ป่วย!!!ใครป่วยอ่านตรงนี้...ความเจ็บป่วยของมนุษย์ มี 2 อย่าง คือ.......
1.โรคทางกาย.....อาการจะแสดงออกทางกายภาพ......สามารถตรวจรักษาพิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม...แม้แต่ความหิว ความหนาวร้อน..ความเจ็บปวด.. ไม่เว้นแม้ความเสื่อมแห่งวัย....ดูแลป้องกัน - ชลออาการได้ด้วยโภชนาการ...การเป็นอยู่ที่ถูกสุขลักษณะทางธรรมชาติที่น้อยความปรุงแต่ง....
โรคทางกายจะหายได้สมบูรณ์เมื่อธาตุขันธ์แตกดับ........
2.โรคทางใจ....อาการของผู้เป็นโรคนี้....เป็นผู้ที่ต้องอาศัย วัตถุ แสง สี เสียง มาบำบัดความรู้สึกนึกคิด..แม้กระทั่งความต้องการให้คนมาสนใจ....
อยู่กับความสงบไม่ได้....ชอบแสวงหาชอบดิ้นรนไขว่คว้าหาอะไรทำ...
เป็นไปตามกิเลสตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา...การดูแลรักษาต้องอาศัย
ธรรมโอสถ.....ผู้เป็นโรคนี้หากไม่รักษาอาการจะสะสมข้ามภพชาติ....
*****ข้อควรรู้สำหรับผู้มีอาการป่วย1.ต้องรู้ตัวว่าตนเองป่วย
2.ต้องมีความต้องการที่จะหายจากโรค
3.ต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญมาทำการรักษา
4.ต้องยอมรับเงื่อนไขในการรักษา
5.ต้องไม่วิ่งไปหาเหตุแห่งโรคนั้นๆอีก
:อกาลิโก แปลว่า ไม่ประกอบด้วยกาล **************
สุขจากความสงบ........
คนคิดว่าพอหมดกิเลสแล้ว หรือกิเลสในใจเบาบางลงไป....ชีวิตน่าจะจืดชืด หมดรสชาดขาดชีวิตชีวา.......
เมื่อหมดความทะยานอยาก ก็น่าจะหมดความสุขไปด้วย....ความอยากสร้างสุขได้ในระดับหนึ่งและต้องคอยหาสิ่งเร้ามากระตุ้นอยู่เสมอ....เราจึงต้องไล่ติดตามกิเลสหรือความอยากอยู่ตลอดเวลา.....ความสุขจึงเสมือนเงาที่เราวิ่งตาม........เคยไหมที่เรารู้สึกรำคาญเสียงต่างที่อยู่รอบตัวเราเสียงนั้นทำให้เกิดความสุขในช่วงแรกเมื่อเวลาผ่านพ้นไปเราเริ่มเบื่อรำคาญ....เราก็ปลีกตัวออกมาจากเสียงรบกวนนั้น....ออกมาอยู่ที่เงียบๆ.....และ
พบว่าความเงียบให้ความสุขกว่าเสียงดังกล่าว....นั่นแหละ
ปฐมบทของสุขในระดับหยาบๆ
หากเห็นสุขที่ยิ่งกว่านั้น....ไม่มีใครเลยที่อยากปฏิเสธ :อกาลิโก แปลว่า ไม่ประกอบด้วยกาล แต่ให้ระวัง เมื่อเกิดความสงบขึ้นมา
แล้วมีความสบายเกิดขึ้นมาก
ระวังมันจะติดสุข ติดสบาย แล้วเลยยึดมั่นถือมั่น
ฉะนั้น ถ้าหากเกิดความคิดขึ้นมา
ให้พิจารณาว่า ความสุขนี้ไม่เที่ยง
ความสบายนี้ไม่เที่ยง หรือความทุกข์ก็ไม่เที่ยง
ความที่เป็นอย่างนั้นๆ มันก็ไม่เที่ยง
จึงอย่าไปยึดมั่นถือมั่นมันเลย...
พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท)วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
หนังสือ ๔๘ พระธรรมเทศนา หน้า ๑๐๖ ความสุขจากความสงบแนวทางของโลกสอนให้มุ่งเน้น แสวงหาวัตถุทรัพย์ เพื่อตอบสนองความต้องการในขั้นมูลฐาน คือ ข้าว ผ้า ยา บ้าน และมีปัจจัยตามมา คือรถ โทรศัพท์ คอมฯ สารพัด เรื่อยไปจนหมดเรื่องวัตถุ สิ่งที่ทำต่อมาคือการแสวงหาชื่อเสียง เกียรติยศ จากปริมาณทรัพย์ เมื่อการใช้นโยบายนี้ในการพัฒนาชีวิต ทำให้ต้องเติมเต็มในส่วนที่ขาดในแต่ละคน ไม่มีวันจบสิ้น ต้องใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติมหาศาล และก็จะพบว่าการแก้ปัญหาด้วยวิธีดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ชั่วคราว และก็ทำเรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด
หากมามองอีกมุมหนึ่ง คือการมุ่งเน้นในการลดการบริโภค
ลดสิ่งที่เป็นไปเพื่อกองกิเลส การใช้ทรัพย์กรก็จะคุ้มค่า ทรัพย์ยากรที่หายไปก็สามารถเพิ่มพูนได้ทันกับความต้องการของคนเรา
เพราะในชีวิตคนๆหนึ่ง ใช้ทรัพย์ยากรเพื่อให้ตนเองมีความสุขไม่มากนัก....เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถค้นพบความสุขจากความสงบ :อกาลิโก แปลว่า ไม่ประกอบด้วยกาล -http://www.facebook.com/AKALIGO.com.thailand