชพฤกษ์และต้นตะเคียน 1,500 ต้น บริเวณริมถนนและสระน้ำภายในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39
กาญจน์แห่ซื้อเสื้อคึกคัก
ที่จ.กาญจนบุรี ประชาชนแห่ซื้อเสื้อเหลืองมีสัญลักษณ์ ภปร. มาสวมใส่ โดยเฉพาะที่ร้านศรีพูลทรัพย์ (เจ้เป้า) ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้าที่ใหญ่ที่สุดใน อ.เมือง มีทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไป ทยอยเดินทางไปเลือกซื้อเสื้ออย่างคึกคัก ด้านนายเสกสรรค์ บุญมา อายุ 44 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.10 ต.ปากแพรก อ.เมือง กล่าวว่า ตนพร้อมครอบครัว และเพื่อนๆ นัดกันใส่เสื้อสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์ ภปร. และจะร่วมกันจุดเทียนถวายพระพรให้ทรงหายพระประชวร มีพระวรกายแข็งแรง พระชนมายุยิ่งยืนนาน โดยตนจะสั่งสอนลูกชายให้เป็นคนดี และนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต
ชลบุรีปล่อยเต่าทะเล
ที่จ.ชลบุรี พล.ร.อ.ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายพระพรหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติภายใต้โครงการ "ปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติ ทำความดีถวายพ่อหลวง" โดยมี พล.ร.ต.นพดล สุภากร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมกับทหารเรือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป และศิลปินดารา รวมกว่า 1,500 คน ร่วมปล่อยเต่าทะเล จำนวน 986 ตัว ลงสู่ท้องทะเล ณ ชายหาดศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ อ.สัตหีบ
คนบันเทิงจุดเทียนถวายพร
ที่ลานการ์เด้น อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ กลุ่มคนบันเทิงรักประเทศไทย ประกอบด้วย ศิลปินดารา ค่ายเพลง ค่ายหนัง ค่ายละคร ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง จัดงาน "LONG LIVE THE KING จุดเทียนชัยถวายพ่อหลวง" เพื่อรวมพลังความศรัทธาและความสามัคคี แสดงความจงรักภักดี เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานเป็นไปอย่างคึกคัก ภายในงานมีการออกบูธขายของโดยเหล่าศิลปินดารา มีมินิคอนเสิร์ต พร้อมร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก
สำหรับศิลปินดาราที่มาร่วมงาน ได้แก่ ต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา และครอบครัว, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, ตุ๊กกี้-สุดารัตน์ บุตรพรหม, ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์, เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์, ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก, แตงโม-ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์, ตั๊ก-บงกช คงมาลัย, หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์, กอบสุข จารุจินดา, อี๊ด วงฟลาย, พี สะเดิด, ฟอร์ด-สบชัย ไกรยูรเสน, เมย์-พิชญ์นาฏ สาขากร, วิว-วรรณรท สนธิไชย, อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ ฯลฯ
แจกธงผู้จับจองที่รอรับเสด็จ
สำหรับยอดเงินรายได้จากการดำเนินการต่างๆ ทั้งออกบูธ รับบริจาค ประมูลของใช้ดารา และอื่นๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 147,491.50 บาท โดยจะนำไปสมทบทุนโครงการดังกล่าว จากนั้นก็นำรายได้ทั้งหมดไปมอบให้กับมูลนิธิพระดาบส
ต่อมาเวลา 18..00 น. หลังจากเคารพธงชาติแล้ว ศิลปินดาราและประชาชนที่มาร่วมงานจำนวน 785 คน ได้เดินออกไปยังลานหน้าอาคารเพื่อร่วมกันแปรอักษรคำว่า "LONG LIVE THE KING" ในขณะแปรอักษรได้ร่วมกันร้องเพลง สรรเสริญพระบารมี, พ่อของแผ่นดิน, สดุดีมหาราชา โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที พร้อมจุดเทียนชัยถวายพระพร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ประชาชนเข้าจับจองพื้นที่รอรับเสด็จ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้านั้น เจ้าหน้าที่ได้นำธงชาติและธงพระปรมาภิไธยไปแจกจ่าย เพื่อเตรียมไว้ระหว่างมีพระราชพิธีวันเฉลิมพระชนมพรรษา เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม
หมายกำหนดการพระราชพิธี 5ธ.ค.
สำหรับหมายกำหนดการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2555 นั้น เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้วพนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด
ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ จบ เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้าที่พระที่นั่งอนันตสมาคม นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ตามด้วยประธานรัฐสภาและประธานศาลฎีกา จากนั้นผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ จบ ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมถวายความเคารพพร้อมกัน
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอบ จบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึกประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเจ้าพนักงานรัวกรับและปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
เวลาบ่าย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 09.17 น. ถึง 17.00 น. สำนักพระราชวังจัดที่สำหรับลงพระนามและลงนามถวายพระพรไว้ที่ในพระบรมมหาราชวัง
ในวันที่ 6 ธ.ค. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 17.30 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เสด็จออก ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา คณะทูตต่างประเทศ และผู้แทนฝ่ายกงสุล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคลในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
แถลงการณ์พระอาการราชินี
สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ เรื่องสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระประชวรขณะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 12 ความว่า วันนี้คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้รายงานว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระอาการทั่วไปดีทรงพระดำเนินตลอดจนเคลื่อนไหวพระวรกายได้เกือบปกติ แต่ยังมีพระพลานามัยไม่สมบูรณ์เต็มที่ โอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันพุธ ที่ 5 ธันวาคม ศกนี้
คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีความเห็นพ้องต้องกันว่า แม้พระราชพิธีนี้จะเป็นพระราชพิธีสำคัญ แต่ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร กอปรกับเป็นพระราชพิธีเดียวที่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ต้องทรงยืนตั้งแต่ต้นจนเสร็จพิธี เว้นแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวประทับพระราชอาสน์ ดังนั้น หากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีนี้ ก็อาจจะต้องทรงฝืนกำลังพระวรกายเป็นอันมาก เนื่องจากทรงพระประชวรอยู่เป็นเวลาหลายเดือน แม้จะทรงทำกายภาพบำบัดด้วยการทรงพระดำเนินเป็นประจำ แต่พระพลานามัยก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ การเสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีนี้เป็นครั้งแรก อาจทำให้ทรงอ่อนเพลีย และต้องทรงฟื้นฟูพระวรกายอีกเนิ่นนานก็เป็นได้
คณะแพทย์ฯจึงกราบบังคมทูลขอให้ทรงงดพระราชกิจครั้งนี้ และต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้คณะแพทย์ฯได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทด้วยแล้ว จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง 4 ธันวาคม พุทธศักราช 2555
sithiphong:
ในหลวงตรัสขอบใจพสกนิกรที่แสดงพลังวันนี้ทำให้ทรงมีกำลังพระทัย-ทรงแนะยึดหลักเมตตาธรรมบ้านเมืองจะรอดปลอดภัย
-http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMU5EWTNPVGN4TVE9PQ==&subcatid=-
วันที่ 5 ธ.ค. เมื่อเวลา 09.54 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถเข็นเสด็จลงจากชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัตน์ พระวรชายา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ตามเสด็จ
โดยระหว่างทางประชาชนจำนวนมากสวมเสื้อสีเหลืองเฝ้ารับเสด็จ และต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วโรงพยาบาลศิริราช ยาวนานต่อเนื่องกันตลอดระยะเวลา หลังประทับรถยนต์พระที่นั่ง ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนช้าๆ ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและให้ประชาชนได้ชมพระบารมี มุ่งหน้าสู่พระที่นั่งอันตสมาคม
ทั้งนี้ ตลอด 2 ข้างทางเส้นทางเสด็จพระะราชดำเนินผ่าน ประชาชนเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องมิได้ขาด พร้อมกับโบกธงชาติ ธงพระปรมาธิภัยภปร. รวมถึงชูภาพฉายาลักษณ์ของพระบาทเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระอิริยาบทต่างๆ ที่ตระเตรียมมาด้วยแววตาเปี่ยมด้วยความสุข บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาแห่งความความปลื้มปิติไว้ไม่อยู่ที่ได้แสดงออกถึงความรักในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ประชาชนชาวไทยมีความสุข ด้วยหัวใจทุกดวงหลอมรวมเป็นดวงเดียวกัน
ต่อมาเวลา 10.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอนันตสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้าสีหบัญชร พร้อมแล้ว พนักงานรัวกรับ เปิดพระวิสูตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ชาวพนักงานกระทั่งแตรมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ ถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติฝ่ายละ 21 นัด
ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูล พระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ ความว่า
