สภาวะที่เป็นจริงของชีวิต
:ท่านปิยโสภณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษกเมื่อมองจากสภาวะที่เป็นจริงของชีวิตในมุมที่เป็นจริง
เกิดแก่เจ็บตายก็เป็นการทำงานตามระบบธรรมชาติเท่านั้น
เกิด แก่ เจ็บ ตาย จึงเป็นเพียง...
.. วงจรการเดินทาง (สังสารวัฏ) ของชีวิต
เหมือนเราเห็นพระอาทิตย์ขึ้น
แล้วก็เดินทางไปสู่การอัสดง นั่นเป็นการมองตามที่ตาเห็นเท่านั้น
เมื่อเราไม่เห็นดวงอาทิตย์ เราคิดว่าอาทิตย์ตกดิน
แต่ความจริงมิใช่ดวงอาทิตย์ตกดิน
และก็มิใช่ว่าไม่มีดวงอาทิตย์ วินาทีที่หายไปจากสายตาเรานั่นเอง..
.. ดวงอาทิตย์ก็ไปปรากฏแก่สายตา..
... ของคนอีกฝากหนึ่งของมุมโลก ...
อีกมิติหนึ่งของชีวิตก็เช่นกัน เมื่อธาตุ ๔ ขันธ์ ๕
แยกกันตามธรรมชาติ
เราร้องไห้เสียใจ เพราะมองว่าเป็นการตาย มองเห็นเหมือนอาทิตย์อัสดง
แต่อาจจะมีมิติหนึ่งที่กำลังหัวเราะดีใจรับชีวิตใหม่
เหมือนกับคนอีกฟากหนึ่ง...
... กำลังรอให้พระอาทิตย์อุทัยแสงในมุมของตน
นี่คือสิ่งที่พิจารณาตามความจริง ทั้งระบบสุริยจักรวาลและระบบของชีวิต
ซึ่งชีวิตเองเป็นเพียงเศษธุลีของ สุริยจักรวาลเท่านั้น
“ความตายไม่มี มีแต่การปรับเปลี่ยนเพื่อความสมดุลของธรรมชาติเท่านั้น”
คำนี้สำคัญ ที่เราควรใคร่ครวญพิจารณาทุกเช้า
หลังตื่นนอน ก่อนออกจากบ้าน แม้ในที่ทำงาน
ขณะที่ย่ำเท้าเปล่าลงบนยอดหญ้า ก่อนจะลงมือทำอะไรทั้งหมดในวันนั้น
ให้พิจารณาความจริงตรงนี้ก่อน
ให้รุ่งอรุณของแต่ละวันเป็นรุ่งอรุณที่สดใส เป็นรุ่งอรุณที่งดงามกับชีวิต
ขณะที่พระอาทิตย์ทอแสงส่องโลก ปัญญาต้องทอแสงส่องใจ
ท่าน ปิยโสภณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
>>> F/B ก้อย ฯลฯ