ผู้เขียน หัวข้อ: ก่อให้ เกิด อนุสัยทั้ง ๓ (ผลเสียของ การปล่อยจิต ให้เพลินกับอารมณ์)  (อ่าน 997 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ฐิตา

  • ทีมงานดอกแก้วกลิ่นธรรม
  • ต้นสักทองเรืองรองฤทธิ์
  • *
  • กระทู้: 7459
  • พลังกัลยาณมิตร 2236
    • ดูรายละเอียด




ก่อให้ เกิด อนุสัยทั้ง ๓
ผลเสียของ การปล่อยจิต ให้เพลินกับอารมณ์
ภิกษุทั้งหลาย !
เพราะอาศัย ตา ด้วย รูปทั้งหลาย ด้วย จึงเกิด จักขุวิญญาณ
การประจวบ พร้อม แห่งธรรม ๓ ประการนั่น คือ ผัสสะ;
เพราะ มีผัสสะ เป็นปัจจัย...
เพราะ อาศัย หู ด้วย เสียงทั้งหลาย ด้วย จึงเกิดโสตวิญญาณ
การประจวบ พร้อมแห่งธรรม ๓ ประการนั่น คือ ผัสสะ;
เพราะ มีผัสสะ เป็นปัจจัย...
เพราะ อาศัย จมูก ด้วย กลิ่นทั้งหลาย ด้วย จึงเกิดฆานวิญญาณ
การประจวบ พร้อมแห่งธรรม ๓ ประการนั่น คือ
ผัสสะ เพราะ มีผัสสะ เป็นปัจจัย...

เพราะอาศัย ลิ้น ด้วย รสทั้งหลาย ด้วย จึงเกิด ชิวหาวิญญาณ
การประจวบพร้อม แห่งธรรม ๓ ประการนั่น คือ ผัสสะ;
เพราะมีผัสสะ เป็นปัจจัย...
เพราะอาศัย กาย ด้วย โผฏฐัพพะทั้งหลาย ด้วย จึงเกิดกายวิญญาณ
การประจวบ พร้อมแห่งธรรม ๓ ประการนั่น คือ ผัสสะ;
เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย...
เพราะอาศัย ใจ ด้วย ธรรมารมณ์ทั้งหลาย ด้วย จึงเกิดมโนวิญญาณ
การประจวบพร้อมแห่งธรรม ๓ ประการนั่น คือ ผัสสะ;
เพราะมีผัสสะ เป็นปัจจัย
จึงเกิดเวทนา อันเป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขบ้าง.
 
บุคคลนั้น เมื่อ สุขเวทนา ถูกต้องอยู่
ย่อมเพลิดเพลิน ย่อมพร่ำ สรรเสริญ เมาหมกอยู่;
อนุสัยคือราคะ ย่อมตามนอน แก่บุคคลนั้น
(ตสฺส ราคานุสโย อนุเสติ)
เมื่อทุกขเวทนา ถูกต้องอยู่ เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมระทมใจ
ย่อมคร่ำครวญ ย่อมตีอกร่ำไห้ ย่อมถึงความหลงใหลอยู่;
อนุสัยคือปฏิฆะ ย่อมตามนอน (เพิ่มความเคยชินให้) แก่บุคคลนั้น.
เมื่อ เวทนาอันไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุข ถูกต้องอยู่เขาย่อมไม่รู้ตามเป็นจริง
ซึ่ง สมุทยะ (เหตุเกิด) ของเวทนานั้นด้วย
ซึ่ง อัตถังคมะ (ความดับไม่เหลือ) แห่งเวทนานั้นด้วย
ซึ่ง อัสสาทะ (รสอร่อย) ของเวทนานั้นด้วย
ซึ่ง อาทีนวะ (โทษ) ของเวทนานั้นด้วย
ซึ่ง นิสสรณะ (อุบายเครื่องออกพ้นไป) ของเวทนานั้นด้วย;
อนุสัย คือ อวิชชา ย่อมตามนอน (เพิ่มความเคยชินให้) แก่บุคคลนั้น.

บุคคลนั้นหนอ
(สุขาย เวทนาย ราคานุสยํ อปฺปหาย)
ยังละราคานุสัย อันเกิดจากสุขเวทนาไม่ได้;
(ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสยํ อปฺปฏิวิโนเทตฺวา)
ยังบรรเทา ปฏิฆานุสัย อันเกิดจาก ทุกขเวทนาไม่ได้;
(อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อวิชฺชานุสยํ อสมูหนิตฺวา)
ยังถอนอวิชชานุสัย อันเกิดจาก อทุกขมสุขเวทนาไม่ได้;
(อวิชฺชํ อปฺปหาย วิชฺชํ อนุปฺปาเทตฺวา)
เมื่อยังละ อวิชชาไม่ได้ และยังทำ วิชชาให้เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว,
(ทิฏฺเฐว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร ภวิสฺสตีติ)
เขาจัก ทำที่สุดแห่งทุกข์ ในทิฏฐธรรม (รู้เห็นได้เลย) นี้ได้ นั้น;
(เนตํ ฐานํ วิชฺชติ ฯ) ข้อนี้ ไม่เป็นฐานะที่จักมีได้.
อุปริ. ม. ๑๔/๕๑๖/๘๒๒.


-http://www.facebook.com/pages/พระพุทธเจ้า/166387296709841?fref=ts

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 19, 2013, 02:21:45 pm โดย ฐิตา »