“ขอเดชะฝ่าละอองธุรพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม บัดนี้ อุดมมงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาอีกวาระหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติ ปราโมทพ้นประมาณ ที่ได้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทร่วมกับบรรดาข้าราชการ และประชาชน จากทุกถิ่นฐานทั่วราชอาณาจักร ซึ่งพร้อมใจมาชุมนุมในมหาสมาคมอันใหญ่ยิ่งนี้ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงเป็นผู้มีโชควาสนาที่เกิดมาในแผ่นดินไทยภายใต้พระบุญญาบารมี ภายใต้พระมหากรุณาชุบเลี้ยงให้มีความสุขความเจริญและมีเกียรติยศเป็นที่เชิดชู เจริญฐานานุศักดิ์ และทั้งได้เฝ้าสังเกตศึกษาพระราชจิรยาโดยประจักษณ์แก่ตาแก่ใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดศรัทธาเชื่อมั่น ด้วยเห็นแท้แน่แก่ใจว่า พระราชกิจน้อยใหญ่ที่ทรงพระราชอุสาหะปฎิบัติบำเพ็ญด้วยพระวิริยะ และพระขันติธรรมอย่างยิ่งยวดนั้น ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ คือความผาสุกร่มเย็นของอาณาประชาราช และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติทั้งสิ้น พระบารมีซึ่งแผ่ปกเกล้าปกกระหม่อมทุกเช้าค่ำนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงต่างสำนึก รู้อยู่ทุกเวลา ด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิตร ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ ยังมีสมานฉันท์พร้อมใจกันถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะตั้งตัว ตั้งใจมั่นอยู่ในธรรมสุจริตและในความจงรักภักษ์ดี จะมุ่งมั่นประพฤติตัวปฏิบัติงาน ตามภาวะ ฐานะและหน้าที่ของตนให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน สืบสานพระราชปฏิธาน แห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทโดย เต็มกำลังสติปัญญาและความสามารถเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ และขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล
ขออนุภาพคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทให้สมบูรณ์ด้วยพระอนามัย มีพระราชหฤทัยผ่องแผ้วเบิกบาน ปลอดพ้นจากเรื่องรบกวนกังวล ทรงพระเจริญ พระชนม์สุขศิริสวัสดิ์ เป็นร่มฉัตร ร่มโพธิ์ ร่มไทรของปวงข้าพระพุทธเจ้า และประชาชนชาวไทยยั่งยืนไปตลอดกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ”
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้าที่พระที่นั่งอนันตสมาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ความว่า
“ในมหามงคลสมัย วันเฉลิมพระชมพรรษาเวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ข้าพระพุทธเข้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการไทยและประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่มาชุมนุมพร้อมกันในมหาสมาคมแห่งนี้ รู้สึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เข้าเฝ้าฯ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลด้วยน้ำใจที่เปี่ยมด้วยความจงรักษ์ภักดี ตลอดระยะเวลาอันยาวนานภายใต้พระบารมี ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ประชาชนชาวไทยทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนประจักษ์ชัดแจ้งว่า ความสุข ความสงบร่มเย็น ความเจริญก้าวหน้าสารพัดในประเทศนี้ เป็นผลมาจากพระราชวิริยอุสาหะและพระมหากรุณาธิคุณในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญมาต่อเนื่องยาวนานโดยแท้พระเดชพระคุณที่ทรงบริบาลรักษา ตลอดจนพระบารมีที่ปกแผ่คุ้มเกล้าเหล่าปวงประชาเกินกว่าถ้อยคำที่ปวงข้าพระพุทธเจ้าจะพรรณาได้ครบถ้วน ณ มหามงคลโอกาส แห่งวันเฉลิมพระชมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555 ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติ อัญเชิญอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย พระเดชานุภาพของสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีต กับทั้งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากล จงเป็นผลดลบันดาล ให้ใต้ผ่าละอองธุรีพระบาททรงพระเจริญเกษมสุข มีพระกมลปราถนาสิ่งใดจงสัมฤทธิ์ ทรงสถิตย์เป็นธงชัยของชาติและประชาชนตลอดกาลนาน ดังใจปราถนาของข้าพระพุทธเข้าทั้งปวง ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ”
จากนั้นนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามสมาชิกรัฐสภา ประธานศาลฎีกาเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ในนามข้าราชการตุลาการ จากนั้นผู้บัญชาการทหารสูงสุดกราบบังคมทูลพระกรุณาและกล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ปฏิญาณ และทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมถวายความเคารพพร้อมกัน
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า “คำปฏิณาณ และสัญญาที่พวกท่านได้กล่าวนั้น เป็นที่ประทับใจมาก ไมตรีจิต ทั้งหลายตลอดจนชาวไทยทุกคนที่พรั่งพร้อมกันมาด้วยความปราถนาดี และความพร้อมเพียงกัน อย่างที่ได้เห็นในวันนี้ทำให้ข้าพเจ้าปลื้มใจ มีกำลังใจมาก มากขึ้น ด้วยความเชื่อเสมอว่า ความเมตตาปราถนาดีของท่าน เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่ทำให้ความพร้อมเพียงให้เกิดขึ้น ดีขึ้นทั้งในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมอันดี ปราศจากมีคุณธรรมข้อนี้ประจำในจิตใจก็มีความหวังได้ว่าบ้านเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็จะอยู่รอด ปลอดภัย และดำรงมั่นคงต่อไป ได้ตลอดรอดฝั่ง อย่างแน่นอนขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองรักษาท่านและชาติไทยให้มีแต่ความผาสุขร่มเย็น เลื่องลือไกล”
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version