ผู้เขียน หัวข้อ: เรามาโดยลำพัง และจะจากไปอย่างโดดเดี่ยว :โลกทรรศนะ  (อ่าน 1297 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด



โลกทรรศนะ
เรามาโดยลำพัง และจะจากไปอย่างโดดเดี่ยว
วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์...

หากย้อนไปในช่วงชีวิตวัยเยาว์ การเดินทางส่วนใหญ่ของดิฉันมักเป็นการเดินทางโดยลำพัง แม้ในหลายครั้งจะพบเรื่องหวาดเสียว จากการไปไหนมาไหนคนเดียวอยู่เสมอแทบทุกแห่งหน ต้องพบเจอสถานการณ์อันคาดไม่ถึง สัมผัสผู้คนหลายหลาย ที่บ้างก็มีพฤติกรรมแปลกประหลาด มีตรรกะแตกต่างจนยากจะเข้าใจ แต่การเดินทางคนเดียวนั้น ก็ทำให้ดิฉันบริหารอิสรภาพของตัวเองได้เต็มประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง

จนกระทั่งมาถึงวัยที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงาน ใครหลายคนที่โคจรมาพบกัน ณ ช่วงเวลาเหล่านี้ ได้กลายเป็นเพื่อนร่วมเดินทางไปสู่สถานที่ต่างๆ ในชีวิต มีไม่น้อยที่พบว่าเข้ากันได้ดี มีความสนิทสนมคุ้นเคย ไปไหนไปกันได้ทุกที่ ทำให้เกิดอุปาทานขึ้นมาว่า เราอาจเข้าอกเข้าใจกันทุกเรื่อง เราคงคิดอะไรคล้ายๆ กัน เราน่าจะมีความเห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ หรือเราอาจเป็นส่วนประกอบที่สร้างความสมบูรณ์แบบให้กันและกัน หนักๆ เข้าก็เผลอคิดไปได้ว่า พระเจ้าได้สร้างบุคคลเหล่านี้มาเป็นเพื่อนคู่คิด คู่ใจ เพื่อเดินร่วมทางกับเราไปจนชั่วฟ้าดินสลาย


มนุษย์แต่ละคนต้องการบทเรียนมากน้อยไม่เท่ากัน ในการทำความเข้าใจว่า สถานที่ทุกแห่งหนในโลกนี้ มีไว้ให้เราเดินคนเดียว ผู้คนที่เคียงข้างหรือแวดล้อมเราอยู่ระหว่างทาง เป็นเพียงสิ่งที่เราได้พบเจอ เพื่อที่จะทักทายและลาจากกันไปเมื่อถึงเวลา ไม่มีใครอยู่เคียงข้างกับเราตลอดไป แม้แต่ลูกหลานที่เกิดออกมาจากตัวเราเองแท้ๆ เมื่อถึงเวลาก็ต้องไปตามทางของเขา ไม่ต่างจากละอองเรณูของดอกไม้ที่จะถูกสายลมพัดปลิวไปตกบนผืนดินอื่น ที่ห่างไกลกลายเป็นต้นใหม่ที่แตกต่างจากต้นเดิม บุคคลที่ยิ่งใหญ่มักเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการสร้างมายาภาพให้ผู้คนรอบข้างเชื่อกันไปว่า พวกเขาเกิดมาเพื่อยึดเหนี่ยวเกี่ยวพันกัน โดยมีแรงดึงดูดสำคัญจากศูนย์กลางเป็นอำนาจพิเศษที่ประคับประคองให้เกิดเอกภาพ

ความเชื่อเช่นนี้เป็นดาบสองคม แม้ว่าความมีเอกภาพและสามัคคีจะเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จขนาดใหญ่ แต่การทำให้คนหลงเชื่อผิดๆ ว่า เขาไม่อาจไปไหนได้ไกลโดยปราศจากพลังของฝูง ขาดการดูแลจากบุคคลอื่น หรือไกลหูไกลตาจ่าฝูงนั้น ย่อมทำลายความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว และความเชื่อมั่นในชีวิตของเขาลงไม่มากก็น้อย

ความขลาดกลัวที่จะเดินไปตามลำพังบนเส้นทางซึ่งไม่เคยคุ้น ทำให้ผู้คนยอมสูญเสียอิสรภาพของตนเอง เป็นเรื่องจริงทีเดียวที่คนส่วนใหญ่จะเลือกทนทุกข์ทรมานอยู่กับสิ่งเดิมๆ เพราะไม่กล้าทดลองสิ่งใหม่ ไม่กล้าทำอะไรคนเดียว ไม่กล้าเดินแตกฝูง ทั้งที่แท้แล้ว ความเป็นฝูงนั้นเป็นเพียงเรื่องสมมุติ

สำหรับบางคน อาจต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตกว่าจะคิดได้ว่า เราถูกนำมาสู่โลกนี้ตามลำพัง และในวันหนึ่งเราก็จะจากไปอย่างโดดเดี่ยว

วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์, Editor's Talk
http://www.hiclasssociety.com/?p=533


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 27, 2013, 11:05:27 pm โดย ฐิตา »