เสด็จออกสีหบัญชร วันพ่อแห่งชาติการเสด็จออกสีหบัญชร ในรัชกาลปัจจุบัน
เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2555 เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคมอีกครั้ง โดยทุกหน่วยงานได้เตรียมพร้อมในงานพระราชพิธีครั้งนี้ ที่นับเป็นเหตุการณ์สำคัญของประชาชนชาวไทยทุกคน ซึ่งการเสด็จออกมหาสมาคมและสีหบัญชรนั้น เป็นพระราชพิธีที่พระมหากษัตริย์ เสด็จออกที่ประชุมใหญ่เพื่อการสำคัญ ทั้งเป็นพระราชพิธีประจำ และพระราชพิธีในโอกาสพิเศษ ซึ่งในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ นับเป็นการเสด็จออก ณ สีหบัญชร ครั้งที่ 6 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีการเสด็จออกมหาสมาคม และสีหบัญชร หลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะมีขึ้นในสถานที่ต่างๆ อาทิ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระที่นั่งอนันตสมาคม มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา คณะทูตานุทูต ข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือน ตลอดจนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลโดยการเสด็จออกสีหบัญชรครั้งแรก ในพระราชพิธีพระบรมราชภิเษก เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2493 ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท พระบรมมหาราชวัง ซึ่งนับเป็นการเสด็จสีหบัญชรครั้งแรกในรัชกาลปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการเสด็จออกมหาสมาคมในโอกาสต่อมา อาทิ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2504 ในโอกาสงานสมโภช เนื่องในการเสด็จนิวัติพระนคร หลังจากทรงเสร็จสิ้นพระราชกรณียกิจเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกา ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม , วันที่ 5 ธันวาคม 2506 ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 3 รอบ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย , พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม และครั้งล่าสุดในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในหลวงจะมีพระราชดำรัส วันที่ 5 ธันวาคม ณ สีหบัญชร แม่ทัพภาคที่ 1 ภาคภูมิใจ นำทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ฯ ต่อพระพักตร์ ซ้อมใหญ่สวนสนาม 2 ธันวา. ปิดการจราจร 4 เส้นทางรอบลานพระบรมรูปทรงม้า
ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนม พรรษา พุทธศักราช 2555 ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต วันพุธที่ 5 ธันวาคมนี้ พสกนิกรทั่วประเทศได้ ปลื้มปีติกันอีกครั้ง เพราะมีหมายกำหนดการ ระบุว่า นอกจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ช่วงเวลา 10.30 น.แล้ว พระองค์จะมีพระราชดำรัสด้วย
ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้ากองทัพภาคที่ 1 นำกำลังทหารรักษาพระองค์ จำนวน 12 กองพัน ดำเนินการซ้อมใหญ่ครั้งที่ 1 ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรัก ษาพระองค์ในพระราชพิธีฯ โดยในปีนี้ พล.ต. วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ทำหน้าที่ผู้บังคับกองผสม เป็นผู้นำการซักซ้อม
พล.ต.วราห์กล่าวว่า ถือเป็นความภาค ภูมิใจและเป็นสิริมงคลของทหารรักษาพระ องค์ ที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งปีนี้ได้มาจัดที่ลานหน้าพระราชวังดุสิต หลังจากปี 2553 และ 2554 กำหนดให้จัดขึ้นภายในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง
“ความยิ่งใหญ่ของพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่การถวายสัตย์ฯ ของทหารรักษาพระองค์เท่านั้น พสกนิกรชาวไทยยังได้ร่วมชื่นชมพระบารมีและแสดงความจงรักภักดีอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีโอกาสไม่มากนัก” พล.ต.วราห์กล่าวไม่มากนัก” พล.ต.วราห์กล่าว
ด้าน พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกอง ทัพบก กล่าวว่า กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ได้ ขอใช้พื้นที่และปิดการจราจรใน 4 เส้นทาง คือ ถ.อู่ทองใน ถ.ศรีอยุธยา ตั้งแต่แยกสี่เสาเทเวศร์ถึงแยกพระบรมรูปทรงม้า, ถ.พิษณุโลก ตั้งแต่แยกสี่เสาเทเวศร์ถึงแยกมิสกวัน และ ถ.นครราชสีมา ตั้งแต่แยกวังแดงถึงแยกพล.1 รอ. โดยวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้าย จะเริ่มปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 04.00-12.00 น. ส่วนวันจริง 5 ธ.ค.นั้น จะปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 01.00 น.เป็นต้นไป
พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านกิจการพิเศษ เปิดเผยการเตรียมพร้อมงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 ว่า วันที่ 2 ธันวาคมนี้ จะมีพิธีซ้อมใหญ่สวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณของข้าราชการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมดูแลความสะดวก และพร้อมถวายความปลอดภัยเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระ บรมวงศานุวงศ์
ขณะเดียวกัน วางกำลังดูแลบริเวณพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต สถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร และในวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 10.00 น. จะปิดถนนตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 4 ธันวาคม และจะเปิดถนนหลังจากปิดพิธีในช่วงเช้าเสร็จสิ้น จากนั้นจะมีพิธีจุดเทียนชัยที่บริเวณท้องสนามหลวง ในเวลา 19.19 น. ขณะที่โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย จะถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีไปยังผู้ชมในต่างประเทศ ผ่านทาง Thai TV Global Network.
-http://news.tlcthai.com/news/72686.html